Wednesday, April 14, 2010

บทที่ 123 " Truly...I Will Be Your Lover "


บทที่ 123 “ Truly…I Will Be Your Lover ”
ผมได้แต่รำพึงในใจ...พี่หมวดครับ ผะ ผม...ผมจะทำยังไงดีครับ ผมจะทนไม่ไหว...ทนไม่ไหวแล้วครับ...ผมหลับตา ปล่อยให้หัวใจที่มันรุ่มร้อน เต้นเป็นส่ำไม่มีจังหวะจะโคน ราวกับกลองรบที่ตีระรัวเมื่อยามออกศึก ...เสียงเต้นของหัวใจ...เสียงเต้นแห่งแรงปราถนา...พี่หมวดคงสามารถสัมผัสได้ ใช่มั๊ยครับ ...ผมอยากจะหมุนตัว..เข้าไปกอดร่างพี่หมวด...ให้แนบแน่น...กอดจนพี่หมวดหายใจไม่ออก และดื่มด่ำกับความรัก ความเสน่หา ..อยากจะประกบปาก ควานหารสพิศวาส จากริมฝีปากแมนๆอันอบอุ่นเร่าร้อน พี่หมวดครับ...ผมอยากร่วมรักกับพี่หมวดเหลือเกินครับ....
แกะ เป็นอะไรไปครับ ไม่ต้องทำท่าซึ้งมากขนาดนั้นหรอก
เพล้ง! เสียงพี่หมวดเมื่อกี้ทำให้ผมถึงกับสะดุ้งสุดตัว ตกใจราวกับ กระจกบานใหญ่ที่ตกลงมากระทบกับพื้น แล้วแตกละเอียดไม่มีชิ้นดี...
เฮ้อ ฝันสลายเลยมึงไอ้แกะ ดูสิพี่หมวดไม่ยักกะคิดเหมือนที่มึงกำลังคิดเลย
พะ พี่หมวดครับ ผะ ผม ขะ ขอบคุณพี่หมวดมากน่ะครับ ผมปล่อยมือพี่หมวดออกเป็นอิสระ แล้วหันหน้าไปยกมือไหว้ที่หน้าอกของแก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ยังคงมีอยู่ในตัวมึงน่ะไอ้แกะ ว่าแต่อารมณ์ที่คั่งค้างเมื่อกี้มันหายไปไหนว่ะ...แกะน้อยถึงกับตกใจ อ่อนตัวลงฉับพลันทีเดียว...เออ จะไม่ตกใจได้ยังไงล่ะครับพี่น้อง ก็กูกำลังคิดไม่ซื่อกับผู้มีพระคุณ และกูเองไม่ใช่เหรอที่ลั่นวาจา ว่าจะไม่คิดอะไรกับพี่หมวดในทำนองนั้นอีก..
ไปกันได้รึยังครับ ท่านผู้กำกับ ฮ่ะ ฮ่ะ พี่หมวดตะเบ๊ะล้อเลียน หนอยคิดว่าผมใส่ชุดสูท แล้วดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัวล่ะสิ
พร้อมครับ ผู้หมวด ฮ่ะ ฮ่ะ เอาเข้าไปกูก็พลอยเล่นกับพี่หมวดไปด้วย
พี่หมวดผิวปาก และฮัมเพลงเบาๆ ดูเหมือนว่าแกจะมีความสุขมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เราสองคนเดินเคียงคู่กันลงมาที่ชั้นล่าง
ว๊าย หมวดขา แต่งตัวสะหล่อ จะไปไหนหรือค่ะ
โอ้โห ผู้บังคับบัญชาผม แต่งตัวเท่ห์ขนาดนี้จะไปไหนหรือครับ
อ้าว หมวดยุทธ จะพาน้องชายไปไหนกันครับ โห แต่งตัวหล่อทั้งคู่เลย
พี่หมวดยิ้มกว้าง ไม่ค่อยได้ตอบคำถามใครเท่าไหร่หรอกครับ ก็แกดูออกจะเขินๆอยู่ไม่ใช่น้อย เล่นเดินจ้ำอ้าวนำหน้าลิ่วๆ จนผมต้องวิ่งตาม...เฮ้อ สงสัยจะไม่เคยแต่งตัวใส่สูทแบบนี้มานานแล้วล่ะมั๊ง อิอิอิ
พี่หมวดขับรถพาผมออกนอกเมือง ผมล่ะงงมาก แกจะพาผมไปไหนกันเนี่ยะ เห็นผ่านร้านอาหาร...สวนอาหาร ไปตั้งหลายที่แล้วนี่
พี่หมวด จะพาผมไปไหนครับ นี่เรากำลังจะเข้าเขตของจังหวัด...แล้วน่ะครับ ผมอดถามไม่ได้ เพราะพี่หมวดขับรถย้อนกลับไปที่อำเภอหนึ่ง ซึ่งเจริญกว่าอำเภอที่ผมเรียนอยู่ และเป็นเขตของจังหวัดอื่นแล้ว...จะว่าไปก็เป็นอำเภอที่ผมต่อรถกลับบ้านน่ะเอง แต่พี่หมวดไม่ได้เลี้ยวซ้ายเพื่อจะเข้าเขตบ้านเกิดของผม แต่ กลับเลี้ยวขวา ไปที่ตัวจังหวัดของอำเภอนี้สะชิบ
