Sunday, June 26, 2011

บทที่ 163 " จูบนี้...มีใครเห็น? "




บทที่ 163 จูบนี้..มีใครเห็น ?


พี่กวางและพี่ดำยืนคุยกับพี่ภูมิแป๊ปหนึ่ง...ก็ต้องรีบกลับบ้าน เพราะเห็นรับปากกับพ่อแม่ว่าจะกลับให้ทันเที่ยงคืน พี่กวางไม่วายฝากพี่ภูมิให้กำชับผมว่า อย่าเที่ยวดึกมากนัก ...พี่ดำหันมาทักผมนิดหนึ่ง ก่อนที่จะเดินจากไป....ตอนนี้พี่ภูมิเดินออกไปส่งพี่กวางและพี่ดำหน้าวัด ตรงบริเวณที่จอดรถ
ผมไม่มีเวลาคิดอะไรฟุ้งซ่านอีกต่อไป เพราะพวกแก๊งค์ตัวแสบเองก็เข้ามาสมทบ กับพวกวาด พวกมันต่างแย่งกันคุยเรื่องไปจีบหญิงกันมา เป็นที่สนุกสนาน... จากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านกันหมด...
ผม ไอ้มุก ไอ้นาย และพี่สิงห์ พากันเดินมาที่ซุ้มยิงปืน เพื่อรอพี่ภูมิ ยิงไปพักใหญ่ ก็ไม่เห็นพี่ภูมิกลับมา ผมเลยอาสาออกไปตามพี่ภูมิเอง
ช่วงนี้คนเริ่มทะยอยกันกลับบ้านกันบ้างแล้ว แต่ในบริเวณงานก็ยังมีการละเล่นอยู่ ผู้คนที่อยู่ในงานก็เริ่มบางตาลงมาก ผมรีบจ้ำอ้าวเดินออกไปหน้าวัดเพื่อตามหาพี่ภูมิ
ผมเดินหาพี่ภูมิยังไงก็ไม่เจอ หาจนทั่วบริเวณจอดรถแล้ว เดินไปสองสามรอบ ก็ไม่มีแม้แต่เงา ตอนนี้ผมเริ่มใจไม่ดีแล้ว...รู้สึกเป็นห่วงพี่ภูมิขึ้นมาทีเดียว... พี่ภูมิแกจะไปไหนน่ะ รึว่ายังทำใจเรื่องพี่กวางไม่ได้ แต่ก็ไม่น่าจะมากมายอะไรนี่นา ในเมื่อแกเคยบอกผมก่อนหน้านี้ว่าพี่กวางไม่ได้คิดอะไรกับแกแบบคนรัก ...หรือว่าแกจะเสียหน้าที่โดนชายอื่นแย่งไป...แล้วตอนนี้แกหายไปไหนแล้ว
ผมเดินกลับเข้ามาในวัด กลับเจอแกนั่งกินเบียร์อยู่ที่ร้านค้าใกล้ๆหน้าประตูวัดนั่นเอง แกกินเบียร์ไปขวดหนึ่งแล้ว และนี่กำลังเริ่มขวดที่สอง
โห พี่ภูมิ ผมเดินตามหาแทบแย่ ที่แท้มานั่งจิบเบียร์อยู่นี่เอง ผมเข้าไปนั่งเก้าอี้ที่ฝั่งตรงข้าม
อืม... พี่ภูมิแค่พยักหน้า ส่งเสียงในลำคอ ไม่ได้พูดอะไร กลับยกแ้ก้วเบียร์กระดกรวดเดียว แล้วแกก็รินใหม่ทันที ผมเห็นอาการพี่ภูมิแล้วก็ใจคอไม่สู้ดี
พี่ภูมิ อ่ะ เ่อ่อ ผะ ผม... ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี พี่ภูมิเองก็คงไม่อยากพูดอะไรเหมือนกัน แกหยิบเงินขึ้นมาจ่ายค่าเบียร์ แล้วลุกขึ้น
พี่จะกลับแล้ว แกะไปส่งพี่หน่อยน่ะครับ
เออ ครับ ครับ ผมลุกขึ้นเดินตามพี่ภูมิ โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก...
