Saturday, December 5, 2009

บทที่ 104 " ชายลึกลับ...กับซองจดหมาย "



บทที่ 104 “ ชายลึกลับ...กับซองจดหมาย ”

เฮ้ย คิดอะไรบ้าๆ ในวัดในวาน่ะมึง บาปกรรม กูว่าไปตามพวกพี่ซันเถอะ กูเริ่มหิวข้าวแล้วว่ะ ผมพยายามหาทางออก แกล้งลุกขึ้นยืน แล้วทำทีจะเดินไปที่หน้าโบสถุ...จริงๆแล้วมันก็ใกล้เที่ยงแล้วล่ะ จะว่าไปก็ยังอิ่มมะพร้าวอยู่เลย
อ้าว มึงหิวแล้วเหรอ ถ้างั้นไปตามพวกพี่ซันกัน ไอ้มุกลุกขึ้นยืนบ้าง แล้วเดินนำหน้าผมเข้าไปที่หน้าโบสถุ...ดูเหมือนว่ามันจะไม่เซ้าซี้ถามเรื่องพี่ชายที่รักอีก
ไอ้โชค ไอ้ม้วน ไอ้โกก และไอ้เท่ง ดูพวกมันตื่นเต้นกันมากที่เห็นผมถือลูกยางอันหนึ่งอยู่ในมือ พวกมันแย่งกันโยนเล่นอย่างสนุกสนาน...ผมเลยต้องพาพวกมันย้อนกลับไปเก็บเอาลูกยางมาจำนวนหนึ่ง...เห็นพวกมันบอกว่ามันจะเอากลับไปเป็นที่ระลึก....เพราะเห็นเป็นของแปลกกระมัง
พี่ซันขับรถพาพวกเราออกมาจากวัด พวกผมแวะทักทายบ้านไอ้อ้วน ซึ่งเป็นทางผ่านออกสู่ถนนใหญ่ (อันนี้เพื่อนๆลองนึกภาพดูน่ะครับ บ้านไอ้ซอจะอยู่หัวมุมเหมือนสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดใหญ่ระยะห่างราว10 กิโลเมตรได้ ซึ่งบ้านมันจะอยู่ทางด้านเหนือ แต่พวกเรามองไม่เห็นกันหรอกครับ เพราะมีป่ามะพร้าวและต้นหมากบังอยู่เป็นทิวแถว...ถัดมาจากบ้านไอ้ซอ ทางขวามือจะเป็นที่ว่าการอำเภอ ...บ้านไอ้อ๊อด... ตลาด...ตามถนนมาเรื่อยๆ จะเป็นทางเข้าวัด ซึ่งเรากำลังจะเดินทางออกมา ไงครับ ส่วนบ้านผม ก่อนที่จะถึงบ้านไอ้อ้วน จะมีถนนตัดผ่านออกมาทางด้านทิศใต้ อีกประมาณกิโลเศษๆ ซึ่งบ้านผมจะปลูกแบบสมัยใหม่หน่อย น้ำประปายังไม่มี แต่บ้านผมสร้างแท๊งค์น้ำ ไว้สูงๆข้างๆตัวบ้าน จะใช้เครื่องสูบน้ำบาดาล ให้เต็มเวลาใช้น้ำตามก๊อกน้ำ หรือฝักบัว ก็เลยดูเหมือนจะคล้ายการใช้น้ำประปาในเมือง ครับผม)
บ้านไอ้อ้วนพ่อมันจะเปิดร้านซ่อมพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะ ทีวี เสตอริโอ ฯลฯ และทำนาไปด้วย มันมีน้องชายถัดมันลงมาปีหนึ่ง หล่อและเรียนเก่งด้วย ส่วนน้องชายคนที่สอง พ่อมันส่งไปเรียนทางด้านช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้านี่แหละ ที่กรุงเทพฯ และมันมีน้องสาวอีกคนหนึ่ง โดยปรกติตอนเรียนม.ต้น ไอ้อ้วนจะสนิทกับผมมากกว่าใครในแก๊งค์ แต่ว่าตอนนี้ ไอ้อ๊อดมาจับจองตัวมันสะแล้ว 5555 สองคนนี้ไม่ยอมห่างจากกันเลย ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็เถอะ ดูเหมือนไอ้อ๊อดจะมาสิงสถิตอยู่ที่นี่
