Thursday, September 3, 2009

บทที่ 64 " คำประกาศิต...ของคุณพ่อ "

บทที่ 64 คำประกาศิต...ของคุณพ่อ

เสี่ยศักดิ์กดกระจกลงครึ่งหนึ่ง ชโงกหน้ามาถามอย่างเป็นกันเอง ผมหันไปมองพี่หมวดแว่บหนึ่ง เห็นแกทำหน้าบึ้งตึง ผมเลยตัดสินใจเปิดประตูด้านหน้าเพื่อนั่งคู่กับคนขับรถของเสี่ยศักดิ์
เฮ้ย! มานั่งข้างหลัง ไอ้น้องชาย ว่าแล้วเสี่ยศักดิ์ก็เขยิบตัวเลื่อนออกไปนั่งซีกขวาแทน ผมเลยจำเป็นต้องย้อนมานั่งข้างหลังคู่กับเสี่ยศักดิ์
หวัดดีครับ เสี่ย ผมยกมือไหว้ตามมารยาท
โอ๊ย ไม่ต้องเรียกเสี่ยหรอก ต่อไปให้เรียก พี่ศักดิ์ เข้าใจมั๊ย แกตบหัวผมเบาๆด้วยความเอ็นดู
รถยนต์เลื่อนไปข้างหน้า โดยมีรถของหมวดยุืทธ ขับตามมาติดๆ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่หมวดถึงไม่ไปรถคันเดียวกันกับเสี่ยศักดิ์
เมื่อคืน นอนหลับสบายมั๊ย ที่ทางมันคงคับแคบ บอกแล้วให้ไปนอนบ้านพี่ก็ไม่ไป
ก็หลับสบายดีครับ ผมพูดตะกุกตะกัก ถ้าแกรู้เรื่องเมื่อคืน ว่าเกิดอะไรขึ้นล่ะก็...โอย ผมไม่อยากคิด
แล้วตกลง เราจะเอายังไงต่อไป จะย้ายไปอยู่ค่ายมวยกับพี่ หรือจะอยู่กับไอ้หมวดมันล่ะ เอ ทำไมถึงมีแค่สองทางเลือกล่ะครับ พี่น้อง ผมก็กำลัง งงๆ ตัวเองอยู่เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ใช่เรื่องที่จะหาทางออกจากบ้านพี่ดำนั้น อยู่ในหัวคิดอยู่แล้ว เพราะผมไม่อยากให้เราทั้งคู่ใกล้ชิดกันอีก เพียงแต่ว่าผมจะหาวิธีออกมายังไง และที่สำคัญจะบอกเรื่องพี่กวางกับแกยังไงดี
แต่ก็นั่นแหละ ดูเหมือนทั้งเสี่ยศักดิ์ และหมวดยุทธ ดูจะมั่นอกมั่นใจกันจังเลยว่า พ่อผมจะต้องให้ผมย้ายมาอยู่กับคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน
เสี่ยศักดิ์คุยเก่งพอดู แกเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่า แกเรียน MBA อยู่ อเมริกา แล้วจู่ๆทางบ้านก็แจ้งมาว่าคุณพ่อคนเดียวที่เหลืออยู่เสียชีวิต พอแกเรียนจบปุ๊บ ก็เลยต้องมาแบกภาระเครียดๆของครอบครัว เนื่องจากเป็นลูกชายโทน นอกจากแกจะมีค่ายมวยแล้ว แกยังทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ก่อสร้าง หรือแม้แต่ เป็นเจ้าของตึกรามบ้านช่องให้คนเช่ามากมาย รวมทั้งเป็นนายทุนนอกระบบอีกต่างหาก ฟังดูแล้ว เครียดแทนแกจัง วัยหนุ่มอายุ แค่ 25 แกน่่าจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากว่านี้ แต่ดีอย่างที่แกทำตัวไม่เครียด ด้วยเหตุนี้ละมั๊ง แกถึงเจ้าชู้ ฟันหญิงไปทั่ว เพื่อระบายความเครียดจากภาระที่หนักอึ้งอยู่นั่นเอง
พี่ศักดิ์ ทำงานแบบนี้ ไม่เหนื่อยบ้างหรือครับ แล้วเรื่องคู่แข่งทางธุรกิจล่ะครับ ผมละสงสัยจัง เรื่องคู่แข่งเพราะดูเหมือนแกจะผูกขาดกิจการแทบทุกชนิดที่เมืองนี้ก็ว่าได้...
