Sunday, May 24, 2009

บทที่ 4 " พี่ดำ...พี่ชายที่รัก "




บทที่ 4 " พี่ดำ...พี่ชายที่รัก "

“พี่คือ...พี่ดำใช่มั๊ยครับ?” พี่เอกไม่ตอบแต่กลับส่งรอยยิ้มกว้างที่ใบหน้า เป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นที่ผมเคยสัมผัสแต่เยาว์วัย
“พี่ดำ จริงๆ ด้วย โอยผมนึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอพี่อีกแล้ว” ผมผวาเข้าไปจับมือพี่เขาแน่น พร้อมกับเขย่าด้วยความดีใจอย่างที่สุด
“ใช่แล้ว พี่เอง ไอ้น้องรัก” พี่เขาตอบด้วยเสียงนุ่มพร้อมกับบีบมือผมตอบด้วยข้อมือที่แ่ข็งแกร่งจนมือผมเจ็บไปหมด พี่เขาส่งสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักและเอ็นดูมากระทบกับสายตาของผมอย่างเปิดเผย โดยไม่มีอะไรแอบแฝงอย่างที่ผมเข้าใจแกผิดในตอนแรก มืออีกข้างหนึ่งของแกก็ยกขึ้นมาลูบหัวเบาๆ
“พี่หายไปไหนมาครับ รู้มั๊ยครับว่าวันนั้นผมวิ่งตามหาพี่ให้ควั่ก ถามใครๆก็ไม่มีใครตอบ ผมวิ่งตามหาจนเหนื่อย สุดท้ายผมกลับไปห้องนอนของพี่ที่บ้านหลังนั้น...กลับพบแต่ความว่างเปล่า ก็ไม่มีใครอยู่เลย”

************
ภาพของเด็กชายอายุห้าขวบตัวเล็กๆ และซุกซน หลังจากกลับจากโรงพยาบาล แทนที่จะเข้าบ้านตัวเอง แต่กลับเปิดประตูรถตู้สีขาว แล้ววิ่งถลาลงจากรถไปบ้านที่อยู่ตรงข้าม
“อย่าลูก อย่าไป พี่ดำเขาจากพวกเราไปแล้ว ไม่มีใครอยู่บ้านหลังนั้นหรอก” เสียงแม่ตระโกนห้าม พร้อมกับกำลังปิดประตูรถอย่างเร็วเพื่อวิ่งตามเด็กน้อย
“ม่ายอาว จาไปหาพี่ดำ” เด็กน้อยวิ่งต่อไปที่บ้านหลังนั้น แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวัง บ้านนั้นเงียบเชียบไร้ผู้คน เด็กน้อยไม่ละความพยายามเี่ที่ยววิ่งถามใครต่อใครไปทั่ว แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ.... แล้วเด็กน้อยก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ในห้องนอนแคบๆ ห้องหนึ่ง ใช่มันคือห้องนอนของพี่ดำ พี่ดำซึ่งตอนนั้นคงประมาณ 8 ขวบ แต่ดูเหมือนกับว่าแกจะดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ พี่ดำสุขุม พูดจาสุภาพเรียบร้อย ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เป็นที่รักใคร่ของผู้ใหญ่ ห้องนี้เมื่อก่อนมันเป็นห้องนอนที่สดใส สำหรับเด็กๆ มีภาพการ์ตูนที่พี่ดำและเด็กน้อยชื่นชอบนักหนา ช่วยกันติดจนเลอะทั่วห้อง จนผู้ใหญ่ต้องมาห้ามปรามอยุ่เรื่อยๆ และเป็นห้องที่เด็กน้อยชอบแอบหนีมานอนอยู่ที่นี่เวลาที่ตนเองมีความผิดจากความซุกซน แล้วกลัวการลงโทษ เด็กน้อยมีแต่เพียงพี่ดำคนนี้เท่านั้นที่ให้ความอบอุ่นพึ่งพิงได้เสมอ บ่อยครั้งที่พี่ดำต้องไปบอกทางบ้านว่าเด็กน้อยจะมานอนค้างกับแกที่นี่ ทำให้ทางบ้านหมดความกังวลว่าเด็กน้อยไม่ได้เถลไถลไปไหน...แต่ตอนนี้ห้องนี้กลับว่างเปล่าโต๊ะเตียงก็ถูกเคลื่อนย้ายออกไป มีแต่ห้องโล่งๆ แถมผนังข้างฝาก็ไม่มีภาพใดๆเหลืออยู่เลย แสงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าลงไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้ห้องนี้เริ่มขมุกขมัวออกสีเทาหม่นๆ เหมือนจะเรียกร้องหาเจ้าของห้องคนเดิมความ เด็กน้อยยืนมองห้องที่ว่างเปล่านั้นพร้อมกับน้ำตาเริ่มไหลลงมาทั้งสองแก้ม
“ฮือ ฮือ พี่ดำปายหนาย จะหาพี่ดำ ฮือ ฮือ ....” เด็กน้อยจำได้ติดตาว่าเด็กน้อยร้องไห้อยู่ที่นั่นเป็นนานหลายชั่วโมงจนกว่าผู้ใหญ่จะตามพบ