บ้านที่แกพัก จะอยู่หลังวัด ต้องเดินผ่านซุ้มยิงปืนด้วย ผมจึงบอกแกให้แวะบอกพวกไอ้มุกก่อน กลับปรากฏว่า ไอ้มุกหายไป เหลือพี่สิงห์กับไอ้นายดวลยิงปืนกันอยู่สองคน...ไอ้นายบอกว่า ไอ้มุกกลับบ้านไปก่อนแล้ว เพราะเจอน้องมินต์มาเที่ยวงานด้วย มันต้องการไปเป็นกันชนน้องสาวมัน เพราะมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มันไม่ชอบหน้า มาจีบน้องมินต์ ทั้งๆที่น้องมินต์เองก็มากับญาติผู้ใหญ่ทั้งนั้น...ท่าทางมันคงหวงน้องสาวมันน่าดู
พี่ภูมิเอาเงินให้ไอ้นายจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการยิงปืน แล้วผมกับพี่ภูมิก็พากันเดินลัดเลาะ ผ่านผู้คน ผ่านชิงช้าฯ ผ่านการละเล่น ผ่านความอึกทึก ผ่านต้นโพธิ์ใหญ่ ผ่านโบสถ์...ออกมาที่ประตูหลังวัดจนได้
ทางเดินข้างหลังวัดออกจะมืดๆ มีไฟส่องถนนที่ทำให้เห็นทางเดินบ้าง แต่ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ก็บดบัง จนถนนบางช่วงถึงกับมืดสนิททีเดียว (ถ้าจำกันได้ ข้างหลังวัดนี้จะมีลำห้วย และมีสะพานทอดลงไป อีกทั้งมีต้นยางใหญ่ ที่เคยบรรยายไว้แล้วน่ะครับ)
พี่ภูมิเดินเงียบกริบไม่พูดไม่จา เดินไปอีกไม่กี่หลังก็จะถึงบ้านที่แกพักแล้ว ซึ่งมองเห็นว่าไฟหน้าบ้านยังเปิดอยู่... แต่ทันใดนั้นพี่ภูมิก็ฉุดมือผมหลบเข้าไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง พร้อมกับกอดผมแน่นทันที
อะไรครับ พี่ภูมิ ผมตกใจเล็กน้อย เพราะกลัวคนเห็น ถึงจะอยู่ใต้ต้นไม้ แต่ถ้าใครสังเกตจริงๆก็น่าจะมองเห็นได้
แกะ อย่าทิ้งพี่ไปน่ะครับ อย่าทิ้งพี่ไป พี่ภูมิละล่ำละลัก กอดผมแน่นเข้า ผมเลยจำใจต้องกอดแกตอบ
พี่ภูมิ เมารึเปล่าครับ ถ้าเมาก็รีบกลับไปนอนดีมั๊ยครับ ผมเอามือลูบหลังแกไปมา
แกะ พี่รักแกะครับ พี่รักแกะ พี่ภูมิพล่ามต่อ แถมดึงหน้าผมเข้าไปประกบจูบเอาดื้อๆ
กลิ่นเบียร์หอมกรุ่น พร้อมกับรสชิวหาของพี่ภูมิ เกือบทำเอาผมเคลิบเคลิ้มไปได้เหมือนกัน...ชะอุ๋ย เพลินครับเพลิน อิอิ
ดะ เดี๋ยวครับ พี่ภูมิ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า ผมผลักพี่ภูมิออกไป จ้องหน้าในความมืด มองไม่ค่อยเห็นหรอกครับ แต่รู้ว่าสายตาของพี่ภูมิที่มองลงมาที่ผมมีประกายตาของคนผิดหวัง เจือปนอยู่บ้าง
