Thursday, July 28, 2011

บทที่ 169 " อภัยพี่เถิด...คนดี "




บทที่ 169 อภัยพี่เถิด...คนดี
ผมปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไป ตามเสียงขลุ่ยที่ไพเราะเสนาะหู เสียงของมันกังวาล ไปทั้งป่า ไพเราะจับจิตเหลือเกิน...ผมเพ่งมองไปยังท้องฟ้ายามราตรี แสงจันทร์สว่างจ้า สีนวลๆ ส่องลงมากระทบร่างของผม
พี่หมวดครับ ในตอนแรก ผมอยากจะตัดใจจากพี่หมวด เหลือเกิน..ตัดใจเพราะพี่หมวดใจร้าย...กระทำย่ำยีจิตใจของผม...และผมคิดว่าจะไม่ให้อภัยพี่หมวดเลย...แต่ทว่า เมื่อผมได้ฟังเสียงขลุ่ยที่บรรเลงเพลงนี้แล้ว...ใช่ครับพี่หมวด มันยาก...ยากเหลือเกินที่จะตัดใจ ลืม...ลืมพี่หมวดได้โดยง่าย
มึงไม่ต้องไปรำพึงรำพันอะไรมากหรอก ไอ้แกะ แค่พี่หมวดทำกับมึงแค่นี้ มึงยังโกรธแค้นนักหนา...แล้วทีมึงล่ะ ตอนที่มึงบังคับข่มเหงแกในครั้งนั้น...แกกระอัก จนแทบจะฆ่าตัวตาย...มึงทำไมไม่คิด ไอ้เวร
ผมสลัดหัว เพื่อไล่ความคิดทั้งสองด้านออกไป แต่จนแล้วจนรอด ...ความคิดเหล่านั้น ก็วนๆเวียนๆ ซ้ำไปซ้ำมา ...ผมคงยืนเหม่อนานเกินไป จนพี่ภูมิเข้ามาจับไหล่เขย่าตัว...ทำให้ผมตื่นจากภวังค์
เป็นอะไรครับแกะ ยืนเหม่อเชียว
ปะ เปล่าครับ กำลังซึ้งกับเสียงเพลงน่ะครับ แฮะ แฮะ
อะไรกันครับ พี่เลิกเป่าขลุ่ยตั้งนานแล้ว แกะไม่สบายรึเป่าครับ ฮ่ะ ฮ่ะ พี่ภูมิหัวเราะขบขัน
อ่ะ เอ่อ งั้นเข้านอนเถอะครับ ผมอาจจะไม่คุ้นกับป่ามังครับ
อืม งั้นรีบเข้านอนกันเถอะ ดึกมากแล้วสิ พี่ภูมิเลยพาผมไปนอน ที่นอนเป็นเตียงเดี่ยวค่อนข้างอึดอัดนิดหนึ่ง แต่พี่ภูมิก็ให้ผมนอนกอดแกทั้งคืน (แฟนคลับคงคิดว่าจะได้รื้อฟื้นความหลังกับพี่ภูมิล่ะสิครับ...ก็มีบ้าง อะแฮ้ม! ก็แค่ภายนอกน่ะครับ แบบว่าขัดแกไม่ได้อ่ะ หุ หุ รับรองว่าไม่มีอะไรเกินเลยคร๊าบ 555555+)
รุ่งเช้าพี่ภูมิติดธุระ แกให้ผมรออยู่ที่บ้าน แกบอกว่า จะรีบกลับมาพาผมไปเที่ยวต่อ และจะพาไปทานข้าวเที่ยงข้างนอกอุทยาน แล้วจะถือโอกาส ไปส่งผมที่บ้านเลย... ผมรู้สึกเพลียๆอยู่แล้ว เลยนอนอ่านหนังสือเล่น...เช้าวันอาทิตย์นี้ ไม่รู้เจ้าหน้าที่เขาไปไหนกันหมด เงียบเชียว
ผมอ่านหนังสือเพลินๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เป็นหนังสือเกี่ยวกับ พืชๆสัตว์ๆ อะไรทำนองนี้...สักประมาณสิบเอ็ดโมงเช้า ผมก็ได้ยินเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน ก็เลยคิดว่าพี่ภูมิกลับมารับ ผมเลยเตรียมตัวที่จะออกไป...ไม่รู้คิดยังไงผมชะโงกหน้ามองไปที่หน้าต่าง...
