Tuesday, June 30, 2009

บทที่ 22 " เมื่อน้องแกะ...เผด็จศึกพี่ดำ "

บทที่ 22 เมื่อน้องแกะ...เผด็จศึกพี่ดำ

จบจากการสนทนากันแล้ว พวกเราทั้งหมดก็พากันไปที่ห้องครัว ขนมบัวลอยต้มเสร็จแล้ว แต่ต้องกลับมาต้มใหม่ โดยให้น้ำกระทิซึ่งผสมน้ำเชื่อมไว้แล้ว...เดือดพอ...เพื่อที่ใส่ไข่ลงไป คราวนี้พี่ดำอาสาทำเอง สงสัยอยากโชว์ฝีมือในฐานะลูกชายคนใหม่... พี่ชายใครก็ไม่รู้เก่งชะมัด เก่งไปทุกเรื่องเลย การที่แกอยู่คนเดียวมาตลอด คงทำให้แกคล่องตัวไปทุกเรื่องล่ะน่ะ อ้าวลืมไปตูกำลัง...งอน...อยู่นี่หว่า เฮ้อ....
พวกเราทานขนมกันอย่างเอร็ดอร่อย แม่บอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะเข้าไปทำธุระในเมืองกับพ่อ เลยจะถือโอกาสซื้อข้าวของมาเลี้ยงฉลองต้อนรับ ลูกชายคนใหม่ ตอนค่ำๆ ด้วย น่าเสียดายที่พี่กวางติดเข้าค่ายภาษาอังกฤษที่โรงเรียน จะกลับบ้านคงเป็นวันอาทิตย์เย็นๆ ...มิน่าล่ะ ตั้งแต่มาตอนแรกไม่เห็นพี่กวางเลย มัวแต่ตื่นเต้นเรื่องพี่ดำอยู่
สักพักพ่อกับแม่ก็ขอตัวขึ้นไปนอน แม่บอกให้ผมดูแลพี่ดำเรื่องหาที่หลับที่นอนให้ด้วย โดยแม่จัดให้พี่ดำนอนห้องรับแขกข้างล่าง ซึ่งห้องติดกันเป็นห้องน้ำและมีฝักบัวอาบน้ำด้วยจึงสะดวกในการต้อนรับแขก ส่วนห้องผมจะอยู่ชั้นสอง ถัดไปเป็นห้องพี่กวาง และมีห้องน้ำรวมอยู่ตรงกลาง ส่วนห้องพ่อกับแม่จะแยกเป็นอิสระมีห้องน้ำในตัว จึงไม่ค่อยมาวุ่นวายกับเราสองคนพี่น้องเท่าไหร่นัก
ผมกำลังทานขนมบัวลอยถ้วยโปรด ถ้วยที่สามอยู่ เสียงพี่ชายที่รักก็ดังขึ้น
อร่อยมั๊ยคร๊าบ... ไข่พี่ดำ.... หวานมั๊ยครับ ผมถึงกับสำลัก
บ้า พี่ดำ พูดอะไรก็ไม่รู้ เดี๋ยว พ่อกับแม่ ได้ยินเข้า จะว่ายังไง ผมดุพี่ดำเบาๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะทะลึ่งได้น่ะเนี่ยะ จากที่เคยดูเป็นคนมาดเคร่งขรึม
ไม่ได้ยินหรอก ท่านขึ้นไปนอนแล้ว ตอนนี้ก็มีแต่เราสองคน มามะมาให้พี่หอมชื่นใจหน่อย พี่ดำเข้ามาหอมแก้มผมดัง ฟอด
ชื่นใจจัง พี่ยังอารมณ์ค้างจากไร่แตงโมอยู่เลยน่ะ แกทำหน้าเจ้าชู้ใส่ผม
ไม่เอาล่ะ ไม่อยากพูดด้วยแล้ว ทีมีเรื่องสำคัญไม่เห็นบอกกันบ้างเลย ผมยังงอนแกอยู่น่ะครับ
โถ...ที่รักของพี่ พี่ก็กะจะบอกอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาส อย่าโกรธพี่เลยน่ะ คนดี พี่ดำเข้ามาง้อ โดยอ้อมเข้ามากอดด้านหลังผมเอาไว้ พร้อมใช้แก้มแนบไปมาเบาๆ
พี่ดำจะไปเรียนต่อเมืองนอก เรียนจบแล้วคงจะอยู่ที่นั่นต่อเลยใช่มั๊ย ผมยังคงบ่นต่อตามประสาน่ะครับ ไม่รู้ทำใมถึงมีอาการงอนพี่ดำอยู่บ่อยๆ แฮะ ช่วงนี้
อืม พี่อยากจะเรียนต่อโทที่นั่นด้วย แต่ถึงยังไงพี่ก็จะหาทางมารับแกะไปอยู่ด้วย น่ะ น่ะครับ เชื่อพี่นะ พี่ดำ ดึงร่างผมให้ยืนขึ้น หันหน้าผมให้มาประจันหน้ากับแก ก่อนที่จะเข้ามาสวมกอด และประกบปากจูบอย่างรวดเร็ว ลิ้นของแกเข้าไปพัวพันกับลิ้นผมอีกครั้ง ผมรีบผลักออกแทบไม่ทัน
พะ พี่ดำ ไม่ ไม่เอา เดี๋ยว พ่อกับแม่มาเห็นเข้า ผมดุแกรอบสอง
ก็พี่รักของพี่ นี่นา อีกอย่าง พ่อกับแม่ ก็ยอมรับ พี่ แล้วนี่ พี่ดำยังส่งสายตาเชื่อมมาให้ ทีเมื่อกี้ล่ะก็ ร้องให้เป็นเผาเต่าเชียวน่ะ
ยอมรับในฐานะลูกชายหรอก ไม่ใช่ลูกเขยซะหน่อย (อ้าว ไอ้แกะ ไอ้เวร มึงหลุดออกไปง่ายๆ ได้ไงฟ่ะ เสียเชิงชายหมด) พอพูดเสร็จผมถึงกับหน้าแดงระเรื่อ ก็มันเขิลลล นี่นา อายพี่ดำโคตรๆ
พี่ดำยิ้มกว้าง แก้มแทบปริ สายตาเปล่งประกายด้วยความยินดีอย่างที่สุด ผมไม่เคยเห็นพี่ดำ มีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลย ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา
สะ แสดงว่า กะ แกะ ยอมรับในตัว พะ พี่ ละ แล้ว ชะ ใช่มั๊ย ครับ พี่ดำดีใจจนพูดติดอ่างไปเลย
พี่ดีใจที่สุดในโลกเลย ไชโย้ (คำหลังนี่แกตะโกนออกมาแบบไม่ให้มีเสียง) พี่ดำคงเป็นบ้าไปแล้ว วิ่งรอบโต๊ะกินข้าวไปมา ก่อนที่จะจับตัวผมยกขึ้น ผมเขิลลลล จนไม่รู้จะว่ายังไง ก็เลยเสพูดไปว่า
พอๆ เก็บจานชาม แล้วล้างให้เรียบร้อยด้วย ในฐานะลูกชายคนใหม่
แล้วผมก็รีบวิ่งหนีพี่ดำขึ้นห้องนอนตัวเอง รู้สึกแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ ตกลงเรายอมรับพี่ดำในฐานะคนรักแล้วหรือ ...มันเป็นเพราะอะไร เพราะอะไรน่ะรึ... ผมไม่ทราบจะตอบตัวเองได้ยังไง ในขณะนั้น ผมกลัว... กลัวอย่างเดียว... กลัวจะสูญเสีย พี่ดำไป... แต่ถึงยังไงก็แล้วแต่ ผมอยากจะมีความสุขกับพี่ดำให้มากที่สุด ในเวลาที่เหลือ ซึ่งมันเหลือน้อยลงทุกที... ก่อนที่พี่ดำจะไปเรียนต่อเมืองนอก คงอีกหลายปีกว่าที่แกจะเรียนจบ และก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป
ผมนั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่สักพัก ก็เลยนึกขึ้นมาได้ จึงรีบหาเสื้อยืด กางเกงขาสั้น กางเกงในตัวใหม่แกะกล่อง ผ้าขนหนู พร้อมแปรงสีฟันอันใหม่ ลงไปให้พี่ดำข้างล่าง
ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมอดขำไม่ได้ ทั้งที่กำลังงอนแกอยู่เลยเชียว
ก็พี่ดำน่ะซิ ไม่เป็นอันล้างชามซักที มัวแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นแหละ หยิบถ้วยขนมขึ้นมาก็ยิ้ม หยิบช้อนอีกคันขึ้นมาก็ยิ้ม ถ้าจะเป็นเอามากๆ
เป็นบ้าไปแล้วเหรอพี่ดำ เสร็จรึยังล่ะ ล้างชามน่ะ ผมพูดทำลายความฝันของแก
ครับผม ครับ สุดที่รักสั่งทั้งที ไอ้ดำขอถวายชีวิต ครับผม แกหันมายิ้ม ยิงฟันขาวให้ผม หน้าทะเล้นอีกแน่ะ
นี่เสื้อผ้า อย่าลืมอาบน้ำล่ะ ประเดี๋ยวคันเนื้อคันตัว ไม่รู้ไปทำอะไรมาที่ไร่แตงโมนั่น ไอ้แกะพูดจาน่าเตะ เลยน่ะมึง พูดกับคนที่มึงรักไม่เพราะได้ไงเนี่ยะ
ครับผม ครับ ไอ้ดำจะอาบให้สะอาดหมดจด ทั้งเนื้อทั้งตัว เลยครับผม พี่ดำหันหน้ามาพูดกับผมยิ้มๆ
ผมรีบเดินหนีกลับขึ้นห้องก่อนที่จะอดหัวเราะ คนบ้า ไม่ได้ มาดของคนสุขุม หายหมดเลยน่ะพี่ดำ เฮ้อ!
