Monday, March 29, 2010

บทที่ 118 " หนีหัวใจ...ไปกับพี่หมวด "


บทที่ 118 “ หนีหัวใจ...ไปกับพี่หมวด
ผมตื่นขึ้นมาราว เจ็ดโมงเช้าเห็นจะได้ รู้สึกเพลียๆ สมองตื้อๆ หนักๆ ยังไงชอบกล...จริงสิเมื่อคืนจำได้ว่า นอนหนุนแขนพี่หมวด และกอดแกร้องไห้ทั้งคืน จนเผลอหลับไปตอนไหน ไม่รู้สึกตัวเลย...
ผมงัวเงียเื้อื้อมมือไปควานหาร่างของพี่หมวด
ว่างปล่าว !
ผมลืมตาขึ้นทันที พี่หมวดหายไปไหนแต่เช้า ผมสลัดหัว ให้หายง่วง ก่อนที่จะลุกขึ้นเิดินมาที่หน้าต่าง และนั่น พี่หมวดกับพี่ดำ กำลังยืนคุยอะไรกันอยู่ ที่สนามหน้าบ้าน ดูท่าทางซีเรียสอยู่เหมือนกัน
สักพักพี่ดำแหงนหน้าขึ้นมามองที่ห้องผม ผมรีบฉากหลบทันที ผมไม่อยากเห็นหน้าแกเท่าไหร่นัก ยังทำใจเรื่องเมื่อคืนไม่ได้อยู่ดี ...จวบจนแน่ใจแล้วว่าแกไม่เห็นผมแน่ ผมจึงค่อยๆโผล่หัวมาที่หน้าต่างอีกครั้ง
คราวนี้ผมเห็นพี่กวางอยู่ในชุดนักเรียน กำลังซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ คงจะให้พี่ดำไปส่งที่โรงเรียนกระมัง แล้วภาพทั้งคู่ก็เลือนหายไปจากหน้าบ้าน...และไม่กี่นาทีต่อมา รถพ่อของผมก็เคลื่อนตัวตามไปติดๆ
แกะ ตื่นแล้วหรือครับ พี่หมวดเปิดประตู แล้วเดินเข้ามาประคองที่หัวไหล่พร้อมกับก้มหน้าลงมองจ้อง ใบหน้าอันอิดโรยของผม
จะนอนต่อก็ได้น่ะครับ ดูสิตาบวมหมดเลย แกเอื้อมมือมาสัมผัสที่ขอบตาทั้งสองข้าง พร้อมกับลูบไล้ไปมาอย่างแผ่วเบา
พี่ดำไปส่งพี่กวางหรือครับ?” ผมยิงคำถามทันที โดยไม่ทันคิดอะไร ดูพี่หมวดชงักนิดหนึ่ง ก่อนที่จะตอบว่า
อืม เห็นบอกว่า เขาจะช่วยกวางทำรายงานที่โรงเรียน และจะกลับพร้อมกันตอนเย็นเลย... อ่ะ เอ่อ แกะ ไม่เป็นไรแล้ว ใช่มั๊ยครับ พี่หมวดคงกลัวว่าผมจะเสียใจอีก ก็เลยรีบหยุดเล่าเรื่องพี่ดำทันที
มะ ไม่เป็นไรแล้วครับ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ว่าจะไม่คิดอะไรแล้ว เพราะเมื่อคืนได้ร้องไห้ระบายกับพี่หมวดไปจนหมดแล้ว...มันน่าจะทำใจได้แล้วนา..แต่ทว่ามันไม่ง่ายเลย ที่จะทำใจให้ลืม ชายคนรัก คนแรกของตัวเอง
เอาล่ะ งั้นอาบน้ำแต่งตัว พี่จะพาไปเที่ยว โอเคมั๊ยครับ พี่หมวดยิ้มกว้าง พยายามให้ผมดีขึ้น
ขอบคุณครับ พี่หมวด ผมเองก็ไม่อยากจะอยู่ที่บ้านเท่าไหร่นัก กลัวฟุ้งซ่าน ออกไปข้างนอกกับพี่หมวดก็คงจะดีไม่น้อยทีเดียว