โอ๊ะ! นั่น มันรถพี่หมวดนี่นา ผมตกใจ เมื่อเห็นรถพี่หมวด แถมแกยังใส่ชุดตำรวจเต็มยศ ท่าทางมาดมั่น เหมือนกำลังตามจับผู้ร้ายยังไงยังงั้น
ทำไงดีล่ะ พี่หมวดรู้แล้วสิว่า ผมอยู่ที่นี่ และแกคงเคยมาที่นี่แล้ว ตามที่พี่ภูมิบอก...ผมหันรีหันขวาง คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงดี เลยลุกขึ้นไปปิดประตูลงกลอน (แฟนคลับคงจะงง อ้าวก็คนมันกำลัง...งอนอยู๊...เอ๊ย โกรธอยู่ อิอิ)
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดูสิว่า พี่หมวดจะว่ายังไง
ก๊อกๆ แกะ แกะ พี่รู้น่ะว่าแกะอยู่ที่นี่ พี่มีเรื่องจะคุยด้วย ฮึ หมวดอสูรใจร้าย จ้างให้ก็ไม่เปิด
แกะ พี่มารับแกะ กลับบ้าน เปิดประตูครับ
----------------- ผมเงียบดีกว่า ยังไม่อยากเจอหน้าพี่หมวดตอนนี้
ตกลงไม่เปิดใช่มั๊ย พี่หมวดเขย่าประตูเสียงดัง ท่าทางหงุดหงิดทีเดียว
และแล้วเสียงเงียบหายไป พี่หมวดคงกลับไปแล้ว ฮึ แกคงคิดว่าไม่มีใครอยู่แล้วสิ ผมแอบมองดูที่ช่องหน้าต่าง เห็นแกเปิดประตูรถ แล้วคุยวิทยุกับใครไม่รู้ แป๊ปเดียวแกก็สตาร์ทรถออกไป
ฮึ กลับไปได้ก็ดี คิดว่าอยากจะเจอเหรอ ผมยักไหล่ แล้วล้มตัวลงอ่านหนังสือต่อ...แต่ใจหนึ่งก็อดคิดถึงแกไม่ได้ ถ้าแกไม่เจอผม แกจะไปบอกพ่อผมว่าอย่างไร เด็กในปกครองหนีไป ไม่ดูแลให้ดี แกต้องโดนพ่อผมดุให้แน่ๆ (เอาเข้าไปกู...สับสนโว๊ย...สับสน) เวลาผ่านไปสามสิบนาทีได้
Because I'm truly Truly in love with you …
เสียงเพลง Truly ดังกระหึ่ม ลั่นไปทั่ว จนผมตกใจลุกจากที่นอน พี่หมวดอีกแล้ว คราวนี้มีเสียงเพลงประกอบด้วยแฮะ ยังกะรถฉายหนังกลางแปลง ที่มาเร่ขายยาเลย... แกขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านที่เดิม ซ้ำมิหนำยังเปิดหน้าต่างรถออกทั้งสี่ด้าน แล้วเสียงแปดหลอดเนี่ยะ มันจะไม่ดังลั่นได้ยังไงล่ะครับพี่น้อง เฮ้อ!
พี่หมวดใส่แว่นดำสุดเท่ห์ ออกมายืนเต๊ะจุ๊ย ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ มองมาที่หน้าต่าง แกคงเห็นผมแล้วล่ะ
ขณะที่ผมกำลังคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี ผู้คนที่ขับรถผ่านไปผ่านมา ก็เริ่มเข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น...แต่พี่หมวดยังยืน เฉย ทำทองไม่รู้ร้อน....แล้วไอ้แกะจะทนไหวหรือครับ เกิดใครไปบอกพี่ภูมิเข้า หรือไม่พี่ภูมิกลับมาเจอด้วยตัวเอง แล้วแกจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี่ยะ
พี่หมวด พอได้แล้ว อายเขา ผมรีบวิ่งลงไปปิดเครื่องเสียงทันที ดีน่ะที่เป็นเพลงฝรั่ง ซึ่งความหมายมันก็น่าจะเข้าใจอยู่ ว่าหมายถึงอะไร...เกิดแกใช้เพลงไทยล่ะก็ไอ้แกะ คงเอาปิ๊ปคลุมหัวแน่
ฮึ ฮึ ยอมลงมาแล้วเหรอ พี่หมวดยิ้มๆ แล้วทำหน้าตาย
พี่หมวดทำอะไรบ้าๆ ดูสิคนเขามองใหญ่แล้ว ผมเห็นหลายๆคนมองมาที่เราสองคนแบบงงๆ แต่บางส่วนยังยืนมองอยู่ บางส่วนก็แยกย้ายกันกลับไป
งั้นก็ขึ้นรถ พี่หมวดออกคำสั่ง หนอย นี่จะตามมา ง้อรึเปล่าเนี่ยะ เสียงดุเชียว (ตามที่แฟนคลับกำลังลุ้น อิอิอิ)
ผมกำลัง ลังเล ว่าจะอยู่รอพี่ภูมิก่อน ก็พอดีพี่ภูมิขับรถจิ๊ปกลับมา
อ้าว หมวดยุทธ เกิดอะไรขึ้นครับ มีคนไปแจ้งว่ามีตำรวจเข้ามาก่อกวน พี่ภูมิทักทายพี่หมวดทันที หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว
อ๋อ เครื่องเสียงมันเสียน่ะครับ เลยลองเสียงนิดหน่อย ขออภัยครับ พี่หมวดตะเบ๊ะ ให้พี่ภูมิ
อืม...งั้นก็ไม่เป็นไรครับ แล้วนี่จะรับแกะ ไปเลยหรือคุณ
อะไรน่ะครับ พี่ภูมิ นี่มันอะไรกันครับ ผมถามพี่ภูมิด้วยความประหลาดใจ
เออ แกะ พี่ต้องขอโทษน่ะครับ คือพี่ติดธุระต้องต้อนรับผู้ใหญ่ทั้งวันเลยครับ พี่ภูมิบอกผมเนิบๆ แกทำตัวปรกติมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าพี่หมวด
อ๋อ งั้นหรือครับ ผมพยักหน้ารับทราบ
พอดีหมวดยุทธ ติดต่อมา ว่าจะมารับแกะเอง พี่เลยหมดห่วง แกะคงเข้าใจพี่น่ะครับ พี่ภูมิจ้องมาที่สายตาของผม เพื่อให้ผมเข้าใจในภาระหน้าที่สำคัญของแก
ครับ พี่ภูมิไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ ผมบอกพี่ภูมิเสียงอ่อยๆ
ขอบคุณมากน่ะครับ ที่ดูแลแกะเป็นอย่างดี พี่หมวดตะเบ๊ะให้พี่ภูมิอีกรอบ เสร็จแล้วแกก็รีบดึงดันผมขึ้นรถ
พี่ภูมิ อ่ะ เอ่อ ขอบคุณมากน่ะครับ ผมจำใจต้องยกมือไหว้ล่ำลาพี่ภูมิ
ไว้โอกาสหน้าค่อยมาเที่ยวใหม่น่ะครับ พี่ภูมิยิ้มให้ จากนั้นผมกับพี่หมวดก็ขับรถออกมา
ในระหว่างทางดูพี่หมวดเงียบมาก ผมเองก็ยังโกรธแกอยู่ เลยมองออกนอกหน้าต่างรถตลอด จนรถพ้นออกมาหน้าอุทยาน ปกติทางกลับบ้านจะต้องเลี้ยวขวา แต่พี่หมวดดันเลี้ยวซ้าย ซึ่งเป็นทางที่จะขึ้นไปเขื่อนนั่นเอง
พี่หมวดจะไปไหน อ่ะ เ่อ่อ ครับ ผมอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาก่อน หลังจากที่เราทั้งคู่ ต่างคนต่างเงียบ แต่ผมใช้สำนวนออกจะห้วนไปหน่อย พอคิดขึ้นมาได้ถึงลงท้ายด้วยคำว่า ครับ
ยังไม่หายโกรธพี่เหรอ พี่หมวดถามเรียบๆ สายตาที่อยู่ภายใต้เรแบนด์สีดำ ยังคงมองไปข้างหน้า
---------------------- ผมเงียบตามเคย ไม่อยากบอก ก็ไม่ต้องบอก ฮึ
พี่หมวดเห็นผมเงียบ แกก็เลยเงียบบ้าง หนอยไม่ยักกะยอมหันมามองสักแอะ พี่แกยังคงขับรถต่อไปหน้าตาเฉย...รถมาถึงทางที่จะไปสันเขื่อน แต่พี่หมวดกลับหักรถมาทางขวามือ... ขับต่อไปอีก จนกระทั่งแกขับรถมาจอดที่หน้าศาลาแห่งหนึ่ง เป็นศาลาที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดชมวิว จะต้องเดินขึ้นบันไดหลายขั้น ตัวศาลาจะมีที่ว่างสำหรับปิคนิค ทานข้าวหรือสังสรรค์ มีระเบียงกั้นเพราะข้างล่างจะเป็นหุบเหวที่ลึกและกว้างใหญ่มาก มองลงไปข้างล่างแล้วชวนหวาดเสียว เหวอะไรจะลึกและกว้างขนาดนี้ นอกจากนี้ยังเห็นภูเขาซึ่งกั้นเขตแดนจังหวัดอื่น รายล้อมหุบเหวนี้ อยู่ลิบๆ ว่ากันว่าหุบเหวนี้ ดูเหมือนจะมีหมอกควันพวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนก็ตาม
พี่หมวดถอดแว่นดำออก แล้วเอื้อมมือมาเปิดลิ้นชักหน้ารถตรงหน้าผม จังหวะนี้แกเหมือนจะตั้งใจ หอมแก้ม แต่เมื่อผมเอียงคอหนี แกเลยโยนแว่นดำเข้าไปในลิ้นชักแล้วปิดทันที...จากนั้นแกก็ลงจากรถ เดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้ผม พร้อมกับพูดว่า
ลงมาคุยกันก่อนน่ะครับ พี่หมวดจ้องหน้าผม พร้อมกับจับที่ข้อมือผม
ไม่มีอะไรจะต้องคุยแล้ว...ครับ ผมยังใช้คำพูดห้วนๆกับแก พร้อมพยายามสลัดแขนออก
ลงมาเถอะน่า พี่หมวดบีบข้อมือผมแน่นพร้อมกระชากลงจากรถ
ปล่อยผม ผมขัดขืน แต่ก็สู้แรงพี่หมวดไม่ได้ เลยลงจากรถอย่างทุลักทุเล
พี่หมวดปิดประตู แล้วแทบจะลากผม เดินตัวปลิวขึ้นไปบนศาลา ดีน่ะที่ไม่มีใครอยู่แถวๆนี้ ไม่เช่นนั้นคงจะมีคนเข้าใจผิดว่า พี่หมวดกำลังจับผู้ต้องหาอยู่
