Friday, October 8, 2010

บทที่ 152 " อดีตรัก...และนักร้องสาว "


บทที่ 152 “ อดีตรัก และนักร้องสาว ”

หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่หมวด แทบจะไม่เหลือเค้าของคนที่มีใจให้กันและกันอีกเลย...การแสดงออกระหว่างเรา กลับกลายเป็นเพียงพี่ชายกับน้องชายธรรมดาๆเท่านั้น...ผมยังคงฝึกฝนตามตารางที่พี่หมวดให้มา บางครั้งที่พี่หมวดไม่ว่าง แกก็ให้พี่เข้มมาฝึกให้ บางครั้งผมยังได้ฝึกกับจ่ามิตร พ่อของไอ้โชค อีกด้วย
เหตุการณ์ภายในโรงเรียนปรกติ พี่ดำยังคงยุ่งในการเตรียมทีมฟุตบอลให้โรงเรียน ผมจะเห็นแกบ้างในตอนเย็นที่สนามฟุตบอล งานนี้ไอ้จุ๊และไอ้ม้วนเตรียมตัวคัดเลือกเข้าทีมกับเขาด้วย พี่โก้เองก็ยุ่งเรื่องทีมนักมวยเหมือนกัน เพราะขาดแกไปแล้วคงไม่มีใครเป็นตัวหลักของทีมได้ เห็นอาจารย์วิชาญบ่นๆเรื่องนี้อยู่ ส่วนน้องข้าวฟ่างยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการเรื่องที่จะเข้ามาฝึกมวย เพราะทางโรงเรียนจะจัดการตั้งมวยสากลเป็นชมรมขึ้น แบบเป็นเรื่องเป็นราว ในเทอมต่อไป
และสิ่งที่พิเศษในวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ก็คือ ทางโรงเรียนเตรียมจัดงานแสดงเพื่อเลี้ยงอำลา ผ.อ. และถือโอกาสให้รุ่นพี่ม.6 ได้แสดงกิจกรรมบนเวทีก่อนจบการศึกษาด้วย งานนี้ผมโดนเรียกตัวไปเทสเสียง 55555+ เพื่อร้องเพลงคู่กับชมภู่ ตอนแรกว่าจะไม่ไป แต่อาจารย์วิรัช (อาจารย์ประจำห้องโสต และสอนดนตรี) มาตามถึงห้องเรียน ก็เลยขัดไม่ได้
ผมซ้อมร้องเพลงกับชมภู่ ในตอนเลิกเรียนประมาณเกือบๆสี่โมงเย็น โดยอาจารย์วิรัชเล่นอิเลคโทนเป็นเสียงดนตรีประกอบ ก็เป็นเพลงคู่รวมดาวน่ะแหละ
“เห็นได้ข่าวว่าเสียงดี ครูเลยอยากเทสเสียงเธอดูหน่อย อ้าวเริ่มเลย” อาจารย์วิรัชให้ผมเริ่มร้องเพลง นกเขาคู่รัก
“โน่นแนะนกเขาคู จุ๊ก จุ๊กกรู นกมันเฝ้าคู หาชู้มัน” ผมเริ่มร้องก่อน เอาล่ะคราวนี้เป็นคราวของชมภู่ล่ะ
“โถ โก่งคอทำเสียงหวาน หวาน...”
“พอๆ เสียงเข้ากันไม่ได้ เสียงนายแกะต่ำไป ชมภู่สูงไป เอาใหม่ๆ” อาจารย์ดุเชียว คงคาดหวังอะไรในตัวผมสูงเกินไปรึเปล่า อิอิอิ
เราซ้อมร้องเพลงไปเรื่อยๆ ตอนแรกว่าจะซ้อมแค่สามสิบนาที แต่อาจารย์วิรัชกลับให้เราร้องเพลงกลับไปกลับมา หลายต่อหลายรอบ จนกว่าอาจารย์จะพอใจ
“อืมๆ เสียงเข้ากันได้ดีแล้ว” อาจารย์วิรัชอมยิ้ม พยักหน้าด้วยความพอใจในระดับหนึ่ง
“เออ ชมภู่ ผู้ปกครองมารับกี่โมงล่ะ” อาจารย์หันไปถามชมภู่ เพราะตอนนี้ในห้องโสตมีเราแค่สามคนเท่านั้น และเวลาผ่านไปห้าโมงเย็นแล้ว
“อ๋อ วันนี้หนูบอกทางบ้านให้มารับเวลานี้แหละค่ะ ป่านนี้คงมารอแล้วค่ะ”
“อืม ครูขออีกเพลงน่ะ อยากลองเสียงนายแกะอีกสักครั้ง” แกหันหน้ามาทางผม แล้วพูดต่อว่า
“นายแกะคงไม่มีปัญหาตอนกลับน่ะ บ้านอยู่แค่นี่เอง ฮึ ฮึ” จริงๆแล้วบ้านอาจารย์วิรัชก็อยู่ในตัวตลาดนั่นแหละ และแกรู้ดีว่า ตอนนี้ผมพักอยู่กับพี่หมวด
“ครับ ไม่มีปัญหาครับ”
