บทที่ 79 “กรกนก...แฟนสาว ”
ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมในขณะนี้ มีใบหน้าที่สวยงามน่ารัก โครงหน้าดูดีเอามากๆ ไม่ใช่ใบหน้ารูปไข่ หรือคางแบบเหลี่ยมซะทีเดียว แต่ดูกึ่งๆระหว่างทั้งสองแบบ แก้มทั้งสองข้างมีสีชมพูเรื่อๆ จมูกโด่ง งอนเชิดขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากสีออกแดงเรื่อๆ ตาโตดำขลับ ประดับด้วยขนตางอนเช้ง คิ้วโก่งได้รูป วางพอเหมาะพอเจาะอยู่ บนหน้าผากที่กลมกลึง ยิ่งตอนนี้เธอติดกิ๊บสีขาวใหญ่ๆตามสมัยนิยม ยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอดูน่ารักยิ่งขึ้นอีก แถมยิ่งขับให้ทรงผมนักเรียนทรงบ๊อบที่ดูธรรมดาๆ กลับกลายเป็นทรงผมที่ดูน่ารักเอามากๆ เธอยังคงอยู่ในชุดนักเรียน กระโปรงสีน้ำเงิน และเสื้อเชิ๊ตสีขาว ทำให้รูปร่างที่ดูอรชร ซึ่งสูงประมาณ 165 ซม. ดูสวยงามราวเทพธิดาในสายตาของผมทีเดียว
“ไหนลองอธิบายมาสิ ว่าเกิดอะไรขึ้น รึว่าเธอเปลี่ยนรสนิยมแล้ว เรื่องระหว่างเราจะได้จบกัน” กรกนกใส่เป็นชุด ...ไม่ทำให้ผมทันตั้งตัว... เธอถือกระเป๋าแบบเป้สะพายแกว่งไปมา ด้วยความไม่สบอารมณ์ ...คิ้วเธอขมวดเข้าหากันเล็กน้อย... พร้อมกับสายตาที่จ้องมองมาที่ผมนั้น มันเต็มไปด้วยคำถาม...อยู่ดีๆชายคนรัก มีใครก็ไม่รู้...รึจะเรียกว่า กระเทยที่ไหนก็ไม่รู้ ก็คงจะถูก...มายืนกอดออเซาะร้องไห้...ออดอ้อน กลางสาธารณะชน...จะไม่ให้เธอคิดเป็นอื่นได้อย่างไร
“กรกนก...อ่ะ เ่อ่อ ...เธอกำลังเข้าใจผิดน่ะ สิ่งที่เธอเห็น...ไม่ใช่สิ่งที่เธอกำลังคิด” ผมละล่ำละลัก รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน พร้อมกับแกะมือนังแต๋นออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว
นังแต๋นเองก็ตกใจไม่น้อย มองหน้า กรกนก อย่างงงงัน แต่ก็มีกะใจทักทายขึ้นมาว่า
“เ่อ่อ เธอคงจะเป็นแฟน แกะล่ะสิน่ะ เราขอโทษน่ะ ที่ทำให้เธอเข้าใจผิด”
“แล้วตกลงเรื่องมันเป็นยังไงล่ะ” กรกนกเริ่มมีสีหน้าดีขึ้น หันไปคุยกับแต๋นอย่างกันเอง
“เธอต้องภูมิใจ ในตัวแฟนเธอน่ะ มานี่เถอะ คนสวย เราจะอธิบายให้ฟัง” แต๋นถือโอกาสจูงมือกรกนก ไปนั่งที่ม้านั่งสำหรับผู้โดยสาร ภายใต้หลังคา ของอาคาร ผมเห็นว่า สองสาวคงจะมีเรื่องอยากคุยกันเป็นการส่วนตัว ก็เลยเลี่ยงออกมา โดยเอากระเป๋าสะพายที่บรรจุเสื้อผ้าของแฟนสาว ไปเก็บไว้ที่รถมอเตอร์ไซค์ จากนั้นก็นั่งมองมาที่คนทั้งสอง ซึ่งอยู่ไม่ห่างเท่าใดนัก
เห็นสองสาวหัวร่อต่อกระซิก อย่างคนคุยถูกคอ เฮ้อ...โล่งอกไปที อย่างน้อยแต๋น มันก็น่าจะอธิบายให้แฟนผมเข้าใจบ้่างล่ะ ในฐานะที่ผมช่วยมันไว้ในระดับหนึ่ง
สักพักหนึ่งนังแต๋นก็โบกไม้โบกมือให้ผม แล้วเดินจากไป บ้านของแต๋นอยู่ไม่ไกลจากบขส. เท่าไหร่นััก ส่วนกรกนกก็เดินยิ้มกริ่มมาที่ผม
“ตกลงเข้าใจเราดีแล้วใช่มั๊ยล่ะ” ผมยิ้มให้คนรักด้วยความสุขใจ ที่เห็นใบหน้าของเธอยิ้มแย้มแจ่มใส
“อืม เข้าใจแล้ว แต่แต๋นขออะไรเราอย่างหนึ่งแน่ะ” กรกนกยิ้มอย่างมีเลศนัย แฮะ หรือว่า...
