Tuesday, August 24, 2010

บทที่ 145 " อยากรู้...แต่ไม่อยากถาม "


บทที่ 145 “ อยากรู้...แต่ไม่อยากถาม ”
ซวยล่ะสิกู ไอ้แกะ แล้วจะแก้ตัวกับพี่หมวดยังไงดีเนี่ยะ ...คิดสิวะ.. มึงเอาตัวรอดเก่งไม่ใช่เรอะ
“อ๋อ ฮ่ะ ฮ่ะ พี่หมวดคร๊าบ พี่โก้เขาฝากไปให้ “นา” น่ะครับ ” ผมอ้างชื่อเพื่อน นักเีรียนหญิงคนหนึ่ง (นา จัดว่าเป็นผู้หญิงที่ดูน่ารักคนหนึ่ง ผิวขาว อวบๆ เรียนหนังสือเก่งใช้ได้ โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษเธอจะท๊อปตลอด ถ้าจะไปบ้านของไอ้เมฆ จะต้องผ่านบ้านของนาก่อน เพราะอยู่ถนนเส้นเดียวกัน)
“แน่ใจน่ะ” พี่หมวดยังไม่วายจ้องหน้าผมอยู่อีก
“คร๊าบ ฮ่ะ ฮ่ะ ผู้ชายที่ไหน เขาให้ดอกไม้ผู้ชายด้วยกันล่ะคร๊าบ” ผมแกล้งหัวเราะขำๆ แต่ทว่าตอนนี้พี่หมวดหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัด ...เอ๊ะ รึว่า เมื่อคืนนี้พี่หมวดตั้งใจเอาดอกไม้มาให้เรา...พี่หมวดหลบหน้าไปมองที่แจกันดอกกุหลาบ แล้วหันมาสบตาผมโดยอัตโนมัติ...เราสองคนต่างชงักงันไปชั่วครู่
“อ่ะ เ่อ่อ” ผมรู้สึกแปลกๆ ใบหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ พี่หมวดครับ พี่หมวดอยากจะบอกอะไรผมรึเปล่าครับ
“อืม งั้นก็แล้วไป ทำไมเขาไม่เอาไปให้เองล่ะ” พี่หมวดแก้เก้อด้วยการติดการ์ดเข้าที่ และบรรจงวางช่อดอกกุหลาบสีดำอันนั้นวางไว้ตรงหน้า
“อ่ะครับ คือพี่โก้เขาอายน่ะครับ เลยฝากผมเอามาให้ เมื่อกี้ตอนซ้อมมวยน่ะครับ”
“จริงอ่ะ”
“คร๊าบ เดี๋ยวเย็นนี้ผมขอตัวเอาดอกไม้ไปให้นา ตามหน้าที่น่ะครับ” จริงๆแล้วผมมีแผนจะไปกินข้าวกับแจ๊ดต่างหาก อิอิ เดี๋ยวไอ้เมฆคงมารับตามเคย
“อ๋อ โก้คือคนที่ฝึกซ้อมมวยให้แกะใช่มั๊ยครับ” เฮ้อ คราวนี้พี่หมวดอารมณ์ดีขึ้นแล้ว โล่งอกไปที
“ใช่ครับ”
“คราวหน้าพาเขามารู้จักกับพี่หน่อยน่ะครับ” พี่หมวดลุกขึ้นยืนถอดเสื้อยืดออก เผยให้เห็นกล้ามเป็นมัดๆ ตอนนี้แกนุ่งกางเกงบอลสีขาวตัวเดียว (อีกแล้ว อิอิ) หุ่นดีเป็นบ้า....
“ครับ” ผมตอบรับคำ และพี่หมวดเริ่มเดินไปหยิบดัมเบลล์ขึ้นมา ( Dumbbell แบบที่ใช้ยกเพื่อเพิ่มกล้ามแขน คือแบบมีแกนตรงกลาง ส่วนหัวท้ายใส่แผ่นเหล็กตามน้ำหนักที่ต้องการ)
“พี่หมวดจะเริ่มฝึกตอนนี้เลยเหรอครับ”
“อืม ท่าจะหนักเกินไป...” แกบ่นพึมพำไปตามเรื่อง เห็นแกดึงแผ่นเหล็กออกบางส่วน จากนั้นแกก็ให้ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ผมเดินกลับมาด้วยกางเกงขาสั้นสีดำ (ไม่ใช่สีขาวน่ะคร๊าบ 55555) เสื้อไม่ใส่เหมือนกัน อิอิ
“เอาล่ะวันแรกพี่จะสอนท่าเบสิกก่อน แกะจับดัมเบลล์แบบนี้น่ะครับ” พี่หมวดให้ผมหงายข้อมือกำแกนดัมเบลล์ตรงกลางไว้แน่น ปล่อยข้อมือลงสุดแล้วดันขึ้น กล้ามเนื้อช่วงต้นแขนจะถูกบริหารให้เป็นลูกๆต่อไป (อิอิอิ ดูิสิว่าไอ้แกะจะทำได้กี่น้ำ 555555+)
“โห จอกจังครับ มันเบาไปรึเล่าครับเนี่ยะ” ผมยกขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ก็ผมยกไหวนี่นา
“เริ่มต้น 3 กิโลก่อน อย่าหักโหม เดี๋ยวกล้ามเนื้ออักเสบน่ะครับ” พี่หมวดชี้แจง ตกลงพี่หมวดใส่แผ่นเหล็กข้างล่ะ 1.5 กิโลนั่นเอง...พี่หมวดให้ผมลองยกยี่สิบครั้ง แล้วสลับเปลี่ยนข้าง
“เป็นไง สนุกมั๊ยครับ ฮึ ฮึ” คราวนี้พี่หมวดเดินไปหยิบดัมเบลล์อีกอันหนึ่งมาให้ผมถือไว้
“ตอนนี้พี่จะให้แกะลองใช้ทั้งสองแขนยกสลับขึ้นๆลงๆน่ะครับ” มีหลายท่าครับคงไม่ต้องอธิบายมากน่ะคร๊าบผม....พี่หมวดเพิ่มน้ำหนักให้เป็นห้ากิโลเมื่อผมเริ่มชินแล้ว และในแต่ละครั้งที่พี่หมวดสอนท่าทาง เนื้อตัวพี่หมวดจะแนบชิดกับเนื้อตัวของผมอยู่อย่างสม่ำเสมอ....ไม่น่ะไอ้แกะ สงบไว้ อย่าพยายามคิด 55555+
ผมฝึกไปเรื่อยๆจนพี่หมวดเห็นผมเริ่มเบื่อ แกจึงให้ผมเปลี่ยนไปยกบาร์เบลล์...(Barbell แบบแกนยาวน่ะครับคงนึกภาพออก) แกให้ผมนอนราบบนแท่นยกน้ำหนัก แล้วแกก็เริ่มให้ผมยกที่น้ำหนัก 10 กิโล โดยดึงแกนให้มาบรรจบที่หน้าอก แล้วดันขึ้นจนสุด
“พี่จะลองเพิ่มน้ำหนักข้างล่ะ 2.5 กิโลน่ะครับ” พี่หมวดจัดการเพิ่มแผ่นเหล็กหัวท้ายตามต้องการ ตอนนี้ผมต้องแบกน้ำหนัก 15 กิโล
“มันอาจจะหนักหน่อยสำหรับคนเริ่มต้น แกะลองดูน่ะครับ เอ้า อึบ” พี่หมวดปล่อยแกนน้ำหนักให้ผมรับ แต่ทว่าจังหวะที่ผมเหลือบขึ้นไปมองแกซึ่งยืนชิดอยู่ด้านหลัง...สายตาของผมก็เตะเข้ากับเป้าอวบอูมของแก อย่างช่วยไม่ได้ ยิ่งนุ่งกางเกงบอลสีขาวด้วยแล้ว โอ๊ย...ว่าจะไม่คิดแล้วน่ะ อิอิอิ
“ทำไมไม่ยกล่ะครับ” พี่หมวดมองมาที่ตาของผม...แกคงจะเห็นว่าผมแอบมองเป้าแกอยู่ ...ไม่เช่นนั้นเป้าอวบอูมของแกจะเริ่มแสดงอาการตุงๆขึ้นมารึ อิอิ
“อ่ะครับ ยกครับ อึบ หนึ่ง สอง...สี่..ห้า...” ผมยกไปครบสิบ พี่หมวดก็ช่วยจับแกนน้ำหนักวางไว้ในช่องสำหรับเก็บ ซึ่งอยู่เหนือศีรษะผมพอดี
“เอาอีกเซตน่ะครับ เดี๋ยวให้พักแป๊ปหนึ่ง” พี่หมวดยังคงยืนอยู่ที่เดิม และเป้ากางเกงเริ่มตุงขึ้นเรื่อยๆ...โธ่พี่หมวดคร๊าบ อย่ายั่วผมสิครับ อุตส่าห์ตัดใจแล้วนา....
ผมแกล้งหลับตาพักบ้าง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองเป้าของแกสลับไปมา...ผมเริ่มรู้ว่าพี่หมวดเองก็มองที่เป้ากางเกงผมเหมือนกัน และเจ้าแกะน้อยตัวดีก็เริ่มดิ้นทุรนทุรายออกมาบ้างแล้ว...ยุ่งละสิกู หุ หุ
“เอาล่ะ ลอง 20 กิโลเลยน่ะ เก่งแล้วนี่ ฮึ ฮึ” พี่หมวดเพิ่มน้ำหนักให้ผมอีก แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีกะจิตกะใจจะยกแล้วอ่ะ
“อึบ หนึ่ง สอง...โห หนักจัง” แขนผมเริ่มล้าแล้วสิครับตอนนี้ เฮ้อ
“อดทนหน่อยน่ะครับ แปด...เก้า สิบ โอเค” พี่หมวดเก็บแกนยกน้ำหนักเข้าที่ แต่ผมสิเริ่มปวดเมื่อยกล้ามแขนแล้วสิครับ
“ต่อไปพี่จะให้บริหารน่องน่ะครับ” พี่หมวดจับผมนอนคว่ำ แกะน้อยตัวดีเลยไปเบียดกับเบาะแน่นๆสะฉิบ อิอิ
“เอาล่ะลองดันน่องขึ้นน่ะครับ” พี่หมวดใส่แผ่นเหล็กที่แกนอยู่ตรงด้านท้ายๆ และจะมีแกนสำหรับใช้ข้อเท้าดันอีกแกนหนึ่ง พอจะนึกออกน่ะครับ คือผมจะต้องนอนราบกับเบาะ แล้วใช้ข้อเท้าทั้งสองข้างดันแกนเหล็กนั่นขึ้น (อธิบายยากนิดหนึ่ง)
ผมฝึกไปอีกสักพัก ร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้วเพลียมาก พี่หมวดเลยให้หยุดพัก จับผมนอนหงายขึ้น
“เหนื่อยมั๊ยครับ ฮือ” พี่หมวดจ้องที่แกะน้อย ซึ่งตอนนี้มันกำลังแข็งตัวเต็มที่ 55555+
“อ่ะ เ่อ่อ ปวดเมื่อยทั้งตัวเลยครับ” ผมไม่กล้าสู้หน้าแก แอบหันหน้าไปทางอื่น อายชิบหาย....
“ใหม่ๆก็งี้แหละ อีกหน่อยก็ชินเองน่ะครับ” พี่หมวดพูดไปแต่มือแกนี่สิ เริ่มนวดที่ปลีน่องของผม...ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ
“ตอนนี้แกะพอที่จะรู้วิธีฝึกซ้อมแล้วน่ะครับ พี่จะจดเอาไว้ให้ เวลาพี่ไม่อยู่แกะก็ฝึกเองได้น่ะครับ” อ้าว นึกว่าพี่หมวดจะนวดมาที่เจ้าแกะน้อย อิอิ ตอนนี้แกกำลังนวดที่ไหล่และต้นแขนทั้งสองข้างของผมแทน
“ครับ พี่หมวด แล้วผมจะกล้ามโตแบบพี่หมวดเมื่อไหร่ครับ” ผมลุกขึ้นนั่งพร้อมจับหมับเข้าที่กล้ามแขนพี่หมวดทันที
“ฮ่ะ ฮ่ะ คงฝึกอีกหลายปีครับ แต่พี่ว่าแกะเล่นเวทเพื่อความแข็งแรงไปก่อนดีมั๊ยครับ” พี่หมวดดันผมลุกขึ้น
“ปวดตรงไหนอีกบ้างครับ ไปที่โซฟาดีกว่า พี่จะนวดให้น่ะครับ” พี่หมวดดันผมมานอนที่โซฟาจนได้...จากนั้นแกก็เริ่มต้นนวดให้ผมใหม่ พี่หมวดนวดให้ผมด้วยความตั้งใจทีเดียว...ทำไมล่ะครับพี่หมวด ทำไมพี่หมวดถึงทำดีกับผม...ถึงเพียงนี้ครับ
ความรู้สึกตอนนี้ผมอยากดึงร่างของพี่หมวดเข้ามากอดแนบแน่น ให้ชื่นใจเหลือเกิน
“พี่หมวดครับ!” ผมจ้องหน้าพี่หมวดไม่กะพริบ
“ครับ” พี่หมวดก็จ้องมาที่สายตาของผมเหมือนกัน
“ผมขอหนุนตักพี่หมวดได้มั๊ยครับ” ว่าแล้วผมก็ไม่รอคำตอบ รีบพลิกตัวหันหัวมานอนหน้าตักพี่หมวดเฉยเลย หน้าด้านว่ะกู อิอิ เปล๊าร๊อก คนกำลังซึ้งน่ะ มีพี่ชายดีๆแบบนี้หายากน่ะโว๊ย 55555+
“เฮ้ยๆ จะมาอ้อนอะไรพี่ล่ะ ฮึ ฮ่ะ ฮ่ะ” พี่หมวดเอามือขึ้นมาลูบที่หัวผมเบาๆ โอย อบอุ่นจัง ผมอยากนอนหนุนตักพี่หมวดแบบนี้นานๆจัง และโดยบังเอิญที่สายตาของผมไปชนกับแจกันดอกไม้เข้า
มีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ผมเข้าใจว่า เมื่อคืนนี้พี่หมวดน่าจะเอาดอกกุหลาบดอกนี้มาให้ผม...ใช่รึเปล่าน่ะ อยากรู้จัง แต่ไม่กล้าถามอ่ะ
“พี่หมวดครับ ใครกันน่ะที่ไม่อยากได้ดอกกุหลาบของพี่หมวด ใจร้ายจัง” ผมเอื้อมมือไปหยิบช่อดอกกุหลาบจากแจกันมาถือไว้ พร้อมมองมันด้วยความชื่นชม ในตอนนี้มีความรู้สึกเหมือนกับว่า ดอกไม้ดอกนี้มันควรจะเป็นของผม...ถ้าหากว่าพี่หมวดตั้งใจเอามาให้ผมจริง นั่นแสดงว่าพี่หมวดกำลังคิดอะไรกับผมแบบ....
“แกะชอบหรือครับ” พี่หมวดจ้องหน้าผมด้วยสายตาประหลาด
“ชอบครับ” ผมไม่ทราบว่าตอบแบบนั้นไปได้ยังไง
“เก็บไว้ให้ดีน่ะครับ” พี่หมวดยิ้มกว้าง ใบหน้าของแกเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ แกหลบหน้าไปทางอื่น จากนั้นก็ก้มหน้าลงมามองผม และเราสองคนจ้องตากันและกันเป็นเวลาเนิ่นนาน
“แบบนี้ผมคงรู้คำตอบแล้วใช่มั๊ยครับ ว่าพี่หมวดคิดยังไงกับผม”