อืม เดี๋ยวก็รู้ ฮ่ะ ฮ่ะ พี่หมวดหัวเราะเบาๆ ไม่ยอมบอกสะนี่
เราขับรถมาชั่วโมงหนึ่งเต็มๆ จึงเข้าเขตตัวจังหวัด...ผ่านมหาวิทยาลัยที่มีชื่อ ...เข้าเขตตัวเมืองที่ดูเจริญมาก รถราเยอะแยะไปหมด ที่สำคัญตึกรามบ้านช่องแออัดยัดเยียด...พี่หมวดขับรถผ่าน บขส. เลี้ยวเข้าไปที่บึงแห่งหนึ่ง รอบๆบึงจะมีร้านค้า ร้านอาหาร อยู่เต็มไปหมด แต่พี่หมวดไม่ยักกะจอดแฮะ
(ใครที่อยู่จังหวัดนี้ คงทราบน่ะครับว่าจังหวัดอะไร ก็จังหวัดที่ค้นพบซากไดโนเสาร์ยังไงล่ะครับ หุ หุ)
อืม เดี๋ยวว่างๆ เราค่อยมาเที่ยวแถวนี้กันใหม่น่ะ ตอนนี้ท่าทางจะมืดแล้ว เรารีบไปกันเถอะ" ว่าแล้วพี่หมวดก็ขับรถออกจากบึงนี้ไป...สุดท้าย พี่หมวดขับรถเข้าไปในโรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่ง
โห พี่หมวด ผมไม่เคยเข้าโรงแรม ผมอายน่ะครับ กูก็บ้านนอกเข้ากรุงจริงๆ ฮ่ะ ฮ่ะ ก็เด็กมันไม่เคยอ่ะน่ะ ...
อายทำไม พี่อยากให้แกะ ได้เปิดหูเปิดตาน่ะ เคยทานอาหารฝรั่งรึเปล่าล่ะ
อ่ะ เ่อ่อ ไม่เคยครับ แหม พี่หมวดจะเซอร์ไพร้ผมด้วยการมาทานอาหารหรูๆที่โรงแรมเลยหรือนี่ ...เอาว่ะ ไม่ลองไม่รู้ อิอิ
เราผ่านประตูเข้าไปในล๊อบบี้โรงแรม โห พนักงานต้อนรับที่หน้าประตู แต่งตัวชุดไทยทั้งผู้ชายโค้งคำนับ และหญิง ยกมือไหว้ อ่อนช้อย สวยงาม เล่นเอาผมละเขินไปเลย 555555+ (เฮ้อ ให้อภัยเด็กมันหน่อยน่ะครับพี่น้อง...ครั้งแรกครับครั้งแรก อิอิอิ ต่อเลยดีกว่า เดี๋ยวเรื่องเยิ่นเย้อ ไม่ไปถึงไหนสะที)
พี่หมวดพาผมเข้าไปในร้านอาหารฝรั่งจริงๆ คงจะนึกภาพกันออกน่ะครับพี่น้อง เราได้ที่นั่งแทบจะเป็นส่วนตัวเลยก็ว่าได้ เพราะมีผนังกั้นแต่ละโต๊ะ เป็นสัดส่วนดีทีเดียว
ผมดูราคาในเมนูแทบลมใส่ ทำไมมันแพงแสนแพงขนาดนี้ อาหารจานเดียว เท่ากับเงินทางบ้านที่ส่งให้ผมทั้งสัปดาห์เชียวน่ะเนี่ยะ
พี่หมวดครับ เปลี่ยนร้านเถอะครับ แพงจัง ผมกระซิบกระซาบ
ทำไมล่ะ พี่มีปัญญาจ่ายน่า..ฮึ ฮึ พี่หมวดหัวเราะเบาๆ พร้อมกับส่ายหัวไปมาเล็กน้อย
ผะ ผมเกรงใจน่ะครับ แล้วอีกอย่าง ไม่รู้จะสั่งอะไรดี ผมแก้ตัวแบบอายๆ
งั้นพี่สั่งสเต็กมาให้ลองทานดูน่ะ ถ้ายังไงเราสั่งเิ่พิ่มอีกก็ได้
แล้วพี่หมวดก็สั่งสเต็กเนื้อมาสองที่ ของพี่หมวดเอาแบบ Medium ส่วนผมขอแบบสุกๆดีกว่า ไม่อยากเสี่ยงอิอิ
พี่หมวดสั่งไวน์แดงมาแก้วหนึ่ง มันเหมาะที่จะทานกับเนื้อสัตว์จริงๆ ส่วนไวน์ขาวเหมาะกับพวกเนื้อปลามากกว่า ส่วนผมพี่หมวดสั่งพันช์ น้ำผลไม้รวมไม่มีแอลกอฮอล์มาให้ แหม หะรูหะรา เชียว อิอิ ที่ขอบแก้วทรงสูง มีร่มเล็กๆ และมีผลไม้เป็นชิ้นสัปรด ประดับด้วยลูกเชอรี่สีแดง ทำให้แก้วเครื่องดื่มของผมน่าดื่มยิ่งขึ้น...ผมลองจิบดู โอ้โห รสชาดอร่อยจริงๆ สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก
พี่หมวดแล้วผมจะทานยังไงล่ะครับ ผมมองจานสเต็กที่อยู่ตรงหน้า ไอ้พวกมันฝรั่งทอด อะไรต่างๆที่อยู่ในจาน มันก็พอจะเอาส้อมจิ้มได้หรอก แต่ชิ้นเนื้อนี่สิมันชิ้นใหญ่เกินไป
แกะ ลองใช้มีดเฉือนเบาๆน่ะครับ แล้วใช้ส้อมประคองไปด้วย ลองทำตามแบบพี่ดูน่ะครับ ว่าแล้วพี่หมวดก็สาธิตวิธีอย่างคล่องแคล่ว