นั่งลง พี่หมวดบังคับผมให้นั่งลงที่ม้านั่งยาว ภายในศาลา แต่มือก็ยังไม่ปล่อยข้อมือผมเลยทีเดียว
หนีพี่มาทำไมครับ พี่หมวดใจร้าย ยังมีหน้ามาถามแบบนี้อีก ผมโกรธเลยหันหน้าไปทางอื่น
เฮ้อ! แกะโกรธพี่มากหรือครับ พี่หมวดถอนใจ แล้วก้มหน้าลงมองพื้น
ผมหันมามองพี่หมวดแว่บหนึ่ง พอพี่หมวดจะเงยหน้าขึ้น ผมก็รีบก้มหน้ามองพื้นบ้าง แกล้งมองลงไปตามช่องว่างของแผ่นไม้ที่ใช้ปูพื้นศาลา มองทะลุลงไปถึงข้างล่าง มองเห็นต้นไม้ขึ้นปกคลุม อยู่ขอบๆของหุบเหว
แกะ ไม่รู้หรอกว่า พี่เองก็เสียใจ เสียใจมากด้วย ตอนนี้พี่หมวดปล่อยข้อมือผม แล้วใช้สองมือขึ้นมากุมขมับ ก้มหน้าลงมองพื้นเหมือนเดิม
พี่เสียใจ ที่ทำให้แกะเดินถูกทางไม่ได้ แถมตัวเองยังเป็นคนพาแกะหลงทางอีก จริงสิ ในตอนแรกพี่หมวดตั้งใจที่จะแยกผมออกจากพี่ดำ เพื่อให้เราทั้งคู่กลับมาเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง และดูเหมือนว่าพี่ดำจะทำสำเร็จแล้ว...ส่วนตัวผมนั่นหรือกลับมีอะไรกับชายอื่น แถมยังเผลอใจ ไปทำให้พี่หมวดมามีอะไรกับผมจนได้
ผมลุกขึ้นเดินหนีพี่หมวดไปมองวิวที่ระเบียง พี่หมวดเดินตามมาจับขอบระเบียงข้างๆ แกมองไปข้างหน้า มองดูภูเขาที่อยู่ไกลออกไป
เรื่องคืนนั้น พี่เมาจนขาดสติ ไม่เช่นนั้นพี่คงไม่.... พี่หมวดพูดค้างไว้ แล้วเอ่ยต่อว่า
เ่อ่อ ก็พี่โมโห ที่เห็นแกะ กับ ภูมิ... พี่หมวดค้างคำพูดอีกรอบ เหมือนจะตัดสินใจว่าจะพูดต่อดีหรือไม่
อะไรน่ะครับ พะพี่หมวด หะ เห็น อะไรครับ ผมตกใจจนลืมโกรธพี่หมวดไปชั่วขณะ
ช่างมันเถอะ แกะจะยอม เป็นอะไรกับเขามาก่อน พี่ก็คง... พี่หมวดพูดค้าง ให้ผมเข้าใจว่า ผมยอมเป็น ฝ่ายรับ ให้พี่ภูมิอย่างนั้นหรือ
ฮึ พี่หมวดดูถูกผม ใช่ผมเคย ยอม ยอมเป็น เมีย แต่กับพี่ดำคนเดียวเท่านั้น ผมกำหมัดง้างขึ้น อารมณ์โมโหพลุ่งพล่านขึ้นมาอีกรอบ
อ่ะ เ่อ่อ แกะ พี่ขอโทษ ที่ว่าแกะ แรงเกินไป พี่หมวดอมยิ้มนิดหนึ่ง แล้วทำสีหน้าเหมือนจะงอนง้อ
แล้วทำไมต้องขืนใจผม...ผมเกลียด เกลียดคำว่า เมีย เข้าใจมั๊ย!” ผมตะโกนใส่หูพี่หมวด แล้วกระทืบเท้าเดินหนี กลับไปนั่งที่ม้านั่งตามเดิม
อืม แกะ แกะลืมไปแล้วหรือว่า พี่เองก็เป็น...เมีย...แกะ...มาก่อนน่ะ พี่หมวดเดินเข้ามานั่งข้างๆ แล้วพูดขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน ผมถึงกับสะอึก เหมือนมีอะไรวิ่งขึ้นมาจุกอยู่ที่อก...ในตอนนั้นเราเองตะหากที่ข่มเหงน้ำใจพี่หมวดมาก่อน
พะ พี่หมวด คือ ผะ ผม ตอนนี้ผมเริ่ิมสำนึกอะไรบางอย่างออกบ้างแล้ว ผมหันไปมองพี่หมวดที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่ อยากจะพูด... อยากจะอธิบาย...แต่แล้วปากมันหนักๆชอบกล....พี่หมวดเงยหน้าขึ้นมามองผม...และสายตาของเราจ้องกัน...ความรู้สึก รัก ผูกพันธ์ ที่ถ่ายทอดออกมาจากแววตานั้น เป็นการรับรู้ ถึงความรู้สึกของกันและกันแล้ว โดยไม่ต้องปริปากอะไรออกมาเลยก็ได้
ไม่โกรธพี่แล้วใช่มั๊ยครับ พี่หมวดยิ้มกว้าง สบตาซึ้งๆ
ไม่แล้วล่ะครับ ถ้าจะโกรธคงจะโกรธตัวเองมากกว่า ผมยิ้มตอบแก...พี่หมวดหันรีหันขวาง เมื่อรู้ว่าไม่มีใครอยู่ แกจึงตัดสินใจ
ฟ๊อด! พี่หมวดหอมแก้มผมอย่างรวดเร็ว
บ้า พี่หมวดทำอะไรครับ ผมหน้าแดง เลยเดินหนีแกมาที่ระบียง ข้างล่างมันเป็นเหวแล้วน่ะครับ ถ้าตกลงไปคงจะไม่รอด