ผมจัดการอาบน้ำให้ตัวเอง เสร็จแล้วก็เปลี่ยนเป็นนุ่งกางเกงขาสั้น ไม่ใส่เสื้อ ล้มตัวลงนอนเล่นๆ บนเตียง ซึ่งเป็นเตียงเดี่ยวสำหรับนอนคนเดียวเท่านั้น
เวลาผ่านไปนานพอสมควร เห็นไฟข้างล่างปิดแล้ว พี่ดำคงจะเข้านอนแล้วซิ ผมจึงปิดไฟ ดึงผ้าห่มมาคลุมตัว คิดอะไรเรื่อยเปื่อย... ขณะที่กำลังเคลิ้มๆ ก็ดูเหมือนจะมีร่างของใครบางคน ขึ้นมาทับบนร่างของผม ผมกำลังสะบัดดิ้นสุดตัว
ชูว์ ชูว์ เสียงพี่ดำจุ๊ปากให้ผมเงียบ ก่อนที่จะประกบปากผมอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสอดลิ้นเข้ามา ผมจำต้องดูดดุนลิ้นแก สักพัก เสียงหายใจของแกกระเส่าทีเดียว เราจูบกันเนิ่นนาน ก่อนที่จะค่อยๆ ถอนปากออกจากกัน
พะ พี่ดำ ขึ้นมาได้ยังไงเนี่ยะ เดี๋ยว พ่อ แม่ได้ยินน่ะ ผมพูดเสียงเบาๆ พอให้ได้ยินกันสองคน
พี่รอ แกะ จนทนไม่ไหว ใจพี่จะขาดให้ได้ พี่คิดถึงแกะเหลือเกิน ที่รัก ว่าแล้วพี่ดำก็ประกบจูบปากผมใหม่ ลิ้นที่เร่าร้อนสวาท กำลังทำงานอย่างบ้าคลั่ง พี่ดำดึงผ้าห่มคลุมตัวผมกระชากออกไป ก่อนที่จะเริ่มไซ้ที่ซอกคอผม ผมลูบแผ่นหลังของแกไปมา แกไม่ได้นุ่งเสื้อเลย เนื้อตัวท่อนบนของแกจึงแนบเนื้อกับเนื้อตัวของผม ด้วยความสะยิว ผมจึงลากมือลูบไล้ที่หน้าอกอันแข็งแกร่งนั่น ลากไปเรื่อยๆ จนไปชนกับความเป็นชายของแกเข้าเต็มมือ พี่ดำไม่ได้ใส่กางเกงใน ท่อนลำของแกจึงโผล่พ้นขอบกางเกงขาสั้นออกมาบางส่วน ผมจัดการถอดกางเกงตัวนั้นออกไปด้วยปลายเท้า
ท่อนลำของพี่ดำแข็งโป๊ก ทั้งใหญ่ทั้งยาว เต็มไม้เต็มมือไปหมด ผมจับมันด้วยความเสน่หา มันกับกระตุกสู้มือผมหงึกๆ แสดงว่าพี่ดำคงกำหนัดเต็มที่ ส่วนปลายปล่อยน้ำเยิ้มๆออกมา จนลื่นมือไปหมด ผมเอื้อมมือกระถอกไปมาด้วยความรัญจวนใจ ปากของพี่ดำก็ประกบปากของผมอีกครั้งหนึ่ง ลิ้นของสองหนุ่มจึงพัวพันกันอย่างกับพายุเดือด พี่ดำเบี่ยงกายใช้มือขวา ลูบไล้ตั้งแต่หน้าขาของผมขึ้นมา จนกระทบกับท่อนลำของผม แกใช้มือกระตุกกางเกงขาสั้นของผมออกอย่างไม่ใยดี ท่อนลำของผมจึงเป็นอิสระ ความกำหนัดที่คั้งค้างมาจากไร่แตงโม มันคงจะได้ระบายออกซะที
เรากลับหัวกันเป็นท่าหกเก้า ด้วยความชำนาญขึ้น เราสองคนต่างดูดดุนท่อนรัก ให้แก่กันและกันไปมา ทั้งเสียวทั้งสุขสม กับคนที่ผมรัก ผมจึงปล่อยอารมณ์เต็มที่ คราวนี้คงไม่มีอะไรมาขัดจังหวะเราสองคนได้อีกแล้ว เราสองคนต่างอ้าปากครอบท่อนลำของกันและกันเพื่อให้เข้าไปให้ลึกที่สุด...เพื่อให้ความสุขแก่กันและกัน ให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้...จนผมและพี่ดำเริ่มส่งเสียงครวญครางออกมา
ผมรีบถอนปากออก ก่อนที่จะคิดอะไรขึ้นมาได้ พร้อมส่งเสียงเตือนพี่ดำเบาๆ
พีดำ เราลงไปต่อข้างล่างกันเถอะ อยู่บนนี้ เสียงดัง เดี๋ยวพ่อแม่จะสงสัย ผมพูดด้วยเสียงกระเส่า เพราะฤทธิเสน่หา กำลังพาไป...
เราจำเป็นต้องผละจากกันด้วยความเสียดาย แต่ไม่วายเปลือยกายล่อนจ้อน ท่อนลำของเราทั้งสองต่างก็ชี้โด่เด่ ไปมา เราต่างประคองร่างของกันและกัน พากันย่องลงมาข้างล่าง โดยไม่ลืมหยิบกางเกงขาสั้นของใครของมันมาด้วย อาการย่องของเราทั้งสอง มันเหมือน เหมือน แมว...ขโมย ชัด ชัด
เราทั้งสองรีบเข้าห้องรับแขก ซึ่งก็คือห้องนอนของพี่ดำน่ะแหละ ดีหน่อยที่ห้องนี้เป็นเตียงคู่ จึงนอนสองคนได้สบาย อีกอย่างมันอยู่ข้างล่าง จะแหกปาก ร้องครวญครางยังไง ก็คงยากที่ใครจากข้างบนจะได้ยิน
ผมประกบปาก ดูดลิ้นพี่ดำอย่างรวดเร็ว ร่างของเราทั้งสองแทบหลอมละลายเป็นร่างเดียวกัน งูสองตัวต่างก็บดเบียดกันไปมา ผมลากมือลูบไล้ ไปมาที่แผ่นหลังของพี่ดำ ก่อนที่จะมาจบที่แก้มก้นเนื้อแน่นๆ ก้นโต่งๆของผู้ชายแมนๆ อย่างพี่ดำทำให้ผมจะคลั่งตายให้ได้ ผมลองใช้นิ้วลากลงไปที่รูสวาทที่ผมปราถนา ผมสัมผัสกับไรขน ทำให้ผมขนลุกซู่ซ่า แล้วนิ้วชี้ของผมก็กระทบกับรูนั่น โอ รูที่ผมเคยสัมผัสมาแล้ว วันแรกที่เจอกัน ผมสามารถเอาเข้าไปได้ถึงครึ่งลำ ยังรุ้สึกตื่นเต้นไม่หาย เจ้าหนูของผมดิ้นทุรนทุรายไปมา มันคงรู้ใจนายของมัน ที่จะพามันมุดถ้ำทอง เพื่อเข้าไปสู่วิมานฉิมพลี...