เพล้ง! เสียงมีดกระทบจานทองเหลืองดังสนั่น ผมละอายมากเพราะผู้คนที่อยู่ในร้านต่างก็หันมาที่ผมเป็นจุดเดียว
โอย..ขายหน้าชิบหาย มึงดูสิไอ้แกะ คนที่นั่งอยู่ในร้าน แต่งตัวยังกะคุณหญิงคุณนายกันทั้งนั้น แล้วนี่พี่หมวดจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ยะ
ฮึ ฮึ ไม่เป็นไร แกะ เอาลองใหม่ เบาๆน่ะครับ พี่หมวดให้ผมลองใหม่ พร้อมกับจิบไวน์ไป อย่างเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
โห สงสัยมือหนักไปน่ะครับ อิอิ แล้วพี่หมวดไม่อายเขาหรือครับ ผมพยายามเฉือนใหม่ คราวนี้ค่อยยังชั่วขึ้นแล้ว
จะต้องอายทำไมล่ะครับ พี่ว่าน่ารักดีออก อ้าว อะไรกันครับพี่หมวด ทำไมมองผมด้วยสายตาแบบนั้นล่ะครับ อย่าบอกน่ะว่าฤทธิไวน์พาไป...
เราทานอาหารกันจนอิ่มหนำสำราญ เสร็จ ผมนึกว่าพี่หมวดจะพากลับบ้านเลย แต่แกกลับพาผมไปที่มุมคาราโอเกะ ซึ่งจะมีจอขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าเวที และมีโต๊ะนั่งฟังเพลง อยู่กระจัดกระจายไปตามห้องอยู่ด้านหน้า ส่วนมากคนเขาจะมาร้องเพลง รึไม่ก็สั่งเครื่องดื่มมาดื่มกันที่โต๊ะ โดยที่ตรงนี้จะเป็นการร้องโชว์แบบที่ใครๆก็ได้ชมกันหมด แต่ถ้าสนใจที่จะเปิดห้องส่วนตัวก็มีอยู่บริเวณด้านหลังถัดเข้าไปอีก
พี่หมวดเลือกโต๊ะเล็กๆ แบบสองคนนั่ง แล้วสั่งเครื่องดื่มมาคนละแก้ว ตอนนี้พี่หมวดสั่งเป็นแบบวิสกี้ผสมโซดา ส่วนผมแกบังคับให้ดื่มน้ำส้ม อิอิ
เราฟังคนอื่นร้องไปเรื่อยๆสักพัก ก็มีพนักงานเข้ามาถามว่า สนใจจะร้องเพลงรึเปล่า พี่หมวดเลยให้ผมร้องเพลงโชว์หนึ่งเพลง แต่ตอนนี้เพลงที่ทุกคนร้องเป็นเพลงสากล เอ๊ะเราก็ร้องได้นี่หว่า เพียงแต่สำเนียงอาจจะเพี้ยนหน่อย อิอิ ก็เคยแต่ร้องโชว์กับเพื่อนๆในห้องเรียนอ่ะครับ..ในที่สุดผมก็เลยเลือกเพลง...Annie’s song ของ John Denver
พอผมร้องจบ มีคนปรบมือให้ผมกันเกรียวทีเดียว แหมก็ดีใจสิครับ เด็กอายุแค่สิบห้าร้องได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว...
ร้องเพลงเพราะนี่เรา พี่หมวดเอามือมาจับหัวผมโยกไปมา ตอนนี้ใบหน้าพี่หมวดเริ่มแดงระเรื่อ คงจะดื่มไปหลายแก้วแล้ว และโดยไม่คาดฝัน พี่หมวดดึงมือผมไปกุมไว้อย่างรวดเร็ว...ดีน่ะที่นั่งติดต้นเสา และแสงไฟสลัวๆ คงไม่มีใครสังเกตุเห็นหรอกน่ะ
อ่ะ เ่อ่อ พะ พี่หมวด ทะ ทำ อะไรครับ ผมพยายามเรียกพี่หมวด และพยายามดึงมือกลับมา
แกะ รู้มั๊ยครับ วันนี้พี่ดีใจ ดีใจที่แกะ อ่ะ เ่อ่อ ย้ายมาอยู่กับพี่น่ะครับ เือือก พี่หมวดจ้องมองผมด้วยสายตาแปลกๆ และก็สะอึกเล็กน้อย
พี่หมวดเมาแล้วน่ะครับ กลับบ้านกันเถอะครับ ไม่น่ะ พี่หมวด อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้นสิครับ ก็พี่หมวดไม่ให้ผมคิดเรื่องแบบนั้นไม่ใช่หรือครับ...
ยังก่อน พี่ขอร้องเพลงนี้ก่อนน่ะครับ ทันทีที่พูดจบ พนักงานสาวสวยก็เดินยิ้มร่า เอาไมค์ลอย มาให้พี่หมวด แกก็เลยปล่อยมือผมโดยปริยาย พร้อมกับรับไมค์ แล้วยืนขึ้น เตรียมพร้อมที่จะขับร้องเพลง และเพลงนั้นก็คือ....
