Thursday, June 17, 2010

บทที่ 134 " อย่าเพิ่งถาม...ผมกำลังเงี่ยน! "


บทที่ 134 อย่าเพิ่งถาม...ผมกำลังเงี่ยน!
ผมเพ่งมองท่อนเนื้อขนาด 9 นิ้ว ที่กำลังดิ้นเร่าๆอยู่ภายใต้กางเกงผ้ายืดสีขาว อืม ท่อนรักท่อนนี้ผมเคยสัมผัสมาแล้ว มันใหญ่ยาวเต็มปากเต็มคำดีแท้...ผมเือื้อมมือจะเข้าไปจับ อยากจะคลึงเคล้าให้มันสะใจเหลือเกิน
อะ อืม เสียงพี่หมวดครางเบาๆ ผมเลยชงักกึกอยู่กับที่ ...พี่หมวดนอนพลิกตัวไปด้านซ้าย...ตายห่า ถ้าพี่หมวดตื่นขึ้นมาจะทำไงดีว่ะเนี่ยะ
คร่อกฟี้ๆ และแล้วพี่หมวดก็กลับมานอนหงายในท่าเดิม แถมนอนกรนต่ออีกต่างหาก...เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย
ผมก้มหน้าลงไปใกล้ๆ อยากประกบปากกับปากแมนๆของแกจังเลย...
-------------- เสียงกรนของพี่หมวดเงียบไป รึว่าแกรู้สึกตัวแล้วว่าผมกำลังจ้องมองแกอยู่ และริมฝีปากของผมก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
เอาไงดีว่ะกู ถ้าแกรู้สึกตัวจริงๆ แล้วแกโอนอ่อนผ่อนตามก็ดีสิ ...แต่จะดีรึ...ไอ้แกะ มึงลองคิดดูให้ดีสิว่ะ ที่แกพยายามให้มึงแยกออกจากพี่ดำ ก็เพื่อให้มึงเป็นลูกผู้ชายที่สมบูรณ์ ไม่ใช่หรือ....เฮ้ย แล้วเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นล่ะ หมายความว่ายังไงว่ะ ถ้าแกไม่มีใจให้กู แกจะมีอารมณ์แบบนั้นหรือว่ะ...
เอาล่ะสิจิตใจฝ่ายดีกับฝ่ายต่ำ กำลังเถียงกันอีกแล้ว...แต่ตอนนี้กูกำลัง...เงี่ยน...เงี่ยนโว๊ย เห็นมั๊ยพี่หมวดอ้าปากเผยอรอรับลิ้นของกูแล้ว ดูขนตาแกสิ กระเพื่อมไปมาแบบนั้น (ถึงแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม แสดงว่าตื่นแล้วแต่แอบเผยอตามองอยู่) นั่นแหละแกมีใจให้กูแน่ๆ...อย่ามาห้ามกูเล๊ย....ผมตัดสินใจหลับตา ยื่นหน้าเข้าไป ตั้งใจจะประกบปากแกเต็มที่
แว่บ! เหมือนมีแสงไฟสว่างวาบไปทั้งห้อง ทั้งๆที่ผมกำลังหลับตาอยู่ ...ใช่แล้วครับ มันคือมโนภาพ ในความคิดของผมน่ะเอง ที่สว่างเจิดจ้าภายในความมืดมิดนั้น
***************************************
กลิ๊ก!
ปากกระบอกปืนสั้นถูกจ่อเข้าที่หัวสมองข้างขวาผมทันที มันพร้อมที่จะเหนี่ยวไกได้ทุกขณะ ผมรู้สึกตัวชาวาบ ยืนตัวแข็งทื่อ...พญามัจจุราชคงจะมาตามตัวผมแล้วกระมัง ....
ยิงผมเลย พี่หมวด ฮือ ฮือ ผมสะอึกสะอื้น น้ำตาไหลพรากลงมาทั้งสองแก้ม จากนั้นผมก็พยายามพูดต่อว่า
ถ้าหากว่า มันทำให้พี่หมวด หายแค้น ยิงผมเลย...ผมมันเลวครับ ฮือ ฮือ ผมสมควรตาย ฮือ ฮือ
แล้ว แกะทำแบบนี้กับพี่ทำไม๊...ห๊า พี่หมวดคงแค้นมาก แค้นจนผมได้ยินเสียงสะอื้นไห้ จากผู้หมวดผู้หยิ่งทะนงในความเป็นลูกผู้ชายของตัวเอง
ผมไม่รู้ ฮือ ฮือ ผมผิดไปแล้วครับ ผมผิด ฮือ ฮือ
แกะรู้มั๊ย ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอย่างพี่มัน สูญเสียไปแล้ว แล้วพี่จะกล้ามีชีวิตอยู่ให้ใครเขาดูถูกได้อย่างไร ฮือ ฮือ ผู้หมวดร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายผมอีกต่อไป ผมเข้าใจครับพี่หมวด ผมเข้าใจ คำว่าลูกผู้ชายของผู้พิทักษ์สันติราษฎร มันคงยิ่งใหญ่...ยิ่งใหญ่มาก ที่จะไม่ยอมให้มันสูญเสีย...
แล้วทำไมถึงต้องเป็นแกะ แกะที่พี่รักนักหนา เหมือนน้องแท้ๆของพี่ แกะคนที่พี่หมายมั่นปั้นมือ ให้เป็นคนเก่ง แทนเพื่อนรักของพี่ หรือเป็นตัวแทนแม้แต่ตัวพี่เอง นี่แสดงว่าพี่หมวด รักผมเหมือนน้องในไส้ อย่างงั้นหรือ...เมื่อได้ยินแบบนี้ ผมถึงกับร่ำไห้แทบจะขาดใจตายในวินาทีนี้ แกได้ยินมั๊ยไอ้แกะ ไอ้คนเลว ไอ้คนเนรคุณ แกน่าจะตายตั้งแต่ตอนที่แกจมน้ำครั้งนั้นไปแล้ว...แกไม่น่าจะมีชีวิตรอดมาทำเรื่องอัปยศอดสู กับผู้มีพระคุณของแก...
พี่หมวดรำพึงรำพันต่อได้ไม่นาน ผมก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ
ในเมื่อศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของพี่ มันถูกทำลายย่อยยับไปแล้ว พี่ก็ไม่ขอมีชีวิตอยู่ต่อไป ว่าแล้วพี่หมวดก็เปลี่ยนเป้าหมายของวิถีกระสุน หันปากกระบอกปืนเข้าจ่อที่ศรีษะของตัวเองอย่างรวดเร็ว... ผมร้องตะโกนขึ้นสุดเสียงเหมือนคนบ้า
อย๊า!
