
บทที่ 140 “ เริงร่ากับสาว...และหัวใจที่สับสน ”
“อ้าว โชค จำเราไม่ได้รึไงน่ะ คิก คิก” สาวสวยเอามือปิดปากตัวเอง พอมีจริต หัวเราะไอ้โชคอย่างขำๆ ที่เห็นมันตลึงจ้องอยู่ (รวมทั้งผมด้วย หุ หุ)
“ใครอ่ะ” ไอ้โชคทำหน้าขมวดคิ้ว พร้อมกับเดินเข้าไปในร้าน โดยมีผมเดินตามไปติดๆ
“ดูดีๆสิย่ะ เคยเห็นหน้าสวยๆนี่มาจากที่ไหน ชิ” เจ๊จอยจับปอยผมของสาวสวยข้างหนึ่งประมาณกึ่งๆส่วนบนค่อนมาทางซ้ายของศรีษะ พร้อมกับติดโบว์ดอกกล้วยไม้ประดิษฐ์สีขาวๆทองๆ ประมาณนั้น เลยทำให้ใบหน้าที่สวยอยู่แล้ว หวานหยาดเยิ้มเข้าไปอีก ประกอบกับทรงผมที่ยาวสลวยลงมาเกือบกึ่งกลางหลัง... ดูไปดูมานึกว่า...สาวงาม ที่จะไปเดินประกวดบนเวที ยังไงยังงั้น
“เอ้า จำกันไม่ได้จริงๆ แบบนี้ งอนแล้ว ฮิ ฮิ” สาวสวยค้อนให้ไอ้โชค วงเบ้อเริ่ม แต่ก็ยิ้มพรายกึ่งขบขัน
“เฮ้ยๆ นี่ อ่ะ เ่อ่อ ชะ ชมภู่ นี่นา ว๊าว !” ไอ้โชคเข้าไปพินิจพิเคราะห์ ใบหน้าของสาวสวยใกล้ๆ แล้วอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“ฮิ ฮิ ไงย่ะ ฝีมือเจ๊ เป็นไงล่ะ ตกตลึงเลยเหรอ ชิ” เจ๊จอยสะบัดหน้า อวดฝีมือของตัวเอง ในการทำให้นักเรียนหญิงกลับกลายเป็นสาวสวยไปในพริบตา
“เฮ้ย ไอ้แกะ นี่ไง ชมภู่ ที่กูพูดถึงบ่อยๆ” ไอ้โชคแนะนำผมให้รู้จัก กับนักร้องหญิงประจำวงโรงเรียน เคยเห็นแว่บๆบนเวที แต่ก่อนเธออยู่ในชุดนักเรียน ก็จัดว่าหน้าตาสวยพอสมควร แถมร้องเพลงเก่ง หนุ่มๆนี่ติดกันเกรียว จะว่าไปรูปร่างดีทีเดียว ส่วนสูงประมาณ 170 ซม. ได้ อืม หุ่นแบบนี่น่าจะเป็นนางงามได้จริงๆแหละ
“หวัดดีครับ เคยได้ยินชื่อมานาน ไม่คิดว่าจะได้เจอกัน อ่ะ เ่อ่อ...” ผมยิ้มทักทาย และเริ่มพูดจาติดๆขัดๆ เอ้าเป็นไรว่ะเนี่ยะกู.....
