บทที่ 70 “ ใจ...สลาย ”
ผมตกใจตัวแข็งทื่อ ความรู้สึกเหมือนถูกไฟช๊อต ขนหัวลุกตั้งชัน ทำอะไรไม่ถูกเอาสะเลย พี่ชายที่รักคงไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ แต่แกก็พอมีสติอยู่บ้าง จึงเข้ามาจับมือผมกระชับ เพื่อจะบอกผมว่า
“น้องชายที่รัก มีพี่อยู่ใกล้ๆ ไม่ต้องกลัวภยันอันตรายใดๆน่ะครับ” แต่แกไม่ได้ปริปากอะไรแม้แต่น้อย เพียงแต่กิริยาอาการที่สื่อออกมา มันบ่งบอกถึงความเอื้ออาทรต่อน้องชายที่รักคนนี้มากมายเหลือเกิน หมวดยุทธจ้องมองมือของพี่ชายที่รักที่จับกุมมือผมอยู่ ด้วยสายตาที่บ่งบอกว่า ไม่พอใจเอามากๆ ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้หมวกของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ บึ้งตึง แล้วแกก็จ้องหน้าผมที หน้าพี่ชายที่รักที
“งามหน้านักน่ะ ลูกชายคนเดียวของตระกูล ทำเรื่องอัปยศอดสู ได้ถึงเพียงนี้” แกตำหนิผมเหรอนี่ แสดงว่าเมื่อกี้ แกคงเห็นหมดแล้วสิ จบกัน...
“นายคือดำ ใช่มั๊ย เรามีเรื่องที่จะตกลงกัน” แกหันหน้าไปพูดกับพี่ชายที่รัก ก่อนที่จะออกคำสั่งกับผมว่า
“แกะ! เก็บของทั้งหมด...ไปกับพี่เดี๋ยวนี้” คำสั่งนั้นเฉียบขาดเหมือนกับที่แกใช้กับลูกน้องของแก... ผมเริ่มมีสติขึ้น จึงพูดอ้อมแอ้มว่า
“พะ พี่หมวดครับ คะ คือ ผมต้องย้ายไปวันอาทิตย์ ไม่ใช่หรือครับ”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมแกะต้องย้ายออกจากบ้านผม” พี่ดำปล่อยมือผมออก แล้วจ้องหน้าผู้หมวดเขม็ง เหมือนจะไม่ยอมง่ายๆ
“ฮึ นายรู้เอาไว้ซะ ต่อนี้ไป ชั้นคือผู้ปกครองของแกะ แต่เพียงผู้เดียว” พี่หมวดยิ้มเยาะ
“อะไรน่ะ แกะ บอกพี่มาสิ ว่ามันเรื่องอะไรกัน” พี่ชายที่รักตกใจหน้าซีด เซถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนที่จะมีสติถามผมขึ้น เพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
“คะ คือ ว่า อะ เอ่อ....” เหมือนมีอะไรบางอย่างมาทำให้ริมฝีปากของผมขยับไม่ได้ชั่วคราว...ผมหันไปมองหน้าพี่ชายที่รัก ด้วยความรู้สึกหดหู่ อย่างบอกไม่ถูก ทำไมพี่ชายที่รักต้องมารับรู้ก่อนเวลาอันสมควรแบบนี้
“แกะ ก็บอกไปเลยสิ ว่า พ่อของแกะอนุญาต ให้พี่เป็นผู้ดูแลแกะ เพียงคนเดียวเท่านั้น” พี่หมวดหันมาบอกผม พร้อมกับชำเลืองมองพี่ชายที่รักด้วยสายตาประหลาดๆชอบกล
“ตะ แต่ ผะ ผม ขออยู่กับพี่ดำก่อนได้มั๊ยครับ วันอาทิตย์ค่อยย้ายไปอยู่กับพี่หมวด” ผมต่อรอง ก็ตามกำหนดเดิมมันเป็นอย่างนั้นนี่นา
“ฮึ ฮึ ถ้าไม่อยากให้พ่อรู้เรื่องนี้...พี่ขอเตือนว่า แกะต้องไปเก็บข้าวของเดี๋ยวนี้!” สีหน้าและแววตาของพี่หมวดจริงจังเหลือเกิน แกเล่นเอาพ่อมาอ้าง ทำให้ผมถึงกับจำนน...ใช่ ถ้าพ่อรู้เข้าจะเป็นยังไงน่ะ...โอยผมไม่อยากคิดเลย ท่านคงจะผิดหวังมาก...คิดขึ้นมา น้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“แกะ แกะ อย่าไปเลยน่ะ อยู่กับพี่น่ะครับคนดี แล้วพี่จะไปอ้อนวอนคุณพ่อเอง” พี่ดำรีบปราดเข้ามาประชิดจับแขนผมไว้แน่น ทั้งน้ำเสียงและแววตาบ่งบอกว่า แกกำลังสูญเสียของรัก...ของหวงของแก