***************************************
ผมชงักกึก โฉบตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ยืนตัวสั่น ขนลุกซู่ไปทั้งร่าง ...เหตุการณ์ในคืนนั้น คืนที่ผมล่วงเกินพี่หมวด มันเข้ามาหลอกหลอนผม....ใช่แล้วพี่หมวดเขาเสียใจมาก เสียใจถึงขนาดจะยิงตัวตาย ...
ผมเดินออกจากห้องพี่หมวด ด้วยตัวที่เบาโหวง ...ไม่น่ะไอ้แกะ มึงจะต้องไม่ทำร้ายผู้มีพระคุณของมึงอีก เข้าใจมั๊ย ผมกลับมานั่งที่เตียง เอาสองมือซบฝ่ามือ อยากร้องไห้ออกมาดังๆ ความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้ ทำให้ผมละอายแก่ใจเหลือเกิน แล้วนี่ผมจะทำยังไงดี...
ผมนอนเอามือก่ายหน้าผาก ทำยังไงก็นอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาก็แล้ว นับหนึ่งถึงสิบก็แล้ว เอ๊ะรึว่าจะไปขอนอนห้องไอ้โชค ผมเหลือบดูนาฬิกา อืม อีกสิบห้านาทีสี่ทุ่ม ดึกเกินไป เกรงใจพ่อแม่มัน แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะทีนี้....คิดไปคิดมา ผมก็เลยเขียนโน้ตทิ้งไว้ที่โต๊ะ บอกพี่หมวดว่าจะไปนอนค้างบ้านเพื่อนเพราะไม่เข้าใจวิชาเคมีที่จะสอบพรุ่งนี้.....
ผมมาพบตัวเองกำลังยืนเหม่อลอยที่หน้าโรงหนัง ผมใส่กางเกงยีนส์เสื้อยืด ลากรองเท้าแตะ มาได้ยังไงก็ไม่รู้ (เยื้องๆตรงข้ามกับแผงร้านส้มตำของเจ้าบี จะมีโรงแรมประจำเมืองนี้ ส่วนโรงหนังต้องเดินผ่านช่องอาคารใต้ถุนโรงแรมที่เขาทำเอาไว้เพื่อขับรถเข้าไปจอดข้างใน และข้างในนี้แหละคือโรงหนังแห่งที่สองของเมืองนี้) ผมดูโปรแกรมหนังที่จะฉายรอบดึก สี่ทุ่ม (โดยมากจะเรทอาร์นิดๆ) แต่ก็ดูไปยังงั้นแหละ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรที่จะอยากดูสักเท่าไหร่
ผมยืนหันรีหันขวาง เห็นมีคนเข้าไปซื้อตั๋วดูหนัง และบางส่วนก็ยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่...ผมเลยเดินเข้าไปต่อคิวกะจะเข้าไปซื้อตั๋วดูหนังให้หายเซ็ง ทันใดนั้นผมก็สังเกตเห็นรถสามล้อถีบคันหนึ่ง เข้ามาส่งผู้โดยสารที่หน้าโรงหนังพอดี ...คนขับกำลังถีบสามล้อออกไป...ไม่รู้อะไรทำให้ผมตัดสินใจวิ่งขึ้นไปนั่งบนสามล้อถีบคันนั้นจนได้
ไปส่งบ้านพักครูที่โรงเรียนได้มั๊ยครับ เอ๊ะยังไงกัน อยู่ดีๆผมดันคิดเห็นหน้าพี่โก้ขึ้นมาสะงั้น
-------------- คนถีบสามล้อนี่ก็แปลก ไม่ยอมพูดยอมจา หุ่นมันก็ดีทีเดียวแหละ นุ่งกางเกงขาสั้น เสื้อยืดแขนยาว แถมใส่หมวกแทบจะปิดบังหน้าตาทีเดียว พิลึกคนจริงๆ
สามล้อพาผมผ่านร้านเจ้าบี ทะลุขึ้นไปที่สันอ่างเก็บน้ำ แล้วก็เข้าถนนใหญ่ จริงๆก็ไม่ไกลมาก ประมาณสองสามกิโลได้ ก็มาถึงทางเข้าโรงเรียน ปรากฏว่า ประตูโรงเรียนไม่ได้ปิด ก็เลยขับเข้าไปได้สะดวก และแสงไฟฟ้าระหว่างทางภายในโรงเรียนก็สว่างพอ จึงไม่น่ากลัวเท่าไหร่นัก
ไปบ้านพักอาจารย์เสถียร เอ้อ เลี้ยวซ้ายครับ บ้านพักครูจะมีสองฝั่ง คือฝั่งที่ติดทางอ่างเก็บน้ำ และฝั่งแถวอาคารอุตสาหกรรมและโรงยิม จะว่าไปข้างหน้าของบ้านพักครูฝั่งนี้ก็คือสนามฟุตบอลนั่นเองครับ ผมผ่านซุ้มต้นกระถินณรงค์ที่ปลูกเรียงรายตามถนน จนไปสุดถึงหน้าบ้านอาจารย์เสถียรจนได้
เท่าไหร่ครับ ผมลงจากรถแต่ตามองไปที่ห้องพี่โก้ เห็นแสงไฟเปิดอยู่ แสดงว่ายังไม่นอน
ไม่คิดตังค์ครับ เอ๊ะ เสียงคุ้นๆ ใครว่ะ ผมหันหน้าไปมองคนขับสามล้อ อย่างละเอียดถี่ถ้วน ยังมองหน้าไม่ชัดเพราะปีกหมวกยังบังอยู่ และมุมค่อนข้างมืดจากแสงไฟของถนน
ไม่ดีมั๊งครับ เอาไปเถอะ ไม่ต้องทอนหรอกครับ ผมยื่นเหรียญห้า ให้สองเหรียญ ไม่แน่ใจว่าจะห้าบาท หรือเจ็ดบาท สำหรับค่าสามล้อ
ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งใจมาส่งจริงๆ เดี๋ยวกลับแล้วครับ อ้าวไอ้เวรนี่ มีที่ไหนมาส่งผู้โดยสารดึกดื่นๆ ไม่ยอมคิดตังค์...คนขับสามล้อทำเป็นเอาหมวกมาปิดๆใบหน้าอีกครั้ง ก้มหัวลงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ผมเห็นหน้า แล้วรีบขึ้นรถสามล้อเตรียมถีบออกไป