“หวัดดีค่ะ แหมๆ ไม่ต้องพิธีรีตองก็ได้ค่ะ ฮิ ฮิ จริงๆแล้ว ภู่รู้จักแกะมานานแล้วน่ะค่ะ” ชมภู่ทักทายผมอย่างสนิทสนม
“อ้าว หรือครับ” ผมคงมัวหลงระเริงอยู่กับ พี่ชายที่รัก (ในขณะนั้น) อยู่กระมัง หรือไม่ก็เรียนหนัก ซ้อมมวย ฯลฯ เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจสิ่งรอบข้างเท่าใดนัก
“อุ๊ย ใครจะไม่รู้จักพระเอกเกาหลี ... ฮีโร่ของโรงเรียนล่ะค๊ะ คิก คิก” ชมภู่หันมาจ้องหน้าผม และยิ้มหวานให้ จนผมต้องยิ้มตอบปากแทบฉีก อิอิอิ
“อะ แฮ้ม ! จะคุยกันสองคนรึไงคร๊าบ ผมกับเจ๊จอยก็อยู่ตรงนี้น่ะคร๊าบ” ไอ้โชคกระแอมเสียงดังลั่น พร้อมพูดจากระทบกระทั่ง พอเป็นพิธี
“ ฮ่ะ ฮ่ะ เออ นี่ชมภู่จะแต่งตัวไปไหนครับ แล้ว อ่ะ เ่อ่อ ผมยาวได้ขนาดนี้เลยหรือครับ” ผมหัวเราะแก้เก้อ และไม่รู้ว่าจะคุยอะไรต่อเลยแกล้งแซวเรื่อง วิก ที่ชมภู่กำลังสวมอยู่
“แหมๆ ถ้าผมจริงยาวขนาดนี้ ก็ผิดระเบียบโรงเรียนแล้วสิค๊ะ ...คือ เตรียมตัวไปร้องเพลง งานเลี้ยงแต่งงานผู้ใหญ่ท่านหนึ่งน่ะค่ะ”
“โห รับร้องเพลงข้างนอกด้วยหรือครับ แบบนี้รวยแย่เลยสิครับ” ผมแกล้งแซวเธอเล่นๆ
“แหมๆ ก็มีบ้างอ่ะค่ะ แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่ค่ะ” ตอนนี้ชมภู่ลุกขึ้นยืน ความสูงของเธอ ช่างดูไล่เลี่ยกับความสูงของผมจัง อ่ะ อ้าว นี่กูกำลังคิดอะไรเป่าเนี่ยะ 55555+
“เจ๊ค่ะ รถมารอแล้วค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ” ผมมองออกไปหน้าร้านถึงมองเห็นว่ามีรถเก๋งคันหนึ่งกำลังเข้ามาจอดที่หน้าร้านพอดี
“อะ เอ่อ แกะค่ะ เห็นโชคบอกว่าเสียงดี แกะสนใจจะเป็นนักร้องของโรงเรียนมั๊ยค่ะ” ชมภู่ยกมือไหว้เจ๊จอย และหิ้วถุงกระดาษสัมภาระ เตรียมตัวเดินออกไป แต่ไม่วายที่จะหันหน้ามาคุยกับผมต่อ
“อืม คะ คือ” ผมยังให้คำตอบอะไรไม่ได้ตอนนี้
“เดี๋ยวเจอกันที่โรงเรียนน่ะค่ะ บายค่ะ ไปน่ะโชค” ท่าทางรีบร้อนจริงๆ เห็นชมภู่รีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง แล้วรถก็รีบขับออกไป ดูไม่ชัดว่าใครขับ เป็นผู้ชายแหละแต่ดูไม่ออกว่าหนุ่มหรือแก่
“ไง ไอ้แกะ มองตาค้างเชียวน่ะมึง ฮ่ะ ฮ่ะ” ไอ้โชคแซวผมหลังจากที่เราเดินเรื่อยเปื่อยออกมาที่ถนน
“เออ ก็ไม่คิดว่าชมภู่ จะสวยขนาดนี้นี่หว่า”
“พอเลยมึง เอาเรื่องแฟนมึงให้รอดซะก่อนเถอะ ไหนจะ แจ๊ด อีกล่ะ” เออ จริงสิ เดี๋ยวไอ้เมฆคงจะมารอที่หน้าแฟลตแล้ว ผมเลยรีบดึงไอ้โชคกลับมาที่แฟลต
ไอ้เมฆขับสามล้อมารอจริงๆ ผมเลยฝากการ์ดให้ไอ้โชคไปเก็บ และขึ้นรถสามล้อไป แล้วบอกไอ้โชคให้เจอกันหน้าโรงหนัง
กว่าจะรับแจ๊ดและแมวมาได้ก็เสียเวลาพอสมควร ก็สองสาวมัวแต่แต่งหน้าทาปากอยู่น่ะสิ เฮ้อ ผู้หญิงนี่ชอบชักช้าเสียเวลา แต่ก็แต่งแบบไม่เวอร์มาก เพราะยังอยู่ในวัยเรียน แบบนี้ก็ค่อยยังชั่วหน่อย วันนี้แจ๊ดใส่น้ำหอมมาด้วย แถมนั่งเบียดกับผมมาตลอดทาง โดยเธอนั่งกลาง ส่วนผมและแมวนั่งคนล่ะข้าง ไอ้เมฆไม่ต้องพูดถึงมีหน้าที่ขับสามล้อก็ขับไป อิอิอิ