***********************************************
ได้ชิดเพียงลมหายใจ
แค่ได้ใช้เวลาร่วมกัน
แค่เพื่อนเท่านั้น แต่มันเกินห้ามใจ
ที่ค้างในความรู้สึก ว่าลึกๆเธอคิดยังไง
รักเธอเท่าไร แต่ไม่เคยพูดกัน

อะไรที่อยู่ในใจก็เก็บเอาไว้
มันมีความสุขแค่นี้ก็ดีมากมาย

เธอจะมีใจหรือเปล่า
เธอเคยมองมาที่ฉันหรือเปล่า
ที่เราเป็นอยู่นั้นคืออะไร
เธอจะมีใจหรือเปล่า
มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจ
แต่ไม่อยากถาม
(กลัวว่าเธอเปลี่ยนไป/กลัวรับมันไม่ไหว)

ไม่ถามยังดีซะกว่า
เพราะฉันรู้ถ้าเราถามกัน
กลัวคำๆนั้น อาจทำร้ายหัวใจ

อะไรที่อยู่ในใจก็เก็บเอาไว้
มันมีความสุขแค่นี้ก็ดีมากมาย

เธอจะมีใจหรือเปล่า
เธอเคยมองมาที่ฉันหรือเปล่า
ที่เราเป็นอยู่นั้นคืออะไร
เธอจะมีใจหรือเปล่า
มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจ
แต่ไม่อยากถาม
(กลัวว่าเธอเปลี่ยนไป/กลัวรับมันไม่ไหว)

เธอจะมีใจหรือเปล่า
มันคือความจริงที่ฉันอยากรู้ติดอยู่ในใจ
แต่ไม่อยากถาม กลัวรับมันไม่ไหว
***********************************************

Thursday, August 19, 2010

บทที่ 144 " กุหลาบดำ...เป็นเหตุ "


บทที่ 144 “ กุหลาบดำ...เป็นเหตุ ”

ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นตีห้าครึ่งตามปรกติ ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองนอนไม่ค่อยหลับเท่าไหร่นัก รู้สึกเพลียๆด้วยซ้ำ...ใช่สิเมื่อคืนมีเรื่่องให้ครุ่นคิดตั้งหลายเรื่อง วกไปวนมาจับต้นชนปลายไม่ถูก กว่าจะทำใจเรื่องพี่หมวดไ้ด้ก็ปาเข้าไปดึกดื่นค่อนคืน
ผมลุกขึ้นเปิดไฟกลางห้องแล้วเตรียมตัวเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้น ก็เตรียมจะไปออกกำลังกายและวิ่งรอบอ่างเก็บน้ำตามเคย...พอดีเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ข้างฝา...ใช่ครับมันเป็นตารางออกกำลังกายที่พี่หมวดเตรียมไว้ให้ ผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆ อ้าว วันนี้วันอังคารตอนเช้า งดนี่นา แต่ตอนเย็นมีเล่นเวทแทน อืมพี่หมวดคงต้องการให้เริ่มต้นฝึกผมจริงๆจังๆสัปดาห์นี้นั่นเอง สรุปเช้านี้งดวิ่ง
ผมเดินออกไปข้างนอกห้องรับแขก และนั่นช่อดอกกุหลาบเมื่อคืนนี้ ยังวางอยู่ที่โต๊ะกลางโซฟา มันวางทิ้งอย่างไร้ค่ายังไงก็ไม่รู้ พี่หมวดน่ะพี่หมวดจะเอาไปให้สาวคนไหนก็น่าจะเก็บให้เป็นที่เป็นทางหน่อย ...ตอนนี้ห้องพี่หมวดปิดสนิทสงสัยจะเลิกเวรมาแล้ว และคงกำลังหลับอยู่ ...แปลกจริงทำไมพี่หมวดถึงทิ้งขว้างช่อดอกกุหลาบดอกนี้ได้น่ะ...ด้วยความหวังดีผมจึงเดินค้นหาแจกันสวยๆได้ใบหนึ่ง ใส่น้ำพอเหมาะแล้วจับช่อดอกกุหลาบเสียบลงไป จากนั้นบรรจงวางลงไปบนโต๊ะกลางโซฟาเหมือนเดิม ค่อยยังชั่วหน่อยอย่างน้อยก็ดูเหมือนมีคุณค่าขึ้นมาบ้าง และดอกกุหลาบจะได้ไม่เหี่ยว ถ้าพี่หมวดตื่นขึ้นมาแล้ว ช่อดอกกุหลาบดอกนี้อาจจะไปถึงมือสาวคนรักของพี่หมวดคนใดคนหนึ่งในสภาพที่ดูดี...เอาอีกแล้วความรู้สึกแปล๊บๆมันเข้ามาเล่นงานผมอีกครั้ง ผมเลยเดินกลับเข้าห้องล้มตัวลงนอนเอามือก่ายหน้าผาก และทบทวนถึงเรื่องเมื่อคืนที่ตัวเองได้วิเคราะห์และหาข้อสรุปให้กับตนเอง
ถึงเวลานี้ผมควรจะตัดสินใจอะไรได้บ้างแล้ว จะว่าไปความรู้สึกเจ็บปวดครั้งนี้มันไม่ได้มากมายเท่าครั้งที่รู้ว่าจะสูญเสียพี่ดำไปเลย อาจจะเป็นเพราะว่าความรู้สึกผูกพันธ์ระหว่างผมกับพี่หมวดมันไม่มีโอกาสที่จะเป็นสิ่งอื่นไปได้ นอกจากความเป็นพี่กับน้องเท่านั้น...ร้องไห้มามากแล้ว ตอนนี้ผมควรที่จะเข้มแข็งสะที...เริ่มต้นวันใหม่ที่สดใสดีกว่า ยังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะี่ในวันนี้...ผมเอื้อมมือไปตั้งนาฬิกาปลุกไว้เจ็ดโมงเช้า อืมมีเวลานอนต่อตั้งหนึ่งชั่วโมง ...
ผมเดินไปโรงเรียนพร้อมไอ้โชคและเราทั้งคู่ตั้งใจที่จะไปซื้อดอกกุหลาบภายในโรงเรียน ไอ้โชคมันดูมีความสุขมากในวันนี้ เพราะมันตั้งใจที่จะเอาการ์ดและดอกไม้ให้ไอ้ก้อยนั่นเอง
“พี่แกะ เฮ เฮ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่ะ เฮ เฮ” พอผ่านประตูโรงเรียนเข้าไป กลุ่มนักเรียนหญิงรุ่นน้องมัธยมต้น ก็ดาหน้าเข้ามาให้ดอกไม้มั่ง การ์ดมั่ง รวมทั้งสติกเกอร์รูปหัวใจ ติดตามเสื้อนักเรียนของผมเต็มไปหมด
“ขอบคุณครับ น้องๆ เ่่อ่อ ติดแบบนี้เดี๋ยวอาจารย์ (ฝ่ายปกครอง) ว่าเอาน่ะครับ ” ผมพยายามร้องเตือนน้องๆเหล่านั้น
“โอ๊ย! อิจฉา ทีกูไม่เห็นใครให้ดอกไม้มั่ง ไปดีกว่า ฮ่ะ ฮ่ะ” ไอ้โชคหัวเราะแกมหมั่นไส้และถือโอกาสตอนชุลมุน เดินหนีเอาดื้อๆ
“ว๊ายๆ น้องพระเอกเกาหลี เนื้อหอมจัง ฮิ ฮิ” รุ่นพี่สาวๆก็เข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังบ้าง ผมเลยกลายเป็นไข่อยู่ตรงกลางบรรดานักเรียนหญิงทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องสะงั้น
“ปริ๊ด ปริ๊ด” เสียงอาจารย์ฝ่ายปกครองเป่านกหวีด
“พอแล้วพวกเธอ ทำอะไรอย่าให้มันเกินงาม เรามีหน้าที่เรียนหนังสือน่ะ” อาจารย์วีระเดชเสียงดุเชียว ได้ผลกลุ่มสาวๆต่างแยกย้ายกันไปหมด ผมเลยยืนเป็นไอ้เซ่ออยู่คนเดียว
“ฮ่ะ ฮ่ะ อะไรจะขนาดนั้น นายแกะ เสื้อผ้าเลอะเทอะหมด อ้าวของเขิงหกเรี่ยราด เฮ้อ” อาจารย์วีระเดชบ่นพร้อมกับยิ้มๆ แต่แกก็มีกะใจก้มลงหยิบของที่หล่นตามพื้นให้ผม
“สติกเกอร์พวกนี้เอาไว้ติดหลังเลิกเรียนน่ะ ฮึ ฮึ” อาจารย์วีระเดชช่วยผมแกะสติกเกอร์ออกให้ด้วย
“ขอบคุณครับอาจารย์” ผมพยายามยกมือไหว้ แต่ของเต็มมือจริงๆ อาจารย์เลยช่วยเก็บใส่กระเป๋าเป้นักเรียนให้อีก ใจดีแฮะ อาจารย์ฝ่ายปกครองท่านนี้ อิอิ และดูเหมือนแกจะเอ็นดูผมอยู่ไม่น้อยทีเดียว หลังจากที่ได้คลุกคลีกับผมมาบ้างพอสมควร
“แหมๆ พ่อพระเอก ถ้าเยอะมากก็เอามาเผื่อครูก็ได้น่ะค่ะ” อาจารย์หญิงท่านหนึ่งที่ยืนเป็นเวรตอนเช้าตะโกนแซว ผมได้แต่หัวเราะแก้เก้อ แล้วพยายามเดินเลี่ยงๆหนี เพราะเริ่มมีนักเรียนทะยอยเข้ามาในโรงเรียนมากขึ้น
ผมเก็บของไว้ที่ห้องเรียน แล้วรีบตรงดิ่งไปที่ห้องสหกรณ์โรงเรียน เจอแจ็ดกับแมวกำลังขายน้ำเต้าหู้ แซนวิช ฯลฯ รวมทั้งดอกกุหลาบสดๆสีแดงช่อใหญ่
ผมเลือกดอกที่คิดว่าสวยที่สุดมาดอกหนึ่ง
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับแจ๊ด” ผมยื่นดอกกุหลาบให้เธอ ดูเธอหน้าแดงด้วยความยินดี
“ขอบคุณค่ะ แหมๆ จะให้ทั้งที ก็เอาใกล้ๆเนี่ยะน่ะ ฮิ ฮิ” เธอหัวเราะน้อยๆ
“ใช่ ลงทุนม๊ากๆ ค่ะ คิก คิก” แมวเองก็แซวผมเหมือนกัน ผมได้แต่ยิ้มๆ พอดีไอ้เมฆมันเดินมาข้างหลังผม
“แมว...เอัา เมฆให้” ไอ้เมฆยื่นของสิ่งหนึ่งไปต่อหน้าแฟนสาว
“อุ๊ย สวยจัง แบบนี้แหละเขาถึงว่าลงทุนหน่อย ชิ” อ้าวมีแขวะผมอีกต่างหาก สิ่งที่ไอ้เมฆยื่นให้แมว เป็นลูกแก้วใสๆ ขนาดเท่าลูกเทนนิส แต่ข้างในมีน้ำอยู่ครึ่งหนึ่ง และมีดอกกุหลาบเล็กๆน่ารักๆสี่ห้าดอก ลอยกระเพื่อมไปมา ดูน่ารักทีเดียว
“อ้าว แล้วแกะเอาอะไรให้แจ๊ดล่ะ” ไอ้เมฆหันมาถามผมบ้าง
“โอ๊ย ก็ดอกกุหลาบหนึ่งดอก จากช่อนั้นไง” แมวบุ้ยปากไปที่ช่อดอกกุหลาบที่เตรียมไว้จำหน่าย
“ฮ่ะ ฮ่ะ โรแมนติกดีนี่” ไอ้เมฆหัวเราะยิ้มๆ
“จ้า ลงทุนมาก” แมวยังค่อนขอดไม่เลิก
“แหมๆ พอเถอะจ๊ะแมว แค่นี้แจ๊ดก็ดีใจแล้วล่ะค่ะ และหวังว่าแจ๊ดคงเป็นคนเดียวที่ได้ดอกกุหลาบจากแกะน่ะค่ะ” ชะอุ๋ย แม่แจ๊ดทรงเสน่ห์ดักทางไอ้แกะสะแล้ว แฮะ แฮะ
คุยกันพอหอมปากหอมคอ เพราะสองสาวต้องขายของ และมีนักเรียนทะยอยกันมาซื้อของกันมากขึ้น ผมกับไอ้เมฆจึงถอยออกมา
“แกะ เย็นนี้เราพาสาวๆไปหาอะไรกินกันดีมั๊ย” ไอ้เมฆเสนอความเห็นขณะที่เรากำลังเดินกลับห้องเรียน
“ได้สิ แล้วเย็นนี้ค่อยคุยกัน” ผมรีบกลับเข้าห้อง เพราะจะรีบเอาการ์ดของกรกนกไปฝากให้วาดส่งให้
