Sunday, September 20, 2009

บทที่ 74 " ชัยชนะ...ของพระเอกเกาหลี "

บทที่ 74 ชัยชนะ...ของพระเอกเกาหลี

อาจารย์จะให้แกะลงแข่งไม่ได้น่ะครับ พี่โก้คัดค้านเสียงแข็ง ภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
นายโก้...เธอคิดว่าในตอนนี้...มีใครที่เหมาะสมมากกว่านี้รึไง...เราไม่มีทางเลือก อาจารย์วิชาญพูดไปก็จัดการกับเสื้อผ้า และกางเกงของผม เปลี่ยนเป็นกางเกงนักมวยแทน
แต่อาจารย์ ครับ แกะไม่ได้เป็นนักมวยน่ะครับ แกะไม่ได้ฝึกฝนมาตั้งแต่ต้น ร่างกายอาจทนไม่ได้น่ะครับ พี่โก้พยายามคัดค้าน อีกครั้ง อันที่จริงก็ถูกของแก เพราะผมมาฝึกซ้อมมวยเพื่อการป้องกันตัวเองเท่านั้น ไม่ได้คิดเอาจริงเอาจังขนาดจะเป็นนักกีฬามวยสมัครเล่นของโรงเรียน...ระยะเวลาฝึกฝนเทียบไม่ได้เลยกับนักมวยที่แท้จริง ซึ่งนั่นเขาต้องฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรง...ออกวิ่งทุกเช้า ออกกำลังกายสม่ำเสมอ...ไหนจะต้องดูแลเรื่องอาหารเป็นอย่างดี เพื่อให้สุขภาพแข็งแรงอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
อาจารย์ครับ ผมขอร้องล่ะครับ อย่าให้น้องชายผมลงแข่งเลยน่ะครับ พี่ชายที่รัก ตามเข้ามาเมื่อรู้ว่าผมจะต้องลงแข่ง
นายเอก ครูรู้ว่าเธอเป็นห่วงน้องชายเธอ แต่เธอคิดถึงส่วนรวมบ้างสิ ตอนนี้ความหวังทั้งหมด อยู่ที่น้องชายเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นน่ะ
แต่อาจารย์ กำลังส่งน้องผมไปตายน่ะครับ น้องผมยังอ่อนหัด จะไปสู้อะไรกับระดับแชมป์ได้ล่ะครับ คราวนี้อาจารย์ชักลังเลเล็กน้อย
ทันใดนั้นเสียงประกาศจากเวทีก็ดังขึ้น
ประกาศ ขออภัย เนื่องจากเกิดเหตุขัดข้องบางประการ จึงทำให้นักกีฬาของโรงเรียนเราลงแข่งล่าช้ากว่ากำหนด แต่ต่อจากนี้ไปขอเชิญเชียร์ให้กำลังใจ นาย...นามสกุล...หรือฉายา พระเอกเกาหลีของเรานั่นเอง สิ้นประกาศ ได้ยินเสียงเชียร์ เฮ...ลั่นโรงยิม
ครูว่า ช้าไปแล้วล่ะ คราวนี้ยังไงก็ต้องลงแข่ง เอาล่ะ พระเอกเกาหลี ฟังครูให้ดีน่ะ การชกครั้งนี้ ครูไม่ได้หวังผลชนะ แต่ครูหวังให้เธอยืนหยัด อดทนให้ครบสามยก เข้าใจมั๊ย อาจารย์วิชาญกำชับผมหนักแน่น หลังจากแกสวมนวมให้ผมเรียบร้อยแล้ว
เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว แกะ...พยายามหน่อยน่ะครับ...เพื่อศักดิ์ศรีของโรงเรียน จำวิชาที่พี่ถ่ายทอดให้ขึ้นใจ อย่าตื่นสนาม อย่าลืม สมาธิจะต้องนิ่ง สมาธิเท่านั้น จะทำให้เราชนะได้ พี่โก้เมื่อเห็นว่าไม่มีทางเลือก จึงสั่งกำชับอีกคน