************

พี่ดำทำหน้าครุ่นคิดอยู่นิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า
“เรื่องมันยาวอ่ะน้อง ไว้คืนนี้ไปค้างที่บ้านพี่แล้วพี่จะเล่าให้ฟัง”
“ก็ดีเหมือนกันครับพี่ คืนนี้ผมจะคุยกับพี่ยันสว่างเลย ให้สมกับที่ไม่ได้เจอพี่มานาน คงประมาณเป็นสิบปีเลยน่ะพี่”
“พี่กวางต้องดีใจแน่ๆ ที่รู้ว่าผมเจอพี่ที่นี่” ผมเอ่ยถึงพี่สาวคนสวยของผม พวกเราเคยเป็นเพื่อนเล่นกันตั้งแต่ผมจำความได้ ผมติดพี่ดำมากจนถึงขนาดบอกพ่อกะแม่ว่า โตขึ้นอยากให้พี่กวางแต่งงานกับพี่ดำ พี่ดำจะได้มาเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน และแน่นอนเป็นพี่ชายที่ดีของผมด้วย
“เออ แล้วกวางเขาเป็นยังไงบ้าง โตขึ้นไม่รู้เป็นไงบ้างน่ะ”
“แย่เลยพี่ หนุ่มๆตามจีบกันเยอะ แต่พี่กวางไม่เห็นจะสนใจใคร ตั้งหน้าตั้งตาเรียนอย่างเดียว หรือว่ากำลังรอพี่อยู่ก็ไม่รู้ พี่ต้องรีบแล้วน่ะก่อนที่พี่กวางจะยอมรับรักคนอื่น” ผมพูดทีเล่นทีจริง จนพี่ดำหน้าแดงไปเลย
“ตอนนี้ เขาเรียนที่ไหนเหรอ ทำไมแกะไม่ไปเรียนกับพี่เขาล่ะ”
“อ๋อ ก็โรงเรียน..... ไงพี่ อยู่ใกล้บ้าน 20 กิโลน่ะแหละ แต่ผมอยากจะมาเรียนที่นี่น่ะครับ”
ผมแนะนำเพื่อนๆให้รู้จักกับพี่ชายของผม ตอนแรกพวกมันก็งงๆ เป็นไงมาไง แต่หลังๆมา พวกมันเลยเข้าใจกันไปเองว่าพี่ดำเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผม พวกมันจะเข้าใจยังงั้นก็ดีเหมือนกันขี้เกียจอธิบาย มีพี่ชายหล่อเท่ห์อย่างนี้มีรึผมจะไม่ภูมิใจ
ขณะที่กำลังคุยกันเพลินๆ ก็มีอาจารย์ท่านหนึ่งเดินมาที่โต๊ะ อาจารย์เสถียรนั่นเอง แกเป็นอาจารย์สอนพละ สอนม.5 และเป็นโค้ชฟุตบอลของโรงเรียนด้วย อาจารย์จัดว่าเป็นคนรูปหล่ออยู่เหมือนกัน อายุคงราวๆ 35 รูปร่างแข็งแกร่งแบบนักกีฬา หล่อออกไปทางจีนๆ ตามเชื้อสาย ที่สำคัญแกชอบนุ่งกางเกงวอร์มรัดเป้า เวลาเดินไปเดินมา จะเห็นท่อนลำของแกเป็นรูปร่างที่ชัดเจนแกว่งไปมา ก่อนที่จะเห็นใบหน้าแกซะอีก