ตอนเที่ยง แก๊งค์ผมแต่ละคนต่างก็กระจัดกระจายกันไป ฮึ ฮึ จะมีอะไรอีกล่ะครับ ก็ไปหาสาวๆกันน่ะสิ ตอนนี้ผมเลยนั่งทานข้าวกับพี่โก้สองคน
“พี่โก้ ไม่เอาดอกไม้ไปให้สาวๆบ้างหรือครับ ฮ่ะ ฮ่ะ” ผมแซวพี่โก้เล่นๆ ไม่นึกว่าแกจะทำหน้าซีเรียส
“อย่างพี่จะมีสาวที่ไหนล่ะครับ แต่มีคนหนึ่งที่พี่อยากจะให้ดอกไม้น่ะ” พี่โก้กระซิบเบาๆ
ผมชงัก พี่โก้ไม่ได้หมายถึงผมใช่มั๊ยเนี่ยะ
“เฮ พระเอกเกาหลี สุขสันต์วันวาเลนไทน์จ๊ะ” พี่โก้ไม่ค่อยมีโอกาสคุยกับผมเท่าไหร่นัก เพราะมีคนเอาของมาให้ผมอยู่เรื่อยๆ
“ขอบคุณครับ” นี่เป็นประโยคที่่ผมพูดบ่อยมาก จนพี่โก้รำคาญ
“แกะ เนื้อหอมจังน่ะ สาวๆรุมกันใหญ่เลย”
“อะ เอ่อ ครับ” ตอนนี้ไม่รู้จะตอบยังไงดี
พอดีพี่ดำเดินเข้ามาที่โต๊ะและนั่งลงข้างๆผม
“ดีโก้” พี่ดำทักทายพี่โก้ตามมารยาท
“แกะครับ วันนี้พี่จะกลับบ้านอีก จะเอาของไปให้ กะ กวางน่ะครับ แกะจะฝากอะไรถึงทางบ้านมั๊ยครับ” สายตาพี่ดำเป็นประกายเชียวเมื่อพูดถึงพี่กวาง
“อ๋อ คงเอาของขวัญไปให้พี่กวางใช่มั๊ยครับ อืม คงไม่มีอะไรฝากล่ะครับ” น่าแปลกที่ตอนนี้ผมกลับทำใจได้อย่างประหลาด ไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด อาจจะเป็นไปได้ว่า มีคนเอาของและดอกไม้มาให้เยอะกระมัง เลยมัวดีใจเรื่องนี้อยู่
“อ่ะ ครับ ครับ แล้วเรื่องการ์ดของกรกนก ส่งไปรึยังครับ” แนะพี่ดำยังเป็นห่วงเรื่องนี้อยู่อีก
“ฝากวาดส่งไปแล้วครับ”
“อืม ถ้างั้นก็หมดห่วง งั้นพี่ไปก่อนน่ะครับ” พี่ดำลุกขึ้นยืน คราวนี้ผมถึงกับใจหายวาบ เพิ่งนึกขึ้นได้ จริงๆแล้วอยากคุยกับพี่ดำนานๆ เพราะหมู่นี้ห่างเหินกันมากเหลือเกิน
“พี่แกะ พี่แกะ ผมขออนุญาตพ่อผมแล้วน่ะครับ” น้องข้าวฟ่างปราดเข้ามาหาผม พร้อมกับส่งเสียงตื่นเต้น
“อ่ะครับ แล้วพ่อว่าไงบ้างล่ะครับ” ตอนนี้พี่่ดำเห็นผมกำลังยุ่งกับน้องข้าวฟ่าง ก็เลยเดินจากไป ผมอดที่จะมองตามหลังแกไปไม่ได้
“พี่แกะ พี่แกะ พ่ออยากจะเจอพี่ด้วยน่ะครับ” เสียงน้องข้าวฟ่างเรียกให้ผมกลับมา
“อะไรน่ะครับ ข้าวฟ่างว่าไงน่ะครับ”
“ผมโม้เรื่องพี่แกะให้พ่อฟังน่ะสิครับ อิอิ ไปล่ะ เพื่อนรออยู่” น้องข้าวฟ่างวิ่งไปสมทบกับเพื่อนๆ
“อืม ท่าทางจะเอาจริงน่ะเด็กคนนี้ ฮึ ฮึ” พี่โก้หัวเราะเบาๆ
“แกะ เย็นนี้อย่าลืมซ้อมมวยน่ะครับ เมื่อวานงดไปวันหนึ่งแล้วน่ะ” พี่โก้เตือนผมก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเรียนต่อภาคบ่าย
ชมภู่เอาดอกกุหลาบมาให้ผมก่อนเข้าเรียนตอนบ่ายโมง ถ้าเป็นคนอื่นเอาให้ผมจะเฉยๆ แต่นี่เป็นชมภู่และผมรู้สึกดีด้วย ไม่รู้สิก็ไม่เชิงชู้สาวหรอกน่ะครับ... บอกไม่ถูก... ผมเลยต้องรีบวิ่งไปซื้อดอกกุหลาบที่โรงอาหารมาให้เธอ (ที่สหกรณ์หมดตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว อิอิ)
“หมดแล้วจ้า เหลือแต่ดอกกุหลาบสีดำจ๊ะ” แม่ค้าบอกผม และมันก็เหลือแต่ดอกไม้ประดิษฐ์ที่ย้อมสีเป็นสีดำอีกต่างหาก สีแดงหมดไปตั้งนานแล้วเหมือนกัน ผมกำลังคิดว่าจะไปเอาดอกสดๆที่คนอื่นให้ ซึ่งตอนนี้ผมเก็บไว้ในกระเป๋า เอามาให้ชมภู่แทน
“กุหลาบดำก็มีความหมายน่ะค๊ะ ” แม่ค้าเห็นผมยืนเซ่ออยู่
“ความหมายว่าอะไรครับ” ตอนนี้ผมคิดอย่างเดียว มันเหมาะกับงานศพอ่ะ 55555555+
“อ้าว ก็หมายถึง ความรักที่เป็น...อมตะ...ไงค่ะ” อืมเข้าใจเปรียบเทียบดีน่ะแม่ค้า
“เอาไปหมดนี่เลยน่ะค่ะ ถือว่าช่วยๆกัน คิดไม่แพงค่ะ” แม่ค้ายัดเยียดให้ผมซื้อทั้งหมดที่เหลืออยู่ สิบกว่าดอกได้ และไม่รู้ยังไงผมดันใจอ่อน บ้าจี้ซื้อจนได้ อิอิอิ
“ความรักที่เป็น...อมตะ...ยังงั้นหรือ ความหมายดีนี่” ผมรำพึงในใจ และนั่นคือเหตุผลที่ผมเอาดอกกุหลาบสีดำนี้ ไปให้ชมภู่ อาจารย์นิตยา วาด ไอ้ก้อย เพื่อนๆผู้หญิง และรุ่นพี่สาวๆที่สนิทๆ ไปๆมาๆ ทุกคนที่ได้รับ กับพากันชื่นชอบสะอีก อ้าวไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะคราวนี้
ตอนเย็น ผมไปซ้อมมวยกับพี่โก้ตามปกติ หลังจากที่นักมวยคนอื่นๆกลับบ้านกันหมดแล้ว พี่โก้ก็เดินไปหยิบของสิ่งหนึ่งมาให้ผม ลองเดาดูสิครับว่าเป็นอะไร
“แกะ พี่ให้แกะเนื่องในวัน เ่อ่อ วาเลนไทน์ครับ” พี่โก้ยื่นช่อดอกกุหลาบดอกหนึ่งให้ผม มันเป็นดอกไม้จริงแต่ว่าถูกพ่นด้วยสี.......
“กุหลาบสีดำ!” ผมอุทานด้วยความตกใจ นี่พี่โก้รู้ความหมายด้วยหรือ
“ใช่ครับ ขอให้รักของพี่ที่มีต่อแกะ เป็นรักที่ยั่งยืนตลอดไป” พี่โก้กล้าพูดถึงขนาดนี้เชียว
“ขะ ขอบคุณครับพี่โก้” ซึ้งอ่ะครับ งานนี้ ผมรับช่อดอกกุหลาบนั้นมาถือไว้ ว่าจะคุยอะไรต่อ... ไอ้โชคก็โผล่มาเตือนบอกว่า ผมมีนัดเล่นเวทตามตารางของพี่หมวด เลยต้องร่ำลาพี่โก้ออกมา
ผมกลับถึงแแฟลตราวๆห้าโมงเย็น พี่หมวดกำลังนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกแล้ว
“มาสายน่ะครับ พี่นัดสี่โมงครึ่งไม่ใช่หรือ” พี่หมวดดุผมตามสไตล์ แต่ไม่ซีเรียสมาก
“ดีครับพี่หมวด วันนี้ไม่เข้าเวรกะดึกหรือครับ” ผมถามแก้เก้อ ถอดรองเท้านักเรียนเสร็จ หิ้วกระเป๋าเป้นักเรียน และถุงพลาสติกที่ใส่ของต่างๆรวมทั้งดอกไม้ที่คนเขาให้มา เตรียมตัวไปเก็บไว้ในห้อง
“เดี๋ยวก่อน ของอะไรเยอะแยะ เอามาให้พี่ดูหน่อยสิ” เสียงดุเชียว ผมเลยเอาของทั้งหมดไปวางไว้ที่โต๊ะกลางโซฟา และนั่นช่อดอกกุหลาบช่อนั้นยังคงอยู่ในแจกันที่ผมจัดไว้เมื่อเช้า
“อ้าว พี่หมวดไม่ได้เอาดอกไม้ไปให้ใครหรือครับ”
“คนที่พี่จะเอาไปให้... เขาไม่ต้องการมันแล้ว” อูย อารมณ์ขุ่นมาจากไหนเนี่ยะ ผมเลยสงบปากคำดีกว่า ปรกติพี่หมวดจะอารมณดีนี่นา
“อื้อฮือ ใครเอาให้มั่งล่ะ ทำไมเยอะแยะขนาดนี้” พี่หมวดหยิบการ์ดขึ้นมาอ่านบ้าง รื้อดอกไม้ขึ้นมาดูบ้าง ดูแต่ละชิ้นเสร็จ แกก็กองวางรวมกันไว้ที่มุมหนึ่ง
“เนื้อหอมจังน่ะเรา ดูสาวๆพวกนี้จะหลงเสน่ห์เราน่าดูเลยน่ะ ฮึ ฮึ” ตอนนี้พี่หมวดอมยิ้ม และหัวเราะเบาๆ เมื่อแกอ่านข้อความในการ์ดเหล่านั้น จนกระทั่ง...
“ฮึ กุหลาบสีดำ ใคร...เอามาให้แกะ หา” พี่หมวดทำหน้าขมวดคิ้ว เอ รึว่าพี่หมวดก็รู้ความหมายเหมือนกัน มีมึงคนเดียวแหละไอ้แกะที่เพิ่งรู้จากแม่ค้า 555555+
“แน่ะ มีการ์ดเล็กๆด้วย ไหนอ่านดูสิ” ไอ๊หยา ผมไม่ได้สังเกตุว่าพี่โก้พันการ์ดเล็กๆไว้ใต้สุดของก้านกุหลาบ เพราะใต้ฐานของช่อ มันเป็นกระดาษสีดำๆรองอยู่ภายใต้พลาสติกอีกที
“รักที่เป็นอมตะ...จากพี่โก้” พี่หมวดอ่านเสร็จถึงกับจ้องหน้าผมเขม็ง
“นี่มันเป็นชื่อของผู้ชายนี่ ...มันหมายความว่ายังไงห๊า?