พอดีพี่มีญาติๆ ช่วยกันดูแล พอสมควร ส่วนเรื่องคู่แข่ง ก็พอดีไอ้หมวดมันเป็นเพื่อนรักพี่ ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหากับใคร อืมฟังดูแล้วพี่หมวดนี่ก็เป็นที่พึ่งได้ดีคนหนึ่งเลยล่ะ
ผมคุยเรื่องทั่วๆไป ทั้งเรื่องตลกขำขัน สนุกสนาน หัวเราะท้องคัดท้องแข็งก็มี จนลืมไปว่า พี่หมวดขับรถตามอยู่อย่างกระชั้นชิด บางครั้งดูเหมือนแกจะชิดเกินไปด้วยซ้ำ
ปี๊บ ปี๊บ !!! เสียงพี่หมวดกดแตรดังสนั่น พร้อมตีไฟเลี้ยวซ้าย ผมนึกว่ารถมีอุบัติเหตุอะไร แต่ก็ถึงบางอ้อ เมื่อข้างหน้าเป็นร้านกาแฟสด
แกะจะเอากาแฟเย็น หรือโอเลี้ยงดีครับ เสี่ยศักดิ์ถามผมเมื่ออยู่ต่อหน้าหมวดยุทธ ที่กำลังเลือกซื้อสินค้าบางอย่างอยู่
ไม่ได้ ยังเด็กอยู่ เอาโกโก้ หรือนมเย็นก็พอ พี่หมวดพูดขึ้น หน้าบึ้งมาเชียว ไม่รู้ว่ายังโกรธผมเรื่องเมื่อคืนหรือเปล่า ผมล่ะไม่กล้าสู้หน้าแกเลย
คร๊าบผม พี่หมวดขี้เก๊ก มึงยังไม่รู้เลยน่ะว่า พ่อของแกะ จะให้แกะ ไปอยู่กับมึง หรืออยู่บ้านกู หนอยทำตัวเป็นผู้ปกครองเต็มตัวเชียวน่ะมึง เสี่ยศักดิ์ล้อเลียนเพื่อน เสร็จแล้วก็ขอตัวเข้าห้องน้ำ
ทำไม ไม่นั่งรถพี่ คำถามแรกที่พี่หมวดพูดกับผม สำเนียงดุเอาเรื่อง ยิ่งทำให้ผมเกรงกลัวแกมากขึ้น คงเป็นเพราะผลพวงจากเมื่อคืน เลยทำให้ผมทั้งกลัวและเกรงหมวดยุทธ ไปโดยปริยาย หงอเลยน่ะมึงไอ้แกะ น่าสมน้ำหน้า...ทำตัวซ่าส์มานานแล้ว....
"ก็ เอ่อ อ่า ผมไม่รู้จะตอบยังไงดี เพราะตอนนั้น เห็นแกทำหน้าบึ้งๆ ผมเลยไม่กล้านั่งด้วย
คงอยากไปอยู่บ้านเสี่ยรวยๆล่ะซี๊ ...แถมได้นั่งรถคันหรูๆ อีกตะหาก... ใช่สิ รถพี่มันคงกระจอกใช่มั๊ย โธ่ไปกันใหญ่แล้ว ทำไมไม่ถามผมก่อนน่ะ ก่อนที่จะมาต่อว่ากันแบบนี้
ผมไม่ได้คิดแบบนั้นน่ะครับ พี่หมวด ผมอยากนั่งรถไปกับพี่หมวดครับ เพียงแต่ เอ่อ ..." จะให้ผมตอบยังไงล่ะครับ ก็ผมวางตัวไม่ถูกแล้วน่ะสิครับตอนนี้ แม้แต่หน้าพี่หมวดผมยังไม่กล้ามองเลย....