เดี๋ยวครับ ๆ เอาตังค์ไปก่อน ผมวิ่งไปกระชากมือเขาอย่างแรง จับแบมือแล้วยัดเหรียญลงไป
ผมบอกไม่เป็นไรไงครับ อุ๊บ!” จังหวะที่ยื้อกันไปยื้อกันมา หมวกไอ้หมอนั่นก็หลุดลงมากองที่พื้น
อ่ะ เฮ้ย! มะ เมฆ ผมอุทานดังลั่น ไม่คิดว่าจะเป็นหนุ่มหล่อที่แต่งตัวดีๆ ใส่เสื้อผ้าใหม่ๆ ขับมอเตอร์ไซค์คันโก้ ก็เพื่อนในห้องผม...ที่กำลังเคืองผมและมองหน้ากันไม่ติด...ก็เรื่องแม่แจ๊ดทรงเสน่ห์ไงครับ
อือ เราเอง ไปล่ะน่ะ ไอ้เมฆ ท่าทางอายๆผมอยู่เหมือนกัน ก็ตอนอยู่ในห้องเรียน มันดูดีนี่หว่า เหมือนลูกคนมีกะตังค์ แล้วไงมาขับสามล้อได้ว่ะเนี่ยะ
อ่ะ เ่อ่อ นะ นายขับสามล้อด้วยเหรอ ผมถามด้วยความประหลาดใจ
เปล๊า แค่หัดถีบเล่นๆ แล้วมาส่งน้าสาวกับหลานๆมาดูหนัง ก็แค่นั้นเอง ไอ้เมฆ ปฏิเสธพัลวัน
อ่ะ เ่อ่อ งั้นก็เอาตังค์นี่ไปให้หลานๆของนายก็แล้วกันน่ะ แปลกหลานเหลนที่ไหนหว่า ก็ผู้โดยสารที่ลงมาตอนนั้น โตๆกันแล้วนี่...แต่ถึงยังไงผมก็เอาเงินยัดมือมันจนได้
เอางั้นหรือ งั้นก็ได้ ไปล่ะน่ะ ไอ้เมฆเก็บหมวกขึ้นมาสวมแล้วขึ้นคร่อมกำลังถีบรถ
ดะเดี๋ยว แล้วเรื่อง อ่ะ เอ่อ นายหายโกรธเราแล้วใช่มั๊ยว่ะ ผมก็แปลกใจอยู่ทีเดียวว่ามันไม่ชอบขี้หน้าผมแล้วมาส่งผมทำไม
โอ๊ย เราลืมไปแล้ว แล้วเจอกัน ไอ้เมฆขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว... ผมรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยที่ต่อไป คงจะคุยกับไอ้เมฆในห้องได้แล้ว ผมล่ะไม่ชอบไอ้บรรยากาศอึมครึมในชั้นเรียนเลยจริงๆ
ก๊อกๆ พี่โก้ พี่โก้ อยู่มั๊ยครับ ผมเคาะประตูเรียกพี่โก้ โดยลืมไปว่าอาจารย์เสถียรอาจจะนอนอยู่
อ้าวแกะ มาได้ยังไงเนี่ยะ มืดๆค่ำๆ รอเดี๋ยวน่ะครับ พี่โก้ชะโงกหน้าตะโกนที่หน้าต่าง แล้วผลุบหายไป คงกำลังลงมาเปิดประตูให้ผม
มาเข้ามา คิดยังไงถึงมาหาพี่ได้ล่ะครับ พี่โก้เปิดประตูบ้านยิ้มกว้าง แล้วใส่ประตูลงกลอนนำหน้าผมขึ้นห้องแก ซึ่งอยู่บนชั้นสอง
คือ ผมนอนไม่หลับน่ะครับ เบื่อๆก็เลยอยากจะมานอนค้างกับพี่อ่ะครับ ผมกระโดดขึ้นไปนอนบนที่นอนของพี่โก้ นอนเอามือหนุนแขน มองพี่โก้กำลังปิดประตูห้องนอน
อ๋อ สบายมาก วันนี้ อ.เสถียร ไปค้างบ้านแฟน พี่เลยอยู่คนเดียว พี่โก้หันหน้ามา ผมเพิ่งสังเกตว่า แกนุ่งกางเกงบอลสีขาวตัวเดียว ไม่ได้นุ่งกางเกงใน พวงสวรรค์สีดำๆ อันอวบอูมจึงกระเพื่อมไปมาเวลาแกเดิน อิิอิอิ ส่วนหุ่นไม่ต้องพูดถึง กล้ามเป็นมัดๆ ซึ่งผมก็เห็นจนชินแล้ว
แกะหิวมั๊ยครับ จะดูทีวีมั๊ยครับ พี่โก้กำลังไปเปิดทีวีเครื่องเล็กๆที่ปลายเตียง แหมๆ ช่วงที่แก ก้มๆเงยๆ ก้นโต่งๆอวบๆกลมๆ มันยั่วยวนพิลึก ...เอาอีกแล้วกู รึว่าเพราะเหตุนี้หว่า ที่กูตัดสินใจมาหาแกคืนนี้
พี่โก้ อย่าเลยครับ ขึ้นมานอนคุยกันดีกว่าครับ อะแน่ะ กูกำลังคิดอะไรเนี่ยะ กึ๋ยๆ...พี่โก้ขึ้นมานอนเคียงข้างผมอย่างว่าง่าย แต่เตียงมันแคบไปนิดหนึ่ง เลยต้องเบียดกันหน่อย อิอิ
อ้าว อยากจะคุยอะไรล่ะครับ พี่โก้มองสบตาผมอย่างมีความหมาย...นานมาแล้วสิน่ะ ที่ผมแทบจะไม่มีอะไรกับพี่โก้เลย แม้แต่ให้แกใช้มือให้ก็ตาม
พะ พี่โก้ คะคือว่า ผะผม ผมจ้องมองสบตาพี่โก้บ้าง...วัวเคยขา...ม้าเคยขี่ น่าจะรู้ๆกันอยู่น่ะคร๊าบ อิอิอิ
แกะ อ่ะ เ่อ่อ ไหนแกะบอกว่า แกะ จะ.... พี่โก้กำลังจะถามผม เรื่องที่ผมเคยขอร้องแก ไม่ให้มีอะไรเกินเลยกับผมอีก เพราะผมอ้างว่าไม่อยากมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันอีก (จำได้มั๊ยครับเพื่อนๆ ก็ตอนที่ผมเลิกนอกใจพี่ชายที่รักไงครับ)
อุ๊บ!พี่โก้ไม่ทันพูดอะไรต่อ เพราะผมคว้าคอพี่โก้ได้ ก็ประกบปากสอดลิ้นเข้าอย่างรวดเร็ว
ลิ้นสองหนุ่มเกี่ยวกระหวัดกัน ด้วยความซาบซ่า เสียวซ่าน ต่างคนต่างไม่ยอมใคร และรู้ใจกันอยู่ ไอ้แกะก็ร้อนแรง พี่โก้ก็เร่าร้อน ต่างแลกชิวหาพาเพลินกันจนน้ำลายแตกฟอง ผมถอนปากออก ปลายลิ้นของพี่โก้ยังตามมาประกบไม่ลดละ ผมไซ้ไปที่ซอกหูพร้อมกับพึมพำด้วยเสียงกระเส่าว่า
อืม อา พี่โก้ อย่าเพิ่งถาม ผมกำลัง....เงี่ยน!”