น้องชายที่รัก ถ้าหากว่าไม่ไหวเมื่อไหร่ ให้บอกอาจารย์น่ะครับ อย่าฝืนตัวเอง พี่ชายที่รักยังคงเป็นห่วงผมอยู่เสมอๆ หน้าตาแกดูไม่ดีเลย เพราะแกรู้ว่า ยังไงผมก็ไม่มีทางเอาชนะนักมวยฝ่ายนู้นได้แน่นอน
อาจารย์วิชาญเดินนำหน้าผมไป ตามหลังด้วยพี่โก้ และพี่ชายที่รัก ตอนที่เดินผ่านผู้คน ได้ยินเสียงเชียร์สนั่น
พระเอกเกาหลี สู้ สู้ สู้โว๊ย....เฮ..เฮ. เสียงผู้คนทั่วไป
แกะ เอาให้เต็มที่น่ะโว๊ย..... เสียงเพื่อนๆแก๊งค์ตัวแสบของผมครับ
ผมขึ้นเวทีมาที่มุมแดง ฝ่ายตรงข้ามพอเห็นผมเท่านั้น มันก็ทำท่าขู่ แถมยิ้มเยาะเย้ยอีกต่างหาก
กรรมการเรียกไปกลางเวที ไอ้นักมวยฝ่ายนู้นก็เริ่มกวนตีน
ไอ้น้อง จะยอมแพ้ซะตอนนี้ก็ได้น่ะ จะได้ไม่เจ็บตัว ฮ่ะ ฮ่ะ กูรู้ว่ามึงเก่ง แต่กูขออย่างเดียว ขอยืนหยัดให้ครบสามยก กูก็พอใจแล้ว ผมคิดในใจ นั่นคือสิ่งที่ผมตั้งความหวังเอาไว้ เรารู้ตัวดีว่าอ่อนหัด การฝึกฝนก็แค่ไม่กี่เดือน จะไปเทียบอะไรกับระดับเหรียญทองอย่างมันได้เล่า
เริ่มยกที่หนึ่ง มันเต้นฟุตเวริ์คเดินหน้าเข้ามาแย็บซ้าย แย็บขวาลองเชิง ผมก็หลบได้หวุดหวิด ผมปล่อยหมัดบ้าง... แต่ไม่มีทางโดนมันได้หรอก หลบไวชะมัด ท่าทางคล่องแคล่วว่องไว ปานลิงลม โห...จะเอาอะไรไปสู้กับมันได้เนี่ยะ...ต่อมาท้ายๆยกมันเริ่มตลุยไม่ยั้ง จนผมเซถอยหลังเข้ามุม พยายามยกการ์ดปิดป้องสุดฤทธิ์...พลาดครับ โดนมันถลุงไป ห้าหกหมัดได้ หมัดแรกมันตุ๊ยหน้าท้อง จุก...จนตัวงอ มันไม่ปล่อยให้เสียเวลา หมัดสอง สาม ตามมา จากนั้น มันเห็นผมเซถลา มันเลยต่อยเข้าที่โหนกแก้มข้างขวา ตามด้วยหมัดฮุก เข้าที่ปลายคาง อ่วมอรทัยเลยงานนี้ ทั้งจุก ทั้งเจ็บไปหมด...แทบล้มทั้งยืน...มันจะตามมาซ้ำ ...พอดีระฆังช่วยไว้ก่อน
แกะ ไหวมั๊ยครับ ถ้าไม่ไหว ก็บอกน่ะครับ ทั้งอาจารย์ ทั้งพี่โก้ ทั้งพี่ชายที่รัก กล่าวเหมือนๆกัน ตอนที่ผมพักยก พี่โก้ลงทุนขึ้นมาเป็นพี่เลี้ยงให้ พี่ชายที่รัก ยืนให้กำลังใจอยู่ข้างล่างใกล้ๆ ส่วนอาจารย์ก็รีบสอนชั้นเชิง การรุกการรับ เพราะเห็นว่าผมคงจะแย่แน่ๆ
ไหวครับ ทุกคนไม่ต้องห่วงน่ะครับ ผมบอกทุกคนไม่ต้องห่วง แต่ตัวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะผ่านยกสองนี้ไปรอดรึเปล่า
ยกสองเริ่มขึ้น เหมือนเดิมครับ โดนมันถลุงยับเยิน ไม่มีแม้แต่โอกาสที่หมัดของผมจะโดนหน้ามันได้..ซ้ำร้าย โดนสอยที่ปลายคาง เหมือนมีเหล็กดุ้นๆ เสยที่ปลายคาง มันรวดเร็วมากจนผมตั้งตัวไม่ติด ร่างโอนเอนล้มตึงกลางเวที เห็นดาวระยิบระยับ จนเหมือนว่าความรู้สึกจะค่อยๆหมดลง