พี่ดำเองก็ไม่น้อยหน้าแกเริ่มบรรเลงรูสวาทของผมบ้าง แกพ่นน้ำลายลงที่นิ้วชี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มันกำลังหล่อลื่น เพื่อเข้าสู่ รูสวาทของผม และแก ก็ทำได้สำเร็จ นิ้วชี้ของแกเข้าไปได้จนสุดนิ้ว ก่อนที่จะวนไปวนมา จนผมเริ่มเสียว
ผมเห็นดังนั้นท่าทางจะเสียเปรียบแน่ๆ จึงดึงนิ้วชี้ออกมาถ่มน้ำลายลงไปบ้าง แล้วเริ่มทะลวงแทงรุสวาทของแกเข้าไปจนมิดด้าม รูนั่นถึงกับตอดนิ้วผมไปมา โอ...นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นท่อนลำของผมคงจะมันส์พิลึก
ผมถอนปากออกจากแก แล้วเริ่มไซ้ซอกคอของแกบ้าง แต่เหมือนกับว่า พี่ดำจะไม่ยอมให้ถูกไซ้ ฝ่ายเดียว ต่างคนต่างใช้แรงที่มีอยู่หยิบยื่นความรักให้แก่กันและกัน
พี่ดำแรงกว่าผมเยอะจึงผลักผมลงไปบนที่นอนได้ไม่ยาก จากนั้นแกก็ขึ้นไปโถมทับ กอดจูบลูบไล้ไปทั่วเรือนร่าง ผมกลับมาเป็นฝ่ายข้างบนบ้าง พี่ดำกลับขึ้นมาบ้าง สลับกันไปมา... จนความกระสันต์ใกล้จะแตกดับ ผมจึงเปลี่ยนเป็นท่าหกเก้าอีกครั้ง ผมครอบปากลงไปที่ท่อนลำของแกที่ดิ้นเร่าๆ โขยกลำคอไปมาให้แกมีความสุขสุดขีด พี่ดำก็ไม่น้อยหน้าครอบปากได้ ก็โขยกไปมายังกะเครื่องจักร
ผมเปลี่ยนลงมาเป็นนอนหงาย ดังนั้นผมจึงใช้ความเจ้าเล่ห์ ใช้นิ้วชี้แหย่ไปที่ร่องสวาทของแกอีกครั้ง พร้อมทั้งดูดดุนท่อนลำของแกไปด้วย รูนั่นกระตุกตอดรัดนิ้วมือผมติ้วๆ จนผมจะทนไม่ไหวแล้ว จึงละท่อนลำ ลากเลียลิ้นไปที่พวงไข่ใบโต จัดการดูดดุนซะให้หนำใจ ผมจำเป็นที่จะต้องปล่อยปลายนิ้วออกมาจากรูนั่นด้วยความเสียดาย ก่อนที่ใช้มือทั้งสองข้างจับขอบเอวพี่ดำ พร้อมกับไถลตัวขึ้นมาแล้วจัดการแหย่ลิ้นลงไปที่รูสวาทนั้นแทน โอย รอมานานแล้ว ก้นผู้ชายแน่นๆ รูสวาทที่มีขนดกๆ แถมตอดรัดดีขนาดนี้ พี่ดำล้างส่วนนี้ได้สะอาดดีทีเดียว เหมือนจะรู้ว่าไอ้แกะจะชอบลิ้มเลีย อย่างนั่นแหละ ผมจัดการเลียขอบรูสวาทไปมาด้วยความหฤหรรย์ ก่อนที่จะห่อปลายลิ้นให้แหลม ๆ ทิ่มลงไป ลิ้มรสรูสวาทอันน่าพิสมัยนั่น ผมใช้ลิ้นแยงไปแยงมาจน พี่ดำถึงกับส่ายก้นไปมาด้วยความพึงพอใจทีเดียว
ในขณะเดียวกันพี่ดำเองก็เริ่มแหย่ลิ้นลงไปที่รูสวาทของผมบ้าง แกกระตุกลิ้นเข้าๆออกอย่างเร็ว โอย... มันส์โคตรๆ อร่อยทั้งปลายลิ้น อร่อยทั้งรูสวาทของตัวเอง ผมจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วครับพี่น้อง ทนไม่ไหวจริงๆ ไอ้แกะเจ้าเล่ห์จึงยื่นไม้ตายต่อรองกับพี่ดำทันที ยังไงคืนนี้ ไอ้แกะต้องได้ฟันพี่ดำให้ได้....
ผมพลิกตัวกลับขึ้นไปอยู่ข้างบน ก่อนที่จะเปลี่ยนตัวหันหน้าไปทางพี่ดำ แล้วจูบปากดูดลิ้นแกสักพัก ก่อนที่จะถอนออกมา พูดเสียงกระเส่าว่า
พี่ดำ รักผมจริงหรือเปล่าครับ
จริงซิ ถ้าไม่รัก พี่จะคลั่งแกะขนาดนี้หรือ แกพูดอยู่ในความมืด แต่ผมพอที่จะมองเห็นประกายตาแกบ้างพอลางๆ
ถ้าพี่ดำรักผมจริง ผม อะ่ เอ่อ ขอ แกะน้อย เ่อ่อ มุดถ้ำทอง พี่ได้มั๊ยครับ พี่ดำคงไม่ยอมหรอก แมนขนาดนั้น มีหรือจะยอมให้ใครเสียบง่ายๆ แต่ทว่า...