“อ้าว งั้นเริ่มเลย เอาเพลงนี่น่ะ” พออาจารย์เอาเนื้อเพลงมาให้ ผมถึงกับตกตลึงไปชั่วขณะ เพราะเพลงนั้นก็คือ...
อาจารย์เริ่มบรรเลงอิเลคโทนเสียงเจื้อยแจ้ว ชมภู่ตั้งใจร้องด้วยเสียงหวาน ไพเราะจับใจ
“โอ...มลุลี ร่มนี้มืดมน...ช้ำเหลือทน อับจนหัวใจ ต้องพรากรักไป ภายใต้ร่มไม้ของเจ้านี้”
“--------------” ผมเงียบ เพราะว่าเพลงนี้...มันเป็นเพลง...เพลงที่มันช่างมีเนื้อร้องและทำนองใกล้เคียงกับวันนั้น... วันที่ผมกับพี่ดำ พี่ชายที่รัก ตกลงใจที่จะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง...ในคืนแรกที่เรามีอะไรกัน....
“อ้าว นายแกะ เป็นไรไปล่ะ ทำไมไม่ร้อง” อาจารย์วิรัชหยุดเล่นดนตรี เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย
“แกะ ภู่ว่าแกะร้องได้น่ะ เพลงอื่นๆยังร้องได้เลย เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ” ชมภู่เองก็สงสัยอยู่ไม่ใช่น้อย...
“เอ๊า เร็วนายแกะ เดี๋ยวชมภู่ต้องรีบกลับบ้าน” ตอนนี้แหละสติผมถึงกลับคืน
“ขอโทษครับอาจารย์ ลองใหม่น่ะครับ” อาจารย์ส่ายหน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ว่าอะไร แกเริ่มบรรเลงดนตรีต่อ ชมภู่ก็เริ่มขยับเสียง
“โอ...มลุลี ร่มนี้มืดมน......” คราวนี้ผมคงต้องตัดสิ่งที่รบกวนออกไปแล้วสิน่ะ
“ลืม...รักที่หลั่งลงฝังกับใจ ฝังฝากให้ใต้ร่มมลุลี จงลืมรักพี่ อย่ามีฤดีอาลัยต่อกัน” ในขณะที่ร้องไป ภาพของพี่ชายที่รักก็กลับมา ปรากฏหลอกหลอนอยู่เรื่อยๆ จนทำให้ผมมีอารมณ์คล้อยตาม ทำให้อินในการร้องเพลง...เพลงนี้เหลือเกิน...น้ำตาจะไหลให้ได้...
“โอ...รักที่ผ่านดังฝันชั่วคืน”
“ครั้น...พอตื่นกลับคืนหายไป”
“โธ่ อย่าร้องไห้ พลอยให้ดวงใจพี่ร้าวระทม” พี่ดำครับ ผมคิดถึงพี่ครับ ฮือ ฮือ ทำไมเราต้องพรากจากกันด้วย...ผมได้แต่คิดอยู่ในใจ ไม่สามารถพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาได้...และแล้ววรรคสุดท้ายที่เราสองคนต้องร้องพร้อมกันก็มาถึง
“ร่ม...มลุลีเป็นที่สุดท้าย แห่งจุดหมายน้องพี่ มลุลีเห็นใจน้องพี่ ว่าสิ้นคืนนี้ น้องพี่สิ้นกัน” พี่ดำครับ และเราสองคนก็สิ้นสุดความรักของกันและกันจริงๆแล้วใช่มั๊ยครับ...เศร้า
“แป๊ะๆ...เก่งมาก มันต้องอย่างนี้สิ อืมเพลงนี้ร้องได้ดีจริงๆ ครูขอชม” อาจารย์วิรัชปรบมือให้ด้วยความชื่นชม
“ขอบคุณค่ะ ต้องยกความดีให้แกะน่ะค่ะ เพลงนี้ร้องได้เยี่ยมจริงๆค่ะ” จังหวะที่ชมภู่หันหน้าไปขอบคุณอาจารย์ ...ผมหันหลังแอบใช้ฝ่ามือปาดน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมาเล็กน้อย...
“อ้าว นายแกะ เป็นอะไรอีกล่ะ” อาจารย์เห็นผมเงียบๆ ผมเลยต้องรีบตอบ
“ปะ เปล่าครับ รู้สึกจะหิวๆน่ะครับ”
“อ๋อ งั้นก็กลับบ้านกันได้ ขอบใจน่ะทั้งสองคน” ผมและชมภู่ล่ำลาอาจารย์แล้วเดินออกมานอกห้อง....ทราบมั๊ยครับพี่น้องว่าผมเจอใครอยู่ที่ประตู
“พะ พี่ดำ” พี่ดำั่นั่นเอง แกคงเลิกจากซ้อมบอลล์ และคงทราบเรื่องที่ผมมาซ้อมร้องเพลง เลยมาดักรอผม เห็นหน้าแดงๆ น้ำตาซึมเชียว