แกะ...แกะ บอกพี่มาสิครับ สองคนนั่น เขาตกลงเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ว่าแล้วเชียว ถึงยังไงพี่ภูมิก็ยังมีใจให้พี่กวางอยู่
พะ พี่ภูมิครับ คะ คือว่่า เ่อ่อ... โธ่พี่ภูมิ ผมเองก็ไม่ต่างอะไรกับพี่ภูมิหรอกน่ะครับ ...แต่ผมว่า ผมน่าจะเป็นฝ่ายเจ็บ...มากกว่าพี่ภูมิน่ะครับ ฮือ ฮือ....เศร้า
แล้วแกะล่ะครับ แกะตกลงกับแฟนสาวของแกะรึยัง พี่ภูมิถามผมด้วยเสียงร้อนรน เหมือนคนที่รอความหวัง....ยังไงกันเนี่ยะพี่ภูมิ...แบบนี้เขาเรียกว่า ไม่ได้พี่สาวก็จะเอาน้องชายสะงั้น....อ้าว มันยังไงหว่า พี่น้อง เอิ๊ก เอิ๊ก
ไงครับ แกะ ตอบพี่มาสิครับ ตอนนี้พี่เหลือแกะคนเดียวแล้วน่ะครับ พี่ภูมิดึงร่างผมเข้าไปกอดอีกครั้ง พร้อมกับบรรจงจูบผมที่หน้าผาก ตามด้วยศีรษะ แกพรมจูบที่เส้นผมเบาๆ จากนั้นก็ดึงใบหน้าของผมเข้าไปแนบอก...ผมได้ยินเสียงหัวใจของพี่ภูมิเต้นแรง บ่งบอกถึงความต้องการใครสักคน เข้ามายึดเหนี่ยวสิ่งที่สูญเสียไป
แกะครับ แกะถามใจตัวเองรึยังครับ ว่าแกะจะชอบพี่แบบคนรักได้รึเปล่า พี่ไม่อยากรออีกต่อไปแล้วครับ
พี่ภูมิครับ คือว่า ผะ ผม ผมกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกเห็นใจพี่ภูมิขึ้นมาเต็มอก...ก็พี่ภูมิดีกับผมเสมอต้นเสมอปลายนี่นา แถมผมยังมีอะไรกันกับแกตั้งสองครั้ง และทั้งสองครั้งนั้น ถือได้ว่าแกยอมเสียเชิงชายให้ผมเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าแกอยากจะได้ตัวผมใจจะขาด แต่ในเมื่อผมไม่ยอม แกก็ไม่หักหาญน้ำใจ....คนอะไรทั้งหล่อทั้งตามใจสารพัด
เอาเข้าไปกู ตอนนี้มันสับสนยังไงไม่รู้ (หลายใจจังเลยเนาะ...แฟนคลับอย่าเพิ่งด่าไอ้แกะน่ะคร๊าบ อิอิอิ)
ถ้าจะถามถึงกรกนกแฟนสาว จนป่านนี้เธอยังไ่ม่ตอบจดหมายมาเลย รึว่าเธอตั้งใจจะทำตามคำสั่งของพี่สาวเธอ...นั่นก็หมายถึงความสัมพันธ์เริ่มห่างเหินไป....แล้วตัวพี่ดำล่ะ...นั่นล่ะคือสิ่งที่มึงผลักแกไปให้พี่กวางเองไม่ใช่เหรอไอ้แกะ แล้วตอนนี้พี่ดำก็ดูเหมือนกับว่า รักพี่กวางมากทีเดียว ตัดพี่ดำออกไปจากหัวสมองแกสะไอ้แกะเอ๊ย!...แล้วพี่หมวดล่ะ ยอมรับว่ารักพี่หมวดมากเหมือนกัน แต่จะสมหวังหรือ ในเมื่อพี่หมวดไม่ยอมเปิดใจสะที....เฮ้อ
หรือว่าผมจะตัดสินใจสะที แฟนคลับที่รัก ผมจะตัดสินใจเลือกพี่ภูมิสะเลยจะดีมั๊ย ก็น่าจะเหมาะสมดีน่ะ พี่กวางสมหวังกับพี่ดำ ผมสมหวังกับพี่ภูมิ เหตุการณ์มันน่าจะลงเอยด้วยดี....