Monday, June 14, 2010

บทที่ 133 " พี่หมวดครับ...ผมหักห้ามใจไม่ไหวแล้วครับ "


บทที่ 133 พี่หมวดครับ...ผมหักห้ามใจไม่ไหวแล้วครับ
ฮ่ะ ฮ่ะ เป็นตำรวจต้องมีสายสิครับ ไอ้น้อง ฮ่ะ ฮ่ะ พี่หมวดไม่ยอมบอก แถมยิ้มปากกว้างล้อเลียนผมอีกต่างหาก
คร๊าบ ผมลืมไปว่า ผู้หมวดเป็นนายตำรวจครับผ๊ม ผมยกตะเบ๊ะ ล้อเลียนแกบ้าง
มะเหงก ล้อเลียนผู้ใหญ่เหรอ พี่หมวดทำท่าจะเขกหัวผม
จ้างให้ก็ไม่กลัว คนแก่ขี้เก๊ก ฮ่ะ ฮ่ะ...นี่แน่ ผมชกมะเหงกที่กำลังจะลงกะบาลตัวเอง ออกไปเบาๆ
เฮ้ยๆ เดี๋ยวนี้กล้าลองดีกับพี่เหรอ ห๊า พี่หมวดลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาจับตัวผมยืนขึ้น บิดมือไพล่หลัง
เฮ้ พี่หมวดเล่นอะไรน่ะ เจ็บน่ะคร๊าบ ฮ่ะ ฮ่ะ ผมละทั้งเจ็บทั้งจั๊กกะจี้ ก็แกเล่นจี้เอวผมด้วยนี่นา
ก็อยากลองดีกับพี่ทำไมล่ะ ต้องให้รู้สำนึกซะบ้าง ฮ่ะ ฮ่ะ พี่หมวดบิดข้อมือผมหนักขึ้น จนผมเจ็บจริงๆล่ะคราวนี้
พี่หมวด ผมเจ็บ ปล่อยครับ ผมดิ้นสุดแรง พยายามสบัดให้หลุด แต่พี่หมวดกลับใช้แรงจากร่างกายที่ใหญ่กว่า เบียดเข้ามา เนื้อหน้าอกแมนๆแน่นๆ เลยประกบที่ร่างของผมอย่างจัง
อึ๊บ! เอาอีกแล้วกูมือทั้งสองข้างที่ผมถูกจับบิดอยู่ กลับไปโดนหน้าขาของพี่หมวดด้านขวา เลยจุดยุทธศาสตร์ ไปนิดเดียว ตอนนี้พี่หมวดยืนเบี่ยงมาทางซ้ายมือเล็กน้อย ช่วงบนเปลือยเปล่าของแกประกบด้านหลังผมเกือบตลอดแนว ผมยังได้ยินลมหอบหายใจของแกอยู่ข้างซอกหูด้านซ้ายอยู่เลย
ผมชงัก รู้สึกตัวร้อนวูบวาบ ความกระสันต์สวาทที่ยังไม่ได้ปลดเปลื้องเมื่อตอนกลางวัน วิ่งพล่าน ไปทั่วเรือนร่าง...เลือดของความเป็นหนุ่มพุ่งกระฉูด ไปหล่อเลี้ยงเจ้าแกะน้อย ให้แข็งตัวซู่ซ่า อย่างฉับพลันทันใด
อะ เ่อ่อ พะ พี่หมวด อาการเจ็บที่ข้อมือหายไปอย่างสิ้นเชิง...แต่ทว่าความเงี่ยน กระหายเซ็กส์ มันร้อนแรงยิ่งกว่า....เนื้อหน้าอกแน่นๆที่เบียดกระชับ ลมหายใจอุ่นๆที่ซอกหู และหน้าขาใกล้จุดยุทธศาสตร์ ที่ผมสัมผัสอยู่ในตอนนี้...กลับเป็นสิ่งที่ทำให้พายุรักพายุสวาท ลุกโชน เหมือนเปลวเพลิงที่ร้อนรุ่มก็ไม่ปาน...
และในตอนนี้พี่หมวดเองก็เหมือนจะหยุดชงักอยู่กับที่เช่นกัน ผมสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่เต้นแรง และจุดกึ่งกลางของพี่หมวดดูเหมือนว่า....เหมือนว่า...กำลังจะขยายตัว
นี่มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมเมื่อวันที่ผ่านมา เราถึงหักห้ามใจของตัวเองได้ ตัวของพี่หมวดเองก็ไม่เคยปล่อยโอกาสให้เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น...แล้วทำไมวันนี้ พี่หมวดถึงดูเหมือนจะเกิด...เกิดอารมณ์แบบนั้นได้
อั๊ก! ผมกระทืบเท้าพี่หมวดอย่างแรง เหมือนแกจะใจลอย ไม่ทันระวังตัว เลยทำให้แกสดุ้ง ปล่อยมือจากการบิดข้อมือของผม
พลั่ก! จังหวะที่ผมพยายามกระชากตัวหนี แต่พี่หมวดกลับผวา ใช้มือทั้งสองข้างเข้ามาสวมกอดรัด ดึงร่างของผมเข้าไปกระทบร่างของแกอย่างแรง... ผมคงใช้ขาข้างใดข้างหนึ่งไปขัดขาแกเข้า เลยทำให้ผมและพี่หมวดเสียหลักหกล้มลงไปนอนที่พื้น
อะ เ่อ่อ ตอนนี้ทั้งผมและพี่หมวดช็อคไปชั่วขณะ จะอะไรล่ะครับ ก็ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนตักของพี่หมวด และท่อนลำของพี่หมวดอันแข็งโด่กำลังเบียดก้นของผมอยู่น่ะสิคร๊าบ อิอิอิ (ฮั่นแน่ มีคนอิจฉารึเปล่า ก๊ากๆ)
พะ พี่หมวด ผะ ผม ขอโทษครับ ผมพยายามแกะมือของพี่หมวดที่สวมกอดผมอยู่ รู้สึกหน้าแดงร้อนวูบวาบ ขนลุกซู่ ตั้งชันไปทั้งตัว แกะน้อยไม่ต้องพูดถึง แข็งโป๊กตั้งแต่โดนพี่หมวดบิดข้อมือแล้ว 555555+
แกะ อ่ะ เ่อ่อ คะ คือ... พี่หมวดยอมปล่อยการสวมกอดผมแต่โดยดี แต่ทว่าดูเหมือนแกกำลังอยากจะบอกอะไรผม....