“ขออะไร” ผมขมวดคิ้ว นี่นังแต๋นยังจะขออะไรจากแฟนผมอีก
“เขาขอ...คิกคิก...ขอเป็น...ขอเป็นน้อยน่ะ ฮิฮิ” กรกนกเอามือปิดปาก หัวเราะงอหาย จนตัวโยน
“ก๊ากๆๆๆๆ เล่นตลกอะไรอีกล่ะเนี่ยะ ฮ่ะ ฮ่ะ” ผมอดหัวเราะไม่ได้ แฟนผมก็เป็นอย่างนี้แหละ ชอบอำผมอยู่เรื่อย
“แต๋นเขาน่าสงสารน่ะ เห็นบอกว่าถูกผู้ชายหลอก เอาเงินเอาทองไปก็ตั้งเยอะ พอมาตอนหลังจับได้ว่าไปมีแฟนเป็นผู้หญิง ก็เลยจะมาตกลงกัน ส่วนฝ่ายผู้ชายคงจะอายเพื่อนๆล่ะมั้ง ถึงทำกับแต๋นแบบนี้” แฟนผมอธิบายให้ผมฟังเรื่อยๆ
“แล้วแต๋นเขาเข็ดรึยังล่ะ เขาจะทำยังไงต่อไป”
“เห็นบอกว่า ได้รักแล้ว คงจะเลิกยาก ไว้มีโอกาสจะพยายามปรับความเข้าใจกันใหม่”
“เวรกรรม เขาทำถึงขนาดนี้ ยังไม่เข็ดอีก” เราสองคนนิ่งไปพักหนึ่ง ต่อมากรกนกจึงเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น
“แต่งตัวซะหล่อเชียว ตอนแรกจำแทบไม่ได้เลย จะพาแต๋นไปเที่ยวไหนเหรอ ฮึ ฮึ” แนะ ยังมีลูกเหน็บอีกน่ะ แม่กรกนก แฟนสาวคนสวยของผม
“ก็แต่งตัวมารับแฟนไงคร๊าบ...ไม่น่าถามเล๊ย” ผมยักคิ้วข้างหนึ่ง ทำหน้าเจ้าเล่ห์ตามสไตล์ ก็เลยโดนทุบเข้าที่หน้าอกดังตุ๊บ
“นี่แนะ เจ้าเล่ห์นัก แล้ว หน้าตาไปโดนอะไรมา ทำใมเขียวคล้ำแบบนี้” เธอเริ่มจับสังเกตใบหน้าของผม ถึงจะเอาแว่นดำมาปิดตาข้างซ้ายที่บวมตาแทบปิด แต่ใบหน้าส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโหนกแก้ม ปลายคาง ยังมีรอยช้ำๆ เขียวๆจางๆ จากการถูกชกต่อยอยู่ดี
“ต่อยมวยที่โรงเรียนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” ผมพยายามเบี่ยงตัวหลบ ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ เตรียมสตาร์ท แล้วรีบพูดต่อ ไม่ให้เธอจับผิดสังเกต เกิดเธอถอดแว่นผมขึ้นมาคงจะดูไม่จืดเลยน่ะเนี่ยะ
“รีบไปกันเถอะ ไอ้ก้อย วาด และเพื่อนๆรออยู่ที่ร้านขนมน่ะ” ผมสตาร์ทรถทันที
“คิดดีแล้วเหรอ ไปต่อยมวยน่ะ เราเป็นห่วงน่ะ ” แฟนผมบ่นอุบ แต่ก็ไม่ว่าอะไรมาก เธอขึ้นนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ โดยนั่งเอียงๆเอาด้านซ้ายมาชนหลังของผม หันหน้าไปทางถนน แล้วใช้มือข้างซ้ายเกาะเอวผมไว้หลวมๆ (เนื่องจากเธอใส่กระโปรงอยู่จึงนั่งคร่อมแบบผู้ชายไม่ได้ คิดว่าเพื่อนคงมองภาพออกน่ะครับ)