Tuesday, August 10, 2010

บทที่ 143 " สุขสันต์...วันวาเลนไทน์ "


บทที่ 143 “ สุขสันต์...วันวาเลนไทน์ ”

“เออ กูเห็นแล้ว แม่งอะไรว่ะ ” ไอ้โชคสบถออกมาอย่างหัวเสีย ในขณะนี้เราสองคนอยู่ด้านหน้าตึกเล็กด้านขวามือ ซึ่งจะมีทางเดินภายใต้หลังคาทะลุเชื่อมไปถึงตึกใหญ่...เราสองคนยืนมองพวกมันหายเข้าไปจนลับตา ผมเองก็กำลังงงๆอยู่ว่า สองคนนั่นจะรีบร้อนไปทำไมกัน และผมทำท่าจะเดินตามพวกมันไป
“พอเลยไอ้แกะ มึงไม่ต้องไปยุ่งกับพวกมันอีกแล้ว มึงไม่เข็ดรึไงว่ะ” ไอ้โชคส่ายหัวพร้อมกับดันตัวผม ให้เดินออกมาที่ถนน
“อ้าวกูก็อยากรู้ว่า พวกมันมีเรื่องอะไรรึเปล่าไง” ผมจำใจเดินตามไอ้โชคออกมา
“โธ่เอ๊ย กูละเซ็งอีแต๋นจริงๆ โดนไอ้พลหลอกแล้วยังกลับไปหามันอีก เวร!”
“เออ ๆ ก็แปลกดี ตอนเกิดเรื่องอีแต๋น ก็มาขอโทษขอโพยกูนี่หว่า และเห็นมันบอกว่า มันไม่คิดอะไรกับไอ้พลแล้วไง”
“กูว่า อย่าไปยุ่งกับพวกมันแหละดีแล้ว มันจะเป็นไงก็ช่างมัน นี่ละหนาโบราญเขาว่า เรื่องผัวๆเมียๆคนนอกอย่าเข้าไปยุ่ง”
“ฮึ ฮึ ตกลงสองคนนั่นเป็นผัวเมียกันจริงๆหรือว่ะ ไอ้โชค”
“ฮ่ะ ฮ่ะ กูก็พูดไปงั้นแหละ ไปๆมึงรีบๆเดิน เดี๋ยวทำงานไม่เสร็จกันพอดี”
ผมกลับมาทำการบ้านและรายงานต่อกับไอ้ม้วน โดยไอ้โชคมันนั่งๆนอนๆอ่านหนังสืออยู่โต๊ะข้างๆ จนบ่ายสามมันก็ขอตัวกลับไปช่วยแม่มันทำงาน ส่วนผมกับไอ้ม้วนเร่งทำรายงานวิชาสุขศึกษาจนเสร็จทันเอาตอนเกือบหกโมงเย็น ในระหว่างนี้จะมีคนมาซ้อมบอล เล่นบาส วิ่งออกกำลังกายบ้าง และมีเพื่อนบางคน มาชวนผมกับไอ้ม้วนไปแจมด้วย แต่พวกผมเริ่มรู้สึกเพลียๆเลยแยกย้ายกันกลับบ้าน
พี่หมวดไม่ได้กลับบ้านตามที่บอกไว้ สงสัยธุระไม่เสร็จ รุ่งเช้าวันจันทร์ ผม ไอ้โชค และไอ้ม้วน ก็ได้พี่เข้ม มาฝึกออกกำลังกายให้เหมือนเดิม...
เปิดเรียนวันนี้ มีสิ่งที่ทุกคนกำลังกล่าวถึงกันมากที่สุดก็คือ พรุ่งนี้เป็น “วันวาเลนไทน์” นั่นเอง แต่ละคนต่างก็ตื่นเต้นที่จะให้ดอกกุหลาบ แก่คนที่ตนเองหมายปองอยู่...ดูเหมือนสหกรณ์โรงเรียนและร้านค้าต่างๆในโรงอาหาร ต่างเพิ่มสีสรรด้วยการเอาดอกกุหลาบสดบ้าง แห้งบ้าง มาวางจำหน่ายกันเป็นทิวแถว อีกทั้งตามบอร์ดธุรการและบอร์ดภาควิชาภาษาอังกฤษ ก็จัดบอร์ดเรื่องวันวาเลนไทน์ด้วย
แจ๊ดกลับมาเป็นคนเดิม คือเอาขนมแซนวิช มาให้ผมตั้งแต่เช้า แถมมีจิตใจเผื่อแผ่ไปถึงไอ้โกกด้วย...น้องข้าวฟ่างขาดเรียน ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรื่องที่น้องเขาขอพ่อมาฝึกซ้อมมวยรึเปล่า...ผมคุยกับวาดเรื่องที่จะวานให้เธอ ส่งการ์ดของผม ไปให้กรกนก เห็นเธอบอกว่ายังไม่ได้เตรียมตัว เลยเลื่อนไปส่งพรุ่งนี้ และถือโอกาสให้ไปรษณีย์ประทับตราวันส่งคือวันที่ 14 กุมภาไปด้วยเลย จะได้มีความขลังมากขึ้น อิอิอิ
ตอนเที่ยงพวกแก๊งค์ผมทานข้าวกันตามปกติ แต่ที่พิเศษคือ แต่ละคนกำลังคุยเกทับกันว่าจะเอาดอกไม้ไปให้สาวคนไหน...ถึงตรงนี้พี่โก้แอบมองผมด้วยสายตาประหลาด ไม่แน่ใจว่าแกคิดอะไรอยู่ อย่าบอกน่ะครับพี่โก้ว่า พี่จะให้ดอกไม้ผมน่ะ 55555+ ในระหว่างนี้ ชมภู่แว่บเข้ามาทักทายผม เลยโดนเพื่อนแซว โดยเฉพาะไอ้ม้วนตัวแสบ แซวจนชมภู่ถึงกับหน้าแดง เดินหนีไปเลย
ตอนเย็นผมงดซ้อมมวยเพราะโดนเพื่อนๆ ลากตัวไปที่ตลาดกับพวกมัน ก็ไม่มีอะไรพาพวกมันไปเลือกหาของขวัญ ดอกไม้ การ์ด ฯลฯ เพิ่งรู้ว่า ไอ้ซอมีแฟนเป็นเด็กม.2 ด้วย ส่วนไอ้จุ๊ ดูเหมือนว่ามันจะเอาของขวัญไปให้ ไอ้อ้อม เพื่อนสาวในห้องเดียวกัน มันเริ่มจีบกันเมื่อไหร่ว่ะเนี่ยะ ผมไม่ยักกะรู้ ก็เห็นไอ้จุ๊กับไอ้ซอ ไปไหนมาไหนด้วยกันจนไอ้เบนซ์แซวอยู่เรื่อยๆว่า มันสองคนเป็นแฟนกันนี่หว่า...คู่ไอ้อ้วนกับไอ้อ๊อด ไม่ได้คิดจะซื้ออะไรให้ใคร ...เอ คู่นี้น่าคิดกว่าจริงมั๊ย 55555+ นอกนั้น ไอ้ม้วนก็ต้องเลือกหลายชิ้นล่ะ ก็มันดันจีบสาวๆไว้หลายคน ไอ้เท่งดูหงิมๆ มันดันมีเด็กม.3 ที่มันตั้งใจเอาดอกไม้ไปให้ ไม่เลวว่ะมึง...ไอ้เบนซ์ ไอ้นี่มาแปลกเล่นจีบสาวรุ่นพี่ ไม่ใช่คนเดียว สองสามคนได้ 55555+...ไอ้โกกก็เหมือนไอ้ม้วนแหละ มันจะซื้อของอะไรมากมาย ก็เห็นมันจีบอยู่แค่ ไอ้บี กับเด็กม.2 แค่นั้นเอง มันอาจจะมีใครอีกที่ผมไม่รู้ก็ได้ อิอิอิ
ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะซื้อดอกกุหลาบให้แจ๊ดสักดอกก็คงจะดี แต่คิดว่าไปซื้อเอาที่โรงเรียนพรุ่งนี้ดีกว่า ตอนแรกผมตั้งใจที่จะซื้อการ์ดให้พี่หมวดและพี่โก้อยู่เหมือนกัน แต่ไปๆมาคิดว่าไม่เหมาะสม เลยไม่ซื้ออะไรติดมือเลย...สุดท้ายพวกแก๊งค์ผมก็มาลงเอยที่ร้านขนมเจ๊แหม่ม ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
ผมกลับมาที่แฟลต ดูเหมือนพี่หมวดจะกลับมาแล้ว เห็นแต่เสื้อผ้าที่แกใช้แล้วทิ้งไว้ในตะกร้าเตรียมซัก และมีกระเป๋า ถุงกระดาษอีกสองสามใบ อยู่บนที่นอน แต่ผมไม่กล้าไปละลาบละล้วง เพราะกลัวว่าจะเป็นความลับของทางราชการ
ผมเดินมาที่ระเบียง เห็นผ้าขนหนูของพี่หมวดตากอยู่ที่ราวตากผ้า ยังหมาดๆอยู่คงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ...เอ แล้วตัวพี่หมวดหายไปไหนหว่า...และแล้วผมก็เข้าใจว่าพี่หมวดเข้าเวร เพราะชุดเครื่องแบบของแกหายไป
ไอ้โชคเข้ามาทานข้าวเป็นเพื่อนและทำการบ้านต่อ จนเกือบสี่ทุ่มมันถึงแยกตัวกลับไปนอนที่ห้องมัน ...ผมเองก็รู้สึกเพลียๆยังไงก็ไม่รู้ ก็เลยนอนเล่นที่เตียงนอน แต่ยังไม่หลับเลยทีเดียว ก็เลยลุกขึ้นรื้อเอาหนังสือชีววิทยา ขึ้นมาจากกระเป๋า เพราะอาจารย์ทะนงจะให้ท่องจำ อาณาจักรของสัตว์และพืชต่างๆให้ขึ้นใจ แกจะมีสอบปากเปล่าด้วย
ผมเปิดโคมไฟอ่านหนังสือ โดยหันมาทางที่นอน ให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับอ่านหนังสือได้ จากนั้นปิดไฟกลางห้อง แล้วกลับเข้ามานอนที่เตียงอีกครั้ง ห่มผ้าผ่มไว้ครึ่งตัว... เปิดหนังสือขึ้น ก็เจอการ์ดที่เตรียมไว้ให้กรกนกสอดอยู่ข้างใน ผมเลยดึงการ์ดออกจากซองมาอ่านข้อความอีกครั้ง...ป่านนี้กรกนกจะเป็นยังไงบ้างน่ะ ข่าวคราวเงียบหายไปจริงๆ บางทีการ์ดฉบับนี้ เมื่อเธอได้รับ เธอคงติดต่อผ่านมาทางวาดบ้างน่ะ...ผมหวังไว้อย่างนั้น
ผมวางการ์ดไว้ข้างๆตัว แล้วเริ่มท่องอาณาจักรต่างๆที่น่าเบื่อ (วิชานี้ผมค่อนข้างเบื่อ ขี้เกียจท่องจำน่ะครับ มีแต่ไอ้โกกคนเดียวล่ะที่มันชอบ ส่วนตัวผมชอบทางคำนวณมากกว่า)... มันได้ผลครับ คราวนี้ผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ตัวเลย อิอิอิ
ผมสะดุ้งตื่น...รู้สึกตัวเหมือนมีคนเข้ามาในห้อง
“ขยันจังเลยน่ะครับ อ่านหนังสือจนหลับเลยหรือเรา ฮ่ะ ฮ่ะ” พี่หมวดยืนอยู่ข้างๆเตียง แสงไฟจากโต๊ะอาจจะมองเห็นหน้าพี่หมวดไม่ชัดนัก แต่ผมรู้ดีว่า รอยยิ้มนั้นยังอบอุ่นเหมือนเคย
“หาวววว อืม พี่หมวดกี่ทุ่มแล้วครับ” ผมเอามือปิดปากหาว แต่ก็ฝืนตัวลืมตาคุยกับพี่หมวด
“เที่ยงคืนเป๊ะ ฮ่ะ ฮ่ะ สุขสันต์...วะ...” ดูเหมือนพี่หมวดจะพูดอะไรประมาณนี้ รึว่าผมหูฝาดไป แต่ทำไมพี่หมวดถึงเงียบไปล่ะ
“แกะ อ่ะ เ่อ่อ นั่นการ์ด อะไรครับ หือ” พี่หมวดใช้มือข้างขวาเข้ามาจับการ์ดของผม แต่มือข้างซ้ายไพล่หลังอยู่
ผมยันตัวลุกขึ้นนั่ง เก็บหนังสือไว้ที่หัวเตียง ไม่ได้ตอบอะไรเพราะพี่หมวด อ่านข้อความในการ์ดจนหมดแล้ว
“การ์ดวาเลนไทน์ ถึงหนูกรกนก หรอกหรือ” พี่หมวดพูดขรึมๆ ดูเหมือนใบหน้านั้นจะเครียดๆอยู่เล็กน้อย...แต่แล้วก็ยิ้มระบายออกมา พร้อมกับพูดต่อว่า
“ดีแล้วๆ พี่หวังว่า ความรักของแกะจะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้น่ะครับ” พี่หมวดยื่นการ์ดให้ผมคืน แล้วแกก็เดินถอยหลัง เตรียมตัวออกไป
“อ้าว แล้วพี่หมวดจะเข้านอนแล้วหรือครับ”
“อ่ะ เอ่อ ดึกแล้ว แกะนอนได้แล้วน่ะครับ เดี๋ยวพี่จะกลับไปทำงานต่อ” พี่หมวดยังเดินถอยหลังไปจนเกือบสุดประตู อ้าว..แล้วแกแวะมาทำอะไรเนี่ยะ เที่ยงคืนดึกๆดื่นๆขนาดนี้...เอ...ดูเหมือนว่าแกจะซ่อนอะไรไว้ข้างหลังน่ะ อยากรู้จริง
“พี่หมวด เดี๋ยวก่อนครับ” ผมลุกเดินตามพี่หมวดไปทันที นึกอะไรขึ้นมาได้ เลยอยากจะถาม ทั้งๆที่รู้ว่าไม่สมควร...ผมรีบเปิดไฟกลางห้อง คราวนี้เห็นหน้าพี่หมวดรวมทั้งชุดเครื่องแบบร้อยตำรวจโทเต็มยศ ชัดเจน
“พี่หมวดมีแฟนแล้วใช่มั๊ยครับ?” อะไรว่ะกูทำไมบ้าดีเดือดขนาดนี้ ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้งเลยตอนนี้ ความอยากรู้เข้ามาแทนที่
“อะไรน่ะ แกะ ว่า อะไรน่ะ” พี่หมวดชงัก สิ่งที่อยู่ในมือข้างหลังหล่นลงบนพื้นตรงหน้าประตูพอดิบพอดี...ดอกกุหลาบสีแดง ถึงแม้ว่าจะมีดอกเดียว แต่ดูเด่นเป็นสง่า กลีบดอกยังไม่บานเต็มที่ แต่ดูอวบตรงโคนแล้วค่อยๆเรียวๆขึ้นไปบนส่วนปลาย คล้ายดอกทิวลิป ยังไงยังงั้น มันถูกบรรจงอยู่ภายในช่อพลาสติกสีใส แถมข้างในยังมีกระดาษสีขาวเป็นลายฉลุซ้อนอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้มีริบบิ้นสีแดงสดใสผูกเป็นโบว์อยู่ด้านล่าง...และยังประดับประดาไปด้วยเกล็ดเงินเกล็ดทองระบายเกลื่อนไปทั่วภายในช่อพลาสติกนั้น ช่างสวยงามเหลือเกิน ...นี่พี่หมวดจะเอาดอกกุหลาบนี้ไปให้ใครกัน...
“ดอกกุหลาบสีแดง...ดอกนี้ พี่หมวดตั้งใจเอาไปให้ใครครับ พี่โรส หรือ พี่ทราย ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” ผมคงเป็นบ้าไปแล้ว ในตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไง ผมแซวพี่หมวดและหัวเราะร่วน แต่ในใจผมตอนนี้สิ มันเริ่มหวิวๆ เจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที
“อ่ะ เ่่อ่อ แกะ แกะรู้...” พี่หมวดตกตลึง พูดอะไรต่อไปไม่ได้ ดูแกตกใจมากทีเดียว...เห็นแกนิ่งเฉยอยู่ ผมจึงวางช่อดอกกุหลาบ ไว้ที่มือของแกอย่างปราณีต จากนั้น เดินอ้อมตัวแกไปบิดลูกบิดประตูพร้อมกับเปิดออก
“ผมจะนอนแล้วครับพี่หมวด ขอโทษครับ พรุ่งนี้ค่อยบอกผมก็ได้...เอ่อ.. ผะ ผมยินดีกับพี่เสมอครับ” ผมมองหน้าพี่หมวดด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจกำลังร้องไห้ “ฮือ ฮือ พี่หมวดน่ะพี่หมวด ไปสะทีสิ ผมอยากอยู่คนเดียว ฮือ ฮือ”
“----------------” พี่หมวดเงียบ กลืนน้ำลายลงคอ ทำหน้าเลิ่กลัก สายตาที่แกมองมาที่ผม แว่บหนึ่งเหมือนจะตัดพ้อ แต่แล้วสายตาแบบนั้นกลับหายไปอย่างรวดเร็ว (ถ้าผมไม่ได้จ้องหน้าแกอยู่ คงจะไม่สังเกตเห็น)...พี่หมวดก้มลงมองที่ช่อดอกไม้ในมือ ก่อนที่จะเงยหน้ามองผ่านผมไปที่เตียงนอน ใช่..ที่การ์ดใบนั้น
“ขอให้แกะ สมหวังกับแฟนน่ะครับ สุขสันต์วันวาเลนน์ไทน์ครับ” พี่หมวดพูดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะผลุนผลันเดินหันหลังกลับไป ในมือนั้นยังคงถือช่อดอกไม้กลับไปด้วย...
ผมปิดประตูอย่างรวดเร็ว แล้วทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรง ...ไม่ ไม่น่ะ ผมจะต้องเข้มแข็ง ผมจะต้องไม่ร้องไห้...แต่ดูเหมือนน้ำตาเจ้ากรรมมันจะทรยศ มันพุ่งออกมายังกับท่อประปาแตก..ไหลพรากลงมาที่แก้มทั้งสองข้าง...ผมสะอื้นไห้ออกมาจนได้...และได้ิยินเสียงตัวเองรำพึงรำพันว่า
“สุขสันต์...วันวาเลนไทน์ ครับพี่หมวด”