**************************************
Girl, tell me only this
That I'll have your heart for always
And you want me by your side
Whispering the words I'll always love you
And forever I will be your lover
And I know if you really care
I will always be there
Now I need to tell you this
There's no other love like your love
And I,as long as I live,
I'll give you all the joy
My heart and soul can give
Let me hold you
I need to have you near me
And I feel with you in my arms
This love will last forever
Because I'm truly
Truly in love with you girl
I'm truly head over heels with your love
I need you, and with your love I'm free
And truly,you know you're alright …with… me
**************************************

Thursday, April 8, 2010

บทที่ 122 " ใกล้ชิด...จิตเสน่หา "


บทที่ 122 ใกล้ชิด...จิตเสน่หา
ผมอึ้งและยืนเซ่ออยู่กับที่...จริงสิ ปากบอกว่า ถึงเวลาตัดใจแล้ว แต่ไม่รู้ว่าภายในใจ จะเก่งเหมือนปากตนเองรึเปล่าน่ะ...
ไป... ไอ้น้อง เตรียมตัวไปทานข้าวเย็นกันดีกว่า ดูเหมือนพี่หมวดจะเข้าใจดีว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ แกจึงตบหลังผมเบาๆ แล้วโอบไหล่ของผม ให้หันหลังกลับขึ้นแฟลต
ผมเดินตามพี่หมวดขึ้นไปบนชั้นสองด้วยใจเลื่อนลอย...แนะมึงยังจะคิดอะไรอีกไอ้แกะ บอกว่าตัดใจแล้วก็ตัดใจสิว่ะ...
เฮ้! เงียบเชียว ไม่เอาน่ะครับ พี่ว่าจะจับเราแต่งตัวไปอวดสาวๆดีกว่า ฮ่ะ ฮ่ะ พี่หมวดพยายามแหย่ให้ผมดูดีขึ้น พร้อมกับเปิดประตูห้องเข้าไปข้างใน
แกะ ไปอาบน้ำก่อนน่ะ เดี๋ยวพี่จัดการธุระแป๊ปหนึ่ง ว่าแล้วพี่หมวดก็เดินเข้าไปในห้องนอนของแก ผมก็เลยจำเป็นต้องเข้าไปอาบน้ำก่อน ก็ดีเหมือนกัน อยากอาบน้ำสระผมให้มันดูสดชื่นขึ้น...
โห! นี่ชุดอะไรครับพี่หมวด ผมตกใจที่เห็นเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม กางเกงผ้าสีออกกรมท่า เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีออกชมพูอ่อนๆ แถมมีเนคไทสีเีดียวกับกางเกงเพียงแต่มีลวดลายเฉลียงๆสลับกันระหว่างสีเหลืองกับสีม่วง นอกจากนี้ยังมีเสื้อสูทสีเดียวกับกางเกง และเข็มขัดหนังสีดำ ของทุกอย่างถูกวางอย่างปราณีต บนที่นอนของผมเอง
เป็นไง...ชอบมั๊ยครับ พี่หมวดอมยิ้ม สายตามีประกายแห่งความสุข ในขณะที่แกกำลังแกะกล่องรองเท้าหนังสีดำ และดึงถุงเท้าสีน้ำเงินเข้ม ออกมาจากกระเป๋ากระดาษ...
ว้า! ชุดสูท ยังกะคนทำงานเลยอ่ะ ผมบ่นไปตามเรื่อง แล้วเดินเลยไปเอาลูกกลิ้งมาถูระงับกลิ่นกาย
อ้าว แกะไม่ชอบหรอกหรือ... ดูพี่หมวดสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที ...
พี่อุตส่าห์เตรียมไว้ให้ อ่ะ เอ่อ
เตรียมไว้ให้เหรอครับ ผมเห็นพี่หมวดทำหน้าสลดลงเล็กน้อย ก็เลยพยายามทำทีเป็นสนใจขึ้น ผมเอื้อมมือไปหยิบเสื้อเชิ้ตขึ้นมาพินิจพิเคราะห์
ใช่ พี่ตั้งใจซื้อให้แกะ ในวันแรกที่แกะเข้ามาอยู่ที่นี่ น้ำเสียงแกแปร่งๆเล็กน้อย...สงสัยจะน้อยใจล่ะมั๊ง ดีล่ะจะแกล้งให้เข็ด...อย่างผมอ่ะ กางเกงยีนส์เสื้อยืดก็หรูแล้ว
โหย พี่หมวด เสื้อสีชมพู อูย ไม่เอาอ่ะครับ จะใส่เข้าไปได้ไงเนี่ยะ ผมไม่ใช่พวกกระเทยน่ะคร๊าบ ผมรีบวางเสื้อเชิ๊ตลงไว้กับที่นอนทันที
ใครบอกล่ะ นี่เขาเรียกว่าสีโอโรส ผู้ชายที่ใส่สีนี้น่ะ สาวๆเขาบอกว่า มีเสน่ห์ ดูสะอาด อบอุ่น แกะนี่ไม่รู้อะไรเอาสะเลย พี่หมวดทำเสียงเข้มใส่ผมทันที
คร๊าบ ผมอายุแค่สิบห้าเองน่ะครับพี่หมวด...เฮ้อ...คนแก่ก็งี้แหละไม่เข้าใจวัยรุ่นเล๊ย
เฮ้ยๆ พี่ยังไม่แก่น่ะ มานี่เลย จะใส่รึไม่ใส่ พี่หมวดลุกขึ้นพยายามจะจับผมมาแต่งตัว
ไม่ใส่... ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ผมวิ่งหนีพี่หมวดไปรอบๆห้อง
ไอ้เด็กนี่ หยุดเดี๋ยวนี้น่ะ พี่หมวดวิ่งไล่กวดตามผมมาติดๆ
จ้างให้ก็ไม่ใส่ ชุดคนแก่ ฮ่ะ ฮ่ะ โห่ๆๆๆๆๆๆๆ ฮิ้ว ผมวิ่งหนีแกต่อ พี่หมวดเลยเร่งความเร็ว กระโดดกอดเอวผมทางด้านหลังทันที
อึ๊บ เก่งนักเรอะ ไอ้แกะน้อย อุ๊บ!” จังหวะนั้นเอง
ผ้าขนหนูหลุด!