พี่หมวดเดินกระชั้นชิดเข้ามา หลังผมติดระเบียงแล้ว จะหลบไปไหนก็คงไม่ได้...พี่หมวดก้มหน้าลงมามองหน้าผม สายตาที่แสดงออกมา บ่งบอกถึงคนที่กำลังรักกันเหลือเกิน
ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว พี่จะไม่หักห้ามใจของตัวเองอีกต่อไป พี่หมวดเอื้อมมือขึ้นมาจับคางผม แล้วเชยขึ้น
พี่ไม่รู้หรอกว่า จะอยู่ในฐานะไหนของแกะ จะเป็นพี่ชาย หรือผู้ปกครอง หรือ อะ เ่อ่อ คู่รัก... แต่อยากให้แกะรับรู้ว่า พี่มีความสุขที่อยู่ดูแลแกะ...ขอให้พี่ได้ดูแลแกะตลอดไปน่ะครับ พี่หมวดทำท่าจะก้มลงมาจูบผมจริงๆ
อย่า พี่หมวด เดี๋ยวใครเห็นเข้า
พี่หมวดก็เลย เอื้อมแขนขึ้นมากอดคอผมแทน ผมเบี่ยงตัวไปกอดที่เอวของแก เราสองคนชื่นชมวิวที่อยู่เบื้องหน้า
นับแต่นี้ต่อไป พี่ขอให้แกะอย่าทำตัวเหลวไหล ขอให้มีพี่เพียงคนเดียว จะได้มั๊ยครับ พี่หมวดหันมามองผมแล้วยิ้มอย่างสดชื่น
ได้ครับ แต่พี่ก็ต้องสัญญาน่ะครับ ว่าพี่จะมีผมคนเดียว
เราสองคน ต่างคนต่างยิ้มให้กันอย่างมีความสุข....
********************************
ดวง ใจ อภัยเถิดหนา โปรดหันมาซิเธอ
ใจ คอ ให้คอยเก้อ หรือไร ซม ซาน ด้านมาคืนดี
ได้โปรด เห็นใจ ผลักไส พี่ใย แก้ว ตา
อภัย พี่เถิด ฤดี คราวนี้ ขอ สัญญา
นับ แต่นี้เป็นคน ใหม่ มิ ไถลไปไกล ตา
มา เถิดหนา อย่าเหมิน อย่าหมาง
เคืองระคาง พี่อยู่ใย ใจ คอ ไม่ยอมอภัย
พี่ หรือไรขวัญตา จึง เดิน ทำเมินหน้า หนีไป
ซม ซาน ด้านมางอนง้อ ขอโทษ ขวัญใจ
เจ้าใย หมางเมิน เฉื่อย ชา อภัย พี่เถิด ฤดี
คราวนี้ ขอ สัญญา นับ แต่นี้เป็นคน ใหม่
มิ ไถลไปไกล ตา มา เถิดหนา
อย่าเหมิน อย่าหมาง เคืองระคาง พี่อยู่ใย
อภัย พี่เถิด ฤดี คราวนี้ ขอ สัญญา
นับ แต่นี้เป็นคน ใหม่ มิ ไถลไปไกล ตา
มา เถิดหนา อย่าเหมิน อย่าหมาง
มารักกัน ดั่งเคย
********************************

Tuesday, July 26, 2011

บทที่ 168 " ยาก...จะหักใจลืม "


บทที่ 168 ยาก...จะหักใจลืม
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาราวตีห้าครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาปรกติที่ผมจะออกไปวิ่งตอนเช้านั่นเอง...แสงไฟจากเพดานสว่างจ้า...ร่างกายของผมเปลือยเปล่า และนั่นร่างเปลือยของพี่หมวดที่กำลังนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ...เสียงกรนเบาๆของแก เหมือนกับคนที่กำลังมีความสุขอย่างเหลือล้น ...ผมทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง...รู้สึกเจ็บที่รูสวาทแปล๊บๆ...
ใช่แล้ว...เมื่อคืนนี้เรากับพี่หมวด...ฮือ ฮือ พี่หมวดขืนใจเรา ความรู้สึกในตอนนี้รู้สึกเสียใจ...สับสน...ผมเคยคิด...คิดว่าจะไม่ยอมเป็น รับ ให้ใครเด็ดขาด ยกเว้นพี่ดำ พี่ชายที่รัก เพียงคนเดียวเท่านั้น...แล้วตอนนี้ล่ะผมได้สูญเสีย...ให้กับชายอื่นไปแล้ว
จริงอยู่ถึงแม้ว่า ผมจะมีใจให้กับพี่หมวด การจะยอมให้แกรุกล้ำอธิปไตย มันต้องเกิดจากการสมยอมของผม ไม่ใช่เกิดจากการกระทำย่ำยีขนาดนี้...ความคึกคะนองในการเป็นฝ่าย รุก ได้ถูกพี่หมวดทำลายย่อยยับป่นปี้ไปเสียแล้ว...ซ้ำมิหนำพี่หมวดยังปรามาส คิดว่าผมยอมเป็น เมีย ให้กับพี่ภูมิอีก...ผมรู้สึกเจ็บ...เจ็บกับคำว่า เมียเหลือเกิน...ทั้งเจ็บทั้งแค้น จุกแน่นขึ้นมาที่อก...