พี่หมวดกลับมาสวมชุดตำรวจครึ่งท่อน โดยสวมเสื้อยืดสีขาวขลิบเลือดหมูและผมก็ได้กางเกงยีนส์ตัวเก่ง พร้อมเสื้อยืดตามถนัด เราทานข้าวเช้าเบาๆที่บ้านก่อน จากนั้นก็ล่ำลาแม่ โดยบอกแม่ว่าพี่หมวดจะไปเคลียร์งานที่โรงพัก ผมเลยถือโอกาสออกไปพร้อมพี่หมวด และจะเลยไปเก็บของที่บ้านพี่ดำด้วย
แทนที่จะได้เที่ยว พี่หมวดดันติดงานด่วน แกเลยไปส่งผมที่บ้านพี่ดำก่อน แล้วค่อยย้อนมารับอีกที ก็ดีเหมือนกันผมจะได้ถือโอกาสเก็บข้าวของไปด้วย
ผมเดินเล่นรอบๆตัวบ้านอีกครั้งหนึ่ง วันนี้แล้วสิน่ะที่เราต้องจากบ้านหลังนี้ไปจริงๆ
ตายแล้ว นี่คุณแกะจะต้องย้ายออกจริงๆหรือค่ะ ไม่สงสารคุณดำหรือค่ะ ป้าสมเดินเข้ามาคุยด้วยเมื่อทราบเรื่องจากลุงบุญ
ครับป้า ฝากดูแลพี่ดำด้วยน่ะครับ ผมพยายามทำตัวให้ดูดีที่สุด จะต้องไม่ร้องไห้น่ะมึง ไอ้แกะ
ผมว่าผู้ใหญ่เขาคงทำถูกต้องแล้วน่ะครับ เพื่ออนาคตของคุณแกะน่ะครับ ลุงบุญเสริมขึ้นมาบ้าง ตอนนี้แกกำลังถือโอกาสตกแต่งกิ่งไม้ไปตามเรื่อง ส่วนผมและป้าสมเดินคุยกันไป พร้อมสำรวจหลังบ้านไป
แต่ แหม คุณดำเขาก็จะไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ อีกไม่นานแล้วนี่ค่ะ ทางผู้ใหญ่เองก็ไม่น่ารีบร้อนแยกคุณแกะ ออกไปตอนนี้เลยน่ะค่ะ ป้าล่ะเสียดายจริงๆ ไม่เคยเห็นพี่น้องคู่ไหนรักกันมากมายขนาดนี้ เฮ้อ!”
เออ ป้าครับ แล้วที่เคยบอกผมไปว่า บ้านนี้จะถูกขายนี้ จะขายทันทีที่พี่ดำไปเรียนต่อเลยหรือครับ
คงงั้นมั๊งค่ะ เห็นเขาว่า วางมัดจำกันไปแล้วนี่ค่ะ
ละ แล้วป้าทราบมั๊ยค่ะ ว่าใครจะมาซื้อบ้านหลังนี้ครับ
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ท่าทางคนที่จะซื้อนี่ รวยน่าดูเลยค่ะ
แล้วที่บอกว่า ถ้าบ้านนี้ขายแล้ว ป้ากับลุงจะย้ายออกไปอยู่กับญาติหรือครับ
ค่ะ ก็เมื่อกี้ที่ไปต่างจังหวัดไงค่ะ ป้ากับลุงไปดูที่ทางไว้แล้ว ตอนนี้ก็เพียงแต่รอ รอให้คุณดำไปเรียนต่อเท่านั้นแหละค่ะ
ผมฟังจากที่ป้าสมเล่า ก็เริ่มหดหู่ใจอีกรอบ ทำไมต้องมีการจากด้วยน่ะ ไม่อยากให้มีคำนี้อยู่เลยจริงๆ
พี่หมวดมารับผมตอนบ่ายๆ ผมล่ำลาป้าสมกับลุงบุญ พร้อมกับให้เงินแกไปก้อนหนึ่ง (เป็นเงินเก็บรายสัปดาห์จากทางบ้าน ที่แทบไม่ได้ใช้เลยเพราะพี่ดำเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด) ถึงจะไม่มากแต่ก็เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆที่ผมพอจะมีให้ได้ อย่างน้อยแกสองคนก็ดูแลผมอย่างดีในระหว่างที่ผมอยู่ที่นี่