ไปขึ้นรถพี่เดี๋ยวนี้ มีเรื่องจะคุยด้วย โห... ดุจัง ไม่น่าเลยมึงไอ้แกะ ไม่น่าผลีผลามทำอะไรกับพี่หมวดเลย ความเป็นอิสระที่เคยมี...ดูเหมือนจะค่อยๆหมดไปสะแล้วมั๊งคราวนี้...ท่าทางหมวดยุทธ จะคุมเข้ม อย่างที่ไอ้โชคมันว่าจริงๆ เอาไงดีว่ะกู ย้ายแม่งกลับบ้าน นั่งรถประจำทางไปกลับ เลยดีมั๊ย ถ้าหากว่าจะไม่อยู่บ้านพี่ดำแล้วล่ะก็ คงไม่เลือกที่จะไปอยู่กับหมวดยุทธหรอก เอ๊ะ หรือว่าไปอยู่กับเสี่ยศักดิ์ดี ท่าทางปลอดภัย แถมได้ฝึกมวยด้วย
พี่หมวดสั่งนมเย็นให้ผมกินจนได้ ...โอ๊ยเอาไปให้เด็กกิน ถ้าจะดีกว่ามั๊งเนี่ยะ... ส่วนตัวแกกับเสี่ยศักดิ์ ได้กาแฟเย็น รวมทั้งโชว์เฟอร์ด้วย ผมโดนบังคับให้มานั่งรถแกจนได้ พี่หมวดพูดกับผมน้อยมาก ไหนบอกมีเรื่องจะคุยไง ไปๆมาๆ ไม่เห็นจะคุยอะไร ถามคำตอบคำ พี่หมวดทั้งเงียบขรึม ทั้งหน้าตาบึ้งตึง เลยดูไม่ออกเลยว่าแกคิดอะไรอยู่ ยิ่งอยู่ในชุดตำรวจเต็มยศด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ผมเกรงกลัว นั่งตัวลีบไปตลอดทาง...
พวกเรามาถึงบ้านก่อนเที่ยง ทางบ้านเตรียมอาหารรออยู่แล้ว พวกเราจึงเข้าร่วมรับประทานอาหารกันทันที พ่อรู้สึกดีใจมากที่เจอพี่ทั้งสองอีก และแกยิ่งปลื้มไปใหญ่ ที่ เห็นพี่หมวดได้ดิบได้ดีทางการงาน พ่อคงจะคิดถึงพี่เก้ง... ถ้าตอนนี้พี่เก้งยังคงมีชีวิตอยู่ พ่อคงจะได้เห็นความสำเร็จของลูกชายคนโปรดเป็นแน่แท้
พ่อดีใจด้วยน่ะยุทธ ที่ลูกประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงาน และศักดิ์ด้วย พ่อก็ดีใจที่ยังไม่ลืมพ่อ อืม เราสองคนมาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อใช่มั๊ย สัญญาอะไรกัน...นี่พ่อกับพี่สองคนนี่เขามีสัญญาอะไรกันยังงั้นหรือ
แกะ ไปดูข้าวปลาอาหารให้พี่โชว์เฟอร์เขาหน่อยลูก ขาดเหลืออะไรก็บอกพี่กวางในครัวน่ะ นี่พ่อถือโอกาสให้ผมออกจากวงสนทนาเป็นแน่แท้ ในโต๊ะอาหารจึงเหลือ พ่อกับแม่ หมวดยุทธและเสี่ยศักดิ์ ...ผมไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกัน...แต่ผมก็เดินเข้าไปในครัว แล้วยกอาหารมาให้พี่โชว์เฟอร์ที่นั่งอยู่ข้างนอกตรงสวนหย่อมหน้าบ้าน
พี่โชว์เฟอร์อายุคงประมาณ 35 ร่างกายแข็งแรงตัวสูงไล่เลี่ยกับผม ท่าทางออกไปทางนักเลงๆ คงเป็นบอดี้การ์ดให้เสี่ยศักดิ์ไปในตัว
ขอบคุณครับ แกพูดพร้อมกับยกมือไหว้ เล่นเอาผมตกใจทำตัวไม่ถูก
มาไหว้ผมทำไมครับ ผมยังเด็กอยู่เลยน่ะครับ
ก็คุณ เป็นน้องเจ้านายผมนี่ครับ แกรับถาดอาหารไป ที่มีข้าวสวย กับแกง หรือผัดสองสามอย่าง ไปนั่งกินอย่างพินอบพิเทา ผมเห็นอาการแกแล้ว แกคงจะเกรงเสี่ยศักดิ์เอามากๆ ก็เลยคุยเป็นกันเองกับแก เพื่อให้แกดีขึ้น