แล้วเรื่องนี้ก็จะได้จบเสียที....
(โป๊ก! โอ๊ย! มีคนเขกหัวแกะดำอีกแหละ แฟนคลับช่วยที โฮะ โฮะ...โธ่ ล้อเล่นคร๊าบ ล้อเล่น เรื่องนี้ขอบอกได้เลย...หนทางยังอีกยาวไกลครับพี่น้อง)
แกะ แกะรักพี่บ้างมั๊ยครับ ฮึ พี่ภูมิดึงตัวผมออกจากอก แล้วจ้องหน้าฝ่าความมืดสลัวๆของร่มเงาต้นไม้....สายตานั่นคงรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ....ผมไม่รู้ว่า มีอะไรมาดลใจให้ตอบไปว่า
ระ รักครับ เพียงแค่นั้น ใบหน้าของพี่ภูมิก็โฉบลงมาทันที ริมฝีปากหนาๆ หล่อๆประกบปากของผม พร้อมกับปลายลิ้นอันหอมกรุ่นด้วยกลิ่นเบียร์ ชำแรกผ่านเข้ามาควานคว้าตวัดปลายลิ้นของผมเข้าให้...
ลีลารักเพลงชิวหา ทำเอาผมเตลิดเปิดเปิง... พี่ภูมิจูบเก่งเหลือเกิน... แกรู้จังหวะจะโคน ทั้งดูดทั้งเลีย ทั้งลากปลายลิ้นที่ริมฝีปากไปมา ปล่อยให้ผมอ้าปากเผยอ เมื่อไหร่แกจะลุกล้ำเข้ามาอีก ....พอได้จังหวะแกก็จู่โจมลงมาชุดใหญ่ ทำเอาผมเองก็ต้องแลกจูบปากแกเป็นพัลวัน
มาถึงตอนนี้เหมือนเพลงรักเริ่มติดปีก พี่ภูมิทั้งไซ้ทั้งดูดทั้งเลีย ตามซอกคอ ซอกหู แล้วกลับมาประกบจูบกันอีกครั้ง เหมือนยังติดใจรสสวาทไม่รู้ลืม....เจ้าแกะน้อยดีดดิ้นอยู่ภายใต้กางเกงยีนส์ พร้อมหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมา รับรู้ได้ถึงความเฉอะแฉะ ฉ่ำเยิ้ม ตอนนี้มันกำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง อยากจะออกมา ...ดวลดาบ... กับพี่ภูมิ ใจแทบขาด
พี่ภูมิเองก็ไม่น้อยหน้าแกบดเบียดท่อนลำเข้ามา ท่อนเนื้ออันร้อนเร่าสองท่อนกำลังต่อสู้กันอยู่ ภายใต้กางเกงยีนส์ของแต่ละฝ่าย
แว๊บ!
ทันใดนั้นผมมีความรู้สึกว่า มีเงาของใครบางคนกำลังทาบทับมาที่ร่างของเรา....