“เกาะแน่นๆน่ะ เราจะออกรถแล้ว” กรกนกจึงเกาะเอวผมแน่นขึ้น ส่วนมืออีกข้างเธอคงจะจับที่ท้ายรถมอเตอร์ไซค์ (หมายเหตุ ในสมัยนั้นยังไม่มีกฎหมายใส่หมวกกันน็อคครับผม)
ผมพาเธอ ขับรถมอเตอร์ไซค์ วิ่งช้าๆ เข้าไปในตลาด ผ่านร้านรวง ต่างๆ ดูเธอตื่นตาตื่นใจไม่น้อย เราสองคนผ่านพวกนักเีรียนที่กำลังเดินกลับบ้าน กลุ่มแล้ว กลุ่มเล่า... ต่างพากันส่งเสียง ฮือฮากันใหญ่ เพราะพวกนั้น จำผมได้นั่นเอง พวกเขาคงจะงง ว่าผมพานักเรียนสาวที่ไหนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ดูท่าทางหวานแหววกันเหมือนคู่รักกันยังไงยังงั้น...บรรยากาศตอนนี้ ผมมีความสุขมากเลยครับพี่น้อง
ผมจอดรถที่หน้าร้านเจ๊แหม่ม ยังไม่ดับเครื่องดีเลย ไอ้พวกเพื่อนตัวแสบ ก็พากันออกมา ต้อนรับแฟนผม ส่งเสียงอื้ออึงดังลั่น นี่มากันครบเซ็ตเลยนี่หว่า ไม่ว่าจะเป็น วาด ไอ้ก้อย ไอ้จุ๊ ไอ้ซอ ไอ้อ้วน ไอ้อ๊อด ไอ้ม้วน ไอ้เท่ง ไอ้โกก ไอ้เบนซ์ อ้าว แล้วนั่นไอ้โชคมันมาเกี่ยวอะไรกับงานนี้ว่ะเนี่ยะ
“มาแล้ว มาแล้ว แฟนไอ้แกะ เป็นไงสวยมั๊ย พวกเรา” ไอ้จุ๊ หันหน้าไปบอกเพื่อนใหม่ในกลุ่ม ส่วนเพื่อนจากโรงเรียนเดิมรู้จักกรกนกดีอยู่แล้ว จึงไม่ต้องแนะนำให้เสียเวลา
“สวย สวยว่ะ สมกันยังกะกิ่งทองใบหยก เลยน่ะเนี่ยะ” เสียงไอ้โกกดังขึ้น
“โห แม่ง ไอ้แกะ มันจ๊าบว่ะ ดูมันแต่งตัวไปรับแฟนมันสิ เท่ห์เป็นบ้าเลย” ไอ้ม้วนพูดมั่ง
“นี่ๆ พวกเธอ กลับเข้าไปนั่งที่กันได้แล้ว” เสียงไอ้ก้อยทอมสาวดังลั่น ได้ผลทุกคนต่างกลับไปนั่งที่ของใครของมัน แต่ก็ยังส่งเสียงแซวมาเป็นระยะๆ
ผมได้ที่นั่งข้างๆไอ้โกก ถัดไปเป็นไอ้ม้วน และไอ้โชค ส่วนตรงข้ามผม เป็นกรกนก ไอ้ก้อย และวาด ผมเพิ่งสังเกตว่า ไอ้ก้อยมันเปลี่ยนไปแฮะ จากเดิมที่ดูเป็นทอมบอย ทำใมมันกลายเป็นหญิง แถมสวยซะด้วยสิ เราสั่งขนมกันมาคนละถ้วยสองถ้วย ผมก็เลือกขนมถ้วยโปรดคือ ฟักทองกับรากบัวเชื่อม และสั่งให้กรกนกแฟนผมด้วย
“ตกลง เธอจะค้างกับพวกเราคืนนี้ แล้วตอนเช้าจะรีบไปเลยหรือ” ไอ้ก้อยถามแฟนผมขึ้น