Saturday, August 7, 2010

บทที่ 142 " พี่พยาบาล...คนสวย "


บทที่ 142 “ พี่พยาบาล...คนสวย ”

“เอ้า ไอ้แกะ มึงนี่ชอบกลว่ะ” ไอ้โชคหันหน้ามาจ้องผม เหมือนมันจะจับผิดอะไรในตัวผมสะงั้น...ผมเลยต้องหลบหน้ามันไปทางอื่น
“อ่ะ เ่อ่อ ก็ พะ พี่หมวด ไม่เคยบอกกูเลยนี่หว่า” ผมไม่กล้าสู้หน้ามันตอนนี้ ได้แต่พูดเสียงอ่อยๆ
“เฮ้ย กูว่าพี่ยุทธคงรักจริงหวังแต่งล่ะ เห็นเทียวไล้เทียวขื่อ ไปๆมาๆที่โรงบาลออกบ่อย” ไอ้โชคยังคงวุ่นกับการเปลี่ยนช่องทีวี ถ้ามันหันหลังกลับมา มันคงจะเห็นใบหน้าของผม...ที่ตอนนี้ซีดเผือด ราวกับว่า ไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงสักหยด
ผมนั่งเอนหลังพิงพนักโซฟา อย่างเหนื่อยอ่อน อาการหวิวๆเหมือนจะเป็นลม หูอื้อ ตาลาย ในใจผมตอนนี้คิดแต่เพียงว่า...พี่หมวดมีแฟนแล้ว ๆ ย้ำอยู่เช่นนั้น โดยแทบไม่ได้ยินเสียงของไอ้โชคที่พูดต่อไปว่า
“พี่พยาบาล คนนี้กูเคยเห็นมากับตา สวยเหมือนดาราเลยน่ะมึง พี่ยุทธไม่หลง ก็แปลกคนล่ะ” ฟังถึงตรงนี้ผมก็ทนนั่งอยู่ต่อไปไม่ไหว ลุกขึ้นจะเดินหนี
“อ้าวเฮ้ย ไอ้แกะ มึงเป็นไรว่ะ” ได้ยินเสียงไอ้โชคร้องเอะอะตกใจ แต่ผมพยายามเปล่งเสียงออกมาด้วยความลำบากยากเย็นว่า
“กู...จะไป...อาบน้ำ” แล้วผมก็รีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปที่ห้องน้ำทันที...จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง...มารู้สึกตัวอีกที ก็เมื่อสายน้ำจากฝักบัวอันเย็นฉ่ำ ปะทะร่างกายที่เปลือยเปล่าของผมแล้ว...ตอนนี้รู้สึกมีสติขึ้นบ้าง แต่ก็ยังเจ็บแปล็บๆอยู่เล็กน้อย...มึงต้องเข้มแข็ง...เข้มแข็งสิว่ะไอ้แกะ ...มึงจะต้องไม่ร้องไห้อีกเด็ดขาด เข้าใจมั๊ย....
คืนนั้นผมนอนไม่ค่อยหลับ นอนเอามือก่ายหน้าผาก นอนครุ่นคิดอะไรเรื่อยเปื่อย...เสียงไอ้โชคกรนเบาๆอยู่ข้างๆ มันคงนอนหลับด้วยความสุขแหละ แต่ผมสิ ผมจะทำยังไงดีกับชีวิต...อีกหน่อยพี่หมวด ...ที่พึ่งทางใจคนเดียวของผม... คงจะต้องแต่งงานมีครอบครัวแน่นอน...เมื่อถึงเวลานั้นผมจะทำใจได้มั๊ยน่ะ
ไอ้โชคเรียกพี่พยาบาลคนนั้นว่า “พี่ทราย” ทำงานอยู่ที่โรงบาลตรงข้ามโรงเรียนของผมนั่นเอง ผมต้องหาโอกาสไปรู้จักพี่เขาให้ได้ อยากจะรู้นักเชียวว่าจะสวยแค่ไหน ทำไมไอ้โชคถึงบอกว่า พี่หมวดชอบนักหนา...และก็น่าแปลกว่า ทำไมพี่หมวดไม่เคยปริปากเรื่องนี้ให้ผมฟังเลยแม้แต่ครั้งเดียว....
ผมคิดอะไรไปเรื่อยๆ เรื่องพี่ดำ พี่กวาง พี่หมวด พี่พยาบาล วนไปเวียนมา จนในที่สุดก็เริ่มม่อยหลับไป
คงจะใกล้สว่างแล้ว ผมฝัน...ฝันไปว่า พี่เก้งเดินเข้ามาหาผมและยืนอยู่ที่ขอบเตียง ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความยินดี แต่ไม่ปริปากพูดอะไร ผมว่าจะทัก แต่ก็เหมือนปากมันหนักๆชอบกล... พี่เก้งยืนมองผมชั่วครู่ สายตาที่เพ่งมองมาที่ผม ดูเหมือนว่าแกจะบอกอะไรผมบางอย่าง...
“กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่น ผมตกใจตื่นภาพของพี่เ้ก้งหายวับไปกับตา
“พี่เก้ง พี่เก้ง กลับมาก่อน กลับมาก่อน”
“เป็นไร ไอ้แกะ ฝันรึไงว่ะมึงอ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” ไอ้โชคเอื้อมมือไปกดปุ่มนาฬิกา ให้มันหยุดร้อง แล้วดีดตัวลุกขึ้นนั่ง
“เออๆ ฝันไปว่ะ กี่โมงแล้ววะ”
“ตีห้าครึ่ง”
“เฮ้ย มึงจะบ้าเรอะ วันอาทิตย์ออกไปวิ่งสายๆก็ได้ เฮ้อ กูนอนต่อดีกว่า” ว่าแล้วผมก็เอาผ้าห่มมาคลุมโปง
“เออๆ มึงนอนไป อีกสิบนาที ถ้ามึงไม่ลุก กูให้เหยียบ” เสียงไอ้โชคมันลุกออกไปข้างนอก...อะไรของมันว่ะไอ้นี่ ทำไมกูต้องทำตามมัน ไอ้นี่มันจะมาบังคับกูได้รึ ไอ้ห่า...แล้วผมก็หลับไป แต่ไม่ถึงอึดใจ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
“ตื่นได้แล้วคร๊าบ ผู้กอง ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” เอ๊ะ เสียงใครหว่า ผมเลิกผ้าห่มลืมตาขึ้น
“พี่เข้ม!” ลูกน้องพี่หมวดยศดาบตำรวจ อายุราว 35 ปีแล้ว รูปร่างทะมัดทะแมง กำยำล่ำสัน ใบหน้าแกออกจะบ้านๆ แต่ก็แมนดี สูงราวๆ 175 เท่าผม ยังโสดครับ อิอิ แต่ขี้หลีเหลือร้าย…ปกติผมอยากจะเรียกแกว่า ดาบเข้มอยู่เหมือนกัน แต่แกไม่ยอม อยากให้ผมเรียกพี่มากกว่า ก็เลยตามใจแก เพราะแกไม่อยากแก่นั่นเอง อิอิอิ
“ตื่นครับตื่น ได้เวลาออกกำลังกายแล้วครับ” น้ำเสียงเพราะเชียว คงจะเกรงใจพี่หมวดมั๊ง เพราะผมตอนนี้ก็อยู่ในฐานะน้องชายพี่หมวดนี่ครับ...ที่แกมาเช้านี้สงสัยโดนพี่หมวดสั่งไว้แหงๆ แบบนี้ไม่ตื่นก็ไม่รู้จะ่ว่ายังไงแล้วกู
ผมลงมาข้างล่าง ก็เจอไอ้ม้วนกำลังออกท่ากายบริหารอยู่กับไอ้โชคแล้ว... พวกเราสามคน โดนพี่เข้ม (เข้มสมชื่อ) คุมเข้มให้พวกผมออกกำลังกายอย่างหนัก เสร็จแล้วแกก็พาพวกผมวิ่งรอบอ่างเก็บน้ำถึงสองรอบ เล่นเอาลิ้นห้อยเลย ทีพี่หมวดไม่เห็นฝึกผมหนักขนาดนี้ เฮ้อ!
หลังจากวิ่งเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันไป ไอ้ม้วนนัดผมทำการบ้านวิชาเคมีที่โรงเรียนและผมนึกขึ้นมาได้ว่า มีรายงานวิชาสุขศึกษาที่ยังค้างส่งอยู่ เกี่ยวกับเรื่องโรคติดต่ออะไรประมาณนี้ เลยหาเหตุที่จะไปเอาเอกสารหรือแผ่นพับที่เขาทำแจกฟรี ที่โรงพยาบาล โดยบอกไอ้ม้วนว่า นอกจากจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว ยังได้รูปภาพมาติดประกอบรายงานด้วย....อิอิอิ แบบว่ามีแผนที่จะเข้าไปเจอพี่ทรายไงล่ะครับ
ประมาณเที่ยงๆผมปล่อยให้ไอ้ม้วนทำการบ้านที่โรงเรียนไปพลางๆ ส่วนตัวผมบังคับให้ไอ้โชค (ซึ่งมันไม่มีที่ไป เลยมานั่งอ่านหนังสือเป็นเพื่อน) พาไปที่โรงพยาบาล...พอไปถึง ผมก็รีบฉุดมือมันไปที่บอร์ดเจ้าหน้าที่ประจำโรงบาลทันที
“ไอ้โชค ไหนมึงบอกกูสิ ว่าพี่ทรายคนไหน” ผมพยายามเพ่งมองดูตั้งแต่แถวด้านบนลงมาแถวด้านล่าง ก็ไม่ยักกะมีพยาบาลคนไหนที่สวยสมราคาคุยของไอ้โชคเลย แม้แต่คนเดียว
“เฮ้ย ไม่มีนี่หว่า รูปพี่ทรายหายไปไหนว่ะ” ไอ้โชคพยายามสอดส่ายสายตา หาอย่างตั้งใจ ...เท่าที่ดู เหมือนจะมีรูปภาพบางส่วนที่หายไปจริงๆ อาจจะกำลังทำใหม่หรือกำลังปรับแผนกอะไรประมาณนี้กระมัง
ในที่สุดผมก็เลยจำใจต้องไปค้นหาเอกสารเกี่ยวกับโรคติดต่อ ที่หน้าตึกอาคารใหญ่ของโรงบาล โดยที่ไม่มีโอกาสได้เห็นแม้แต่รูปภาพของพี่ทราย...
ผมกำลังเลือกดูเอกสารแผ่นพับ ด้วยความตั้งอกตั้งใจ แต่ละโรคน่าสนใจทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็น โรคทางด้านเพศสัมพันธ์ โรคไอกรน ฯลฯ...ในตอนนี้ไม่รู้ไอ้โชคมันหายหัวไปไหน เพราะผมใช้เวลาเลือกนานไปหน่อย อิอิอิ
“ตาค่ะ ระวังค่ะ” เีสียงหนึ่งดังขึ้น ผมหันไปดูจึงเห็นว่าพยาบาลสาวในชุดสีขาวกำลังพยายามดึงแขนข้างหนึ่งของชายสูงวัย อายุราว 60 ซึ่งตอนนี้แกกำลังเซถลามาที่ตัวผม เนื่องจากเสียการทรงตัว
“ตาครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ” ผมช่วยพยุงชายชราเอาไว้ไม่ให้แกหกล้มเอาหัวฟาดพื้น
“อืม ตามองไม่ค่อยเห็นน่ะหลาน ขอบใจน่ะ” ชายชราจับแขนผมไว้แน่น
“ขอบใจจ๊ะน้อง เมื่อกี้เผลอแป๊ปเดียว ตาแกก็เดินนำหน้าพี่สะแล้ว ดีน่ะที่น้องช่วยไว้” พี่พยาบาลยิ้มหวานระบายไปทั่วใบหน้า โห สวย สวยจริงๆ สวยเหมือนนางฟ้าผู้ใจดี อายุอานามน่าจะราวๆยี่สิบต้นๆ
“ไม่เป็นไรครับ จะพาตาแกไปไหนหรือครับ เดี๋ยวผมช่วยพยุงให้ครับ” ผมวางเอกสารแผ่นพับเอาไว้ แล้วช่วยพยุงอีกข้าง
“ขอบใจจ๊ะ พอดีรถเข็นไม่ว่าง และพี่คิดว่าแกเดินได้ ก็เลยพาแกมานี่แหละ” พี่พยาบาล พยุงอีกข้างและเราก็ช่วยกันพาแกมาที่ห้องคุณหมอท่านหนึ่ง
“อืม ต้อกระจกเหรอ เดี๋ยวผมต้องขอเช็คนิดหนึ่งน่ะครับ” คุณหมอจัดการให้ชายชรานั่งที่เก้าอี้ และตอนนี้พี่พยาบาลก็บอกกับผมว่า
“ขอบใจน้องมากน่ะจ๊ะ พี่คงรบกวนน้องแค่นี้แหละ ขอบใจอีกครั้งจ่ะ” พี่พยาบาลยิ้มให้ผม และพูดทำนองว่าหมดหน้าที่พลเมืองดีของผมแล้ว ผมจึงต้องรีบเดินออกมาจากห้องนั้นทันที
ผมกลับมาเลือกเอกสารต่อ เลือกไปด้วยอ่านไปด้วย เพลินดี อ่านไปสักพัก เสียงพี่พยาบาลคนเดิมก็เข้ามาทัก
“น้องกำลังหาข้อมูลอะไรจ๊ะ ให้พี่ช่วยมั๊ยค๊ะ” ผมเพิ่งสังเกตพี่เขาชัดๆก็คราวนี้ ใบหน้าสวยแบบไทยๆ บวกกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ ราวกับมีมนต์สะกดให้ใครๆหลงใหลทีเดียว
“หาข้อมูลไปทำรายงานน่ะครับ” ผมยิ้มให้ รู้สึกถูกชะตาักับพี่เขายังไงก็ไม่รู้
และผมก็บอกว่า อยากได้แผ่นพับที่เกี่ยวกับโรคติดต่อทั้งหมด พี่พยาบาลจึงเดินไปหยิบมาจากห้องอีกห้องหนึ่ง และบอกว่าบางครั้งเจ้าหน้าที่ไม่ได้เอามาใส่ไว้ในช่องทั้งหมด ก็เลยโชคดีของผมไป
พี่พยาบาลบอกว่า พี่เขาต้องรีบกลับไปดูแลคุณตาเมื่อกี้ เนื่องจากแกต้องทำการลอกตาด่วน พี่เขาออกมาเอาเอกสารบางอย่างนั่นเอง แต่ก่อนไปพี่เขายังมีแก่ใจมาพูดกับผมอีกว่า
“น้องจ๊ะ พี่ว่ารูปร่างท่าทาง รวมทั้งแววตาของน้อง เหมือนใครบางคนที่พี่รู้จักน่ะจ่ะ”
“เหรอครับ ผมหน้าโหลขนาดนั้นเชียวหรือครับ ฮ่ะ ฮ่ะ” ผมหัวเราะน้อยๆ แต่ก็ยังรู้สึกดีที่ดูเหมือนว่าพี่เขาจะเป็นกันเองกับผม
“โอ๊ะ ไม่หรอกจ๊ะ เขาคนนั้นน่ะเขาหน้าไทยจ๊ะ แต่น้องออกไปทางจีน เกาหลีน่ะ ฮึ ฮึ พี่ไปก่อนน่ะค่ะ” ว่าแล้วพี่พยาบาลก็รีบเดินจากไป
“ไงไอ้แกะ ได้เอกสารครบยังมึง ไปกันได้ยังว่ะ” ไอ้โชคเดินกลับมา พร้อมหิ้วขนม และผลไม้มาด้วย มันคงเดินไปซื้อที่โรงอาหารมาแหละ
“อ้าว ไปซื้อของมาก็ไม่บอก เดี๋ยวกูช่วยมึงออกน่ะโว๊ย” ผมพยายามส่งเงินให้มัน แต่มันไม่ยอมรับ
“เออ งั้นกูซื้อน้ำไปแทนแล้วกัน” ว่าแล้วผมก็พามันเดินกลับไปที่โรงอาหารอีกครั้งหนึ่ง ซื้อน้ำได้สองสามขวด ก็กำลังเดินออกมาจากโรงอาหาร โดยผมและไอ้โชคเลือกที่จะเดินทะลุอีกตึกหนึ่งที่อยู่ข้างๆกับตึกใหญ่... ในจังหวะนั้น ผมก็เห็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับผมสองคน คนหนึ่งดูมาดแมน แต่อีกคนดูออกว่าอ้อนแอ้น ทั้งสองคนกำลังวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในตัวตึกใหญ่อันนั้น...
“ไอ้โชค กูว่าสองคนนั่น เหมือนจะเป็น ไอ้พลกับอีแต๋นรึเปล่าว่ะ มึงว่ามั๊ย?”