พวกเราเดินทางกันต่อจนถึงสี่แยก ด้านตรงข้ามจากทางเข้าตัวเมือง จะเป็นทางไปเที่ยวอุทยาน และเป็นทางผ่านบ้านไอ้จุ๊ ส่วนถนนสายเอเชียที่ตัดผ่าน ด้านขวามือจะไปทางโรงเรียนเก่าผม และใกล้ๆบ้านไอ้ซอ ต่อจากนั้นถนนเส้นนี้จะตัดผ่านเทือกภูเขาที่กั้นเขตแดนของจังหวัด....เอาไว้ (และไม่ไกลนักจะเป็นอุทยานแห่งชาติอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน) ส่วนด้านซ้ายมือ ก็เป็นถนนที่มาจากจังหวัดอื่นที่เจริญกว่าจังหวัดที่ผมอยู่ (แฟนคลับอย่าเพิ่งบ่นน่ะครับ ว่าอยู่ตรงไหนของประเทศไทย เอาไว้เฉลยแน่นอนครับ เมื่อเรื่องใกล้จบ แกะดำสัญญาครับผม)
พี่ซันเอารถไปจอดที่หน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง ตรงหัวมุมถนนด้านขวามือ นับจากทางที่พวกเราออกมาจากตัวเมือง ซึ่งร้านค้าตรงนี้จะมีตึกอาคารพาณิชย์เรียงกันออกมาหลายๆตึก (บรรยายมากเกินไปแล้ว 5555 เดี๋ยวเบื่อ เอาเป็นว่ารอบๆสี่แยกตรงนี้ จะมีตึกอาคารร้านค้า กระจัดกระจายทั้งสี่ทิศ เพราะผู้คนเริ่มอพยพจากตัวเมืองเก่าออกมาหาความเจริญที่บริเวณนี้นั่นเอง )
พวกเราเข้าไปสั่งอาหารตามสั่งกันคนล่ะจานสองจาน ที่โต๊ะผมมีไอ้มุกประกบผมไม่ห่าง นอกจากนี้ก็มีไอ้ม้วน ไอ้โชค และไอ้โกก นั่งอยู่ด้วย ส่วนไอ้เท่งไปนั่งกับพวกไอ้ซอ ไอ้จุ๊ ไอ้อ้วน ไอ้อ๊อด และไอ้เบนซ์ อีกโต๊ะหนึ่ง ก็มีพี่ซันพี่ไช้ และแฟนสาวทั้งสองคน ในร้านค้ามีตู้เพลงในสมัยนั้น ที่จะต้องหยอดเหรียญหนึ่งบาท ในการเลือกเพลง พวกเราก็เข้าไปเลือกเพลงกันตามสะดวก
ขณะที่พวกผมกำลังรับประทานอาหารกันอยู่ รู้สึกจะเป็นข้าวราดกระเพราไก่ ไข่ดาวประมาณนี้ ผมสังเกตเห็นว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่ง รูปร่างสันทัด ผิวพรรณออกดำๆแดงๆ ใส่เสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีฟ้าอ่อน กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีขาว ...นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะหัวมุม กำลังจิบกาแฟเย็น และอ่านหนังสือพิมพ์ แต่ว่าเหมือนจะอำพรางใบหน้าสะมากกว่า เพราะวิธีการอ่านหนังสือของแก เหมือนไม่ตั้งใจอ่าน...ดูเหมือนจะลอบมองไปข้างนอกถนนอยู่เรื่อย เหมือนรอคอยใครสักคน...