ผมร้องไห้ ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม ค่อยๆลุกขึ้นเดิน กะปลกกะเปลี้ย ออกจากห้องพี่หมวด แว่บหนึ่งผมหันไปมองใบหน้าของแก เห็นแกยังนอนคว่ำหน้าหลับตาพริ้ม เหมือนคนที่สะใจในการกระทำเมื่อคืนนี้...ฮึ พอกันที พี่หมวด... ผมเกลียด... เกลียดคนที่ดูถูกดูแคลนผม...และผมจะไม่ให้อภัยพี่หมวดเลย
ผมอาบน้ำแต่งตัวออกจากแฟลต มันเป็นเวลาหกโมงเช้าพอดี ตลาดเช้าที่อยู่ใกล้ๆเริ่มเอะอะจอแจ ผมจึงเลือกที่จะเดินออกมาทางอ่างเก็บน้ำ...ผ่านพี่ๆตำรวจสองสามคน ที่กำลังวิ่งออกกำลังกาย...ได้แต่ฝืนทักทายยิ้มให้... ผมเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย...เดินผ่านสะพาน...เลยมาจนถึงหน้าโรงเรียน แล้วมานั่งหยุดอยู่ที่พักรอรถโดยสาร
ผมไม่อยากจะกลับบ้าน เพราะถ้าหากกลับบ้าน พี่หมวดคงจะตามผมไปแน่ ณ วินาทีนี้ ผมไม่อยากเห็นแม้แต่หน้าของคนใจร้าย แล้วจะไปไหนดีล่ะ...ในที่สุดผมก็เลยคิดถึงพี่ภูมิขึ้นมาได้...เลยตัดสินใจ ใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรบอกให้พี่ภูมิมารับ
พี่ภูมิก็ดีใจหาย บอกว่าแกจะรีบออกมารับผม แต่ระยะทางไกลกันเหลือเกิน... ผมเลยนั่งรถประจำทางไปรอแกที่ทางเข้าอำเภอบ้านผม
พอผมลงจากรถประจำทาง พี่ภูมิก็มารอรับอยู่แล้ว แกยิ้มแก้มแทบปริ
ไง แกะ คิดยังไงถึงอยากไปหาพี่แต่เช้า ฮือ พี่ภูมิถามขึ้นด้วยความยินดี ขณะพาผมไปขึ้นรถจิ๊ปคันเก่งของแก
รู้สึกเบื่อๆอ่ะครับ ผมตอบไปตามความจริง
ไอ้ผู้ปกครองขี้เก๊ก คนนั้นมัน ฝึกแกะหนักเกินไปรึเปล่า พี่ภูมิเข้าใจว่าผมเบื่อจากการฝึกซ้อมร่างกายจากพี่หมวด
อ่ะ ครับ ครับ ผมไม่รู้จะตอบยังไงดี เลยเออออไปตามน้ำ
มันก็เกินไป จะบังคับขู่เข็ญอะไรกันนักกันหนา กับเด็กตัวเล็กๆแค่นี้ พี่ภูมิบ่นอุบ พร้อมสตาร์ทรถ
-------------------- ผมเงียบไม่รู้จะตอบอะไรดี
ไอ้หมวดนั่นน่ะ มันท่าจะบ้า รู้มั๊ย วันจันทร์ที่ผ่านมา มันบุกมาหาพี่ถึงอุทยาน
อะไรน่ะครับ ผมหันขวับไปที่พี่ภูมิด้วยความแปลกใจ
มันมาสอบถามพี่ ว่าพี่สนิทกับแกะแค่ไหน พี่ภูมิพูดต่อหน้าตาเฉย
ห๊า พี่ภูมิว่าไงน่ะครับ ผมชงักนิ่งงัน ...งั้นที่พี่หมวดเปลี่ยนไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา...คงไม่ได้หมายความว่า พี่ภูมิบอกเรื่อง...