“หวัดดีค่ะ พี่เอก มารอแกะหรือค่ะ” ชมภู่ยกมือไหว้ คงจะงงเล็กน้อยที่เห็นอาการของพี่ดำ
“หวัดดีจ๊ะ อ่ะ เ่อ่อ เมื่อกี้ผงมันเข้าตาน่ะ แย่จัง” พี่ดำกลบเกลื่อน ล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาขยี้ตาเบาๆ
“ภู่ไปก่อนน่ะค่ะ ป่านนี้รถรอแย่แล้ว” ชมภู่เดินลงบันไดไปก่อนและวิ่งจ้ำอ้าวไปทางประตูโรงเรียน
เหมือนภาพสโลว์โมชั่น ผมกับพี่ดำจ้องหน้ากันและกัน ...น้ำตาซึมทั้งคู่...ไม่น่ะพี่ดำ พี่กับพี่กวางเป็นคู่รักกันน่ะดีแล้ว อย่ามาทำผมหวั่นไหวอีกเลยครับ ฮือ ฮือ
พี่ดำเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ก็พอดีอาจารย์วิรัชเดินออกมา
“อ้าว นายเอก มารอน้องชายเหรอ” อาจารย์ทักพี่ดำ แล้วปิดประตูห้องโสตใส่กุญแจ
“เ่อ่อ ครับๆ” พี่ดำรับคำอาจารย์ไปตามเรื่อง และเราสามคนเดินลงบันไดมาด้วยกัน พี่ดำคุยกับอาจารย์เรื่องสัพเพเหระ จนมาถึงหน้าอาคาร บริเวณที่จอดรถน่ะแหละ อาจารย์ถึงแยกไปเอารถมอเตอร์ไซค์ขับออกไป พี่ดำถึงเริ่มเปิดปากคุยกับผม
“ร้องเพลง อ่ะ เอ่อ เพราะจังเลยน่ะครับ” พี่ดำเสียงสั่นๆเล็กน้อย แกหยุดอยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์ของแกที่จอดอยู่
“ก็งั้นๆแหละครับ” ผมจะก้าวท้าวเดินหนี ไม่อยากให้แกเห็นน้ำตาที่กำลังจะไหล เอาอีกแล้วกูเฮ้อ...ตัดใจจากพี่ดำไปแล้วน่ะเนี่ยะ เวรกรรม
“ดะ เดี๋ยวก่อนแกะ” พี่ดำดึงแขนผมไว้ ผมหันหน้าไปทางอื่น อย่าน่ะ เจ้าน้ำตา อย่าไหลออกมาเด็ดขาด
“เพลงนี้ พี่ชอบจังเลยครับ ความหมายดีด้วย” พี่ดำเดินตามมาประกบ เสียงนุ่มๆ อ้อนๆ และแฝงไปด้วยความรู้สึก...รู้สึกเหมือนกับว่า เสียงของคนที่กำลังถวิลหาคนรัก
“ครับ ผมก็ชอบ” ไม่รู้จะตอบอะไรดี พี่ดำขยับเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น เหมือนกับจะเข้ามาโอบเอว ตอนนี้แหละที่ความรู้สึกรับผิดชอบชั่วดีเริ่มกลับมา ผมหายใจลึกๆเข้าปอด เบี่ยงกายหลบ
“อ่ะ เ่อ่อ พี่ดำครับ ไม่รีบกลับบ้านล่ะครับ ป่านนี้พี่กวางเป็นห่วงแย่” ได้ผล พี่ดำ ชงักกึก ยืนตัวแข็งทื่อ สักพักหนึ่งแกเหมือนจะตั้งสติได้ จึงพูดขึ้นว่า
“แกะจะกลับบ้านพร้อมพี่ รึเปล่าครับ” ก็น่าแปลกที่เสียงแกกลับมาเป็นปรกติ คงเป็นเพราะผมเอ่ยชื่อพี่กวางออกมาล่ะสิ
“อืม อย่าดีกว่าครับ พอดี พี่หมวดคงไปส่งน่ะครับ” ผมพยายามปฏิเสธ ไม่อยากใกล้ชิดพี่ดำอีก แค่ร้องเพลงเมื่อกี้ ก็แทบแย่แล้ว
“งั้น ให้พี่ไปส่งที่แฟลตน่ะครับ”
ผมยังไม่ทันตอบ พอดีอาจารย์นิตยาเดินมาที่เราสองคน
“นี่นายเอก ครูรบกวนไปตามอาจารย์บุปผา (สอนภาษาอังกฤษ) ที่บ้านพักครูให้หน่อยสิจ๊ะ บอกว่าครูรออยู่น่ะจ๊ะ"
“อ่ะ ได้ครับ” พี่ดำมองหน้าผมนิดหนึ่ง แต่ขัดอาจารย์ไม่ได้ก็เลยจัดการไปทำธุระให้ ผมกับอาจารย์นิตยาเดินคุยกันมาที่หน้าประตูทางออกของโรงเรียน
“นี่นายแกะ ผู้ปกครองของเธออ่ะ เขามีแฟนแล้วนี่” อาจารย์บ่นกระเง้ากระงอด เพราะปรกติผมจะแซวแกเล่นบ่อยๆ เรื่องพี่หมวดกับแก
“อ้าว ใครล่ะครับ ผมไม่ยักกะทราบ” ตอนนี้ผมไม่ค่อยสนใจแล้วว่าพี่หมวดจะมีแฟนเป็นพี่โรส พี่ทราย หรือ หลายๆคน