“ใช่ ก็พี่สาวเรา (อาจารย์ของพวกผมที่โรงเรียนเก่าครับ) จะย้ายไปสอนที่ต่างจังหวัด เราต้องไปช่วยพี่เราเก็บของน่ะสิ”
“แล้วๆ คืนวันพรุ่งนี้ เธอ พอจะมีเวลามาสังสรรค์กับพวกเราที่บ้านแกะมั๊ยล่ะ เดี๋ยวพวกเราให้เบนซ์ขับรถไปรับ” วาดพูดขึ้นมาบ้าง
“งานสังสรรค์อะไรกัน เราไม่เห็นรู้เรื่องเลย” ผมโพล่งขึ้นมาด้วยความสงสัย จะจัดงานกันตอนไหน ไม่ยักกะรู้แฮะ แถมบ้านตัวเองซะด้วยสิ
“นี่นายแกะ พี่กวางไม่ได้บอกรึไง พวกเรานัดกับพี่เขาไว้เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์แล้วย่ะ พี่เขาอยากเจอยัยกรด้วย” ไอ้ก้อยตอบคำถามแทน อ้าว ตกลงพี่สาวกูนัดกับเพื่อนๆกูไว้ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ยะ รึว่ากูมัวแต่หลงระเริง.....ก็เลยไม่รู้เรื่องกัน
“ขอเราไปเที่ยวบ้านแกะด้วยสิ เราอยากไปน่ะ น่ะแกะ” ไอ้โชคมันพูดขึ้นมาบ้าง แต่สายตาดันมองแต่หน้าไอ้ก้อย อืม...กูพอจะรู้แล้ว ที่ไอ้โชคมันมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ อยู่ตอนนี้....และไอ้ก้อยเปลี่ยนไปเป็นสาวสวย ก็เพราะเหตุนี้ นี่เอง...สำคัญน่ะมึง ไอ้โชค สำคััญทีเดียว อิอิอิ
“ไม่มีปัญหา ว่าแต่ทางบ้านนายรู้เรื่องรึยังล่ะ เดี๋ยวพ่อแม่นายมาว่าเราไม่ได้น่ะ” ผมตอบมันพร้อมยักคิ้วให้มันข้างหนึ่ง เหมือนรู้ทัน ที่มันมาจีบไอ้ก้อย
“ก็...เราก็กำลังขอร้องนาย ให้ไปช่วยพูดกับพ่อเราให้ไง พ่ออยู่ที่โรงพักน่ะ” โรงพักตำรวจจริงๆแล้วก็อยู่ตรงข้ามกับร้านเจ๊แหม่มนั่นแหละ เดินข้ามถนนไปแป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว
“เออ เดี๋ยวเราจะไปคุยให้” ผมบอกมันไปคิดว่าหลังจากทานขนมเสร็จจะแวะไปหาพี่หมวดอยู่พอดี เพราะแกเองก็จะไปบ้านผมในคืนพรุ่งนี้อยู่เหมือนกัน
สรุปตกลง เพื่อนๆในแก๊งค์ทั้งหมดจะไปเที่ยวบ้านผมกัน โดยมีไอ้เท่งเป็นคนขับรถ มันจะยืมรถกระบะของพ่อมันไป พวกเราตกลงจะพากันออกเดินทางหลังเลิกเรียนในวันพรุ่งนี้ เพราะวันศุกร์และวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ พวกเราจึงมีเวลาถึงสี่วันในการท่องเที่ยว