พะ พี่ภูมิ แป๊บหนึ่งครับ ผมผลักพี่ภูมิออก อย่างตกใจ พร้อมกับเพ่งมองไปที่ถนน
-------------------- ว่างเปล่า ไม่มีใครเลยสักคน ได้ยินเพียงแค่มหรสพที่อยู่ในวัดเท่านั้นที่ดังแว่วๆเข้ามา
มีอะไรครับแกะ เห็นอะไรหรือครับ พี่ภูมิถามผมด้วยความสงสัย แกพยายามดึงผมเข้าไปกอดอีกครั้ง
แค่นี้ก่อนเถอะครับ พี่ภูมิ ดึกแล้วเดี๋ยวเพื่อนคอยครับ ผมรู้สึกไม่ค่อยดียังไงก็ไม่รู้ มันมีลางสังหรณ์แปลกๆ ที่ไม่ใช่เรื่องดี....จะมีใครมาเห็นเราจูบกันกับพี่ภูมิรึเปล่าน่ะ มันไม่ใช่จูบแบบธรรมดาสะด้วยสิ แต่มันเป็นการจูบที่เร่าร้อน ดูดดื่มด้วยแรงตัณหาราคะ ...เอ๊ะรึว่าเราคิดไปเองหว่า....หรือไม่ก็อาจจะเป็นเจ้าที่เจ้าทาง....บรื๋อ.....น่ากลัวอ่ะ
งั้นก็แล้วแต่แกะครับ แต่แน่ใจหรือว่า แกะไม่อยากต่อน่ะครับ อะ เอ้าพี่ภูมิ เมื่อกี้ยังอยู่ในโหมดเศร้าอยู่เลยน่ะเนี่ยะ อิอิอิ
พี่ภูมิ กลับเถอะครับ ดึกแล้ว ผมตัดสินใจเดินออกมาจากมุมมืด ตั้งใจเดินต่อไปทางบ้านพักพี่ภูมิที่อยู่ไม่ไกล...พี่ภูมิเดินตามออกมาพร้อมกับพูดว่า
ให้พี่ไปส่งแกะที่ประตูวัดเถอะครับ พี่เป็นห่วง อ้าว ส่งกันไปส่งกันมา ไม่ได้หลับนอนกันพอดี 555555+
ในที่สุดพี่ภูมิเดินกลับมาส่งผมที่ประตูข้างหลังวัด ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไป แกดึงผมหลบเข้ามุมมืด (อีกแล้ว)
แกะ พี่ขอบคุณมากน่ะครับ แกสวมกอดผมทันที
อ้าว ดีขึ้นแล้วหรือครับ ผมกอดแกบ้างแบบหลวมๆ...กลัวคนเห็นน่ะ
เออ ครับ อุ๊บ!พี่ภูมิประกบจูบผมอีกครั้ง แหย่ลิ้นเข้ามาทันที ไม่ให้ผมตั้งตัวเลย
ผมปล่อยให้แกจูบอยู่พักหนึ่ง ตาก็คอยสอดส่องมองดูว่าจะมีใครเห็นรึเป่า
พะ พอเถอะครับ ผมค่อยๆผลักใบหน้าแกออก แต่ลิ้นแกสิยังโลมเลียไม่หยุด ขนาดผลักแกออกไปลิ้นแกยังไม่วายลากปลายจมูก ผมเข้าให้จนเปียกเยิ้มไปหมด
อือ อืม.... พี่ภูมิคงรู้สึกเสียดายเป็นแน่แท้ ดูสายตาแกสิ หยาดเยิ้มออกอย่างนั้น
ไปก่อนน่ะครับ ฝันดีครับ ผมตัดสินใจเดินหนีมาที่ประตูวัด พี่ภูมิจำใจมาส่งผมและยืนมองอยู่
แต่พอผมโบกมือให้ พี่ภูมิจึงเดินกลับไป...ผมหันหลังเดินเข้าประตูวัด....เดินมาได้ไม่กี่ก้าว ก็ต้องตกใจเมื่อเจอคนรู้จักเข้าอย่างจัง
พี่เข้ม! ดาบเข้มนี่นาแล้วแกมาในงานนี้ด้วยหรือเนี่ยะ ไหนบอกว่าติดงานราชการพร้อมพี่หมวด เรื่องที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยงานสารวัตรเชษฐ์... คงมาเที่ยวมั๊งเพราะไม่ใส่ชุดตำรวจเลยนี่
อ้าวแกะ มาจากหลังวัด ไม่เจอหมวดยุทธเหรอครับ
หลังวัด! พะ พี่หมวด” ไม่น่ะ... พี่หมวดคงไม่ไปเห็นเราจูบกับพี่ภูมิหรอก... ชักใจคอไม่ค่อยจะดีแล้วสิ