ผมลุกขึ้นด้วยความคิดที่สับสน ...ใจหนึ่งอยากนั่งอยู่บนท่อนลำอันเร่าร้อนของพี่หมวด และอยู่ภายใต้อ้อมกอดแมนๆ อันนั้น...แต่อีกใจหนึ่ง ผมไม่อยากทำร้ายพี่หมวดอีก แต่ทว่าตอนนี้อำนาจฝ่ายต่ำคงจะชนะผมเสียแล้ว เพราะเจ้าแกะน้อยตัวดี ดันกางเกงนักเรียนจนซิบแทบปริเลยทีเดียว
แกะ เป็นไงบ้าง เจ็บมั๊ยครับ พี่หมวดลุกขึ้นยืนบ้าง พยายามทำเสียงปรกติ แต่ผมพอจะจับน้ำเสียงได้ว่า มีสำเนียงแปร่งๆเจือปนอยู่
ไม่เป็นไรครับ อะ เ่อ่อ ผมขอเข้าห้องน้ำก่อนน่ะครับ ผมพยายามเดินหนี เพราะไม่อยากให้แกรู้ว่า ผมกำลังเกิดอารมณ์จนแทบจะระงับไม่อยู่แล้ว
เดี่ยวก่อนแกะ พี่หมวดเดินเข้ามาจับมือผม ให้หันหน้าไปเผชิญกับแก
--------------- เราสองคนจ้องหน้ากันนิ่ง ไม่มีใครปริปาก สายตาของพี่หมวดที่มองผมตอนนี้ มันดูประหลาดเหลือเกิน ใช่ ใช่แล้ว มันช่างเหมือนสายตาของใครบางคน ที่กำลังจะบอกว่า...พี่รักแกะเหลือเกินครับ และพี่อยากจะมอบความรัก และรสสวาทให้กับแกะจังเลยครับ....
ผมและพี่หมวดสบตากันอยู่ชั่วครู่ จนในที่สุด พี่หมวดก็เอื้อมมือมาลูบไล้ที่แก้มข้างขวาของผม เอาไงดีว่ะกู...พี่หมวดผะ ผมขอโทษน่ะครับ ถ้าหากว่าผมจะเนรคุณกับพี่หมวด
ผมเอื้อมมือข้างซ้ายขึ้นมาสัมผัสที่หลังมือของพี่หมวด ที่ตอนนี้มือของแกกำลังหยุดนิ่งอยู่ที่แก้มของผม สายตาสองเราประสานกัน เหมือนจะรวมจิตใจของเราให้เป็นหนึ่งเดียว
ก๊อกๆ เสียงเคาัะประตู (อีกแล้วครับพี่น้อง เฮ้อ !) เราสองคนผวาออกจากกันทันที...พี่หมวดแก้เก้อเดินไปเปิดประตู
ขอโทษครับหมวด ผมมีเรื่องรายงานครับผม กลับกลายเป็นสายคนหนึ่งของพี่หมวด ดูท่าทางร้อนรนทีเดียว
เอ้า งั้นรีบเข้ามา พี่หมวดเชิญให้ชายคนนั้นเข้ามา นั่งที่ห้องรับแขก ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากโต๊ะทานข้าวสักเท่าไหร่
คะ คือว่า ผะผม ชายคนนั้นหันหน้ามาทางผม ผมก็เลยแกล้งเดินไปเข้าห้องน้ำ สงสัยจะมีความลับทางราชการคุยกัน
ผมอยู่ในห้องน้ำประมาณห้านาทีได้ คิดว่าคงอยู่ต่อไปไม่ไหว เลยค่อยๆแง้มประตูโผล่หัวออกไป
ออกมาได้แล้วครับ เขาไปแล้ว เสียงพี่หมวดน่ะเอง โหไปไวมาไวดีเนาะ และตอนนี้พี่หมวดกลับเอาต้มยำกุ้งไปอุ่นที่เตาแก๊ส
อาหารเย็นหมดแล้ว เดี๋ยวอุ่นให้มันร้อนๆน่ะครับ จะได้น่าทาน แน่ะพี่หมวดกลับมาเป็นพี่หมวดคนเดิมอีกแล้ว สักพักแกก็ยกต้มยำกุ้งใส่ชาม อืม อาหารร้อนๆ ควันโขมง กลิ่นหอมน่าทานจริงๆ
พี่หมวดจัดการอุ่นอาหารอย่างอื่นต่อ แล้วเราสองคนต่างก็รับประทานอาหารเงียบๆ ดูเหมือนว่าพี่หมวดจะมีเรื่องครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จึงไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่... หลังจากรับประทานอาหาร อาบน้ำชำระร่างกายแล้ว ผมก็เอาวิชาเคมีขึ้นมาทบทวน
พี่เข้านอนก่อนน่ะครับ พรุ่งนี้เข้าเวรเช้า และพรุ่งนี้งดวิ่งน่ะครับ เดี๋ยวตอนเย็นพี่จะให้หัดเล่นเวทดู พี่หมวดเข้ามาบอกผมที่โต๊ะอ่านหนังสือ เอ... แกดูแปลกๆ เหมือนจะหลบๆผมยังไงไม่รู้ ทีคืนก่อนๆยังอยู่ติววิชาให้ผมจนดึกดื่นเลยนี่นา
เออ.. แกะมีอะไรจะถามพี่เกี่ยวกับวิชาที่จะสอบพรุ่งนี้มั๊ยครับ พี่หมวดยังอดเป็นห่วงผมไม่ได้อยู่ดี
ไม่ล่ะครับ พอดีอาจารย์เขาจะทดสอบข้อสอบเอนทรานซ์ (เฉพาะบทที่พวกผมกำลังเรียนอยู่) คงไม่ซีเรียสอะไรหรอกครับ
โอเค ตั้งใจทำข้อสอบน่ะครับ พี่หมวดเดินออกไปนอนแล้ว แต่ผมนี่สิ คงนอนไม่หลับแน่ อิอิอิ จะอะไรล่ะครับ ก็แกะน้อยแข็งโด่อยู่นี่ไงคร๊าบ
ผมอ่านไปอ่านมา หลายรอบ จนคิดว่าจำได้จนขึ้นใจ เพราะเคยอ่านมาแล้ว และเพิ่งผ่านการสอบมาหมาดๆ อีกอย่างพวกแก๊งค์ผมก็เคยติวกันอยู่หลายครั้ง ด้วยเหตุนี้แหละพวกมันถึงไม่คิดจะติววิชานี้กันเมื่อตอนเย็น และอีกอย่างเห็นอาจารย์จะเอาข้อสอบเอนทรานซ์มาลองให้ทำดู ไม่น่าจะมีผลต่อคะแนนเก็บเท่าไหร่นัก
ผมเหลือบดูนาฬิกา แค่สองทุ่มครึ่งเอง ปรกติจะไม่ง่วง แต่วันนี้รีบปิดไฟนอนดีกว่า เพราะแกะน้อยมันจะอาละวาด อิอิอิ
อารมณ์ที่คั่งค้างมาทั้งสองครั้งสองครา คราวนี้ผมกับนอนลูบไล้เจ้าแกะน้อยเล่น เสื้อยืดถูกถอดโยนทิ้งไป เหลือกางเกงในสีขาวอยู่ตัวเดียว ....ในที่สุดก็เหลือแต่ตัวล่อนจ้อน และตอนนี้กำลังสาวว่าวให้ตัวเองอย่างถึงพริกถึงขิง...อิอิอิ ข้ามไปก็แล้วกันเนาะ เขินอ่ะ
ผมกลับมานุ่งกางเกงบ๊อกเซ่อร์ ค่อยๆย่องเข้าไปห้องพี่หมวด ตอนนี้อยากรู้จังว่าพี่หมวดจะเป็นยังไง ถ้าหากแกมีอารมณ์ร่วม เหมือนเมื่อตอนเย็นก็ดีสิ อิอิอิ ตอนนี้ไม่รู้เป็นไงครับพี่น้อง แบบว่า...เงี่ยนจัด... ก็เลยลืมสิ่งที่เคยพูดไว้ักับตัวเองว่าจะไม่คิดอะไรกับพี่หมวดอีก
ห้องพี่หมวดกับห้องผม แสงไฟจากถนนจะส่องเข้ามาเหมือนกัน ดังนั้นผมจะเห็นร่างของพี่หมวดได้บ้างพอลางๆ ...พี่หมวดนอนหลับกรนเบาๆ (นอนไวดีเนาะ) แต่มังกรไม่ได้หลับเลยชี้โด่เชียว อิอิ ผมยืนสำรวจเรือนร่างของแก...จนกระทั่งความกำหนัดเริ่มเข้าที่ ไม่มีสิ่งใดจะมาหยุดรั้งได้อีกแล้ว....