“นายคิดว่า พ่อเขาจะยอมให้ลูกชายคนเดียวของเขา อยู่กับนาย...ให้เริงรักกันต่อไปอย่างงั้นรึ” พี่หมวดมองพี่ชายที่รักด้วยสายตาเหยียดหยาม และดูแคลน
“ตอนนี้ ชั้นรู้แล้ว...รู้ว่าทำไมแกะ ถึงเป็นแบบนี้ ก็เพราะนาย...ใช่มั๊ย...นายดำ”
พี่ดำหน้าซีดเผือดอีกรอบ ถึงกับเซถลา ลงไปนั่งกองกับพื้น จนผมต้องรีบเข้าไปประคอง
“ไม่ต้องรักกันมากหรอก พี่ขอสั่งอีกครั้ง ไปเก็บข้าวของเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ถึงหูพ่อของแกะแน่” น้ำเสียงเฉียบขาดจนผมถึงกับตกใจ
“ส่วนนายดำ เรามีเรื่องที่จะตกลงกัน เอาล่ะ แกะไปจัดการตามที่พี่สั่งได้แล้ว” ผมเหมือนโดนมนต์สะกด ทำตามพี่หมวดอย่างว่าง่าย เดินขึ้นไปบนชั้นสอง เปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บข้าวของ... เหมือนคนไม่รู้ตัว... จนกระทั่งผมหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัว และกระเป๋าใส่หนังสือ ลงมาที่หน้าบ้าน
พี่ชายที่รักกำลังนั่งชันเข่า สองมือซบที่ใบหน้า ร้องไห้สะอึกสะอื้น ส่วนพี่หมวดยืนมองด้วยความสมเพช ผมไม่รู้ว่าเขาสองคนตกลงเรื่องอะไรกัน แต่ก็เป็นภาพที่ทำให้ผมสะเทือนใจอย่างรุนแรง
“เสร็จแล้วรึ มาพี่ช่วยถือ” ว่าแล้วพี่หมวดก็ช่วยผมหิ้วกระเป๋าไปใส่ไว้หลังกระโปรงรถยนต์ของแกที่จอดรอไว้นอกถนน เสร็จแล้วแกก็ไปสตาร์ทรถทันที ก่อนที่จะมาเปิดประตูด้านคนนั่ง พร้อมออกคำสั่งอีกครั้ง
“ขึ้นรถ เราจะออกเดินทางแล้ว” แกพยายามดันผมเข้าไปนั่ง
“ตะ แต่ พี่ดำ ขะ เขา.....” ผมหันไปมองพี่ชายที่รักด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ อยากบอกไม่ถูก ผมจะเปลี่ยนใจได้มั๊ยนี่ ผมอยากอยู่กับพี่ชายที่รัก ผมควรจะทำยังไงดี ตอนนี้พี่ชายที่รัก เงยหน้าขึ้นมามอง น้ำตาไหลพรากๆ น่าเวทนาเหลือเกิน หัวใจแกคงแหลกสลาย...ยับเยิน...ไม่มีชิ้นดี
“พี่ตกลงกับเขาแล้ว ไม่ต้องห่วง” พี่หมวดพูดขึ้น เพื่อเรียกสติให้ผมเข้าไปนั่งในรถ แต่ภาพพี่ชายที่รักที่ร้องไห้คร่ำครวญ ที่กำลังมองมาที่ผม และกำลังลุกขึ้นยืนช้าๆด้วยความรู้สึกแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงนั้น...ทำให้หัวใจของผม...แหลกสลาย
“พะ พี่ดำ ฮือ ฮือ” ผมร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย พี่หมวดอีกต่อไป ผมวิ่งกระโจนไปประคองพี่ชายที่รัก ด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งห่วงเหลือเกิน
“พี่ดำ ผะ ผม ขอโทษ ผมรัก รักพี่ดำครับ ฮือ ฮือ” ผมกอดร่างนั้น ร่างที่ผมรักนักหนา ซึ่งตอนนี้พี่ชายที่รักเองก็กอดกระชับผมแน่น พร้อมร้องไห้ไม่หยุด ตัวแกสั่นสะท้านทีเดียว
“แกะ ทะ ทำไม เราต้องจากกัน เรารักกันไม่ใช่หรือครับ อย่าจากพี่ไปเลยน่ะ น่ะครับ ฮืือ ฮือ” พี่ชายที่รักร้องไห้สะอึกสะอื้น
“แต่มันเป็นความรักที่ผิดธรรมชาติ แกะ ไปกับพี่ได้แล้ว” พี่หมวดมาถึงตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้แกกำลังจับเราแยกจากกัน
“นายดำ เราตกลงกันแล้วไม่ใช่รึ” พี่หมวดผลักอกพี่ชายที่รักกระเด็นไป พร้อมทั้งลากทั้งจูงผมขึ้นรถจนได้...