ครับ หมวดยุทธ เพิ่งไปสำรวจหลังวัดเมื่อครู่นี่เองน่ะ
อะไรน่ะครับ!” ผมอุทานออกมาด้วยความตกใจ



Tuesday, June 21, 2011

บทที่ 162 " พี่ภูมิ...ผู้น่าสงสาร "


บทที่ 162 พี่ภูมิ...ผู้น่าสงสาร
ผมมองไปที่หนังกลางแปลง ขณะที่ชิงช้าเลื่อนขึ้นเกือบจะสูงสุด เพื่อตั้งสติ ...เพียงแค่อึดใจ ชิงช้าก็กำลังเลื่อนลงเสียแล้ว...ผมจ้องหน้าพี่ภูมิที่กำลังบูดบึ้ง ด้วยอาการขำๆ กึ่งทะเล้น ก่อนที่จะยิ้มกว้าง จนพี่ภูมิมองกลับด้วยสายตาขุ่นๆ
พี่ภูมิครับ ถ้าพี่เข้าใจพี่สิงห์ว่าเป็น...อะ เ่อ่อ ผมกลืนน้ำลายลงคอ...ก่อนที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ภูมิฟัง
ในจังหวะนี้ชิงช้าเลื่อนลงต่ำ พี่สิงห์ยังโบกมือให้ผมพร้อมกับโปรยยิ้มให้อีกต่างหาก ส่วนพี่ภูมิได้แต่มองๆด้วยใบหน้าเรียบเฉย
อะไรน่ะ ไหนขอพี่ดูตาหน่อยสิ ...ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ พี่ภูมิเปลี่ยนจากอาการงอน...เอื้อมมือเข้ามาลูบๆคลำๆที่ตาข้างซ้ายของผม ด้วยความเป็นห่วง
มันหายแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วถ้าสังเกตดีๆจะเห็นรอยจางๆอยู่...ผมรีบจับมือพี่ภูมิมากุมไว้ข้างๆแก้ม พร้อมกับยิ้มยียวน
มะเหงก ! พี่ภูมิดึงมือกลับ ทำท่าจะเขกหัวผม ก่อนจะบ่นไปตามเรื่อง
รู้ว่า ต่อยสู้เขาไม่ได้ ทำไมดันทุรังสู้ต่อ ฮึ พี่ภูมิอาการดีขึ้นมาก ตอนนี้แววตาของแกกลับฉายแววแห่งความรักใคร่... ห่วงใย ... เข้ามาแทนที่
อ้าว ยอมแพ้ก็เสียเชิงไอ้แกะ สิคร๊าบ กึ๋ยๆ ผมยักคิ้วทำหน้าทะเล้นใส่แกอีก
เรานี่นา ทีหลังอย่าทำอีกน่ะครับ พี่เป็นห่วง พี่ภูมิเอื้อมมือมาจับไหล่ผม พร้อมกับก้มหน้าเข้ามาใกล้...นี่ถ้าปลอดคนพี่แกคง จูบ ผมเข้าให้แล้วสิ หุ หุ แต่แกทำอะไรไม่ได้ คงทำได้แต่บีบที่หัวไหล่ผม พร้อมเขย่าไปมาเบาๆ
ว๊ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่ชิงช้าด้านบนถัดไปดังขึ้น... ผมกับพี่ภูมิตกใจ นึกว่าเกิดอะไรขึ้น จนเมื่อชิงช้าข้างบนลอยขึ้นจุดสูงสุด และชิงช้าต้นเหตุ(ที่ถัดจากชิงช้าที่ผู้หญิงร้อง) อยู่ในระดับเดียวกับชิงช้าของผม จึงมองเห็นว่ามีผู้ชายขี้เมาสองคน กำลังแกว่งชิงช้าไปมา...น่าหวาดเสียว
เฮ้ยๆ มึงหยุดเดี๋ยวนี้น่ะ พี่ภูมิลุกขึ้นตะโกนด่าออกไป แต่ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้ยิน...ยังคงแกว่งชิงช้าไปมา...น่ากลัวมันจะหลุดหล่นลงกับพื้นจริงๆ...ผู้หญิงสองคนตกใจถึงกับเอามือปิดหน้า...ตอนนี้คนที่อยู่ข้างล่างก็ชี้ไม้ชี้มือขึ้นมาทำท่าตกใจ
ไอ้เวร ลงจากชิงช้าได้กูจะจัดการสะให้เข็ด พี่ภูมิบ่นหัวเสีย...