ผมยืนร่างกายเปลือยเปล่า กำลังตกใจที่ผ้าขนหนูลงไปกองที่พื้น ในขณะเดียวกันร่างของพี่หมวดที่สูงกว่าผมถึง สิบห้าเซ็น (พี่หมวด 190 ผม 175 ) แกยืนกอดตัวผมแนบแน่นตั้งแต่ช่วงคอ ไปจนถึงต้นขาทีเดียว ผมรับรู้ถึงลมหายใจของแกกำลังรดต้นคอของผมไปมา และได้ยินเสียงหัวใจที่กำลังเต้นระรัวจากการวิ่งไล่ผมเมื่อกี้และแน่นอน...ผมรู้สึกถึงพวงสวรรค์อันอวบอูมของพี่หมวด กำลังสัมผัสกับร่องก้นที่ไร้อาภรณ์ ของผม มันให้ความรู้สึก ...อบอุ่น... วาบหวิว... อย่างประหลาด
อ่ะ เอ่อ พี่ไปอาบน้ำก่อนน่ะ พี่หมวดถอนตัวออก แล้วเดินหนีจากห้องผมไปดื้อๆ
โป๊ก! กูบอกมึงแล้วกี่ครั้ง ไอ้แกะ อย่าคิดอะไรเลยเถิดกับพี่หมวดอีก...ผมเขกหัวตัวเองอีกครั้ง เฮ้อ เจ็บน่ะมึง ไอ้ห่า....
ผมดึงลิ้นชักด้านล่างตู้เสื้อผ้า เพื่อหากางเกงในมาใส่ อ้าว นี่พี่หมวดซื้อใหม่ให้ผมเลยเหรอ มีเป็นโหลเลยมั๊ง ผมเลือกมาตัวหนึ่ง จากนั้นก็ใจลอยเอาชุดที่พี่หมวดมาสวมใส่โดยไม่ได้ตั้งใจ...
ผมนั่งอยู่บนที่นอน...คิดอะไรเหม่อลอย...มองดูตัวเองในกระจกเงาใบใหญ่ ที่ติดเอาไว้ข้างในบานประตูของตู้เสื้อผ้า....ผมไม่ได้สนใจชุดที่สวมใส่หรอก แต่ผมกำลังคิด คิดว่า ถ้าหากผมตัดใจจากพี่ดำแล้ว เกิดผม...ผมหลงรักพี่หมวดแบบนั้น แล้วผมจะทำยังไงดี...
อืม หล่อจัง บอกแล้วไง ชุดนี้น้องชายของพี่จะต้องหล่อกว่าใคร ฮึ ฮึ พี่หมวดแต่งตัวเรียบร้อย ใส่ชุดสูทสีออกดำๆ กับเสื้อเชิ๊ตสีขาว แน่นอนแกผูกเนคไทสีกรมท่ามาด้วย ดูหล่อเนี๊ยบไม่มีที่ติ
มาพี่จะผูกเนคไท ให้น่ะครับ พี่หมวดเอื้อมมือมาผูกเนคไทให้ผม กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆสำหรับชายชาตรี เตะจมูกผมอย่างจัง ...โอว์ พี่หมวดครับ เสน่ห์ของพี่หมวดช่างยั่วยวนเหลือเกินครับ...ผมพยายามสลัดหัวเพื่อไล่ความรู้สึกด้านมืดออกไป แต่ทว่า...ความแนบเนื้อ ...ความใกล้ชิด ...ความอบอุ่น ที่ผมได้รับในขณะนี้มันกลับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นๆ...และมากขึ้นตามลำดับ....และแล้วแกะน้อยก็เริ่มตื่นตัวขึ้นมาฉับพลัน
ผมจำไม่ได้ว่าพี่หมวดสวมเสื้อสูทให้ผมตั้งแต่เมื่อไหร่...จำไม่ได้ว่าพี่หมวดสวมถุงเท้าและรองเท้าให้ผมตอนไหน...จำไม่ได้ว่าพี่หมวดใช้เจลละเลงที่ศีรษะ...จัดแต่งทรงผมให้ตอนใด...และจำไม่ได้ว่าพี่หมวดใช้น้ำหอมมาป้ายที่ข้อมือ.. หลังหู เวลาไหน ผมรับรู้แต่เพียงว่า ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์เย้ายวนชวนฝัน...เสน่ห์ที่กระตุกอารมณ์ด้านมืดของผมให้ลุกโชน...เสน่ห์ที่ผมอยากจะร่วมรักกับเขาทุกวินาที