“ต๊าย มานี่เลย มาให้ครูหยิกสักที นี่แนะ” แกหยิกผมเล่นๆ ด้วยความหมั่นไส้แล้วพูดต่อว่า
“ก็นางพยาบาลที่อยู่ตรงข้ามโรงเรียนเรานั่นไง หนอยอย่ามาแก้ตัวให้กันนะ พวกจอมกะล่อน” อาจารย์ทำท่าจะหยิกผมอีก จนผมต้องรีบถอยออกห่าง
“อาจารย์ ใจเย็นๆครับ ผมไม่ทราบจริงๆครับ”
“ย่ะ เชื่อตายล่ะ ใครๆเขาก็รู้ทั้งนั้นแหละ อย่ามาอำครูเลย” แล้วอาจารย์ก็เล่าให้ฟังว่า เห็นพี่หมวดไปป้วนเปี้ยนอยู่ในโรงบาลบ่อยๆ และแกเคยเห็นพี่ทรายแล้วด้วย ผมก็ได้แต่รับฟังและปลงๆ อืม พี่หมวดคงตกลงปลงใจกับพี่ทรายคนนี้แน่แล้ว มีหลายคนพูดมาแบบนี้ คงจะเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะ
พี่ดำกลับมาบอกว่าอาจารย์บุปผาขับมอเตอร์ไซค์ออกไปที่ตลาดแล้ว น่าจะมีนัดกันที่นั่น อาจารย์นิตยาบ่นเล็กน้อยและในที่สุดพี่ดำก็เลยขับรถไปส่งแก ส่วนผมเดินกลับได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา
ผมเดินเล่นไปเรื่อยๆตามถนน มองเห็นพี่ดำกับอาจารย์นิตยาจอดรถแวะทักทายนักเรียนหญิงคนหนึ่งอยู่ไกลๆ บนถนนที่เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ (เป็นบริเวณจุดสิ้นสุดของแม่น้ำก่อนไหลลงไปรวมกันที่อ่างเก็บน้ำอีกที) เห็นพวกเขาหันมามองทางผม แล้วพี่ดำก็ขับรถจากไป แต่นักเรียนหญิงคนนั้นกับหยุดรอผม เมื่อเดินไปถึงกลับกลายเป็นชมภู่ไปสะฉิบ
“อ้าว ชมภู่ ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ” ผมเอ่ยถามทันทีด้วยความประหลาดใจ เพราะเห็นว่าชมภู่ออกมาก่อนหน้าผมสักครู่ใหญ่ๆ บ้านชมภู่อยู่ห่างออกไปห้ากิโล ปรกติทางบ้านจะขับรถมารับ
“ภู่โทรกลับบ้านแล้ว เห็นบอกรถเสีย ภู่เลยจะไปรอที่บ้านเจ๊จอยน่ะจ๊ะ”
“อ๋อ งั้นเหรอ เดี๋ยวเราเดินไปเป็นเพื่อนน่ะ”
“ขอบใจจ๊ะ” ชมภู่กับผมเดินไปด้วยกัน และคุยกันถูกคอเป็นอย่างมาก ชมภู่ชอบที่ผมร้องเพลงคู่กับเธอได้ดี
“แกะ ดูนั่นสิ นกนั่นน่ะ สวยจัง” ผมมองไปใต้สะพาน ใกล้ๆกับกอผักตบชวา มีนกสีขาวตัวใหญ่ๆ (น่าจะเป็นนกกระยาง) กำลังเดินไปเดินมาหาอาหารอยู่
“อืม ปรกติก็ไม่ค่อยเห็นน่ะ แปลกดี”
“อ้าว หายไปแล้วอ่ะ หายไปทางไหน แกะเห็นมั๊ยจ๊ะ...ว๊าย!” ชมภู่มัวแต่ตามหานกตัวนั้นเพลิน จนเหยียบเปลือกกล้วยลื่นถลาจะล้ม ผมรีบรับร่างของเธอไว้...เลยทำให้เราสองคนกอดกันโดยบังเอิญ
“อุ๊บ!” ผมตกใจประคองกอดเธอ ทำให้หน้าอกหน้าใจของเธอบดเบียดกับหน้าอกของผมเต็มๆ แถมกระเป๋าสะพายของผมดันไพล่ไปอยู่ข้างหลังอย่างเป็นใจ อิอิ
“อุ๊ย! ชมภู่ทำกระเป๋านักเรียนหลุดมือเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้มือทั้งสองข้างของเธอก็กำลังกอดด้านหลังของผมแนบแน่น
มันมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ผมและชมภู่ อยู่ในสภาพตระคองกอดกันค้างอยู่
“ปิ๊บ ปิ๊บ” เสียงแตรรถที่ดังอยู่ข้างๆทำให้เราสองคนผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว
ผมหันไปดูด้านขวามือ ถึงรู้ว่าเป็นรถของ...
“พี่หมวด!”

