Saturday, September 5, 2009

บทที่ 65 " ความลับ...ของบ้านพี่ดำ "

บทที่ 65 ความลับ...ของบ้านพี่ดำ

ผมยืนก้มหน้านิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าจะบอกพ่อยังไง เพราะหลักฐานมันก็เห็นอยู่ทนโท่ จะแก้ตัวก็ไม่ได้
มีเรื่องเข้าใจผิดกับลูกน้องผมนิดหน่อยน่ะครับ คุณพ่อ แต่ไอ้เสือนี่ ก็เก่งพอตัวเหมือนกันน่ะครับ เสี่ยศักดิ์พยายามพูดให้ผมดูดีในสายตาพ่อขึ้นมาบ้าง
เหลวไหล! พ่อบอกกี่ครั้งกี่หนแล้ว ไม่ให้ทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ พ่อส่งแกไปเรียนน่ะ ไม่ใช่ให้ไปหาเรื่องชกต่อยกับใคร...ทำไมแกไม่เอาตัวอย่างดีๆอย่างพี่แก แกนี่ชอบทำเรื่อง หาเรื่องมาให้พ่อเดือดร้อนอยู่เรื่อย...เฮ้อ!ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว... พ่อด่าผมเป็นชุด ซึ่งก็ไม่แปลกหรอก ผมเคยโดนด่าแบบนี้ประจำอยู่แล้ว ตั้งแต่จำความได้ ที่ผมชอบเล่นอะไรแผลงๆ ซุกซน จนเกิดเรื่องมากมาย ...ใช่สิผมไม่ใช่ลูกชายคนโปรดของพ่อนี่ ไม่เหมือนพี่เก้ง ที่ดูดีทุกอย่างในสายตาของพ่อ...
อืม ท่าทางจะออกนอกลู่นอกทางจริงๆ หมวดยุทธเสริมขึ้นมาบ้าง แล้วชำเลืองมองผมแว่บหนึ่ง แกคงจะหมายถึงเรื่อง...เรื่องที่ผมทำแบบนั้นกับแก อย่างแน่นอน
แกอย่าลืมว่า แกคือลูกชายคนสุดท้ายของตระกูล ที่เหลืออยู่ จะคิดจะทำอะไรให้คิดถึงหน้าพ่อบ้าง พ่อยังอบรมผมต่อไม่หยุด...นี่ถ้าพ่อรู้ว่า ลูกชายคนสุดท้าย และคือความหวังของพ่อ ได้เดินออกนอกลู่นอกทาง จนจะกู่ไม่กลับอยู่แล้ว...พ่อคงจะไม่เอาไว้แน่ เผลอๆ อาจจะยิงทิ้งเสียด้วยซ้ำ...คิดไปคิดมาก็น่าสยองอยู่ไม่ใช่เล่น
ท่าทางเจ้าดำคงจะคุมไม่อยู่...รายนั้นก็ตามใจกันจนเหลิง...พ่อว่าพ่อคิดถูกแล้วที่ส่งแกไปอยู่กับหมวดยุทธ จะได้กำราบแกได้มั่ง พ่อหันหน้าไปคุยกับหมวดยุทธ เหมือนพยายามจะฝากฝังผมให้ได้รับการอบรมที่ดี
ไม่ต้องห่วงหรอกครับพ่อ เรื่องนี้ผมจัดการให้ หมวดยุทธเออออ ห่อหมก ไปกับพ่อ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยทีเดียว
แล้วผมจะช่วยดูแล ให้อีกแรงน่ะครับ เสี่ยศักดิ์พูดขึ้นมาบ้าง
พ่อ ขอบใจลูกทั้งสองมาก ที่รับจะเป็นธุระให้ อืม ยุทธ ถ้ามันเกเร ยุทธก็ลงโทษมันได้เลยน่ะ พ่อให้สิทธิ์เต็มที่
ครับพ่อ หมวดยุทธก้มศรีษะลงน้อยๆ ตายล่ะ นี่พ่อให้สิทธิพี่หมวดขนาดนั้นเลยหรือ
คุณค่ะ ตกลงที่คุณอยากจะให้เจ้าแกะ ไปอยู่กับหมวดยุทธนี่ เพราะต้องการให้แกะเป็นตำรวจ...งั้นหรือค่ะ?” แม่สอดขึ้นมาบ้าง หลังจากที่ฟังมานาน
ก็ใช่น่ะสิ เจ้าแกะมันน่าจะมีเลือดเดียวกับปู่ของมันมั่ง เสียดายที่ชั้นเกเร สะก่อน ไม่งั้นคงจะเจริญรอยตามปู่ของเจ้าแกะไปอีกคน ที่พ่อบอกเกเรนี่ คงจะไม่พ้นเรื่องความเจ้าชู้...มากหญิง น่ะแหละ แต่ก็ยังดีที่ใฝ่ดี จนเป็นอาจารย์ใหญ่ที่นับหน้าถือตา อยู่จนทุกวันนี้