ใช่แล้ว ผมกำลังบ้าคลั่ง... หลงไหลในความเป็นชายชาตรี ของพี่หมวดอย่างเหลือเกิน และนั่นเป็นผลให้เจ้าแกะน้อยตัวดีดีดตัว กระตุกเต้นเร่าๆ ...น้ำหล่อลื่นถูกส่งไประบายที่ส่วนหัวจนฉ่ำเยิ้ม...และนี่มันคือสัญญาณ...สัญญาณความปราถนาทางเพศ ที่ผมต้องการระบายมันออกมา
ผมมองกระจก มองผ่านตัวเองไปทางด้านหลัง ใช่ครับผมกำลังจ้องมองเรือนร่าง... ใบหน้า...ของพี่หมวดที่กำลังช่วยผมแต่งตัวอยู่ ใบหน้านั้นยิ้มแย้มหล่อเหลาเหลือเกิน ผมเอื้อมมือด้านขวาเข้ามากุมมือของพี่หมวด กดกระชับให้มันสัมผัสกับหัวใจของผมที่กำลังเต้นระทึก... โหยหา... รสรัก... รสสวาทที่เคยสัมผัสกับพี่หมวดมาแล้วในครั้งกระนั้น
พี่หมวดครับ ผมจะทนไม่ไหวแล้วน่ะครับ

Sunday, April 4, 2010

บทที่ 121 " ถึงเวลา...ต้องตัดใจ "


บทที่ 121 ถึงเวลา...ต้องตัดใจ
อะไรน่ะครับ พี่กวาง! ผมตกใจอุทานดังลั่น ผมรู้สึกเหมือนกับว่า หัวใจมันหล่นลงไปที่ตาตุ่ม...ร่างกายมันเบาโหวง...หมดเรี่ยวแรง...ผมเซถลา ถอยหลังหกล้ม ก้นจ้ำเบ้า นั่งลงบนที่นอน....นี่แสดงว่า พี่ดำบอกความจริงพี่กวางไปแล้วอย่างงั้นหรือ....
ว่าแล้ว เป็นอย่างที่คิดจริงๆ ฮือ ฮือ... พี่กวางยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น
พะ พี่กวาง ผะ ผม คือ ผมตกใจ ไม่รู้จะทำยังไงดี นี่พี่กวางรู้แล้วใช่มั๊ยเรื่องระหว่างผมกับพี่ดำ....
พี่กวางเงยหน้าขึ้น มองผมผ่านหยาดน้ำตา แล้วก็เดินหนีไปนั่งก้มหน้าร้องไห้ที่เก้าอี้อ่านหนังสือ
ฮือ ฮือ ทำไมแกะ ไม่บอกพี่ตั้งแต่แรก เราไม่ใช่พี่น้องกันหรอกรึ ฮือ ฮือ พี่กวางยังคงปิดหน้าร้องไห้ต่อไปอย่างเวทนา
โอ พี่กวาง ผะ ผม... ผมอยากจะขอโทษพี่กวางจริงๆ ในเมื่อพี่กวางรู้เรื่องแบบนี้ แสดงว่าผมกำลังทำร้ายจิตใจพี่สาวของตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัย แถมถ้าเรื่องรู้ไปถึงหูของพ่อแม่ แล้วผมจะทำตัวยังไงดี....
ตอนนี้ความรู้สึกผิด มันเข้ามาเกาะกุมหัวใจของตัวเองเหลือเกิน ไม่น่าเลยมึง ไอ้แกะ ไม่น่าทำร้ายคนที่มึงรักได้ถึงเพียงนี้ มึงไม่น่าปล่อยตัวปล่อยใจ มีอะไรเลยเถิดกับพี่ดำเลย ผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง น้ำตาเจ้ากรรมเริ่มเ่อ่อล้นออกมาที่ขอบตา อย่างช่วยไม่ได้
แกะ น่าจะบอกพี่... พี่จะได้ตัดใจตั้งแต่ตอนแรก ฮือ ฮือ พี่กวางเงยหน้าขึ้นมามองผม และกล่าวตัดพ้อ หลังจากที่ร้องไห้ไปสักครู่
พี่กวางครับ พี่กวางรู้หรือครับ อ่ะ เอ่อ ใครเป็นแฟนพี่ดำอ่ะครับ ฮือ ฮือ ผมเริ่มจะควบคุมน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว...
แล้วแกะจะร้องไห้ ไปทำไมล่ะ ฮือ ฮือ
คะ คือ ผะ ผม ฮัก ฮัก ผมเริ่มสะอื้นโดยไม่รู้ตัว จะไม่ให้ผมร้องไห้ได้ยังไงล่ะครับ ใครเป็นแฟนพี่ดำ ผมย่อมรู้อยู่แก่ใจ
แฟนของดำ เขาชื่อ...ฮือ ฮือ ผมหลับตา กลั้นลมหายใจ ไม่น่ะ อย่าเอ่ยชื่อไอ้น้องเลวคนนี้ออกมา....