ชิงช้าหยุดที่ผู้ชายสองคนนั้น เจ้าหน้าที่ขอร้องให้ลง แต่สองคนนั้นเริ่มมีปัญหา จนพี่ภูมิตะโกนลงไปด่า สองคนนั้นถึงยอมลง อย่างสงบ...ผู้หญิงสองคนนั้นพอลงจากชิงช้าได้ ก็รีบเดินหนีหายไป คงตกใจกลัวเอามากๆ
ผมกับพี่ภูมิก็ลงเหมือนกัน เห็นพี่ภูมิรีบเดินจ้ำอ้าวไปที่ผู้ชายสองคนนั้น ซึ่งพวกมันกำลังรวมกลุ่มกับเพื่อนๆมันอยู่...ผมเป็นห่วงพี่ภูมิมากจึงวิ่งตามไป เพราะกลัวว่าแกจะมีอันตรายจากพวกนักเลง...ตอนนี้พี่สิงห์ ไอ้มุก และไอ้นาย ก็เดินมาสมทบด้วย
กูบอกพวกมึงแล้วใช่มั๊ย เมาแล้ว อย่าก่อเรื่อง ไป๊ พวกมึงพากันกลับได้แล้ว แท้ที่จริงก็คือลูกน้องพี่ภูมินั่นเอง แกจึงสั่งได้ อย่างมีอำนาจ...มารู้ทีหลังว่าสองตัวนี้ก่อเรื่องที่เวทีรำวงมาก่อน จนพี่ภูมิต้องลากตัวออกมา แล้วพวกมันก็หนีมาขึ้นชิงช้าโดยบังเอิญ งานนี้ไอ้มุกกับไอ้นาย ก็เลยถือโอกาสออกมาตามหาผม จนเจอผมกับพี่สิงห์นั่งชิงช้าอยู่นั่นเอง
พวกลูกน้องพี่ภูมิพากันหิ้วปีกไอ้สองตัวนั้นออกไป แต่พี่ภูมิบอกว่ายังมีอีกหลายคน ที่เที่ยวกระจัดกระจายกันไป แกจึงบอกลูกน้องคนหนึ่งให้ไปตามเพื่อนๆกลับ
แย่จริง ไอ้พวกนี้ เมาแล้วควบคุมยาก พี่ภูมิบ่นให้ผมฟัง พร้อมกับเดินกระวนกระวาย เหมือนอยากจะไปตามลูกน้องกลับด้วยตัวเอง
เออ แล้วพี่ภูมิจะกลับเลยหรือครับ ผมยกนาฬืกาขึ้นมาดู ตอนนี้มันห้าทุ่มครึ่งแล้วล่ะ
แล้วแกะ ล่ะครับ จะเที่ยวกันอีกนานมั๊ย เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนก่อนก็ได้ พี่พักอยู่ใกล้ๆวัดนี่เอง พี่ภูมิมาพักกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เวลามีงานรื่นเริง แกชอบพาลูกน้องมาค้างที่บ้านนั้น
เฮ้ยแกะ กลับเลยก็ได้มั๊ง พรุ่งนี้ต้องช่วยงานแต่เช้าน่ะ ไอ้มุกออกความเห็น
เดี๋ยวดิ๊ กูยังเที่ยวไม่หมด เลยไอ้ห่า ไอ้นายบ่นอุบ จากนั้นมันก็ชักชวนให้ไปดวลยิงปืนแข่งกัน...งานนี้กะจะให้พี่ภูมิออกเงินละสิ ไอ้เวร
ขณะที่พวกเรากำลังพากันเดินไปที่ซุ้มยิงปืนนั้น พอดีหนังจบเรื่อง ผู้คนกำลังลุกขึ้นขวักไขว่ ส่วนมากคงเตรียมตัวกลับบ้านกัน และผมก็เจอพี่โจมจนได้ แกมีสาวๆขนาบข้างมาด้วย ฮ่ะ ฮ่ะ มิน่าถึงไม่เห็นแกเลย คงพาสาวๆดูหนังจนเพลิน...พี่โจมทักผมแบบเป็นพิธี เพราะคนเยอะเลยทักกันไม่ได้นาน อีกอย่างแกเป็นโชว์เฟอร์ ต้องรีบไปเอารถมารับบรรดาชาวบ้านที่มาเที่ยวงานด้วย