ได้ซิ ในเมื่อ แกะ รับรักพี่แล้ว เรื่องแค่นี้ทำใม พี่จะให้ไม่ได้ แม้แต่ชีวิตของพี่ ยังให้แกะได้เลย โอ...พระเจ้า ไอ้แกะหูฝาดไปรึเปล่าเนี่ยะ ไอ้แกะมัวแต่ดีใจลิงโลด จนลืมคำสุดท้ายที่แกพูดซึ้งๆให้ได้ยิน
ผมประกบปากจูบแกแนบแน่น เนิ่นนาน อยากจะเอาใจพี่ชายที่รักคนนี้เหลือเกิน ที่ยอมเสียสละเป็นรับ ให้ไอ้แกะ น้องชายตัวดีคนนี้ ผมดีใจจนน้ำตาไหล
ผมรีบจับแกคุกเข่าโก้งโค้ง ก่อนที่แกจะเปลี่ยนใจ เสียดายจังเลยมันอยู่ในความมืด สักวันผมจะต้องเห็นรูสวาทที่ลอยเด่นชวนเสน่หา จะจะ กลางแจ้งให้ได้สักครั้ง ผมก้มหน้าลงไปบรรจงจูบแก้มก้นเนื้อแน่นด้วยความชื่นชม ก่อนที่จะใช้ปลายลิ้นโลมเลียรูสวาท พร้อมแหย่ลิ้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง ไอ้แกะน้อยก็ได้ใจเหลือเกิน กระตุกหงึกๆ น้ำหล่อลื่นใสๆ หลั่งไหลออกมาอย่างมากมาย มันคงถึงเวลาแล้วสินะ แกะน้อยที่แกจะได้ลิ้มรสสวาทที่แกปราถนาซะที
ผมจำได้ว่าที่โต๊ะเครื่องแป้งในห้องมีโลชั่นสำหรับทาผิวอยู่ จึงรีบลุกขึ้นมาเท พรวด ชะโลมจรวดจนทั่ว ก่อนที่จะชะโลมบางส่วนที่รูสวาทของพี่ดำบ้าง คราวนี้ผมไม่อยากใช้นิ้วนำร่อง ผมอยากใช้ท่อนลำแข็งๆของผมเป็นตัวนำร่องซะเอง
ผมจ่อจรวดของผมไปที่ปากรู ค่อยๆหมุนไปมา ก่อนที่จะทิ่มพรวดลงไป ส่วนหัวเข้าไปได้แล้ว แต่พี่ดำขมิบเอาไว้ แกคงเจ็บ ผมจึงปล่อยสักพักหนึ่งจนกระทั่งแกคลายความเจ็บลงแล้ว ผมจึงค่อยๆหมุนหัวเข้าไปใหม่ ท่าทางพี่ดำจะเจ็บมาก เสียงแกกัดฟันกรอดๆ ผมจึงถอนหัวออก แล้วชะโลมโลชั่นเพิ่มอีก ทำใมเข้ายากเข้าเย็นจังว่ะ ชักเริ่ม หงุดหงิด แต่ก็นั่นแหละครั้งแรกของเราทั้งคู่ ก็ต้องลองผิดลองถูกกันบ้างล่ะ
ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ผมรอจนรูสวาทพี่ดำพร้อมขยายเต็มที่ จึงทิ่มพรวดเข้าไปสุดแรงเกิด พี่ดำถึงกับร้องลั่น
เบาๆ หน่อยแกะ พี่เจ็บน่ะ
มัน ขะเข้าไปได้แล้วพี่ดำ เข้าไปจนสุดเลย ผมพูดกระเส่า ความสุขสุดยอดที่ไม่เคยพานพบมาก่อน รูสวาทที่ตีบตันกำลังบีบรัดท่อนลำของผมไปมา ผมเสียวจนแทบจะหลั่งออกมาซะเดียวนั้น
ผมแหงนหน้าซู๊ดปากด้วยความลืมตัว มือจับบั้นเอวแมนๆของพี่ดำแน่น ก่อนที่จะเริ่มขยับเข้าออกอย่างช้าๆ
ซี๊ดดดดดดดดดดดดดด พี่ดำ ทำใม มันส์ อย่างนี้ โอยยยยยยย ซิ๊ดดดดดดดด
ผมครางกระเส่าด้วยความสุขจนเหลือล้น ผมกระเด้าเข้าออก อย่างลืมตัว รสสวาทครั้งแรก ที่ได้ทิ่มแทง โอ... มันวิเศษ อย่างนี้ นี่เอง รู้งี้ ไอ้แกะ ล่าเสียบมานานแล้วววววว
พี่ดำเริ่มผ่อนคลายลงบ้างแล้ว สังเกตุได้จากเอวของแกที่ส่ายไปมา ผมได้ใจจึงออกแรงไม่อั้น
พั่บ พั้บ ๆๆๆๆๆๆๆ เสียงหน้าขาผมตีเนื้อแก้มก้นแกดังไปมา ไข่ทั้งสองใบของผมคงจะไปกระทบอะไรเข้า ถึงกับทำให้ผมมีความสุขขนาดนี้ ผมลองเอื้อมมือไปจับท่อนลำของพี่ดำ มันกำลังแข็งโป๊ก ทีเดียว แสดงว่า พี่ดำเองก็มีความสุขด้วย ผมกระถอกท่อนลำของพี่ดำไปมา พร้อมกับกระเด้าไปด้วย พี่ดำเองก็ดีเหลือหลาย รูสวาทของแกทั้งบีบรัด ทั้งตอด กระตุก จนผมแทบจะทนไม่ได้
ซีดส์สสสสสสสสสสสส พี่ดำ มันส์มั๊ยครับ ซ๊ดดดดดดดดดสสสสสส ผมถามพี่ดำ พร้อมกับกระเด้าอย่างรุนแรง
แกะ กระเด้าแรงๆ ก็ได้ พี่สะ เสียวววววววววว เสียงพี่ดำกระเส่า ดูเหมือนแกพยายามจะหันหน้ามาดูผม ในความมืดนั้น
ผมได้ใจจึงกระแทกแกไปไม่ยั้ง จนน้ำอดน้ำทนผมจะทนไม่ไหวแล้ว ผมอยากจะเปลี่ยนท่าจึงถอนท่อนลำออกมา อย่างเสียดาย
ผมลากตัวพี่ดำมาที่ขอบเตียง โลัขาแกทั้งสองข้างขึ้นไปแนบหน้าอก รูสวาทที่ผมสอดใส่เมื่อครู่จึงลอยเด่น อยู่ตรงขอบเตียง
ผมไม่รอช้า รีบเสียบเข้าไปสุดแรงเกิดดูเหมือนท่านี้ จะเป็นท่าที่ผมชอบที่สุด ถ้าเป็นกลางวันคงได้เห็นหน้าคนรักแน่ๆ แต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้ขอเสียบให้มิดด้ามก่อน
ผมกระเด้าไปมา ซ้ายทีขวาที ทั้งหมุนเป็นวงกลม ถอนออกมาช้าๆ แล้วเสียบเข้าไปใหม่ ทำทุกทางที่จะตักตวงเอาความสุข จนในที่สุดผมก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
พี่ดำครับ ผะ ผมจะออกแล้วครับ โอออออ อ๊ากสสสสสสสสสสสสสสสสสส
ผมรีบก้มตัวลงไปประกบปากกับพี่ดำที่รอท่าอยู่แล้ว ไม่นาน.. ผมก็กระตุกสองสามครั้ง พร้อมกันนั้นก็ฉีดน้ำรักเข้าไปในร่างกายของพี่ดำอย่างมากมาย จนหมด ผมคิดว่า มันมาก มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความสุขสุดยอดในครั้งแรกของชีวิตลูกผู้ชายของผม พี่ดำเป็นคนได้รับมันไปจริงๆ แต่ผมก็มีความสุขเหลือขณานับ
ผมแช่ตัวอยู่อย่างนั้นนานทีเดียว พร้อมหอบหายใจอย่างมีความสุข พี่ดำเอามือลูบหลังของผมไปมา
สุขมากมั๊ยครับ... คนดี
ครับผม พี่ดำ ผมไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลยครับ ผมไม่รุ้จะขอบคุณพี่ยังไงดี ที่พี่ยอมมอบความสุขให้ผมมากมายขนาดนี้ ผมพูดไปเพราะรักและหลงพี่ดำเอามากๆแล้วล่ะตอนนี้ สวรรค์อยู่ใกล้ๆนี่เองโดยที่ผมไม่น่ามองข้ามมาก่อนเลย
ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกที่รัก...คราวนี้ถึงคราวของแกะบ้างแล้วล่ะ ที่จะเป็นคนมอบความสุขให้พี่
อะไรน่ะ!!!!” ผมร้องเสียงหลง

Monday, June 29, 2009

บทที่ 21 " ลูกเขยเอ๊ย...ลูกชายคนใหม่ "

บทที่ 21 ลูกเขยเอ๊ย...ลูกชายคนใหม่

พ่อ!!!! อย่า!!!!!” ผมรีบวิ่งไปขวางระหว่างพี่ดำกับตัวพ่อ พ่อจ้องมองมาที่หน้าผมเขม็งก่อนที่จะพูดเสียงดุๆว่า
แกคิดว่าพ่อจะทำอะไร...หะ
ผะ ผม อะ เอ่อ... ผมพูดอะไรไม่ออกครับ
เอะอะ อะไรกันค่ะคุณ เสียงดังลั่นไปถึงในครัวเชียว ผมใจชื้นขึ้นเมื่อแม่เข้ามาทันเหตุการณ์พอดี แม่เดินไปที่ตัวพ่อแล้วพูดขึ้นต่อว่า
ปืนผา..หน้าไม้ เนี่ยะ คุณเอาออกมาทำใมค่ะ ลูกๆตกใจกันหมด
เ่ออ ไม่มีอะไรหรอก เธอลองถามลูกชายตัวดีของเธอดูซิ เจ้าดำมันจะมา อะ เ่อ่อ ขะ ขอ....