พี่หมวดพาผมไปทานข้าวที่สวนอาหารแห่งหนึ่ง มันอยู่ค่อนข้างไกลทีเดียว และทางเข้าก็ต้องแยกออกจากถนนใหญ่อีกที แถมถนนเป็นลูกรังขรุขระ ไปหมด
ผมมาถึงบางอ้อ เมื่อสวนอาหารที่พี่หมวดพามา มันคือสวนอาหารกุ้งเผาน่ะเอง กุ้งตัวใหญ่มาก และเขาก็เลี้ยงเอาไว้ในบ่อเล็กๆซึ่งอยู่ใกล้ๆกับลำห้วย ซึ่งน่าจะเรียกแม่น้ำมากกว่า เพราะน้ำจะเป็นสีขุ่นๆ และไหลเชี่ยวทีเดียว
หวัดดีค่ะ หมวด แหมวันนี้ลมอะไรหอบมาถึงนี่ค่ะ เจ้าของร้านสาวสวยคงจะ สนิทคุ้นเคยกับพี่หมวดเป็นอย่างดี เดินออกมาต้อนรับ รึเรียกว่าแทบจะถลามากอดก็ว่าได้
หวัดดีครับ พอดีพาน้องชายมาทานกุ้งเผาน่ะครับ
อุ๊ยตาย ไม่ยักทราบว่า หมวดจะมีน้องชายด้วย โห หล่อไม่เบาเลยน่ะค่ะหมวด
ผมขอที่นั่งใกล้ๆท่าน้ำหน่อยน่ะครับ พี่หมวดขี้เกียจเสวนาด้วย เลยรีบตัดบท
ได้ค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ สาวเจ้าแทบจะควงแขนพี่หมวดเดินนำหน้าออกไป....แหม รู้สึกว่าพี่หมวดนี่ก็เสน่ห์แรงไม่ใช่ย่อยน่ะเนี่ยะ ดูท่าเจ้าของสวนอาหารคนนี้คงอยากเป็นคุณนายเมียนายตำรวจเต็มแก่ ดูเอาอกเอาใจเป็นพิเศษเชียว
ที่นั่งของเราเป็นเรือนเล็กๆทำด้วยไม้ไผ่มุงหญ้าแฝก เราต้องนั่งขัดสมาธิ เหมือนนั่งรับประทานขันโตกแหละ สายน้ำที่อยู่ข้างล่างก็ไหลเอื่อยๆ บรรยากาศดี เหมาะที่จะชวนคนรักมาหลบจู๋จี๋กัน เพราะสวนอาหารแห่งนี้อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองมาก
พี่หมวดสั่งกุ้งเผามาสองจาน พร้อมต้มยำกุ้งหม้อใหญ่ๆอีกหนึ่งหม้อ แกจิบเบียร์ไปด้วยด้วยความเพลิดเพลิน
ทานให้อร่อยน่ะครับ ถ้าไม่อิ่มก็สั่งได้เรื่อยๆ มาพี่แกะกุ้งให้ พี่หมวดแกะเปลือกกุ้งให้ผม โดยเลือกเฉพาะที่เป็นเนื้อๆให้ ส่วนหัวแกเก็บไปกินเอง เพราะแกรู้ว่าผมไม่ชอบน่ะเอง
ขอบคุณครับ แล้ววันนี้พี่หมวดออกเวรแล้วหรือครับ
จริงๆแล้ววันหยุดน่ะ แต่ว่าเมื่อเช้ามีเรื่องด่วนที่ต้องสะสาง
อ๋อ ครับ ครับ ผมไม่อยากก้าวก่ายหน้าที่ของพี่หมวด แต่ในใจก็ยังสงสัยเรื่อง โกดังเสี่ยศักดิ์อยู่ไม่น้อย ...เอาไว้ให้แกพร้อมดีกว่า ถ้าแกอยากเล่า แกก็เล่าให้ผมฟังเองแหละ
อ้าว ลองทานต้มยำดูหน่อยน่ะครับ ที่นี่เขาทำอร่อยน่ะ พี่หมวดกำลังตักต้มยำใส่ถ้วยเล็กๆให้ผม ทันใดนั้น
จะไม่เอาอกเอาใจ กันมากไปหน่อยรึ หมวดยุทธ เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้น ผมหันไปถึงกับตกใจ ก็ใครที่ไหนล่ะครับ ถ้าไม่ใช่
สารวัตรเชษฐ์ !

No comments:

Post a Comment