ล่ะ แล้วพี่บอก อ่ะ เอ่อ พี่หมวดไปว่ายังไงอ่ะครับ ใจไม่ค่อยดีแล้วกู
พี่ก็บอกไปว่า พี่สนิทกับแกะตั้งนานแล้ว แทบไปกินไปนอนที่ห้องของแกะด้วยซ้ำ
ห๊า! ผมอุทานอีกรอบ
ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เรื่องของเราเป็นความลับเสมอ ฮึ ฮึ พี่ภูมิเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ
--------------------- ผมเงียบอีกรอบ ผมชักมั่นใจว่า พี่หมวดอาจจะระแคะระคายอะไรระหว่างผมกับพี่ภูมิเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นแกจะระเบิดอารมณ์ ออกมาขนาดนั้นเลยหรือ
อ้าว เงียบเลย นี่มันจัดตารางฝึกให้แกะมากเกินไปรึเปล่า
อ่ะ เอ่อ ครับ ผมกำลังคิดเรื่องพี่หมวดอยู่เลย ตอบไปแบบแกนๆ
อุบะ แกะเองก็ต้องเรียนหนักไม่ใช่เหรอ พี่ภูมิบ่นไปแล้วพูดต่อไปว่า
เอางี้พี่ไปช่วยเจรจากับพ่อของแกะให้ เอามั๊ยครับ พี่ภูมิทำท่าจะหักพวงมาลัยเลี้ยวไปทางเข้าบ้านผม
อย่าเลยครับพี่ภูมิ ช่างเถอะครับ ตอนนี้ผมอยากพักผ่อนอ่ะครับ ผมรีบห้ามพี่ภูมิไว้ ไม่อยากให้พ่อรู้ เดี๋ยวจะเดือดร้อน
แล้วนี่ไอ้หมวดนั่น รู้รึเปล่าว่าแกะมาหาพี่อ่ะ พี่ภูมิขับรถกลับไปทางอุทยานตามเดิม
อ่ะ เอ่อ มะ ไม่ครับ คะ คือ เขางานยุ่งน่ะครับ เขาคงคิดว่าผมกลับบ้านอ่ะครับ ผมตอบเสียงอ่อยๆ
เฮ้อ! แกะนี่นา จะทำให้พี่เสียผู้ใหญ่แล้วมั๊ยล่ะ
ผมขอโทษครับ ผมยกมือไหว้พี่ภูมิ แล้วหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง พี่ภูมิคงเห็นว่าผมทำสีหน้าไม่ดีเลยพูดขึ้นมาว่า
เอาล่ะ เอาล่ะ เดี๋ยวถึงอุทยานแล้ว พี่จะโทรมาขอพ่อให้น่ะ
ขอบคุณครับพี่ภูมิ
หลังจากนั้นเราก็คุยกันเรื่องอื่น เพราะพี่ภูมิมีเรื่องฝูงกวางป่า (ตัวเล็กน่าจะเรียกว่าสมัน) ที่กำลังออกมาและเล็มหญ้าตรงเนินดิน คล้ายๆกับเป็นภูเขาหัวโล้นลูกเล็กๆแต่มีหญ้าและสุมทุมพุ่มไม้เตี้ยๆปกคลุมอยู่จนทั่ว...แกเลยคุยเรื่องนี้อย่างออกรส
พี่ภูมิแวะพาผมทานข้าวแล้ว พาผมไปเที่ยวดูฝูงกวางตามที่บอก โห มันเยอะแยะไปหมด กระโดดโลดเต้นไปมา เวลาผมจะเข้าไปใกล้ มันก็จะกระโดดหลบไปในพุ่มไม้ ...ผมล่ะเพลิดเพลินจนลืมเรื่องพี่หมวดไปเลย
ขณะนั่งรถกลับ ดูเหมือนมีตัวอะไรบางอย่างกำลังกัดที่ข้อเท้าด้านซ้าย
พี่ภูมิไม่รู้ตัวอะไรกัดอ่ะครับ
ไหนๆ ตายล่ะ เมื่อกี้แกะลงไปพงหญ้านี่ พี่ภูมิหยุดรถทันที เล่นเอาผมงง พี่ผมลงมาเปิดประตูรถให้ผมลง แล้วบอกว่า
ถอดรองเท้าออกสิ ผมเลยถอดรองเท้าและถุงเท้าออก
เฮ้ย! ปลิง ผมตกใจมากมันมาอยู่ในรองเท้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ตัวมันบวมๆลื่นๆน่าขยะแขยง ผมพยายามเอาไม้เขี่ยมันก็ไม่ออก ก็มันกำลังดูดเลือดผมอยู่น่ะสิครับ
นี่แหละตัวทาก ไม่ต้องกลัวหรอก เดี๋ยวพี่จัดการให้ พี่ภูมิเอาไฟแช๊กมาจุด แล้วใช้เปลวไฟร้อนๆรนที่ตัวมัน...ปลิงดูดเลือดจึงยอมหดตัวและตกลงไปที่พื้น
อยู่ในป่าก็งี้แหละ ต้องระวังตัวนิดหนึ่ง พี่ภูมิบอก จากนั้นแกก็พาผมขับรถต่อไป
แกะเคยเห็นต้นมะขามป้อมมั๊ยครับ
ไม่ครับ แต่เคยเห็นลูกมันครับ
นั่นไงต้นของมันล่ะ พี่ภูมิจอดรถที่ข้างต้นไม้ต้นหนึ่ง ลักษณะอธิบายไม่ถูก จะว่าใบมันเหมือนมะขามก็ไม่ถูกสะทีเดียว แต่ลูกกลมๆสีเขียว ดกเต็มต้นเลย
แหวะ ฝาดๆเปรี้ยวๆ ไงก็ไม่รู้อ่ะครับ
ฮ่ะ ฮ่ะ แต่วิตามินซี สูงน่ะครับ พี่ภูมิหัวเราะด้วยความขบขัน แต่ผมล่ะขอบายดีกว่า อิอิอิ