พี่หมวดครับ...ผมหักห้ามใจไม่ไหวแล้วครับ


Friday, June 11, 2010

บทที่ 132 " ความลับ...ของพี่โก้ "


บทที่ 132 ความลับ...ของพี่โก้

ถึงแม้ว่าร่างของพี่ดำจะผ่านพ้นโรงยิมไปแล้ว แต่ตัวผมเอง ก็ยังคงยืนแน่นิ่ง...งงงัน...กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่...พี่ดำ...พี่ชายที่รักของผม ได้เปลี่ยนไปแล้วอย่างสิ้นเชิง...ไม่มีอีกแล้วกับความทรงจำ ความสัมพันธ์ในอดีต...
ณ วันนี้ พี่ดำเดินเข้ามาในฐานะว่าที่พี่เขยของผม และเป็นห่วงผมในฐานะน้องชายคนหนึ่งเท่านั้น ...มันก็น่าจะเป็นการดีที่เราทั้งคู่จะยุติความสัมพันธ์แบบนั้นได้จริงๆสะที...ในตอนนี้ พี่ดำอาจจะผ่านเส้นทางเส้นนี้ไปแล้วใช่มั๊ยครับ...ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงผมควรจะยินดีไม่ใช่หรือครับ...พี่ดำครับขอให้พี่รักพี่กวางมากๆน่ะครับ...เดินต่อไปข้างหน้าเถิดน่ะครับ อย่าหันกลับมามองผม และอย่าคิดอะไรทำนองนั้นกับผมอีก...ผมดีใจครับถ้าหากว่า ...พี่ดำลืมผม... และเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ถูกต้องกับพี่กวาง พี่สาวที่รักของผม ...คนที่เขาเฝ้ารอคอยพี่มานานแสนนานเช่นกัน ....
เข้มแข็ง ไอ้แกะ...หลับตา สูดลมหายใจให้เต็มที่ นี่คือสิ่งที่แกต้องการให้มันเป็นตั้งแต่ต้นไม่ใช่รึ เสียงๆหนึ่งดังก้องหู มันคือเสียงที่ผมกำลังบอกตัวเอง...ผมหลับตา สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
แกะ มีอะไรหรือเปล่าครับ พี่โก้เข้ามาเขย่าตัวผม จนผมสดุ้งลืมตาขึ้น
ปะ เปล่าครับ สงสัยจะเพลียๆน่ะครับ ผมพยายามหาข้อแก้ตัว
อืม จริงสิ ก็แกะออกกำลังตอนเช้าด้วยนี่นา ถ้างั้นวันนี้พอก่อนดีมั๊ยครับ พี่โก้ไม่รอคำตอบ ถอดนวมให้ผมเฉยสะงั้น
อาทิตย์แรกก็เป็นแบบนี้แหละ ต่อไปร่างกายคงปรับตัวได้เอง พี่โก้เดินเอานวมไปเก็บ ผมเลยเดินตามไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ไม่มีอะไรมาก ก็กางเกงนักมวยตัวเดียวน่ะแหละ เราสองคนเปลี่ยนมาใส่ชุดนักเรียนเหมือนเดิม
เอ้า ดื่มน้ำน่ะครับ พี่โก้ยื่นน้ำให้ผมแล้วชวนให้ผมนั่งคุยกันต่อ
เมื่อกี้เอกเขามาตามแกะกลับบ้านหรือครับ
ครับ ผมบอกไปแล้วว่าผมจะอยู่สอบเคมีน่ะครับ
แค่นี้เหรอ พี่เห็นคุยกันตั้งนาน ผมสดุ้ง นี่พี่โก้จะเห็นอะไรบ้างว่ะเนี่ยะ
เอ๊า ถามแค่นี้ก็ตกใจ เอาไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร
อ่ะ คือๆ พี่เขามาถามว่าจะฝากอะไรถึงทางบ้านรึเปล่า เพราะพี่เขาจะไปที่บ้านน่ะครับ
อืม ทำหน้าที่ ว่าที่พี่เขยที่ดี ว่างั้นเถอะ ฮ่ะ ฮ่ะ อันนี้พี่โก้รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว เพราะแกทานข้าวเที่ยงกับแก๊งค์ผมทุกวัน ซึ่งพวกมันก็แซวเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ
ครับ คงงั้นมั๊งครับ ฮ่ะ ฮ่ะ ผมพยายามหัวเราะกลบเกลื่อนบ้าง
แกะไม่กลับบ้าน...อืม พอดีเลยพรุ่งนี้พี่ก็หยุดอยู่โรงเรียนเหมือนกัน พี่โก้ยกขวดน้ำขึ้นดื่มบ้าง
ครับ เดี๋ยวพี่โก้ ผมจะแวะหาพี่น่ะครับ หลังสอบเสร็จ
ได้ๆ แล้วแกะอยากซ้อมมวยต่อหรือครับ
เปล่า ผมอยากพาพี่ไปรู้จักพี่หมวดน่ะครับ พี่โก้ทำหน้าประหลาดๆ ก่อนที่จะอึกอักพูดขึ้นว่า
อ่ะ เ่อ่อ อย่าเพิ่งเลย พอดีพี่ไม่ชอบตำรวจน่ะครับ อ้าว ผมเองก็ลืมไป พี่โก้อาจจะฝังใจเรื่องที่พี่ชายของแกเสียชีวิต จากฝีมือตำรวจ ถึงแม้ว่าจะเป็นการชกบนเวทีก็ตามเถอะ
อะ เ่อ่อ ผะ ผมขอโทษครับ ถ้าพี่ยังไม่พร้อม ผมก็ไม่ว่าอะไร