“อ้าว เอกยังไม่ตามไปขึ้นรถอีกเหรอเพื่อนๆรออยู่น่ะ”
“อ้อ ผมขอโทษครับอาจารย์ พอดีผมเพิ่งเจอน้องชายไม่ได้เจอกันมาสิบปี แล้ว เลยอยากจะคุยกับน้องเขาก่อนน่ะครับ เดี๋ยวผมขับมอเตอร์ไซค์ ตามไปพรุ่งนี้เช้าคงทัน แข่งตอนบ่ายโมงไม่ใช่หรือครับ”
“มันก็ใช่ แต่ครูก็อยากให้พวกเธอมีเวลาพักผ่อนเยอะๆ อีกอย่างจะได้ลองซ้อมให้ชินกับสนามของทางนู้นเขา หัวหน้าทีมไม่ยอมไปพร้อมกันกับลูกทีม ครูว่ามันดูทะแม่งๆ อยู่น่ะ” อาจารย์เสถียรทำท่าคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า
“จริงๆแล้ว ในการแข่งขันพรุ่งนี้ ครูก็คิดว่าจะไม่ให้เธอลงแข่ง หรืออาจจะให้ลงเรียกน้ำย่อยก็พอ เพื่อเซฟตัวในการลงแข่งครั้งต่อไป ที่สำคัญในรอบชิงชนะเลิศที่โรงเรียนของเรา ไหนล่ะน้องชายของเราขอดูหน้าหน่อยซิ มันสำคัญแค่ไหนที่ทำให้หัวหน้าทีมไม่ยอมไปพร้อมกับลูกทีม ฮะ”
ผมรีบยกมือไหว้แกทันที ในจังหวะนั้นแกถึงกับชงักอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบทำหน้ากลบเกลื่อนอะไรบางอย่างก่อนจะอุทานขึ้นมาว่า
“พระเอกเกาหลี พระเอกเกาหลี เองเหรอเนี่ยะ “ ตกลงคงต้องเปลียนฉายาตัวเองจากแกะดำเป็นพระเอกเกาหลีตามที่ใครๆเรียกซะแล้วมั้ง อะไรมาเรียนม.4 แค่เทอมเดียวมีคนรู้จักผมมากขนาดนี้เชียว
“ไม่น่าเชื่อ อะไรจะหล่อทั้งพี่ทั้งน้องเลยน่ะ ตระกูลนี้” ผมหันหน้าไปมองพี่ดำ เห็นแต่แกทำหน้ายิ้มๆ อย่างเดียว เปลี่ยนสีหน้าบ้างก็ได้น่ะครับคุณพี่ ไม่ใช่ทำเก๊กหล่ออยู่คนเดียว
“เอาล่ะ ในเมื่อ เอกเขาเพิ่งเจอน้องชาย ครูก็ไม่ว่าอะไร ขับรถขับราให้ระวังหน่อยก็แล้วกัน อย่าลืมพรุ่งนี้ลงไปซ้อมให้ได้เวลาสิบเอ็ดโมงเช้า” ก่อนอาจาร์ยเสถียรจะเดินจากไป แกหันหน้ามามองผมด้วยสายตาประหลาดอยู่พักหนึ่ง ผมก็ไม่เข้าใจความหมายเหมือนกันว่ามันหมายถึงอะไร.......