ขออะไรค่ะ ดำบอกน้ามาสิว่าดำจะมาขออะไร แม่ผมหันไปถามพี่ดำ ในขณะนี้ผมเลยลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆแก เราสองคนจึงดูเหมือนนักโทษที่รอคำพิพากษาอยู่
พี่ดำเงยหน้าขึ้น หน้าตาที่ซีดเซียวกลับกลายเป็นแดงกล่ำ อย่างประหลาด
ผม อะ เอ่อ มาขอแกะ ไปอยู่ด้วยครับ พี่ดำตอบพร้อมกับมองไปที่ใบหน้าของแม่ผม ซึ่งยืนอยู่ข้างๆพ่อของผมนั่นเอง หวังว่าแม่ผมคงจะเห็นใจน่ะ
โธ่เอ๊ย เรื่องแค่นี้เอง คุณนี่ก็กะไร ใจคอจะไม่ลืมอดีตเมื่อสิบปีก่อนเลยหรือค่ะ แม่หันไปถามพ่อที่นั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะ
เ่อ่อ ผมแค่ลองใจเจ้าดำมันเล่น แค่นั้นแหละ ดูซิว่ามันจะรักน้องของมันอยู่เหมือนเดิมรึเปล่า สีหน้าพ่อเริ่มดูดีขึ้นกว่าเมื่อกี้มากทีเดียว
แล้วปืนนี่ หมายความว่ายังไงค่ะ แม่ยังสงสัยเรื่องปืนอยู่ ใช่ผมเองก็สงสัยเหมือนกัน
ปืนมันขัดลำกล้อง ผมเลยเอาขึ้นมาดู กะว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปในเมือง ไปเช็คที่ร้านปืนซะหน่อย พ่อเก็บปืนลงในลิ้นชัก ทำให้ผมหายใจโล่งขึ้นมาทีเดียว
เอาล่ะ แกะเขาเล่าให้แม่ฟังแล้วว่า จะขอไปพักอยู่บ้านดำน่ะ แล้วทางบ้านดำเต็มใจรึเปล่าจ๊ะ
ตะ เต็มใจครับ คุณน้า พี่ดำเริ่มดีขึ้น ที่ขอบตาเริ่มมีรอยรื้นปริ่มๆ ไม่รู้ว่าพี่ดำจะสะเทือนใจอะไรรึเปล่า หรือกำลังปิติอย่างเหลือร้น....
คุณคุ่ะ ดำน่ะเขาสนิทสนมกลมเกลียวกับเจ้าแกะมาตั้งแต่เด็ก นี่ก็เป็นการดีซะอีกที่แกะจะได้มีพี่ชายคอยดูแล เป็นหูเป็นตาแทน คุณว่าไงค่ะ
พ่อยังคงนิ่งเงียบอยู่ไม่ตอบแม่ซะทีเดียว
แล้วทางพ่อแม่ของดำล่ะ ท่านเป็นยังไงบ้างจ๊ะ แม่หันกลับมาถามพี่ดำต่อ
อ่ะ เ่อ่อ คือ พ่อกับแม่ ทะ ท่านทั้งสอง.... พี่ดำยังตอบไม่เสร็จ พ่อก็ชิงตอบกลับมาว่า
เสียชีวิตแล้วทั้งคู่ จากที่ดำเล่าให้ผมฟัง พ่อพูดออกมาเรียบๆ เจือปนด้วยความเศร้า
"อะไรน่ะค่ะ แม่อุทานเสียงดัง
อะไรน่ะ พี่ดำ ทะ ทำไมพี่ดำไม่บอกผมล่ะครับ ผมตกใจจนหน้าซีด หันไปมองพี่ดำ ทีกำลังเริ่มน้ำตาไหล
ไหนดำลองเล่าให้น้าฟังอีกทีสิจ๊ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ถามพี่ดำอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
เมื่อตอนผมอายุ 15 เรียนจบ ม.3 พอดี ผมไปเรียนภาษาอังกฤษ ที่นิวซีแลนด์ ไปพักอยู่กับน้าอรที่นั่น พอกลับมาก็ได้ข่าวว่าท่านทั้งสองขับรถตกเหวแถวๆ เชียงราย เสียชีวิตทั้งคู่ครับ พี่ดำตอบช้าๆ พร้อมกับน้ำตาเริ่มไหลออกมาทั้งสองแก้ม ผมเริ่มสงสารพี่ดำอย่างจับใจ นี่แสดงว่าพี่ดำเป็นลูกกำพร้ามาตั้งนานแล้ว แต่ทำใมแกถึงดูเข้มแข็งจังเลย
โธ่...ไม่น่าเลย... ขอให้พี่ทั้งสองไปสู่สุขคติเถอะน่ะค่ะ แม่ยกมือไหว้ท่วมหัว น้ำตาคลอทีเดียว อย่างน้อยครอบครัวพี่ดำเองก็สนิทสนมกับครอบครัวของผมมาตั้งนาน ความรู้สึกผูกพันธ์ระหว่างครอบครัวทั้งสองก็น่าจะมีไม่น้อยทีเดียว
พี่ดำเริ่มร้องไห้ออกมาเบาๆ ส่งเสียงสะอึกสะอื้นน้อยๆ น้ำตาไหลลงมาทั้งสองข้าง โถ...น่าสงสารพี่ชายที่รักคนนี้ของผมจัง คงเหงา...และว้าเหว่...มานานแล้ว ผมอยากจะเข้าไปกอด พร้อมกับจูบซับน้ำตาให้เหลือเกิน.... แต่ผมก็คงทำอะไรประเจิดประเจ้อต่อหน้าพ่อกับแม่ไม่ได้
แม่ผมถึงกับเดินเข้ามาหาพี่ดำ พร้อมกับเอามือลูบหัวเบาๆ สื่อความรักออกมา เหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก
อย่าเสียใจไปเลยน่ะจ๊ะดำ ถือซะว่าท่านทั้งสองไปสู่สุขคติแล้ว ถ้าดำไม่รังเกียจ ดำจะมาเป็นลูกชายของน้า...ก็ได้น่ะจ๊ะ
ตอนนี้ผมถึงกับน้ำตาไหล ร้องไห้ตามพี่ดำไปด้วย ผมมองดูว่าพี่ดำจะมีปฏิกิริยายังไง
พี่ดำร้องไห้หนักกว่าเดิม พร้อมกับพูดว่า
ผมเอง ถ้าไม่นับว่ามีน้าอรอยู่คนหนึ่ง ผมก็ไม่เหลือญาติผู้ใหญ่ ที่ไหนอีกแล้วครับ ผมขอบคุณ คุณน้ามากครับ ที่กรุณาผม พี่ดำยกมือไหว้พร้อมกับสะอึกสะอื้น
พ่อของผมลุกออกจากโต๊ะ เดินมาที่พวกเรา ผมไม่รู้ว่าพ่อจะคิดยังไง แกเดินใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา ผมเริ่มใจเสีย เพราะเมื่อกี้ ดูเหมือนแกจะออกอาการโกรธพี่ดำอยู่มากทีเดียว แต่ผิดคาด....