เรามาเจอกันที่หน้าโรงหนังเอาราวเกือบทุ่ม ไอ้ม้วนหนีบแฟนเด็กม.2 มาด้วย ไอ้เท่งเลยต้องประกบคู่กับไอ้โชค (ซวยไป 55555+) หนังในวันนั้นรู้สึกจะน้ำเน่าเอามากๆ เกี่ยวกับเรื่อง เนื้อคู่ อะไรประมาณนี้ แต่ก็ทนดูอ่ะน่ะ เพราะมีแม่แจ๊ดทรงเสน่ห์คอยเอาอกเอาใจ จับมือถือแขนอยู่นี่ครับ (ข้ามดีกว่าเนาะ มีแฟนคลับบางท่านบ่นมา อิอิอิ)
หลังจากส่งแจ๊ดและแมวกลับบ้านแล้ว ไอ้เมฆมาส่งผมที่หน้าแฟลตตามหน้าที่ ประมาณสามทุ่มครึ่งได้ กับพอดีที่ผมเห็นรถพี่หมวดขับสวนออกมา และจอดรอให้ถนนว่าง พี่หมวดคงไม่สังเกตเห็นผม เพราะผมนั่งอยู่ในรถสามล้อข้างๆเสาไฟฟ้า...ผมอยู่ฝั่งด้านคนขับจึงเห็นพี่หมวดได้ถนัด พี่หมวดแต่งตัวธรรมดา ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น คงออกจากเวรและกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ดูเหมือนว่าแกกำลังยิ้มหัวเราะกับใครสักคน ที่นั่งไปด้วย...ตอนแรกผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่แล้วทันทีที่แสงไฟจากรถคันที่สวนมา ส่องไปกระทบร่างของผู้โดยสารที่นั่งข้างๆพี่หมวด...มันทำให้ผมชาวาบ ตกตลึง เพราะคนๆนั้น ไม่ใช่เพื่อน หรือลูกน้องคนใดคนหนึ่ง แต่กลับกลายเป็น ร่างของผู้หญิง!...
ใช่...ผู้หญิงจริงๆ...ท่าทางจะยังสาวอยู่ เพราะสังเกตเสื้อผ้าและทรงผมแล้ว น่าจะวัยเดียวกับพี่หมวด แต่น่าเสียดายที่มองเห็นหน้าไม่ชัด
ผมกระพริบตาถี่ๆ พยายามมองให้ชัดว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ร่างของพี่หมวดก็กลับบดบังสะเกือบมิด...พี่หมวดดูท่าทางมีความสุข และคุยกับผู้หญิงในรถอย่างออกรส ออกชาด...และแล้วพี่หมวดก็ขับรถออกไปที่ถนนใหญ่และเคลื่อนออกไปจนลับตา...ทิ้งรอยยิ้มและท่วงท่าหัวร่อต่อกระซิกกับสาวคนนั้น...ไว้เบื้องหลัง
ไอ้เมฆขับรถจากไปแล้ว... แต่ผมกลับหมดเรี่ยวแรง ร่างกายเบาโหวง แข้งขาอ่อนแทบล้มทั้งยืน ดีที่มีเสาไฟฟ้าให้พอที่จะพยุงกายเอนตัวพิงไว้ได้...ผมรู้สึกจุกๆ แน่นหน้าอก หายใจขัดๆ ใช่แล้วผมเจ็บ..เจ็บแปล๊บๆที่หัวใจ... เหมือนมันจะหลุดออกมาทั้งดวง ....นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเราน่ะ... เราเป็นอะไรไป... ทำไมเราถึงมองภาพพี่หมวดอยู่กับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้...มันเหมือนกับว่าพี่หมวดกำลังเป็นของคนอื่นไปแล้ว...หัวใจดวงเดียวที่ผมยึดเหนี่ยวอยู่ ...กำลังโบยบินจากผมไปแล้วใช่มั๊ย ผมสูญเสียพี่ชายที่รักไปแล้ว นี่ผมกำลังจะสูญเสีย...พี่หมวด...ไปอีกกระนั้นหรือ...ใครก็ได้ช่วยบอกผมที…