และในกลุ่มพี่โจมนั้นก็มีพวกวาด ไอ้ก้อย ไอ้โชค น้องแจน (น้องสาวไอ้จุ๊) รวมอยู่ด้วย พวกวาดเข้ามาหวัดดีพี่่ภูมิ และคุยกันอยู่ เพื่อรอไอ้พวกแก๊งค์ตัวแสบ โดยจะกลับบ้านพร้อมกัน...เห็นไอ้มุกบอกว่าพวกมันแยกตัวไปจีบสาวชาวบ้านที่ไหนไม่รู้ ตั้งแต่จากกันที่เวทีรำวง
พวกเรารีๆรอๆอยู่แป๊บหนึ่ง ทันใดนั้น มีวััยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังเดินสวนทางออกมา พร้อมกับเสียงแหลมปรี๊ดของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
หนังสนุกมากเลยน่ะ เนี่ยะดำ เธอต้องทำตัวให้เป็นแบบพระเอกในเรื่องน่ะ ยัยกวางจะได้หลงเธอไงล่ะ ฮิ ฮิ ผมกับพี่ภูมิหันขวับไป ก็เจอชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินกระหนุงกระหนิงขนาบข้างกันอยู่ พร้อมกับมีเพื่อนๆรายล้อม...กำลังแซว... และหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน
บ้า พวกเธอนี่จะบ้ากันใหญ่แล้ว พี่กวางไล่ทุบเพื่อนด้วยความเขิน
อะ อ้าวนี่พวกเธอ...อ้าวหวัดดีค่ะพี่ภูมิ พี่กวางตกใจที่เห็นพวกผม และแปลกใจยิ่งขึ้นที่เห็นพี่ภูมิยืนอยู่ด้วย
หวัดดีครับ พี่ดำยกมือไหว้พี่ภูมิ และคุยกันต่อ ตอนนี้ผมถูกวาด ดึงตัวออกมา พร้อมกระซิบข้างหู
นี่นายแกะ เธอบอกพี่ภูมิยัง เรื่องพี่กวางกับพี่ดำเป็นแฟนกัน น้ำเสียงร้อนรนทีเดียว ตอนนี้ผมเองก็หูอื้อ ตกใจทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
ยัง...ยังเลยอ่ะ วาด ผมตอบเสียงอ่อยๆ
ตายแล้ว เธอต้องพูดกับพี่ภูมิให้เข้าใจน่ะ โอ๊ย ฉันล่ะสงสารพี่ภูมิจังเลยอ่ะ
จริงๆก็น่าเห็นใจพี่ภูมิ เพราะใครๆเขาเข้าใจมาก่อนแล้วว่า พี่ภูมิหมายปองพี่กวางอยู่...ถึงแม้พี่ภูมิจะบอกผมไปแล้ว ว่าไม่ได้คิดอะไรจริงๆจังๆกับพี่กวางมากนัก แต่ก็นั่นแหละ เมื่อมีใครสักคนมาแย่งผู้หญิงที่ตัวเองเคยหมายปองมาก่อน...คนเรามันก็ต้องรู้สึก...บ้างเป็นธรรมดา แล้วตัวมึงล่ะ ไอ้แกะ แน่ใจแล้วหรือว่า ตัดใจจากพี่ดำ ได้แล้วจริงๆ
ผมนิ่งอึ้ง ทำอะไรไม่ถูก...ได้แต่รำพึงในใจว่า
วาดเพื่อนรักเอ๋ย เธอไม่ต้องสงสารพี่ภูมิคนเดียวหรอก เพื่อนเธอไอ้แกะ ผู้่น่าสงสารคนนี้ ก็กำลังยืนหูหนวกตาบอด อยู่ข้างๆเธอนี่ไง