เรียก พ่อ กับ แม่ ซิลูก พ่อดีใจที่มีลูกชายเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง พ่อผมใช้มือลูบหัวพี่ดำไปมาด้วยความเอ็นดู พี่ดำถึงกับปล่อยโฮ
ฮือ ฮือ คะ ครับ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ดำยกมือไหว้พ่อผม และแม่ผมอีกครั้ง ด้วยความตื้นตันใจ
เอาล่ะ เจ้าแกะ ตอนนี้แกก็ต้องเชื่อฟังพี่ดำเขาน่ะ... ดีเหมือนกัน เขาจะได้มาเป็นพี่ชายของแก แทนทีเจ้าเก้งมัน พ่อหันมาสั่งผม
ครับพ่อ ผมยกมือไหว้พ่อด้วยความซาบซึ้ง ที่เหตุการณ์กลับตาลปัตรไปในทางที่ดี
แล้วตอนนี้ดำ อยู่กับใครล่ะ แล้วใครดูแลเรื่องค่าเล่าเรียนของดำจ๊ะ นั่นนะซิ ที่แม่ถามมา ผมก็อยากรู้เหมือนกัน
น้าอร รับผมเป็นลูกบุญธรรมครับ ตอนนี้ผมอยู่เฝ้าบ้านและที่เกือบร้อยไร่ให้น้าอร...น้าอรจะส่งค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนมาให้ รวมทั้งค่าคนงานสองคนครับ
อืม แล้วดำอยู่คนเดียวแบบนี้มานานรึยังจ๊ะ
ตั้งแต่เริ่มเรียน ม.4 ครับ ตอนแรกน้าอรมีโครงการจะทำฟาร์มแกะ พอดีน้าอรกับน้าทอม มาเจอทำเล ที่จังหวัดนี้เลยซื้อเอาไว้ และเตรียมที่จะให้พ่อกับแม่ผมย้ายมาเป็นอาจารย์ที่นี่ พร้อมกับดูแลฟาร์มไปด้วย แต่โชคร้ายซะก่อน โครงการเลยหยุดเอาไว้ก่อนน่ะครับ
แล้วดำ มีโครงการอะไรต่อไปในอนาคตล่ะ พ่อผมถามขึ้นมาบ้าง คงจะเริ่มเป็นห่วงลูกชายคนใหม่แล้วล่ะซิ
น้าอร ทำวีซ่าถาวรที่นิวซีแลนด์ให้ผมครับ ผมต้องบินไปอยู่ที่นั่นทุกปีเพื่อรักษาวีซ่าถาวรเอาไว้ เลยได้ไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ตอนปิดเทอมครับ (วีซ่าถาวร...ห้ามออกจากนิวซีแลนด์เกิน 6 เดือนจะต้องกลับไปแสตมป์ใหม่ครับ ไม่เช่นนั้นจะหมดสิทธิ์) มิน่าล่ะ พี่ดำถึงสละสิทธิ์เด็กโครงการ...เพราะสาเหตุนี้เอง แต่คำพูดต่อมานี่ซิทำให้ผมถึงกับสะดุ้งเฮือก
พอผมจบ ม.6 ที่นี่ ผมคงต้องไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ครับผม
อะไรน่ะพี่ดำ พี่ไม่เห็นบอกผมบ้างเลย สองเรื่องแล้วน่ะที่พี่ดำไม่บอกผม ชักจะเริ่มงอนแล้วตู ไอ้แกะ
ถ้าพี่ดำจะไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ ตอนนี้พี่ดำก็ใกล้จะจบม.6 แล้วนี่ แสดงว่าพี่ดำมีเวลาอยู่ในเมืองไทยไม่กี่เดือนเอง.... นั่นก็หมายความว่า.....

Friday, June 26, 2009

บทที่ 20 "เผชิญหน้า...คุณพ่อ "

บทที่ 20 เผชิญหน้า...คุณพ่อ
เราทั้งคู่อ้อยอิ่งอยู่ด้วยกันอีกนาน จนกระทั่งฝนหยุดตกเอาเมื่อเกือบทุ่ม ผมเลยซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์พี่ดำ รีบเอากุญแจอาคารไปคืนอาจารย์เดชา แกบ่นแล้วบ่นอีกเรื่องฝนตก สงสัยมีนัดกะสาวล่ะซิท่า...
ผมรีบเข้าบ้านพักโดยใส่เสื้อนักเรียนของพี่ดำ แน่นอนพี่ชายที่รักของผมก็ใส่เสื้อเปียกๆของผมแทนซาบซึ้งจัง ไอ้พวกเพื่อนตัวแสบมันคงกลับบ้านกันหมดแล้ว บ้านเงียบเชียว ผมรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วรีบตามพี่ดำไปที่บ้านของแก เพราะพี่ดำต้องไปเคลียร์ของที่บ้าน พี่ชายที่รักเอาเสื้อผ้าของเราเข้าเครื่องซักผ้า แล้วทิ้งไว้อย่างนั้น ในขณะที่รอพี่ดำอาบน้ำ ผมก็เลยโทรกลับบ้านบอกพ่อกับแม่ว่าจะไปถึงราวๆสองทุ่มครึ่ง ท่านทั้งสองเป็นห่วงมาก ผมจึงบอกความจริงกับท่านเรื่องพี่ดำ...
เห็นพี่ดำแวะไปที่บ้านเล็กๆหลังหนึ่ง พึ่งสังเกตว่ามีบ้านหลังนี้อยู่ถัดจากบ้านพี่ดำไปไม่ไกลเท่าไหร่นัก พี่ดำเล่าว่าเป็นบ้านป้าสมกับลุงบุญ ผู้ดูแลบ้านหลังใหญ่ของพี่ดำและดูแลเนื้อที่เกือบร้อยไร่ของพี่ดำด้วย แกเข้าไปบอกให้ป้าสมมาเป็นธุระเรื่องเสื้อผ้าของเราที่อยู่ในเครื่อง
จากนั้นเราทั้งคู่ต้องรีบควบมอเตอร์ไซค์ เพราะกลัวจะดึกมากเดี๋ยวพ่อกะแม่ว่าเอา ผมให้พี่ดำพาออกทางลัด ผ่านทุ่งหญ้า,ทุ่งนา และสวนผลไม้ แม้กระทั่งไร่แตงโม ที่เขาปลูกเอาไว้เป็นเนิิน ถ้าเป็นกลางวันจะสวยมาก เพราะวิวแถวนี้จะมองเห็นภูเขาซึ่งอยู่ใกลออกไป ขนาบกับเส้นทางรถไปเกือบตลอดทาง จนกระทั่งเราผ่านทุ่งแตงโมที่ปลูกเรียงรายบนเนินเขาอีกลูก ที่ตรงนี้ดูเหมือนจะเป็นจุดที่สูงที่สุด เราสามารถมองเห็นแสงไฟของหมู่บ้านระยิบระยับ มองแล้วเหมือนหิ่งห้อยบินว่อนไปมาเป็นฝูงๆ...
พี่ดำหยุดรถกระทันหัน ก่อนที่จะจอดสนิทที่ข้างทาง ผมก็เลยจำต้องกระโดดลงจากรถ เพราะไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร พี่ดำจอดรถเอาไว้แต่ยังไม่ดับเครื่อง ไฟหน้ารถยังคงเปิดอยู่ ไม่เช่นนั้นคงมองไม่เห็นอะไร เพราะทั้งเปลี่ยวทั้งมืดมิด
มีอะไรครับ พี่ดำ หยุดรถทำไมครับ ผมถามเพราะสงสัยเต็มที รถก็ไม่เสียนี่นา
พี่ดำไม่ตอบกลับเดินออกไปข้างหน้า แสงไฟจากหน้ารถส่องให้เห็นร่างสูงของหนุ่มหล่อคนหนึ่ง นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดสีดำ แถมเสื้อยีนส์แจ๊คเกต ยังสีดำอีกต่างหาก อ้อ สวมรองเท้าหนังสีดำอีกแน่นอน บุรษในชุดดำคนนี้ เขาจะทำอะไรหนอ...
พี่ดำหันหน้ามาทางผม ดูใบหน้าเศร้าๆชอบกล ผมเลยเดินเข้าไปกุมมือแกเอาไว้
พี่ดำเป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าชอบกลจัง มีอะไรไม่สบายใจหรือครับ
พี่ดำจ้องมาที่ดวงตาของผม แล้วเลื่อนมือขึ้นมากอดผมไว้แน่น แกเอาคางของแกมาเกยไหล่ของผม พร้อมกับมองไปข้างหลัง แล้วก็พูดขึ้นว่า
แกะ แสงไฟที่เห็นอยู่ข้างล่างนั้น เป็นหมู่บ้านของแกะใช่มั๊ยครับ
อะ เอ่อ ใช่ครับ พี่ดำมีอะไรหรือครับ
แกะ คนดีของพี่...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่อยากให้แกะรับรู้ว่า พี่จะรักและดูแลแกะจนกว่าชีวิตพี่จะหาไม่... พี่ดำพูดซาบซึ้งอีกแล้ว
ทำไมล่ะครับ ยังกับว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ต่อจากนี้อย่างงั้นแหละ..