Tuesday, August 3, 2010

บทที่ 141 " ผู้หญิงคนนั้น...คือใคร? "


บทที่ 141 “ ผู้หญิงคนนั้น...คือใคร? ”

ผมโผเผเดินกลับห้อง โดยไม่ให้มีพิรุธ ผ่านผู้คนก็ได้แต่ฝืนยิ้ม...จนพาร่างตัวเองมาอยู่ในห้องพี่หมวดอย่างไม่รู้ตัว
ผมเพ่งมองเตียงนอน...ใช่ที่แห่งนี้เคยมีบทรักอันเร่าร้อน ที่ผมเคยฝากฝังรอยมลทิน ไว้ให้พี่หมวด ...เมื่อคืนก่อนไม่ใช่รึ ที่มึงได้ตัดสินใจแน่วแน่ ว่าจะไม่คิดล่วงเกินพี่หมวดอีก ไอ้แกะ ...แล้วนี่มึงจะมาคิดห่วงหาอาวรณ์อะไรอีก...มึงเป็นอะไรของมึงห๊า เสียงก่นด่าตัวเองมาจากสมองซีกซ้าย...กูไม่รู้ กูเจ็บ ฮือ ฮือ กูไม่เหลือใครอีกแล้ว ฮือ ฮือ...สมองซีกขวาสั่งให้ผมพูดออกไป และดูเหมือนว่ามันจะดังจนกลบสมองซีกซ้ายเสียสิ้น...
ผมล้มตัวลงนอนบนที่นอนของพี่หมวด นอนคว่ำ เอาใบหน้าเกลือกกลิ้งกับหมอน พร้อมกับสูดดมกลิ่นกายแมนๆของพี่หมวดที่ยังคุกรุ่นอยู่...พี่หมวดครับ ผมจะทำยังไงดีครับ ผมรู้ตัวแล้วครับ ...ผมรักพี่หมวดครับ... พี่หมวดคือคนที่เข้าใจผมทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าหากพี่หมวดแต่งงานไป แล้วผมจะเหลือใครอีกล่ะครับ...
“ไอ้โง่เอ๊ย! ทีพี่ดำมึงยังตัดใจได้ แล้วนี่พี่หมวดเขายังไม่ได้คิดอะไรกับมึง มึงคิดดูให้ดีไอ้แกะ” เสียงนั่นกลับมาอีกแล้ว
ผมสบัดหัวไล่ความมึนงงออกไป จากนั้นลุกขึ้นออกไปล้างหน้าล้างตา เผื่ออะไรจะดีขึ้น...ผมกลับมานั่งครุ่นคิดที่ห้องรับแขกว่าจะทำอะไรต่อไป ...เผอิญมือหนึ่งกลับเอื้อมไปหยิบอัลบั้มรูปที่โต๊ะกลางโซฟาขึ้นมาเปิด... ใช่สิภาพพวกนี้ผมเคยดูมาแล้ว ก็ไม่มีอะไร มีแต่ภาพเพื่อนๆตำรวจและภาพกิจกรรมต่างๆที่พวกเขาทำเพื่อส่วนรวมเท่านั้น...จริงสิ พี่หมวดเคยโชว์อัลบั้มเก่าๆที่มีภาพพี่เก้งอยู่ด้วย บางทีอาจจะมีภาพผู้หญิง หรือแฟนพี่หมวดอยู่ก็ได้
ไวเท่าความคิด ผมรีบกระโจนเข้าไปในห้องพี่หมวดอีกครั้ง ค้นหาที่ชั้นตู้หนังสือ ตู้เสื้อผ้า ใต้เตียง...ไม่เจอ...อะไรกันเนี่ยะ พี่หมวดเอาอัลบั้มไปเก็บไว้ไหนน่ะ...ผมหันรีหันขวาง นั่นไงมีตู้เอกสารอยู่อีกตู้หนึ่ง แต่ทว่าล็อคกุญแจแน่นหนา เฮ้อ คงเป็นเอกสารลับของราชการ...รึว่าพี่หมวดจะเก็บเอาไว้ในนี้?
ผมกลับมานั่งเซ็งๆที่ห้องรับแขกอีกครั้ง ไม่อยากดูทีวี ก็เลยเปิดเทปแทน...
“ Because I'm truly
Truly in love with you girl
I'm truly head over heels with your love
I need you, and with your love I'm free
And truly,you know you're alright …with… me ”