ต่อจากนั้นผมก็ไม่ได้ใส่ใจอีก เพราะมัวแต่คุยเรื่องสัพเพเหระกับเพื่อนๆในโต๊ะ แต่ทว่ามีตอนหนึ่ง ที่ชายผู้นั้นเริ่มสนใจมองมาที่โต๊ะของผม
ไอ้แกะ นี่มึงจะย้ายไปอยู่กับพี่ยุทธ เมื่อไหร่ว่ะ ไปอยู่แฟลตตำรวจ แล้วมันจะสะดวกสะบายเหมือนอยู่บ้านพี่เอกหรือว่ะ ไอ้ม้วนถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
แล้วไง อยู่แฟลตตำรวจ มันไม่ดีตรงไหน ห้องพี่ยุทธน่ะ กูรับผิดชอบ ทำความสะอาดอยู่โว๊ย ไอ้แกะมึงไม่ต้องห่วงหรอก นอกจากนี้เรื่องอาหารการกินและเสื้อผ้า กูก็ดูแลอยู่แล้ว ไอ้โชคพูดขึ้นมาเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
เฮ้ย กูไม่ได้ตั้งใจว่ามึง เพียงแต่กูเป็นห่วงพี่เอกว่ะ แกต้องอยู่บ้านคนเดียวน่ะสิ
อ้าว งานนี้ พ่อไอ้แกะเป็นคนสั่งนะโว๊ย ไอ้แกะต้องไปเป็นเด็กในปกครองของพี่ยุทธ...พ่อเขาคงอยากให้มึงเป็นตำรวจมั๊ง จริงมั๊ยไอ้แกะ ไอ้โกกเสริมขึ้นบ้าง
ตกลงเรื่องเป็นมายังไงเนี่ยะแกะ กูล่ะงงว่ะ พวกมึงคุยเรื่องอะไรกันว่ะ ไอ้มุกคนเดียวล่ะครับ ที่ไม่รู้เรื่องอะไร
แล้วใครคือ พี่เอก และพี่ยุทธนี่คือใคร ทำไมมึงต้องเป็นเด็กในปกครองของเขาด้วยว่ะ พวกเราตักข้าวเข้าปากไป ก็สนทนากันไป ในตอนนี้ดูเหมือนว่าชายคนนั้น จะลุกขึ้นมาเดินเลียบๆเคียงๆใกล้โต๊ะผมมากขึ้น แล้วแกล้งเฉไฉทำทีไปดูรายชื่อเพลงที่ตู้เพลง ซึ่งมันเงียบมาได้สักพักแล้ว เนื่องจากต้องการให้คนไปหยอดเหรียญต่อ
ไอ้มุก พี่เอกก็คือพี่ดำที่มึงเจอกันที่วัดน่ะแหละ....ส่วนพี่ยุทธ ก็คือพี่หมวด ร้อยตำรวจโท.....ประจำ ส.น.....ไง ...สำหรับเรื่องที่กูจะไปอยู่กับแกนี่ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ว่ะ อืม พ่อกูคงอยากให้กูไปซึมซับความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎรมั้ง ผมอธิบายไอ้มุกไปเรื่อยๆ และตอนนี้ดูเหมือนชายแปลกหน้าคนนั้นจะชงักนิ่ง แล้วหันหน้ามาจ้องมองผมไม่วางตา....เอ แล้วจะมามองทำไม ถ้าจะว่าเป็นประเภทชายรักชาย ก็ไม่เห็นว่าจะมีวี่แววเอาสะเลย ตัวก็ล่ำๆ หน้าก็โหดๆ เหมาะจะเป็นพวกมือปืน หรือนักเลงหัวไ้ม้สะมากกว่า
ผมหลบหน้าไปทางอื่น...แต่พอหันกลับไป แกก็กลับเดินหนี และดูเหมือนจะเข้าห้องน้ำไป....