พี่ เอ่อ พี่ไม่แน่ใจว่า พ่อของแกะจะคิดยังไงเกี่ยวกับตัวพี่ พี่ดำทำเสียงเศร้าเชียว พาลให้ผมอดหวั่นไหวไปด้วยไม่ได้
ป่านนี้ ท่านรู้แล้วว่าผมจะพาพี่ดำไปพบท่านคืนนี้ ผมโทรไปบอกแม่... ตอนที่พี่ดำอาบน้ำอยู่... กลัวท่านเป็นห่วงน่ะครับ ผมพยายามตอบเรียบๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ในใจก็เริ่มกังวลเหมือนกัน เพราะผมรู้จักพ่อของผมดี ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ ต้องทำตัวให้น่าเกรงขามอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ลูกชายคนเดียวของแก ผมจึงค่อนข้างจะเกรงกลัวพ่อเอามากๆ...เสียงพี่ดำถอนหายใจเฮือกใหญ่ทีเดียว
เฮ้อ ป่านนี้ ไม่รู้ท่านจะเตรียมจัดการพี่ยังไง ในฐานะที่ทำให้ลูกชายท่านจมน้ำเมื่อตอนเด็ก พี่ดำหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อว่า
พี่ยังจำสีหน้าเฉยเมย และแววตาชิงชังของท่านได้ดี แม้เวลาจะผ่านไปสิบปีแล้วก็ตาม พี่ดำดูจะกังวลเอามากทีเดียว
ผมตบหลังพี่ดำเบาๆ ก่อนที่จะดันตัวแกออกจากการกอดรัด แล้วใช้มือคล้องที่คอแก จ้องมองดวงตาซึ้งคู่นั้น ก่อนที่จะหอมแก้มทั้งสองข้างเพื่อให้กำลังใจ
พี่ดำครับ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว พี่ดำอย่ากังวลนักเลยน่ะครับ บางทีพ่อผมอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ผมพูดปลอบใจแก เผื่อแกดูดีขึ้น ผมเอามือไล้ไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของแกไปมา แล้วผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ อยากจะเปลี่ยนเรื่องที่มันดูอึมครึม ให้มันดูสนุกสนานดีกว่า ไอ้แกะเจ้าเล่ห์ยิ้มพราย ก่อนที่จะพูดว่า
ไหนใครน่ะที่บอกว่า ถึงแม้พ่อแกะ...จะเอาปืนไล่ยิง ก็จะยอม...อุ๊บ คราวนี้ผมโดนพี่ดำประกบปากบ้าง จะหาโอกาสแก้แค้นก็ไม่บอก แกสอดลิ้นเข้ามาอย่างรวดเร็ว ลิ้นที่เร่าร้อน ฉ่ำชื้นด้วยฤทธิ์เสน่หา ก็เริ่มเกิดพัวพันกันอีกครั้ง รสสวาทคงจะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า...
เราบดเบียดปากลิ้นกันอย่างกระหาย ...ไม่มีใครยอมใคร... จนท่อนลำของแกเข้ามาบดเบียดท่อนลำของผมเข้าให้แล้ว เจ้าหนูของผมก็กระไร แตะนิดแตะหน่อยก็แข็งปั๋ง ดันกางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่ จนเจ็บไปหมด พี่ดำเริ่มใช้มือลูบไล้ไปที่แผ่นหลัง แล้วสอดมือผ่านเสื้อยืดสีขาวที่ผมสวมใส่อยู่ คราวนี้มือแนบเนื้อแผ่นหลังของผมไปมา ทำให้อารมณ์ผมครุกรุ่นขึ้นไม่ยาก แต่ผมซิเสียเปรียบ เพราะแกมีแจ๊กเกตแขนยาวคลุมเสื้อยืดอยู่ จึงล้วงควักด้วยความลำบาก ผมถอนปากออกจากแก กว่าจะหลุดได้ก็ใช้เวลานานทีเดียวแหละ อยากจะแกล้งคนต่อ
ดะ เดี๋ยวก่อนครับพี่ดำ วันนี้จะไปขอลูกชายเขาไม่ใช่เหรอ ไหนล่ะสินสอดทองหมั้น... ไปตัวเปล่าๆปลี้ๆ แบบนี้ ใครเขาจะยกให้... ผมแกล้งกระเซ้าแกเล่น
ใครบอกไม่มี ทองทั้งดุ้นเลย ไม่เชื่อก็จับดูซิ แหมพี่ดำเล่นตามน้ำก็เป็นน่ะ พี่ดำจับมือผมไปโดน ดุ้นทอง แข็งโป๊ก อันเบ้อเริ่มเข้าอย่างจัง นี่แค่ภายนอกกางเกงยีนส์น่ะ ถ้าเจอของจริงจะขนาดไหน...
ทะลึ่ง! น่า.. พี่ดำ ไหนขอดูหน่อยซิว่า ดุ้นทองจริงหรือเปล่า ว่าแล้ว ผมก็รีบปลดเข็มขัด ปลดตะขอ รูดซิบกางเกงยีนส์ แล้วดึงลงไปกองที่หัวเข่า ก่อนจะกระชากลิงน้อยสีดำ (สีดำทั้งข้างนอกข้างในเลยน่ะเนี่ยะ) ลงตามไปติดๆ ดุ้นทองของพี่ดำอันยาวใหญ่ จึงเด้งดึ๋งออกมาอย่างกับงูกำลังแผ่แม่เบี้ย
ผมใช้มือกำรูดขึ้นรูดลง ด้วยความสะใจ พี่ดำึถึงกับครางซีดซาด ตัวงอเชียว
อูย ซซซซ เบาๆ หน่อยซิ แกะ พะ พี่ สะ เสียววววว น่ะ ครับบบบ
พูดไม่พูดเปล่า พี่ดำก็จัดการให้เจ้าหนูผมออกมาโชว์ ด้วย แกกระถอกไปมาจนผมต้องเป็นฝ่ายปราม
ซี๊ดดดด พี่ดำ น่ะแหละ เบาๆ หน่อยครับ เดี๋ยวน้ำแตกก่อน ซิ๊ดดดดดด
พี่ดำประกบจูบปากผมอีกครั้ง ลิ้นของเราทั้งคู่ต่างก็ควานหารสสวาทของกันและกันอย่างเมามัน พี่ดำเริ่มถอนปากออก ก่อนที่จะไซ้ที่ซอกคอผม แกซุกไซ้ไปมา ซ้ายทีขวาที แกดูตัวใหญ่กว่าผม แรงแกจึงเยอะกว่า ยิ่งแกถาโถมเข้าหาผมมากเท่าไหร่ ผมกลับกำลังเสียหลัก ...ในที่สุดก็เลยเอนตัวลงนอนหงายที่ไร่แตงโมนั่น ผลแตงโมจึงเป็นหมอนชั้นดี ให้ผมหนุนหัว พี่ดำเองก็ไม่ลดละไซ้ผมไปมาอย่างกระหาย แกเลิกเสื้อยืดของผมขึ้นใช้ปลายลิ้นที่แข็งแกร่ง แต่อ่อนพริ้วลากไล้ไปมาทั่วร่างก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ท่อนลำของผม แกอ้าปากครอบลงไป ตอนนี้แกเริ่มคล่องตัวแล้ว อะไร อะไรก็เลยดูดีไปหมด แกปล่อยให้ท่อนลำของผมลงไปจนสุดคอหอย แล้วตามด้วยการโยกขึ้นโยกลง จนผมต้องแอ่นเอวสู้
อ๊ากซ์ อาาาาาาา มันส์...มันส์จังเลย... ครับ พี่ดำ..อะ.. อูย พะ พี่ดำ เบี่ยงตัวขึ้นมาซิครับ ผมจะทำให้พี่บ้าง พี่ดำเหมือนรู้งาน แกค่อยๆเบี่ยงตัวขึ้นให้ท่อนลำเข้ามาจ่อที่ปากของผม ตอนนี้ผมต้องนอนตะแคงเพื่อให้แกสอดใส่ท่อนรักของแกเข้าปากผมให้ง่ายขึ้น ผมรับดุ้นทองของแกเข้าไปไม่ยากนัก เนื่องจากเคยทำมาก่อนแล้วกับแกสองครั้งนั่นเอง ครั้งนี้จึงดูคล่องขึ้น ผมเลียขอบหยักจนหนำใจแล้ว จึงโก่งคอให้ท่อนยักษ์ของแกเข้าไปจนสุด จากนั้นเราทั้งคู่ต่างรู้งาน ต่างคนต่างก็ดูดดุนท่อนรักให้แก่กันและกัน อย่างเมามัน ดีที่ไร่แตงโมนี้ปลอดผู้คน มันจึงเงียบสนิท ได้ยินก็แต่เสียงจั๊กจั่นเรไร กำลังร้องรำทำเพลง กันอย่างเบิกบานใจ เหมือนมโหรีธรรมชาติ ที่กำลังบรรเลงให้เราทั้งคู่ได้พลอดรักกันอย่างดูดดื่ม....