ชื่อ ...พร... ใช่มั๊ย ฮือ ฮือ สิ้นเสียงพี่กวาง เหมือนเสียงระฆังช่วย ที่แท้ พี่กวางรู้เรื่องพี่พรนี่เอง
เฮ้อ ! ผมถอนใจ หายใจโล่งอก อย่างประหลาด ความอึดอัด เมื่อกี้ มันอันตธาน หายไปแล้ว....
ผมลุกขึ้นเดินไปหยิบกล่องกระดาษทิชชูไปให้พี่กวาง
เช็ดน้ำตาเถอะครับ แล้วค่อยๆเล่าให้ผมฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ผมยิ้มทั้งน้ำตา ทั้งโล่งใจ และสบายใจ ที่ตัวเองไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้พี่สาวสุดที่รักจะต้องร้องให้ เสียใจ
ก็วันนี้ที่ร้านขนม พี่ถูกพวกผู้หญิงสามคนรุมประณาม ฮือ ฮือ...หาว่าพี่ไปแย่งแฟนของเพื่อนเขา ฮือ ฮือ พี่กวางเอากระดาษทิชชูมาเช็ดน้ำตาป้อยๆ แล้วสะอึกสะอื้นต่อไม่หยุด...(น่าจะเป็นตอนที่พี่ดำกับพี่กวางตั้งใจมาส่งผมที่แฟลตพี่หมวด แล้วไม่เจอผม...เลยถือโอกาสไปทานขนมที่ร้านเจ๊แหม่ม)
อ๋อ เพื่อนพี่พรน่ะหรือครับ
ชะ ใช่ เขายังมีชี้หน้าด่าพี่ด้วยว่า หน้าด้าน ฮือ ฮือ
ละ แล้ว พี่ดำ เขาทำยังไงล่ะครับ พี่ดำน่ะพี่ดำ เดี๋ยวออกไปจะไปจัดการสะหน่อย โทษฐานที่ไม่ปกป้องพี่กวาง
เขาก็พยายามห้าม แต่พวกผู้หญิงสามคนนั้นไม่ยอม ฮือ ฮือ
อ้าว แล้วพี่กวางทำยังไงล่ะครับ
พี่จะทำไงได้ล่ะ ก็พี่ไม่รู้นี่ว่า ดำเขามีแฟนแล้ว ฮือ ฮือ
โห แล้วทำยังไงพวกนั้นเขาถึงหยุดว่าพี่ได้ล่ะครับ ตอนนี้อารมณ์โกรธเริ่มพุ่งขึ้นมาแล้ว พี่ดำผมจะไม่ให้อภัยพี่เลย ปล่อยให้พี่สาวผมถูกด่าเสียๆหายๆแบบนี้ได้ยังไง
ก็พอดี เธอคนนั้นแหละ เอ่อ คนที่ชื่อพร...เธอมาห้ามไว้ และกล่าวขอโทษขอโพยพี่
อะไรน่ะ แล้วพี่พรบอกอะไรพี่รึเปล่าครับ
ฮือ ฮือ เธอบอกแต่เพียงว่า เธอกับดำตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกัน
ก็ อ่ะ เอ่อ มันก็ถูกต้องแล้วนี่ครับ
แล้วทำไมพวกนั้นถึงหาว่า พี่ไปแย่งแฟนเพื่อนเขาล่ะ... อีกอย่างคนที่ชื่อพร เขาก็น่ารักดี สมกับดำจะตาย ฮือ ฮือ
พี่กวางครับ พี่เข้าใจผิดแล้วล่ะครับ ผมดึงร่างพี่สาวของผมยืนขึ้น
ใช่ครับ พี่ดำกับพี่พร เขาเคยเป็นแฟนกันมาก่อน แต่ทว่าเขาเลิกกันก่อนที่จะเจอพี่กวางสะอีก... ผมกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกมันกระอักกระอ่วนใจพิกล เพราะรู้ทั้งรู้ว่าที่พี่ดำเลิกกับพี่พร เพราะผมเป็นต้นเหตุน่ะเอง
จริงเหรอ ไม่โกหกพี่น่ะ พี่กวางหยุดร้องไห้ จ้องหน้าผมเขม็ง
โธ่ ผมจะโกหก พี่ไปทำไมล่ะครับ ...และตอนนี้พี่พรเขาเป็นแฟนกับพี่กล้าไปแล้ว
จริงเหรอ...โธ่เอ๊ย แย่จังเลยอ่ะ พี่ต่อว่าดำเขาสะมากมาย น่าขายหน้าจริงๆเลย พี่กวางเริ่มยิ้มออก สีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่มีใครเหมาะสมกับพี่ดำ เท่าพี่กวางหรอกครับ อย่าไปคิดว่าคนอื่นเขาจะดีกว่าตัวพี่สิครับ
อืม ขอบใจน่ะ ที่ทำให้หูตาพี่สว่างสะที พี่กวางยิ้มดีใจอย่างเหลือล้น
ว่าแต่ ทำไมเราถึงร้องไห้ล่ะ ในตอนแรกๆอ่ะ ตอนนี้ผมสะดุ้งอีกครั้ง จะไม่ให้ผมร้องไห้ได้ยังไงล่ะครับ ก็ผมนึกว่าพี่กวางรู้เรื่องระหว่างผมกับพี่ดำน่ะสิ