พี่อยู่กับเสี่ยศักด์มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ทางครอบครัวเสี่ยศักดิ์มีบุญคุณกับครอบครัวพี่มาก ชดใช้เท่าไหร่ก็ไม่รู้จักหมดหรอกในชาตินี้
ผมดีใจแทนเสี่ยศักดิ์ จังเลยครับ ที่มีคนดีๆอย่างพี่อยู่ใกล้ๆ
อืม ขอบคุณครับ ว่าแต่คุณจะย้ายไปอยู่กับเสี่ยมั๊ยครับ ผมชอบนิสัยคุณน่ะครับ
เรียกผมแกะเฉยๆก็ได้ครับ
ครับคุณแกะ ผมเป็นห่วงเสี่ยนะครับ แกทำงานหนักเกินไป ผมอยากให้แกพักผ่อนบ้าง และมีคนไปแบ่งเบาภาระให้แกน่ะครับ
ผมอายุแค่นี้ คงช่วยอะไรเสี่ยไม่ได้มากนักหรอกครับ ยังคุยต่อไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงพ่อตะโกนเรียก
แกะ เข้ามาหาพ่อหน่อย ผมเลยต้องรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าไปข้างใน และนั่น...ผมต้องรับฟัง...คำประกาศิตจากคุณพ่อของผม
แกต้องย้ายไปอยู่กับหมวดยุทธ ต่อนี้ไปหมวดยุทธจะเป็นผู้ปกครองของแก เข้าใจมั๊ย คุณพ่อสั่งเฉียบขาดตามสไตล์ของแก
เอ่อ พ่อครับ แล้วพี่ดำ ล่ะครับ ผมจะบอกพี่ดำยังไงดีครับ ผมเองจริงๆแล้วก็ห่วงพี่ชายที่รักอยู่มากเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะมีแผนที่จะแยกตัวออกมาอยู่แล้ว แต่ควรให้เวลาพี่ดำบ้าง ไม่งั้นแกคงจะเสียใจแย่
เดี๋ยวพ่อจัดการเอง วันศุกร์นี้วันหยุดราชการ แกก็พาเจ้าดำมาสะตั้งแต่คืนวันพฤหัส พ่อคิดว่าดำน่าจะเข้าใจ...
คุณค่ะ แล้วจะให้แกะย้ายไปตอนไหนล่ะค่ะ ไม่รอให้ดำเขาไปต่างประเทศก่อนไม่ดีกว่าหรือค่ะ ค่อยให้แกะย้ายไปอยู่กับหมวดยุทธน่ะ แม่เองก็ยังจะรักษาน้ำใจของลูกชายคนใหม่ของแม่อยู่เหมือนกัน
ชั้นให้เวลาแกหนึ่งสัปดาห์ วันอาทิตย์หน้าแกเตรียมเข้าของไปอยู่กับหมวดยุทธได้เลย ผมยังไม่เข้าใจเหตุผลอยู่ดี ทำไมพ่อต้องรีบเร่งให้ผมย้ายไปอยู่กับหมวดยุทธเร็วขนาดนั้น ผมชำเลืองมองไปที่ใบหน้าพี่หมวด ดูแกจะพออกพอใจอยู่มาก ในขณะที่เสี่ยศักดิ์กับทำหน้าเรียบเฉย
ทำไม แกมีปัญหาอะไร พ่อหันมาดุผมที่ผมยืนก้มหน้านิ่ง กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับพี่ชายที่รัก
แกต้องเชื่อฟังหมวดยุทธทุกอย่างน่ะ ห้ามเกเร ถ้าจะว่าไปแล้วหมวดยุทธก็คือพ่อคนที่สองของแก เพราะเขาช่วยชีวิตแกไว้ แกจะต้องรำลึกถึงบุญคุณข้อนี้เอาไว้ให้ดี
ครับพ่อ ผมเกรงกลัวพ่อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พ่อสั่งอะไรมาก็ต้องทำตาม...
นี่หน้าแกไปโดนอะไรมา ...หา... แกไปมีเรื่องชกต่อยกับใครมา พ่อคงเพิ่งสังเกตุที่ปลายคิ้วข้างซ้ายยังมีรอยแผล จากโดนศอกของไอ้ชัย และโดนหมัดของพี่หมวดที่กึ่งปากกึ่งจมูก เป็นรอยเขียวคล้ำชัดเจน

No comments:

Post a Comment