แต่เลือดทางฝ่ายตาของเจ้าแกะก็คงจะแรงอยู่เหมือนกันน่ะค่ะ อย่าลืมว่าที่เราให้เจ้าแกะไปเรียนที่โรงเรียนนี้ เพราะเจ้าแกะอยากเป็นแพทย์น่ะค่ะ แม่เริ่มขัดแย้งบ้าง... ว่าแต่ที่ประชุมกันอยู่เมื่อครู่ นี่ตกลงกันไม่ได้รึยังไงกันน่ะ...
เออน่า ก็ให้มันได้ซึมซับ ชีวิตตำรวจไว้มั่งก็ดี จะได้มีระเบียบวินัย เมื่อถึงเวลาจริงๆ ถ้ามันอยากจะสอบแพทย์ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่
แต่ดิฉันกลัวนี่ค่ะ เราเสียเจ้าเก้งไปคนหนึ่งแล้วจากอาชีพตำรวจ ดิฉันไม่อยากให้เจ้าแกะต้องมีอันเป็นไปอีกคน โธ่...แม่ครับ...แม่คงเป็นห่วงผมมาก จึงไม่อยากให้ผมเจริญรอยตามปู่และพี่เก้ง จริงอยู่อาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่มีเกียรติ แต่ทว่าอันตรายก็มีไม่น้อยเช่นกัน...ผมละซาบซึ้งความรัก ความห่วงใยที่แม่มีให้ จนน้ำตาเริ่มซึมออกมาที่ขอบตาทั้งสองข้าง
พอดีพี่หมวดมีคนโทรมาให้กลับโรงพักด่วน แกเลยต้องรีบไป แต่ก็ยังมีแก่ใจบอกกับเสี่ยศักดิ์ให้ไปส่งผมด้วย แต่ไม่ยักจะคุยอะไรกับผม
หลังจากนั้นเสี่ยศักดิ์เข้าไปคุยกับพ่อเรื่องทั่วๆไป ส่วนผมก็ต้องตอบคำถามเรื่องพี่ดำให้กับพี่กวางอยู่ตลอดเวลา แล้วแบบนี้จะให้ไอ้แกะทำอย่างไรล่ะครับพี่น้อง...เพราะพี่สาวของเราก็หลงรักพี่ชายที่รักออกขนาดนี้
เสี่ยศักดิ์ขับรถมาส่งผมที่บ้านพี่ดำ ตอนเย็นๆ เกือบสี่โมงแล้ว พอแกเห็นบ้านพี่ดำเท่านั้นแกถึงกับอุทานออกมาว่า
เฮ้ย!บ้านหลังนี้ นี่มัน..... แกหยุดชงักอยู่ชั่วครู่ จนผมต้องเอ่ยปากถาม
พี่ศักดิ์ เป็นอะไรรึเปล่าครับ
ปะ เปล่า แล้วเจอกันใหม่น่ะ โทรหาพี่ได้ตลอด หรือจะเข้าไปเที่ยวเล่นที่บ้านพี่เมื่อไหร่ก็ได้
ขอบคุณครับ ผมยกมือไหว้ลาแก
ผมยืนมองรถยนต์ของเสี่ยศักดิ์จนมันลับตาไปแล้ว จากนั้นผมจึงยืนมองตัวบ้าน บ้านที่ผมเคยมาพักตั้งแต่วันแรก จนอีกไม่กี่วัน ผมก็จะได้จากบ้านหลังนี้ไปแล้ว...
ผมเดินดูรอบๆตัวบ้านด้วยความรู้สึกหวิวๆพิกล เออแน่ะ เราจะจากบ้านหลังนี้ไปแล้วจริงๆหรือ มันเหมือนความฝันยังไงก็ไม่รู้ ยังรู้สึกผูกพันธ์กับบ้านหลังนี้ อย่างกับเป็นเจ้าของสะเองอย่างนั้นแหละ
อ้าวคุณแกะ มาแล้วหรือค่ะ เดี๋ยวป้าทำกับข้าวให้ทานน่ะค่ะ เสียงป้าสมทักทายมาจากข้างหลัง พร้อมกับลุงบุญที่กำลังหิ้วข้าวของพะรุงพะรัง น่าจะเป็นอาหารการกินของพี่ดำและผมนั่นแหละ
ผมรอจนป้ากับลุงเอาของเก็บเข้าที่ จึงค่อยๆเลียบๆเคียง แกล้งไปหยิบๆจับๆ พวกผัก ผลไม้ ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง
เอ่อ ป้ากับลุงครับ ถ้าหากว่า พี่ดำไปเรียนที่นิวซีแลนด์แล้ว ป้ากับลุงยังคงจะอยู่เฝ้าบ้านหลังนี้อีกต่อไปมั๊ยครับ
ลุงกับป้าคงจะย้ายไปอยู่กับญาติๆที่ต่างจังหวัด แถวๆภาคเหนือล่ะครับ เพราะคุณอร แจ้งมาว่า จะขายบ้านและที่ดินผืนนี้ เมื่อคุณดำไปเรียนเมืองนอก ลุงบุญที่กำลังงกๆเงิ่นๆ หยิบจับข้าวของอยู่ อธิบายถึงอนาคตของบ้านหลังนี้ให้ผมฟัง
อะไรน่ะครับ บ้านหลังนี้จะถูกขายยังงั้นหรือครับ ผมใจหายวาบ นี่หมายความว่า ถ้าพี่ดำไปเรียนต่อที่นู้น โอกาสที่จะกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยคงมีน้อยเต็มที เพราะไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว ในเมื่อบอกขายบ้านและที่ดินไปแบบนี้
ป้าก็เสียดายน่ะ บ้านหลังนี้ แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีคนอยู่แล้วก็ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ให้ใคร ป้าบ่นพึมพำเบาๆ ในขณะที่แกกำลังล้างผัก เตรียมทำกับข้าวให้ผม
หมายความว่า น้าอรจะไม่กลับมาเมืองไทยอีกแล้วหรือครับ รวมทั้ง เอ่อ พี่ดำ ด้วยอ่ะครับ
เห็นคุณอรพูดอยู่เหมือนกันว่า จะให้คุณดำเรียนต่อให้สูงๆ แล้วช่วยงานฟาร์มที่นั่นไปเลย ป้าว่าคุณอรคงจะวางแผนลวงหน้าไว้นานแล้ว
ผมอึ้ง สับสน งงงวย อยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะตั้งสติได้ ถึงผมไม่จากพี่ชายที่รักไปในวันนี้ พี่ชายที่รักก็ต้องจากผมไปอยู่ดี และไกลแสนไกลขนาดนั้น จะมีโอกาสได้เจอกันอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้...
ผมทานข้าวคนเดียวด้วยความหงอยเหงา อาหารที่เคยเป็นอาหารจานโปรดที่อยู่ตรงหน้า ไม่รู้รสชาดเป็นอย่างไร ทานไปก็คิดไป เออน่ะ...ชีวิตคนเรานี่ก็แปลก บทจะเจอก็ได้เจอ บทจะจากก็ได้จาก...ไม่มีอะไรแน่นอนในโลกใบนี้...อนิจจังแท้
หลังจากอาบน้ำแต่งตัว เตรียมการเรียนในวันพรุ่งนี้เสร็จ เกือบสี่ทุ่มแล้ว ยังไม่เห็นวี่แวว ว่าพี่ชายที่รักจะกลับมา... ผมจึงตัดสินใจปิดไฟล้มตัวนอนลงบนเตียง ด้วยความอ่อนเพลีย เพลียจากอะไรล่ะ นั่นนะสิ แค่สองวันที่ผ่านมานี้ มีเรื่องเข้ามามากมายมากมายเหลือเกิน..จนเด็กอายุแค่สิบห้าปีอย่างผม ยังไม่สามารถตั้งรับ สถานะการณ์...กับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้...ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ไม่รู้ว่าผมหลับไปนานเท่าไหร่ มารู้สึกตัวอีกที ก็ได้กลิ่นของชายชาตรีที่คุ้นจมูกผมดี ร่างนั้นก้มหน้าลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ พร้อมกับเสียงไพเราะเสนาะหู พูดขึ้นมาเบาๆพอให้ได้ยิน
น้องชายที่รัก...พี่กลับมาแล้ว!!!”

No comments:

Post a Comment