ผมมารู้ทีหลังว่าทีมฟุตบอลที่จะไปแข่งพากันมาจัดงานวันเกิดให้พี่ดำ(พี่เอก) ก่อน จากนั้นอาจารย์เสถียรก็จะเอารถบัสมารับที่หน้าร้านประมาณทุ่มครึ่ง มิน่าถึงรีบจัดกันตั้งแต่ห้าโมง พี่ดำมีแผนที่จะไม่ลงในนัดนี้อยู่แล้วกับเพื่อนๆ โดยที่อาจารย์ไม่รู้ เพราะแพ้หรือชนะก็มีค่าเท่าเดิม เนื่องจากทีมโรงเรียนผมลอยลำไปชิงชนะเลิศแล้วนั่นเอง (เป็นกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ระหว่าง 6 โรงเรียน ซึ่งผมจะไม่ขอกล่าวรายละเอียดในที่นี่น่ะครับ) ส่วนชื่อ ”พี่เอก” เพื่อนๆเรียกตั้งแต่เข้าโรงเรียน แต่ผมสนิทปากในการเรียกชื่อเดิมมากกว่าและดูเหมือนพี่ดำจะพอใจเป็นอย่างมาก
ผมเก็บข้าวของที่จำเป็นไปนอนบ้านพี่ดำ โดยเพื่อนๆก็ไม่ได้ว่าอะไร พี่ดำพาผมซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวรอบเมืองก่อนจะพาผมไปที่บ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านไม้สองชั้น อยู่ซะไกลจากตัวเมืองประมาณ 9 กิโลได้ ทางเข้าบ้านก็มืดมาก มารู้ทีหลังว่าเป็นบ้านน้าสาว ตอนนี้ทำกิจการฟาร์มแกะที่ประเทศนิวซีแลนด์ ที่สำคัญทั้งบ้านมีพี่ดำอยู่คนเดียว เอ... แล้วพ่อกับแม่พี่ดำไปไหน อันนี้แกยังไม่ยอมบอกครับ ไว้จะเล่าให้ฟังเอง พี่ดำเอารถเข้าไปเก็บแล้ว ก็พาผมขึ้นไปบนห้องนอนชั้นบน อากาศเริ่มหนาวเย็นลงเรื่อยๆ จนพี่ดำต้องรีบบอกให้ผมอาบน้ำ แต่ผมยังไม่อยากอาบก็เลยเดินสำรวจดูตัวบ้านนิดหนึ่ง แต่คงไม่เห็นอะไรมากเท่าไหร่เพราะมืดแล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้เช้าพี่ดำต้องไปส่งผมที่โรงเรียนด้วย พี่ดำก็เลยต้องไปอาบก่อน เสียงฝักบัวกำลังไหลซ่าส์ๆ อยู่ในห้องน้ำ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะกำลังสำรวจห้องนอนของพี่ดำอยู่ เป็นเตียงเดี่ยวแต่ค่อนข้างใหญ่คงนอนสองคนได้แต่คงจะเบียดกันพิลึก ผมเลยกะว่าจะไปนอนอีกห้อง ซึ่งมีห้องว่างอยุ่ถึงสามห้อง ทันใดผมก็ไปสะดุดกับภาพๆหนึ่ง เป็นรูปแกะสีดำโดดเด่นอยู่ตรงกลาง ข้างหลังมันเป็นแกะสีขาวหลายๆตัวอยุ่ฉากหลัง ดูเหมือนเจ้าแกะดำจะเป็นจ่าฝูง คิดไปคิดมาก็เหมือนกับตัวกูเลยน่ะเนี้ยะ ผมคิด
สักพักผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตู ...พี่ดำคงอาบน้ำเสร็จแล้ว ...แกไม่ได้ล็อคประตูห้องน้ำมั้งไม่ได้ยินเสียงถอดกลอนประตู
“อ้าว ยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมอาบน้ำอีกเหรอ” เสียงพี่ดำดังขึ้น พร้อมกับที่ผมหันขวับไป พระเจ้าช่วย.....

No comments:

Post a Comment