พี่โก้นั่งเงียบ ไม่ยอมพูดยอมจา ทำไงดีหว่า งั้นเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า
เออ พี่โก้ ผมว่าจะถามพี่ตั้งนานแล้วอ่ะครับ เรื่องค่ายมวยพี่ เ่อ่อ อยู่ที่ไหนครับ เห็นพี่ต้องไปทำงานให้เขาทุกเสาร์อาทิตย์เลย อันนี้ผมว่าจะถามหลายครั้งแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที
อ๋อ โดนสั่งปิดไปแล้ว พี่โ้ก้ตอบแบบไม่สะทกสะท้าน
ฮ้า ละ แล้ว ใครอุปการะพี่ล่ะครับ ตอนนี้ ผมตกใจเพราะพี่โก้อยู่แบบตัวคนเดียวจริงๆ ถ้าขาดค่ายมวยดูแล แล้วแกจะอยู่อย่างไร ไหนจะค่าเทอม ค่าอยู่ ค่ากิน ฯลฯ
ฮึ ฮึ ไม่ต้องห่วงพี่หรอก เฮียเขายังส่งเสียพี่อยู่ ตราบที่พี่ยังทำงานให้เขา
เฮีย เฮียเจ้าของค่ายมวยน่ะหรือครับ
ใช่ เฮียเขาทำธุรกิจหลายอย่าง รวยอย่าบอกใคร
อ๋อ ครับ ละแล้ว งานที่พี่ทำให้เฮียนี่ คืองานอะไรครับ ผมสงสัยจริงๆ ถ้าพี่โก้ไม่ต่อยมวยให้ค่ายแล้วแกจะทำงานอะไรกันล่ะ
ฮ่ะ ฮ่ะ แกะอย่าเพิ่งรู้เลย พรุ่งนี้ต้องสอบเคมี ไม่ใช่หรือครับ กลับไปอ่านหนังสือดีกว่ามั๊ยครับ พี่โก้พูดเสร็จก็ลุกขึ้นไปจัดการเก็บของ...เตรียมปิดประตู...ปิดไฟโรงยิม
เฮ้ย นายโก้ อย่าเพิ่งปิด ครูมีอะไรให้เธอดูแน่ะ อ.วิชาญเดินเข้ามาพร้อมกับภารโรงชายคนหนึ่ง พี่โก้เลยเปิดไฟโรงยิมอีกครั้ง และภารโรงแยกตัวไปทำความสะอาดโรงยิมต่อ อ.วิชาญ พี่โก้และผม เลือกเก้าอี้มานั่งคนละตัว
นี่คือจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย....เธอได้รับทุนเข้าเรียนในส่วนของกีฬา ครูดีใจกับเธอด้วยน่ะ อ.วิชาญกางจดหมายออก ผมเลยชะโงกหน้าเข้าไปอ่านด้วย
โห จริงด้วย ผมดีใจด้วยน่ะพี่โก้ ผมรู้สึกดีใจกับพี่โก้ด้วยความจริงใจ
ผมขอบคุณอาจารย์มากน่ะครับ ที่เป็นธุระให้จนสำเร็จ พี่โก้ยกมือไหว้ อ.วิชาญด้วยความปลาบปลื้ม เห็นทำตาแดงๆอยู่ แต่พี่โก้เก็บอาการได้เก่ง ก็เลยดูเหมือนว่าไม่แสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้า
อืม ครูเป็นครูของเธอน่ะโก้ อนาคตของลูกศิษย์ ครูก็ต้องทำให้ได้สิ อ.วิชาญยิ้มแก้มแทบปริ พร้อมกับจับหัวพี่โก้โยกไปมา ด้วยความสนิทสนม
เอาล่ะ เดี๋ยวเราจะคุยรายละเอียดกันอีกที แต่ครูมีเรื่องที่จะคุยกับพระเอกนี่อยู่เหมือนกัน อยู่ๆ อ.วิชาญก็หันหน้ามามองผมสะงั้น
ครับ อาจารย์ ผมมองหน้าแกด้วยความงงๆ
อืม คือว่า กีฬาโรงเรียนประจำจังหวัด ปีการศึกษาหน้า (ก็คือเดือนธันวาคมปีนี้) ทางโรงเรียนของเราจะเป็นเจ้าภาพน่ะ
อ่ะครับ ผมรอฟังอาจารย์พูดต่อไปด้วยใจจดจ่อ
ขาดนายโก้ไป ครูยังหานักมวยเก่งๆไม่ได้สักคน
ครับ ผมก็เห็นรุ่นพี่เก่งๆหลายคนนี่ครับ
ใช่ แต่ว่าครูและอาจารย์หลายๆท่าน ลงความเห็นว่า เธอน่าจะลงแข่งขันน่ะ
โอย อาจารย์ครับ ผมไม่ได้ฝึกจริงจังน่ะครับ คงไม่ไหวมั๊งครับ
อย่าลืมน่ะว่า คราวก่อนเธอเกือบเอาชนะแชมป์ได้ จุดอ่อนของเธอ ก็คือกำลังขา นั่นเพราะขาดการวิ่งออกกำลังกาย ส่วนชั้นเชิงและไหวพริบ เดี๋ยวครูจะเทรนเธอให้อีกครั้ง
อาจารย์ ผมจะไหวหรือครับ ฮ่ะ ฮ่ะ ผมหัวเราะ ก็ผมไม่ได้ฝึกจริงจังขนาดที่จะเป็นนักมวยนี่ครับเพื่อนๆ
อ.วีระเดช บอกครูหมดแล้วเรื่อง เธอกำลังฝึกฝนที่จะเป็นตำรวจ อะ อ๊ะ อย่าเถียง...เธอเริ่มซ้อมวิ่งในตอนเช้า และซ้อมมวยในตอนเย็นด้วย เดือนนี้เดือนกุมภา.อืม หนึ่ง สอง... อ.วิชาญเริ่มนับนิ้ว
กว่าจะถึงเดือนธันวา ก็อีกสิบเดือนพอดี ฮ่ะ ฮ่ะ เวลาฝึกถมเถ อ.วิชาญยิ้มๆและจ้องมองหน้าผม....แบบนี้เขาเรียกว่ามัดมือชกกันนี่ครับอาจารย์
ไงแกะ ฝึกกับพี่มานานแล้ว พี่ว่าแกะเองก็น่าจะลองดูน่ะครับ แนะพี่โก้เองดันสนับสนุนอีกแน่ะ