“เพลง Truly นี่ แสดงว่าพี่หมวดฟังค้างไว้ ฟังกับใครล่ะ ถ้าไม่ใช่ฟะ แฟน” ผมลุกขึ้นไปปิดเทปทันที...แล้วกลับมานั่งซึมอยู่อย่างคนสิ้นหวัง...พี่หมวดอาจจะอยู่ที่ห้องนี้กับแฟน ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันออกไปข้างนอก
“เพลงนี้ที่โรงแรม พี่หมวดคงร้อง เพื่อแฟนสาวคนนี้สิน่ะ...แต่ทำไม ดูเหมือน...เหมือนว่าพี่หมวดจะร้องเพลงนี้ให้เรา...ฮึ ไม่ใช่ร๊อก มึงอย่าเข้าข้างตัวเองเลยไอ้แกะ”
“ก๊อกๆ ไอ้แกะ กูเอง” เสียงไอ้โชคตะโกนอยู่หน้าห้อง ผมเลยไปเปิดประตูให้มัน
“พ่อกูสั่งให้กูมานอนเป็นเพื่อนกับมึง ไงมึงไปส่งแจ๊ดมาแล้วสิ” ไอ้โชคเดินมานั่งที่โซฟา พร้อมเปิดทีวี ช่วงเวลานี้ของวันเสาร์จะมีอะไร ก็รายการเพลงทั่วๆไปตามสไตล์
“อ้าว มึงไม่อายพี่หมวดแล้วรึ” รู้สึกแปล๊บๆเมื่อเอ่ยถึงพี่หมวด...จะว่าไปตั้งแต่คืนแรกที่ไอ้โชคมานอนค้างเป็นเพื่อน และที่มันละเมอในวันนั้น มันก็ไม่กล้ามานอนอีกเลย...คงเกรงใจพี่หมวดน่ะแหละ
“เฮ้ย แกไปธุระ ไม่งั้นพ่อกูจะสั่งให้กูมานอนเป็นเพื่อนมึงเหรอ” ไอ้โชคดูรายการทีวีอย่างใจจดใจจ่อ
“ไปธุระ ธุระอะไรกัน ก็เห็นอยู่ทนโท่ ว่าออกไปกับสาว แถมหน้าตายิ้มระรื่นออกขนาดนั้น นี่กะจะออกไปด้วยกันทั้งคืนรึไง” ผมคิดในใจเท่านั้นไม่ได้ส่งเสียงให้ไอ้โชคได้ยินเด็ดขาด
“เฮ้ยๆ เพลงรวมดาวว่ะ เจ๋ง!” ไอ้โชคดูมันตั้งอกตั้งใจดูมาก เฮ้อ! ผมนั่งลงข้างๆมัน อืม ไอ้โชคมันน่าจะรู้จักแฟนของพี่หมวดเป็นแน่ ขนาดเรื่องเสี่ยสอน มันยังรู้เลย...นับประสาอะไรกับเรื่องแค่นี้...ดีล่ะ ผมจะต้องหาความจริงจากมันให้ได้
“ไอ้โชค เมื่อกี้กูเห็นพี่หมวดออกไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง ใครว่ะ แฟนแกเหรอ”
“ฮ่ะ ฮ่ะ จะว่าใช่ก็ไม่เชิงว่ะ” เอ้าไอ้นี่ กูยิ่งเศร้าๆอยู่น่ะมึง...แต่ผมก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างประหลาด
“ไรของมึงว่ะ บอกกูมาทีสิ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
“เฮ้ยๆ มึงเป็นไรของมึงไอ้แกะ” ผมคงแสดงอาการออกมากเกินไปมั๊ง ไอ้โชคถึงกับจ้องมองผมด้วยอาการประหลาด...เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะกู
“ปะเปล่า ก็ อ่ะ เ่อ่อ กะ กู กูก็อยากจะรู้จักพี่สะใภ้กูเหมือนกันนี่หว่า” ผมพูดเสียงอ่อยๆ ดีน่ะที่ไอ้โชคไม่เคยสงสัยอะไรในตัวผมเลย ถ้าหากว่ามันรู้เรื่องที่ผมกำลังคิดอะไรกับพี่หมวดอยู่ล่ะก็...เฮ้อ ไม่อยากคิด
“มึงนี่ชักจะยังไงสะแล้วว่ะ เป็นห่วงพี่ยุทธมากไงว่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”
“เออน่า มึงจะบอกกูได้ยังว่ะ ผู้หญิงคนนั้น แฟนพี่หมวดรึเป่า” ผมทำหน้าจริงจัง จนไอ้โชคยอมปริปากแต่โดยดี
“ผู้หญิงที่มึงเห็นในรถพี่หมวดน่ะ ชื่อพี่โรส เป็นน้องสาวของสารวัตรรุจน์ไง” อืม สารวัตรรุจน์ก็คือหัวหน้าพี่หมวดแหละ แล้วน้องสาวเขามาเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ยะ
“แล้วไง” ผมซักไซ้มันต่อ
“อ้าว ก็เขาสองคนสนิทสนมกันนี่ ดูเหมือนพี่โรสจะชอบพี่ยุทธเอามากๆ”
“เ่อ่อ แล้วๆ พี่หมวดล่ะชอบพะ พี่โรสมั๊ย” ผมตั้งอกตั้งใจฟังคำตอบด้วยหัวใจกระวนกระวาย
“ไม่รู้สิ กูก็เห็นพี่ยุทธเขาเฉยๆน่ะ แต่ใครๆเขาก็คิดว่าทั้งคู่เหมาะสมกันดี” เฮ้อ....ผมหายใจโล่งอกล่ะคราวนี้ อิอิอิ
“อ้าว แล้วพี่หมวดพาพี่เขาไปไหนว่ะ ดึกๆดื่นๆ” เอ้า กูยังมีคำถามต่ออีก
“เห็นว่า ไปงานเลี้ยงอะไรสักอย่าง เสร็จแล้วพี่ยุทธจะเดินทางต่อเข้ากรุงเทพ”
“อ้าว แล้วไงกูไม่รู้เรื่องเลยว่ะเนี่ยะ” ผมทำหน้างงๆ
“กูว่าคงงานด่วนแหละ แต่เห็นแกกำชับกับพ่อกูนักหนาน่ะโว๊ย ให้กูมาบอกมึงและมาค้างเป็นเพื่อนมึงนี่ไง” สงสัยจะเป็นเรื่องจริงแฮะ ผมพยายามเพ่งมองหากระดาษโน้ตหรืออะไรก็ได้ เผื่อพี่หมวดจะเขียนเอาไว้บอกผม... ทั้งที่บนโต๊ะกินข้าว โซฟา ผนังทั้งสี่ด้าน ฯลฯ ก็ไม่ยักกะมี เอ๊ะรึว่า...
ผมพรวดพราดลุกขึ้นได้ ก็เดินตรงรี่เข้าห้องนอนตัวเองทันที...โดยมีไอ้โชคเดินตามมาติดๆ แถมบ่นอะไรผมไม่ได้ยินแล้วตอนนี้
และนั่นไง บนโต๊ะอ่านหนังสือ มีกระดาษโน้ตสีขาว ถูกพับไว้ครึ่งหน้า และมีปากกาวางทับอยู่ข้างบน...ผมรีบคลี่ออกดู ก็เจอข้อความของพี่หมวดจริงๆ...
“อืม พี่หมวดบอกว่ามีธุระด่วนเข้ากรุงเทพ...จะกลับพรุ่งนี้เย็นๆว่ะ แถมกำชับให้กูวิ่งตอนเช้าด้วยน่ะมึง ฮ่ะ ฮ่ะ” ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ตกลงพี่หมวดไม่มีอะไรกับพี่โรสคนนั้นจริงๆหรือนี่
“ก็นี่ไง พ่อกูบังคับให้กู พามึงวิ่งตอนเช้าด้วยไง ฮ่ะ ฮ่ะ” ไอ้โชคส่ายหัวด้วยความขบขัน จะว่าไปบางทีพรุ่งนี้เช้าไอ้ม้วนอาจจะมาร่วมแจมด้วยอีกคน
ผมเก็บจดหมายพี่หมวดไว้ในลิ้นชัก จริงๆแล้วอยากจะยกขึ้นมาจูบ อิอิ แต่อายไอ้โชคมัน (เป็นเอามากน่ะกู ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ)...ตอนนี้ผมกับไอ้โชคกลับมานั่งที่โซฟาดูทีวีต่อ และผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“เออ ไอ้โชค แล้วทำไมพี่หมวดถึงพาพี่โรสไปงานเลี้ยงดึกจังว่ะ” นั่นนะสิสามทุ่มครึ่งเนี่ยะน่ะ แล้วพี่โรสไปกับผู้ชายดึกๆดื่นๆอีกด้วย น่าสงสัย
“อะไรของมึงอีกว๊า...ก็พี่ยุทธเพิ่งเลิกประชุมเอาตอนสามทุ่ม แล้วสารวัตรต้องทำงานต่อที่โรงพัก แกเลยฝากน้องสาวไปกับพี่ยุทธ ก็แค่นั้นเอง” ไอ้โชคสาธยายสะยืดยาว
"แล้วไง พี่หมวดต้องกลับมาส่งพี่โรสอีกล่ะสิท่า” ผมไม่วายระแวงต่อ
“เฮ้ยๆ นึ่มึงอย่าบอกน่ะว่า มึงกำลังหวงพี่ยุทธ ฮ่ะ ฮ่ะ” อ้าวไอ้เวร นี่กูปล่อยอะไรออกไปเป่าเนี่ยะ
“อะ เ่อ่อ” ผมติดอ่างเลยครับงานนี้ หุ หุ
“สารวัตรเขาจะตามไป พี่ยุทธคงอยู่งานเลี้ยงไม่นานหรอก เพราะแกต้องรีบขับรถเข้ากรุงเทพนี่” ไอ้โชคเริ่มเบื่อรายการเพลงแล้ว มันกำลังเปลี่ยนหาช่องใหม่
“เออ ไอ้แกะ แต่กูว่า พี่สะใภ้มึง คงไม่ใช่พี่โรสหรอกว่ะ”
“มึงหมายความว่าไง ไอ้โชค” ผมเริ่มสังหรณ์ใจบางอย่างแล้วสิ
“อ้าว มึงไม่รู้รึว่า พี่ยุทธเขาหมายปองพี่พยาบาลอยู่”
“เฮ้ย! มึงว่าไงน่ะ?” ผมร้องถามไอ้โชคด้วยความตกใจ