“เฮ้ย นี่ไอ้แกะ มึงอยู่ในร้านขนาดนี้ แล้วมึงยังใส่แว่นดำอยู่อีกหรือว่ะ เอ... แว่นสวยดีว่ะ มาขอกูยืมใส่หน่อย” ไอ้ม้วน ไอ้เพื่อนตัวแสบ มันกำลังเข้ามายื้อแย่งแว่นออกจากหน้าผม
“เฮ้ย ไม่ได้ ไม่ได้ ดะ เดี๋ยว” ผมพยายามร้องห้ามเสียงหลง
“อะไรกัน แกะ แค่เพื่อนขอยืมใส่แค่นี้ ก็ไม่ได้เชียวเหรอ” กรกนกทำเสียงดุๆ ทำนองตำหนิ
“แต่ อะ เอ่อ แต่ว่า...” ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลยจำยอมให้ไอ้ม้วนมันถอดแว่นออกไปจนได้ ผมเลยรีบเอาฝ่ามือข้างซ้ายมาปิดตาซ้ายที่มันบวมเป่งทันที
“อืม เท่ห์ดีว่ะ ใส่แล้วหล่อเหมือนมึงก็ดีสิ” ไอ้ม้วนใส่แว่นแล้วยืดหน้าไปมา โดยไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติของผม
“แกะ ตาเป็นอะไรน่ะ ทำไมถึงเอามือปิดไว้” โอย ตายๆๆๆๆๆๆๆ กรกนกจะดึงมือผมออกล่ะสิครับพี่น้อง
“ไอ้ม้วน มึงเอาแว่นคืนมา เร็ว!” ผมเรียกมันเสียงดังลั่นเลย จนทุกคนถึงกับหันมามอง รวมทั้งแขกที่โต๊ะอื่นๆด้วย
แต่ช้าเกินไป กรกนกดึงมือผมออกจนได้ คราวนี้ ตาข้างซ้ายที่บวมปูด ตาจะปิดมิปิดแหล่จึงเผยโฉมออกมา อย่างช่วยไม่ได้ แค่นั้นแหละ ผมแทบเอาปี๊ปคลุมหัว
“ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พระเอกเกาหลีตาปิด ฮ่ะ ฮ่ะๆๆๆๆๆ” ไอ้พวกเพื่อนตัวแสบ มันพร้อมใจกันหัวเราะซะดังลั่นร้านเชียว เล่นเอาโต๊ะอื่นๆถึงกับมองมาแล้วยิ้มๆ
ผมรีบคว้าแว่นมาสวมทันที แล้วค่อนขอดแฟนสาวต่อ
“ทำให้เราขายหน้า เธอต้องทำอะไรไถ่โทษน่ะ” ผมต่อว่าแฟนสาว ซึ่งกำลังหัวเราะ ขำๆ กับท่าทีของผม
“จ้า พ่อนักมวยฮีโร่ จะให้เราทำอะไรล่ะ ” ตอนนี้กรกนกรู้เรื่องทุกอย่างดีแล้ว จึงแซวผมกลับมา
“หอมแก้ม” ผมเอียงแก้มข้างหนึ่งไปให้เธอ
“บ้า! อายเขา”
“ถ้างั้นป้อนขนมก็ได้เอา...” ผมยื่นปากเข้าไปใกล้ๆหน้าเธอ
“เฮ้อ ก็ได้ เพื่อเห็นแก่ความดี ที่ทำให้โรงเรียนของเธอน่ะเนี่ยะ” ว่าแล้วแฟนผมก็ตักขนมป้อนเข้าปากผมอย่างช้าๆ... ทันใดนั้น ผมรู้สึกว่าเหมือนมีร่างของใครคนหนึ่งมายืนอยู่ใกล้ๆตัวผม และเสียงของไอ้ม้วนก็ดังลั่นอยู่ข้างๆหู
“อ้าว พี่เอก มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ หวัดดีครับพี่”
No comments:
Post a Comment