ใช่ๆ เดี๋ยวเธอฝึกไปสักห้าเดือน ครูจะพาเธอตระเวณไปชกหาประสบการณ์เอง ตกลงเอาตามนี้น่ะ
อ่ะ เ่อ่อ ผะ ผม ขอปรึกษาผู้ปกครองก่อนได้มั๊ยครับ ผมไม่ทราบว่า พ่อผมจะคิดยังไงน่ะสิ ก็แกตั้งใจให้ผมฝึกตำรวจกับพี่หมวด ไหนจะแม่ผมอีกอยากให้เป็นนายแพทย์ นี่ผมอุตส่าห์แหกคอกมาซ้อมมวยนี่ พ่อแม่ก็ยังไม่ว่าอะไร แต่ถ้าจะเป็นนักมวยจริงๆขึ้นมานี่ สงสัยจะเรื่องยาว
อืม ลองไปปรึกษาท่านดูก่อนก็ได้ แต่ครูฝากความหวังไว้ที่เธอน่ะ พ่อพระเอก
โธ่ อาจารย์ครับจะมาหวังอะไรกับผมละครับเนี่ยะ เฮ้อ! เวรของไอ้แกะแล้วมั๊ยล่ะ
ผมกลับมาที่แฟลตพี่หมวด เอาเกือบจะหกโมงแล้ว ปรกติผมจะกลับแฟลต ประมาณห้าโมง หรือช้าสุดห้าโมงครึ่ง พี่หมวดเองภายในสัปดาห์นี้แกออกเวรเร็ว ดังนั้นแกจะรอผมทานข้าวที่ห้องเสมอๆ วันนี้ก็เช่นกัน ผมเห็นสำรับกับข้าว เตรียมไว้ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
ผมวางกระเป๋านักเรียน ถอดรองเท้าถุงเท้าเสร็จ ก็เดินไปเปิดฝาที่ปิดชามอาหารอยู่ โอ้โห มีไก่ย่างเป็นน่องๆ น่าทานชะมัด ผมเลยหยิบขึ้นมาชิ้นหนึ่ง
หยุด! นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกมือขึ้น เสียงพี่หมวดดังออกมาจากประตูห้องน้ำ
ยอมแล้วคร๊าบ ผมพูดยิ้มๆ คว้าน่องไก่คาบไว้ที่ปากอย่างรวดเร็ว แล้วยกมือขึ้นทั้งสองข้าง
เจ้าเล่ห์น่ะเรานี่ ทำไมมาช้าล่ะ อาหารเย็นหมดแล้ว พี่หมวดนุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว เดินเข้ามาจับแขนผมลง อืมเนื้อตัวยังมีหยดน้ำเกาะอยู่บางส่วน ผมเผ้าก็ยังเช็ดพอหมาดๆ กลิ่นกายสะอาดๆ เท่ห์ชะมัด...เอาอีกแล้วกู เฮ้อ ค้างจากน้องข้าวฟ่างมา แล้วจะมาลงที่พี่หมวดอีกเนี่ยะน่ะ อิอิอิ
พี่หมวดครับ ทานข้าวกันเถอะหิวแล้วครับผม ผมนั่งลงที่เก้าอี้อย่างถือวิสาสะ แทะน่องไก่คำหนึ่งแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ
เฮ้ย ไม่อาบน้ำอาบท่าก่อนล่ะ ไม่เหนียวตัวแย่หรือ ฮึ พี่หมวดก็พูดไปงั้นแหละ แต่แกก็เอาจานมาตักข้าวยื่นให้ผมจนได้
วันนี้จะเลี้ยงฉลองอะไรครับ กับข้าวเยอะแยะไปหมด ผมแกล้งแซว ก็พี่หมวดดันสั่งอาหารมาตั้งหลายอย่าง มีไก่ย่าง ต้มยำกุ้ง ยำรวมมิตรทะเล และกับแกล้มอีกสองสามจาน
เหอะน่า ก็ฉลองที่แกะฝึกครบสี่วันน่ะสิครับ ฮ่ะ ฮ่ะ พี่หมวดพูดอย่างอารมณ์ดี แล้วแกก็เดินไปหยิบกระป๋องเบียร์จากตู้เย็นมาเปิด
โห มีเบียร์ด้วยอ่ะครับ แล้วผมล่ะครับ ไม่ได้สักกระป๋องเหรอคร๊าบ
อ๋อ นี่ไงของแกะ ฮ่ะ ฮ่ะ ไอ้ผมก็นึกว่าเป็นกระป๋องเบียร์ ที่ไหนได้กลายเป็นเป๊ปซี่ เฮ้อ!
เดี๋ยวพี่จะจัดโปรแกรม ให้เราใหม่น่ะครับ พี่หมวดตักอาหารมาให้ผม ...น่ารักเสมอ อิอิอิ
ครับ โปรแกรมอะไรครับ ผมกำลังอร่อยกับน่องไก่ ไม่หาย ยิ่งได้จิ้มกับน้ำจิ้มแซ่บๆ ล่ะก็อร่อยไม่รู้ลืม
พี่จะให้แกะ วิ่งทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ และวันอาทิตย์ ส่วนที่เหลือ พี่จะให้หัดเล่นเวทแล้วน่ะครับ พี่หมวดตักข้าวเข้าปากบ้าง
ฮ้า จริงเหรอครับ ผมแอบลองยกเล่นดูบ้างแล้ว แต่คงต้องให้พี่หมวดสอนเทคนิคให้จะดีกว่า เพราะถ้าฝึกไม่ถูกหลัก จะทำให้กล้ามเนื้ออักเสบได้
วันเสาร์ ให้พักผ่อนได้ งดฝึกทั้งสองอย่าง พี่หมวดซดเบียร์ไป และมองหน้าผมไป ด้วยความสุข
อ้าว ทำไมล่ะครับ จริงๆแล้วผมยังไหวนา
ร่างกายต้องการพักผ่อนบ้างน่ะครับ อย่าหักโหมมาก อีกอย่างแกะต้องกลับบ้านไม่ใช่หรือครับ
เออ ครับๆ ...เอ แล้วพี่หมวดทราบได้ยังไงล่ะครับ ว่าวันนี้ผมจะไม่กลับบ้าน