อย่างนี้เองใช่มั๊ย ที่พี่ดำเขาห่วงมึงนักห่วงมึงหนา เพราะอยู่บ้านเดียวกันนี่เอง ไอ้มุกโพล่งขึ้นมาเสียงดังเชียว เล่นเอาผมตกอกตกใจหมด
ฮ่ะ ฮ่ะ ไอ้มุ๊ก พี่เอกน่ะเขามีศักดิ์เป็นพี่ชายไอ้แกะคนหนึ่งน่ะมึง แถมตอนนี้จะกลายมาเป็นพี่เขยอีก โอ๊ยกูล่ะกลุ้ม ลำดับญาติบ้านนี้ไม่ถูกเลยว่ะ ไอ้ม้วนคุยไปหัวเราะไปโดยไม่ระแคะระคายความผิดปกติที่ใบหน้าของไอ้มุก ใช่ครับตอนนี้มันคงจะเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ชายที่รักเข้าให้แล้ว
หวอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงไซเลนรถตำรวจดังลั่นอยู่หน้าร้าน ผู้คนแตกตื่นกันกรูกันออกมาดูที่นอกร้านกันหมด ผมก็เดินออกมาดูกับเขาด้วย ทันได้เห็นรถตำรวจคันหนึ่งกำลังไล่จี้ ตามจับรถตู้สีขาว ซึ่งติดฟิมล์กรองแสงสีดำสนิท...รถสองคันวิ่งผ่านหน้าร้าน ไปอย่างรวดเร็ว ไปตามถนนใหญ่มุ่งหน้าไปทางบ้านไอ้จุ๊ (ซึ่งทางนี้ห่างไปอีกห้ากิโลได้ จะมีทางลัด ซึ่งแยกออกจากถนนใหญ่ที่จะไปอุทยาน ทางที่ผมกับพี่ชายที่รักใช้เดินทางกลับบ้านบ่อยๆ )
สงสัยตามจับพวกค้ายาบ้ามั๊ง หมู่นี้ชักจะชุมน่ะ บ้านเราอ่ะ ต้องระวังลูกๆหลานๆกันให้ดี เสียงชาวบ้านพากันส่งเสียง อื้ออึง วิพากษ์วิจารณ์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หวอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงรถตำรวจอีกคันกำลังใกล้เข้ามา ดูเหมือนว่าจะใกล้เข้ามาที่ร้านที่พวกผมอยู่ทุกขณะ
หวอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ้าวนั้นอีกคัน รู้สึกจะมาจากในเมืองที่ผมเพิ่งออกมาตะกี้ และจุดหมายน่าจะเป็นที่ร้านนี้อีกเช่นกัน
ไอ้น้อง พี่ขอคุยด้วยหน่อย เร็วเข้า ชายแปลกหน้าคนนั้น เข้ามากระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ พร้อมกับดึงแขนผมแทบกระชาก ตอนนั้นเพื่อนๆทุกคนต่างพากันสนใจรถตำรวจที่กำลังวิ่งเข้ามาที่ร้านกันหมด เลยไม่มีใครสนใจในตัวผม
ชายแปลกหน้าลากตัวผมเข้ามาในห้องน้ำ แล้วปิดประตูอย่างแน่นหนา พร้อมกับกอดปล้ำผมแล้วดันผมไปติดฝาผนัง
เฮ้ย! พี่จะทำอะไรผม อย่าน่ะ ผมสู้น่ะ ผมผลักหน้าอกแกออกไป พร้อมกำหมัด ในท่าการ์ดมวย
เป็นมวยด้วยรึ ดี หมวดยุทธนี่ก็ตาแหลมเหมือนกันน่ะ ชายคนนั้นไม่สะทกสะท้านอะไร คงคิดว่าเด็กอายุแค่ สิบห้าอย่างผมคงไม่มีพิษสงล่ะมัง
ไอ้น้องรู้จักหมวดยุทธใช่มั๊ย พี่ฝากซองนี้ให้หมวดหน่อยน่ะ พี่ต้องรีบไปแล้ว ตอนแรกนึกว่าแกจะเข้ามาทำมิดีมิร้ายผมสะอีก แต่ทั้งหน้าตาและท่าทางมันไม่ใช่สเปกผมเลยอ่ะ 5555555+