เราทั้งคู่คงจะทำรักให้กันอีกนานทีเดียว ถ้าผมไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ กำลังใกล้เข้ามา แสงไฟหน้ารถคันนั้น กำลังสาดส่องมาที่เราทั้งคู่ทีเดียว
เรารีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว รีบเก็บท่อนรักเข้าที่แทบไม่ทัน รถคันนั้นใกล้เข้าแล้วก็ดันมาจอดอยู่ข้างหลังรถมอเตอร์ไซค์ซะด้วย
ตำรวจสองสามนายลงมาจากรถ เข้ามาถามว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า เห็นจอดรถไว้แต่เครื่องยังติดอยุ่ แถมเปิดไฟอีกต่างหาก ผมกับพี่ดำเลยบอกว่าแค่แวะมาฉี่เท่านั้น ไม่มีอะไร ตำรวจเดินตรวจไปมาซักพัก ไม่มีอะไรพิรุธจึงปล่อยพวกเรากลับบ้าน....
เรามาถึงบ้านสามทุ่มจนได้ ผมพาพี่ดำเอารถไปเก็บไว้ที่โรงรถก่อนที่จะเคาะประตูบ้าน
ก๊อก ก๊อก แม่ แม่ แกะมาแล้วครับ ผมตะโกนเรียกแม่สองสามครั้ง แม่ก็เปิดประตูออกมา ภาพของหญิงวัยห้าสิบ ร่างเล็กบอบบาง ผิวขาว สูงประมาณ 160 ไว้ผมยาวรวบไว้ข้างหลัง ทำให้ใบหน้าของแม่ก็ยังคงสวยอยู่เสมอในสายตาของผม ผมยกมือไหว้แม่ด้วยความคิดถึง
เข้ามาจ๊ะ ทำไมกลับดึกจังลูก พ่อบ่นให้แม่ตั้งหลายครั้งแล้วน่ะ แล้วไหนล่ะพี่ดำของลูก พี่ดำเดินออกจากข้างหลังผมเข้าไปยกมือไหว้
สวัสดีครับ คุณน้า ผมดำไงครับ จำได้มั๊ยครับ พี่ดำยกมือไหว้นอบน้อม ฝากเนื้อฝากตัว
อ้าว ดำเองหรือลูก จำได้ซิจ๊ะ... ดูซิ โตขึ้นเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว สูงกว่าเจ้าแกะซะอีก ไม่น่าเชื่อโตขึ้นจะรูปหล่อขนาดนี้ แม่ผมเอ่ยปากชมเปาะทีเดียว
ผมหล่อสู้แกะไม่ได้หรอกครับ คุณน้า รายนี้ที่โรงเรียนมีแต่คนชมเขาว่า ...หล่อ..กันทั้งนั้น พี่ดำโบ้ยมาทางผม แก้เขิน
โอ๊ย อย่าไปยอเขาเลยรายนั้นน่ะ เดี๋ยวเหลิงเปล่าๆ เอาล่ะ เข้าบ้านกันก่อนลูก ทานข้าวทานปลากันมารึยังล่ะ
เรียบร้อยแล้วครับแม่ จริงๆแล้วผมกับพี่ดำกินแซนวิชกันคนล่ะชิ้นเอง
เหรอ....อืม.. แม่มีบัวลอยไข่หวานที่ลูกชอบด้วยน่ะ
จริงเหรอแม่ ดีจังอยากทานมานานแล้ว
พวกเราเดินยังไม่ผ่านประตูเข้ามาเลย เสียงดังกังวานของผู้มีอำนาจเฉียบขาดในบ้านก็ดังขึ้น
เรียกดำให้เข้ามาพบพ่อในห้องหนังสือหน่อย เสียงนั้นเป็นเสียงที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก พี่ดำมองหน้าผมหวาดๆ ผมเองก็ตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็จำใจเิดินนำหน้าพาพี่ดำ เข้าไปที่ห้องหนังสือด้วยใจอันระทึก
ผมค่อยๆแง้มประตูออก ภาพของชายวัยห้าสิบต้นๆ สูงราว 170 ใบหน้าคมสันยังมีเค้าของความหล่ออยู่เสมอ ในอดีตที่มีฉายาว่า เจ้าชู้เหลือหลาย ...อาจารย์ใหญ่ี่ที่นักเรียนทั้งหลายเกรงกลัว...กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ตรงหน้าท่านมีแฟ้มเอกสารสองสามเล่ม แสดงว่าพ่อกำลังทำงานอยู่อย่างขมักเขม้น
สวัสดีครับ พ่อ นี่คือพี่ดำครับ ผมยกมือไหว้
สวัสดีครับ คุณน้า พี่ดำยกมือไหว้พ่ออย่างหวาดๆ
พ่อเงยหน้าขึ้นมองอย่างเรียบเฉย ก่อนจะบอกผมว่า
แกออกไปข้างนอกก่อน...พ่อมีธุระจะคุยกับดำเขาซักหน่อย...
เราสองคนมองหน้ากันโดยอัตโนมัติ จะเกิดอะไรขึนว่ะเนี่ยะ ผมค่อยๆเดินออกจากห้องหนังสือ ปล่อยให้สองหนุ่มสองวัย เจรจากันตามลำพัง
ผมเข้าไปช่วยแม่เตรียมขนมบัวลอยในครัว เพราะแม่รู้ดีว่าผมชอบร้อนๆ และสุกใหม่ๆด้วย แม่เพียงแต่เตรียมปั้นแป้งผสมกับเผือก ,มัน,ใบเตย,ฟักทอง เพื่อให้มีสีสรรน่ารับประทาน แม่เตรียมตั้งน้ำเปิดเตาแก๊ส เพื่อต้มขนม...
เวลาผ่านไปราวสามสิบนาทีได้ แต่ผมดูเหมือนว่ามันนาน...นานมากทีเดียว สักพักผมก็ได้ยินเสียงพ่อตะโกนขึ้นมาดังลั่น
ชั้นเป็นคนแยกแกสองคนออกจากกันตั้งแต่เด็ก ... แกกล้าดียังไงมาขอลูกชายชั้น!!!!”
ผมกับแม่ถึงกับสะดุ้ง ผมใจหายวาบหล่นลงไปที่ตาตุ่ม พี่ดำจะเป็นไงบ้างเนี่ยะ ผมรีบวิ่งไปที่ห้องหนังสืออย่างเร็ว แล้วถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้า ทำเอาผมถึงกับ...ขนหัวลุก
พี่ดำกำลังนั่งคุกเข่าก้มหน้าอยู่กลางห้อง ใบหน้าซีดเผือด ไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงแม้แต่น้อย พ่อของผมยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงาน แต่มือนั่นกำลัง...ควงปืนสั้นสีดำอันเขื่องไปมา... ด้วยสีหน้าถมึงทึง ผมตะโกนขึ้นสุดเสียง
พ่อ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”