การได้เที่ยวป่าเขา ดูสิงสาราสัตว์ ทำให้จิตใจของผมสดชื่นอย่างประหลาด ผมไม่แปลกใจเลยที่พี่ภูมิเลือกที่จะทำงานด้านนี้ ถึงแม้จะไม่ได้นั่งเก้าอี้หรูๆในที่ทำงาน แต่การอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ก็ทำให้ชีวิตมีความสุขไปอีกแบบหนึ่งจริงๆ
แกะจะค้างที่นี่สักคืนมั๊ยครับ เดี๋ยวพี่จะพาไปส่องสัตว์
โห จริงหรือครับ ผมเองก็อยากเห็นอ่ะครับ ผมเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น
จริงสิ งั้นพี่โทรไปบอกทางบ้านแกะก่อนน่ะครับ ท่านจะได้ไม่เป็นห่วง
ดะ เดี๋ยวครับ ผมห้ามพี่ภูมิไม่ทัน จริงๆก็ไม่อยากให้ทางบ้านรู้เท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละพี่ภูมิคงกลัวทางบ้านผมเป็นห่วง
ราวๆสองสามทุ่ม พี่ภูมิและลูกน้องอีกราวสามคน พาผมขับรถจิ๊ป ลาดตระเวณ ไปในป่า แทนที่จะพาไปนั่งห้างเหมือนที่ดูในหนัง พี่ภูมิบอกว่ายังไม่พร้อม เอาไว้โอกาสหน้าจะพาผมไปลองนั่งห้างดู รถก็ขับไปทางถนนนั้นแหละ แต่มันเป็นป่าที่ดงดิบอ่ะครับ ซึ่งมันมืดมิดน่ากลัวมาก แต่พวกเราใช้สปอร์ตไลท์จึงมองเห็นทางได้ค่อนข้างชัดเจน ...เจอสัตว์ป่าหลายชนิดเลย ไม่ว่าจะเป็น หมูป่า อีเห็น นกกลางคืนชนิดแปลก เก้ง กวาง รวมทั้งช้างป่าด้วย
กลับมาบ้านพักพี่ภูมิก็ราวๆห้าทุ่มได้ ลูกน้องพี่ภูมิแยกตัวไปนอน ผมกับพี่ภูมิยืนเล่นที่ระเบียงบ้าน เพราะเดือนหงายดีทีเดียว
เงียบจังเลยครับ พี่ภูมิ พี่ภูมิอยู่ได้ไงครับ
พี่ก็อยู่จนชินแล้วล่ะครับ ฮึ ฮึ
แล้วพี่ภูมิไม่เหงาหรือครับ
อืม ก็มีบ้าง แล้วแกะไม่ง่วงนอนหรือครับ
ยังเลยครับ เงียบๆอย่างนี้ ถ้ามีใครสักคนเล่นดนตรีคงจะเพราะดีน่ะครับ ผมก็พูดไปตามเรื่อง เพราะเวลาที่ดูหนังเวลาอยู่กลางป่า พระเอกชอบเป่าใบไม้หรือไม่ก็เป่าขลุ่ยให้นางเอกฟัง (หมายเหตุ ในที่นี้ไอ้แกะไม่ขอรับบทนางเอกน่ะคร๊าบ...รับทราบด้วย พี่น้องทุกท่าน เอิ๊ก เอิ๊ก)
แกะอยากฟังมั๊ยล่ะครับ พี่ภูมิเดินกลับเข้าไปในห้อง หยิบขลุ่ยมาอันหนึ่ง
พี่ภูมิเป่าเป็นด้วยหรือครับ พี่ภูมิไม่ตอบ กลับตั้งใจหยิบขลุ่ยขึ้นมาจับอย่างทะมัดทะแมง
แกเป่าได้หลายเพลง และไพเราะทั้งนั้น อาทิ เขมรไทรโยค ดาวดวงเดือน เป็นต้น แต่แล้ว ก็มีเพลงๆหนึ่งที่สะกดผม..ทำให้ตั้งใจฟัง จนขนลุกซู่ทีเดียว
********************************************************
...หักใจลืม เขาได้อย่างไร
เมื่อใจ เราคอยเฝ้าแต่คนึง
อยากจะลืมสัมพันธ์ที่เคยรักครั้งหนึ่ง
แต่ยังตรึงไม่เลือนฝังแน่นอุรา
หักใจลืม เขาก็ไม่ลง
เฝ้าแต่คง พะวงถึงอยู่ทุกครา
หลับตาลงครั้งใด ให้มองเห็นแต่หน้า
ภาพเธอมาหลอนใจ ทั้งที่อยากเมิน
เขาไม่ รักจริง ทิ้งให้ ช้ำใจ
เราทำไมถึงต้อง มาเป็นส่วนเกิน
หรือบาปฉันทำ ถึงต้องเผชิญ
เธอคงเพลินหลงไป ให้ใฝ่หา
หักใจลืม เขาบ้างเถิดใจ
ปล่อยเอาไว้ เราคงได้แต่น้ำตา
เชื่ออะไรน้ำคำ ก็คงช้ำมากกว่า
หักใจลาทั้งยาก จะหักใจลืม
..
เขาไม่ รักจริง ทิ้งให้ ช้ำใจ
เราทำไมถึงต้อง มาเป็นส่วนเกิน
หรือบาปฉันทำ ถึงต้องเผชิญ
เธอคงเพลินหลงไป ให้ใฝ่หา
หักใจลืม เขาบ้างเถิดใจ
ปล่อยเอาไว้ เราคงได้แต่น้ำตา
เชื่ออะไรน้ำคำ ก็คงช้ำมากกว่า
หักใจลาทั้งยาก จะหักใจลืม
หักใจลาทั้งยาก จะหักใจลืม
********************************************************