รถกำลังเคลื่อนไป ผมเห็นพี่ชายที่รักวิ่งตามมาอย่างกระชั้นชิด ภาพพี่ชายที่รักตอนนี้ ไม่ต่างอะไรกับคนเสียสติ ...ใช่เหมือนคนบ้า...เหมือนคนที่ถูกควักหัวใจออกมาทั้งดวง แกวิ่งมาจนทันที่หน้าต่าง ผมจึงลดกระจกลงมาได้เพียงครึ่ง มือของพี่ชายที่รักก็เื้อื้อมเข้ามาจับมือของผมแน่น
“แกะ อย่าไปเลย แกะ อย่าไป ฮือ ฮือ” แกวิ่งไป คร่ำครวญโหยหวน ทำให้ผมใจจะขาดรอนๆ ซะให้ได้
“พี่ดำ ผะ ผมขอโทษครับ ผมต้องไป ดูแลตัวเองให้ดีน่ะครับ ฮือ ฮือ” พูดเสร็จ พี่หมวดกลับเร่งเครื่องยนต์ขึ้น ความเร็วจากการวิ่งไม่สามารถที่จะทันความเร็วของรถได้...มือของพี่ชายที่รักจึงค่อยๆหลุดไป แต่ทว่าภาพที่ผมเห็นที่กระจกข้าง ทำเอาผมตกใจแทบสิ้นสติ
พี่ชายที่รักเสียหลัก เซถลาลงกับพื้น ผมทันเห็นว่าหัวเข่า หรือขาของแกข้างใดข้างหนึ่งครูดไปกับพื้นถนน ก่อนที่จะกลิ้งหลุนๆร่วงหล่นลงไปท้องร่องข้างทาง
“พี่ด๊ำ!!!!” ผมตะโกนสุดเสียง พยายามหันไปมอง แต่ร่างของแกก็ลับสายตาของผมไปแล้ว
“พี่หมวด พี่ดำเอาหกล้ม ช่วยหยุดรถทีครับ ฮือ ฮือ”
“พี่เห็นแล้ว เขาไม่เป็นอะไรมากหรอก” พี่หมวดกลับยิ่งเร่งเครื่องเร็วขึ้นอีก
ผมรู้สึกเป็นห่วงพี่ชายที่รักอย่างเหลือเกิน พี่หมวดก็ไม่ยอมหยุดรถ ผมควรทำยังไงดี
“พี่หมวดใจร้าย ฮือ ฮือ ผมไม่รักพี่หมวดแล้ว... ผมเกลียด.. ผมเกลียดพี่หมวด ฮือ ฮือ” ผมร้องไห้แทบเป็นสายเลือด ตะโกนโพล่งออกไปอย่างลืมตัว
“เมื่อกี้ แกะว่าอะไรน่ะ”
“ผมเกลียด...ผมเกลียดพี่หมวด...ได้ยินมั๊ยครับ ฮือ ฮือ”
“เอี๊ยด! เอี๊ยด!” เสียงเบรกรถดังลั่นสนั่นไปทั่ว พร้อมกับที่รถแฉลบเสียการทรงตัวเล็กน้อย...ก่อนที่รถจะหยุดนิ่งอยู่กลางถนน ผมไม่ทันสังเกตว่าใบหน้าของพี่หมวดตอนนี้ จะเป็นอย่างไร และแกกำลังคิดอะไรอยู่
เพราะหัวใจของผมกำลังเป็นห่วง กังวล ไปถึงพี่ชายที่รัก ที่นอนจมอยู่ในท้องร่อง ผมเปิดประตูรถออกมาได้ ก็รีบกระโจนวิ่งกลับมาหาพี่ชายที่รัก อย่างไม่คิดชีวิต...
“พี่ชายที่รัก อย่าเป็นอะไรน่ะครับ ฮือ ฮือ ”
No comments:
Post a Comment