ก็ ผะ ผมรักพี่สาวของผมนี่ครับ ผมน้ำตาซึมออกมาอีก ถ้าผมไม่รักพี่กวาง ผมจะยินดีเสียสละคนรักให้พี่ได้หรือครับ..และตอนนี้คนรักของผม...น่าจะเรียกว่า อดีตคนรักจะถูกกว่า...เขาเองก็ตกลงใจเป็นแฟนกับพี่ไปแล้วนี่ครับ และเขาคงลืมเลือนผมไปแล้ว
แกะ พี่เองก็รักน้องชายของพี่คนนี้มาก เหมือนกัน ขอบใจ ขอบใจจ๊ะ พี่กวางเดินเข้ามาจ้องหน้า แล้วจับแขนผมข้างหนึ่งแกว่งไปมา เป็นการสื่อด้วยความรักระหว่างพี่กับน้อง
ออกไปหาพี่ดำกันเถอะครับ ป่านนี้เขาคงจะเป็นห่วงพี่มาก
พอผมกับพี่กวางเปิดประตูออกมา พี่ดำถึงกับลุกยืนขึ้น สีหน้าเป็นกังวลมากๆ และสายตากับจ้องมองที่พี่กวางเป็นจุดเดียว ...นั่นแสดงให้เห็นว่าจิตใจของพี่ดำจดจ่ออยู่กับพี่กวางแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
กวาง อ่ะ เ่อ่อ เป็นไงบ้าง ...อ่ะ เอ่อ นานจัง ดำเป็นห่วงมากรู้มั๊ย ถึงตอนนี้มึงต้องตัดใจแล้วล่ะไอ้แกะเอ๊ย ดูสิ ทั้งกริยาท่าทาง คำพูดคำจา พี่ดำดูเป็นห่วงเป็นใยพี่กวางมากมายเหลือเกิน
นั่นสิ แกะ อธิบายอะไรให้กวางเข้าใจขึ้นรึยังครับ พี่หมวดเองก็ดูเป็นห่วงไม่น้อย
เอ่อ ดำ ค่ะ กวางขอโทษค่ะ ...พี่ยุทธค่ะ กวางขอโทษด้วยน่ะค่ะ พี่กวางเ่อ่ยขอโทษพี่ดำ แล้วยกมือไหว้ขอโทษพี่หมวด เนื่องจากทำให้ทั้งคู่เป็นห่วง
กะ กวาง เข้าใจดำแล้ว ใช่มั๊ยครับ เอ่อ เห็นมั๊ยครับพี่ยุทธ ในที่สุดกวางเขาก็เข้าใจผม ไชโย้!ดูจะดีอกดีใจเกินไปรึเปล่าครับพี่ดำ....
อืม เข้าใจกันก็ดีแล้ว พี่ยินดีด้วย พี่หมวดยิ้มกว้าง และรู้สึกยินดีที่ทั้งคู่เข้าใจกันแล้ว
ขอบคุณแกะมากน่ะครับ ที่ช่วยอธิบายเรื่องราวให้กวางเข้าใจ พี่ดำหันหน้ามาขอบคุณผม...น้ำเสียงนั้นมีความยินดี แต่แฝงไว้ด้วยความห่างเหินเหลือเกิน ตอนนี้พี่ดำคงจะลืมผมไปจริงๆแล้วทีเดียว
ครับ คราวหน้าอย่าให้พี่กวางเสียใจอีกน่ะครับ
พี่ให้สัญญาครับ
แล้วไม่รีบพาพี่กวางกลับบ้านล่ะ กี่โมงแล้วล่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่เป็นห่วงน่ะครับ
จริงสิ งั้นพี่ต้องรีบไปแล้ว ลาก่อนน่ะครับพี่ยุทธ พี่ดำโบกมือให้ผม และหันไปยกมือไหว้ลาพี่หมวด
พี่มาเห็นที่อยู่ของเราแล้ว และพี่ยุทธก็ดูแลเราอย่างดี เดี๋ยวกลับไปพี่จะบอกพ่อกับแม่ ว่าไม่ต้องเป็นห่วงเราแล้วน่ะ พี่กวางพูดกับผมด้วยความสุข ความสุขจากการที่เข้าใจพี่ดำคนรักน่ะแหละ
ไปก่อนน่ะค่ะพี่ยุทธ ฝากแกะด้วยน่ะค่ะ แล้วพี่กวางก็หันไปยกมือไหว้ล่ำลาพี่หมวด
ผมและพี่หมวดเดินมาส่งสองหนุ่มสาวที่ด้านล่าง และก็เห็นว่าทั้งคู่ดู กระหนุง กระหนิง รักใคร่กันมากกว่าเดิม ทั้งสองคนโบกมือล่ำลา แล้วขับรถจากไป
ตอนนี้แกะคงเห็นแล้วสิน่ะว่า ทั้งคู่รักกันมากเพียงใด พี่หมวดเ่อ่ยขึ้นมาเบาๆ
ครับพี่หมวด คงถึงเวลาที่ผมจะต้องตัดใจสะที ผมยังคงเหม่อมองไปข้างหน้า ภาพของพี่ดำกับพี่กวางยังติดอยู่ในความทรงจำ ดูเหมือนว่าทั้งคู่ยังคงอยู่ที่เดิม...ทั้งๆที่ทั้งคู่ได้ขับรถออกไปแล้ว
อืม ดีแล้ว...และต่อไปนี้ พี่หวังว่า แกะคงไม่หวนกลับไปเดินเส้นทางนั้นอีกน่ะครับ