อย่าลืมบอกหมวดยุทธ ให้ล๊อคประตูให้ดีน่ะ บอกว่าพี่กำลังไปเชียงราย ชายคนนั้นพูดเร็วปรื๋อ ก่อนที่จะถอดกลอนประตูห้องน้ำแล้วพรวดพราดออกไป
ดะ เดี๋ยว ผมพูดแค่ในลำคอเท่านั้น ยังไม่ได้เปล่งเสียงออกมาเลย เหตุการณ์มันเกิดเร็วมาก จนตั้งสติไม่ทัน
หยุด! นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยกมือขึ้น ตำรวจหนุ่มคนหนึ่ง โผล่พรวดเข้ามา พร้อมกับเอาปืนจี้ที่หน้าอกผม ผมตกใจจนตัวสั่น แต่ก็ยอมยกมือทั้งสองข้างขึ้นตามคำสั่ง
อ่ะ เ่อ่อ กะ เกิดอะไรขึ้นครับ ผมละล่ำละลักถาม
เงียบ!กำอะไรเอาไว้ แบบมือออก ไม่งั้น ถูกยิง!จ่าตำรวจหนุ่มยังคงจี้ปืนอยู่ที่หน้าอกผมเขม็ง ผมจำเป็นต้องคลายมือออก ซองจดหมายสีขาวก็เลยร่วงหล่นลงบนพื้น
ถอยไป!" ผมถูกผลักให้ไปประชิดกับผนังห้องน้ำด้านหนึ่ง แล้วถูกจับหันหลัง พร้อมกับปืนกดเข้าที่ท้ายทอย ด้านหน้าของผมตอนนี้ถูกเบียดบี้แบนอัดเข้ากับผนังปูนอย่างแรง
สารวัตรครับ พบผู้ต้องสงสัยอยู่ในห้องน้ำครับผ๊ม!” เสียงจ่าตำรวจหนุ่มคนเดิมตะโกนออกไปข้างนอก แต่ปืนยังจี้ที่ท้ายทอยของผมอยู่
ว่าไง! เสียงเหมือนตำรวจที่เป็นสารวัตรจะเข้ามา
พบผู้ต้องสงสัย กำซองกระดาษสีขาวนี้อยู่ครับผม! เหมือนเสียงจะเงียบไป คงจะมีคนหยิบซองนั่นขึ้นมาเปิดดู
ซองเปล่า!
ค้นตัวมันสิ! สารวัตรสั่งให้ลูกน้องค้นตัวผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่เว้นแม้ภายในกางเกงใน
ของอยู่ไหน มึงบอกกูมาซะดีๆ เสียงถามแบบกระชากๆ นี่ผมไม่ใช่ผู้ต้องหาน่ะครับ
ขะของอะไร ผะ ผมไม่รู้เรื่อง ผมพยายามพูดด้วยความยากลำบาก มีโอกาสพูดก็ตอนที่มันถอนตัวออกจากการเบียดขยี้ตัวผมที่กำแพงนั่นแหละ
โป๊ก!
โอ๊ย!มันเอาด้ามปืนตีหัวผมครับ
โกหก! มึงเป็นลูกน้องเสี่ยศักดิ์ ใช่มั๊ย?”
เอาละสิงานนี้ผมล่ะงงเป็นไก่ตาแตก ตกลงเรื่องระหว่างพี่หมวดกับเสี่ยศักดิ์เกี่ยวข้องอะไรกับชายลึกลับคนนี้...และทำไมเขาถึงฝากซองจดหมายเปล่าๆไว้ให้พี่หมวดล่ะ....ตกลงตอนนี้ผมต้องมากลับกลายเป็นผู้ต้องหาไปแล้วใช่มั๊ย?

2 comments:

  1. หวัดดีครับ เพื่อนๆที่ติดตามเรื่องราวมาตลอด ทั้งที่เม้นท์ให้ และไม่เคยเม้นท์เลย แกะดำ ขอพักร้อน หนึ่งเดือนครับผม จะกลับเมืองไทยครับ แล้วจะมาเขียนต่อ หลังปีใหม่น่ะครับผม...สวัสดีปีใหม่ทุกท่าน

    ReplyDelete
  2. อ่า ... ว่าผมอะดิครับ ผมไม่เคยโพสต์เลย ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ ผมเป็นกำลังใจให้กับแกะในทุกๆ เรื่องครับ

    ReplyDelete