7 comments:

  1. ขอบอ่ะ down load จากไหนอ่ะ อยากได้ ๆ อยากได้

    ReplyDelete
  2. พี่ดำยังมีใจอยู่แน่ๆ เลย ส่วนพี่หมวดก็ไม่รู้จะเอายังไงแน่

    ReplyDelete
  3. คุณพี่หมวดช่างมาได้จังหวะพอดีจริงๆ หุหุ...เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปน้อ...ลุ้นๆๆ (^_^)

    ReplyDelete
  4. อย่าทำร้ายกันเลย...เมื่อไหร่จะลงเอยกันซะที T_T พี่หมวดกะแกะ ผมรักพวกคุณทั้งสอง

    ReplyDelete
  5. ว๊ายๆ ตอนนี้แอบเชียร์พี่ดำอีกแล้วค๊า เฮ้อ เศร้าจัง ส่วนพี่หมวดน่ะไม่อยากเชียร์แล้ว เสียรมณ์ ชิ มีอย่างที่ไหน ตอนอยู่ด้วยกัน ก็ไม่ชัดเจน ทีพี่แกะอยู่กับคนอื่น ทำเป็นหึงหวง แบบนี้ยุให้กลับไปคืนดีกับพี่ดำ ดีกว่า ชิ ชิ

    ReplyDelete
  6. หนังถูกใจมากครับ ฝากตัวเป็นสมาชิกใหม่ด้วยนะครับ

    ReplyDelete
  7. หวัดดีครับพี่แกะ แฮะๆ หายไปหลายวันเยยย เพลงใต้ร่มมลุลี ผมก็ชอบมากๆๆๆครับ เคยร้องประกวดตอนอยู่มัธยมด้วย ได้ที่ 2 55555+++ เนื้อเพลงนี้ช่างโดนจริงๆ เฮ้อ พี่ดำมา ทำเราเศร้าอีกและ...มลุลี เห็น ใจ น้อง พี่ ว่าสิ้นคืนนี้..น้อง พี่ สิ้น กัน ..ฮือๆๆ พี่แกะชอบทรมานใจคนอ่าน...ขอพักทำใจก่อน ฮือๆๆ ... ปล.เซ็ง งอล โป้งพี่หมวด...ดูซิเห้พี่แกะกอดกะสาว ๆแล้วจาทำหน้าไง ฮึ

    ReplyDelete