หนึ่ง...สอง... เสียงกรรมการนับ ดังอยู่ไกลๆ จังหวะนั้น เหมือนกับว่ามีแต่ความมืดมิด หรือว่าวิญญาณจะหลุดจากร่างไปแล้ว....และนั่นผมก็ได้พบ...พบกับพี่เก้ง สายตาที่แกมองมา เปี่ยมไปด้วยความห่วงใย แกยื่นมือขึ้นมาจับมือผม ให้ลุกขึ้น
แกะ ไอ้น้องรัก ลุกขึ้นมาสิ ลุกขึ้นมา เอ็งเป็นน้องของพี่ เอ็งมีสายเลือดนักสู้เหมือนกับพี่ เอ็งต้องเข้มแข้ง เข้มแข็งเข้าไว้ ลุกขึ้นมา ลุกเร็วเข้า
หก... เสียงกรรมการดังอยู่ข้างหู ผมคงตื่นและกลับมาสู่โลกปัจจุบันแล้วสิ
พระเอกเกาหลี พระเอกเกาหลี สู้ สู้ เสียงผู้คนระเบ็งเซ็งแซ่ ระงมดังลั่น
พี่เก้งครับ พี่มาช่วยผมใช่มั๊ยครับ ได้ครับพี่ ผมจะเข้มแข็ง ผมจะไม่ยอมแพ้ ผมรำพึงให้กับตัวเอง ก่อนที่จะดีดตัวลุกขึ้น
เฮ เฮ......ลุกแล้ว พระเอกเกาหลีลุกขึ้นมาแล้ว เฮ เฮ... เสียงเชียร์ดังหนักกว่าเดิมสะอีก
ผมเต้นฟุตเวริ์ค ไปมา พยักหน้าให้อาจารย์ที่เป็นกรรมการกลางเวที ว่าผมยังไหว
เจ็ด...แปด กรรมการนับแปด ตามกติกา
ผมปราดเข้าไปหามัน คราวนี้เป็นไงเป็นกัน....ผล..โดนมันต่อยกลับมาที่ใบหน้า เบ้าตาอีกสองสามหมัด...หมดเวลายกสอง
ผมไม่รู้ตัวเลยว่า หน้าตาตอนนี้เป็นอย่างไร เพราะมันเจ็บจนชาไปหมด (ตอนหลังถึงรู้ว่า มันบวมปูดจนดูแทบไม่ได้ โดยเฉพาะเบ้าตาข้างซ้ายบวมอลึ่งฉึ่งจนแทบปิดลูกกะตาทีเดียว) ผมนั่งหมดแรงคอตก อยู่ที่เก้าอี้มุมแดงของตัวเอง เหนื่อยจนแทบขาดใจ พวกนักมวยเขาเป็นอย่างนี้เองนะหรือ และนี่หรือคือกีฬาที่เขาบอกว่า...กีฬาของลูกผู้ชาย...ผมเพิ่งได้ประจักษ์ก็วันนี้เอง
อาจารย์ครับ ยกธงขาวเถอะครับ แกะสู้เขาไม่ได้แน่นอน พี่โก้ขอร้องอาจารย์วิชาญ แกมองหน้าผมด้วยความเป็นห่วงอย่างที่สุด ในขณะเดียวกันแกก็ช่วยประคบประหงม แผลที่ใบหน้า ด้วยน้ำอุ่นๆ และนวดตามแขนขา ด้วยน้ำมันมวย ให้กล้ามเนื้อคลายตัว
พ่อพระเอกเกาหลี สู้ต่อไหวมั๊ย ครูว่าเลิกดีมั๊ย เดี๋ยวเราเจ็บกว่านี้อีก อาจารย์เองก็เริ่มเป็นห่วง
ผมหันไปมองพี่ชายที่รักที่ยืนอยู่ข้างล่างใกล้ๆเวที ภาพที่ผมเห็นผมแทบจะอดกลั้นน้ำตาของตัวเองไม่ได้....พี่ชายที่รักน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม เป็นสายทั้งสองข้าง สายตาที่มองผมอยู่ในขณะนี้ มันไม่เพียงแต่บอกว่า แกเป็นห่วงผมมากแค่ไหน...แต่มันบ่งบอกให้รู้ว่า...แกอยากจะเจ็บแทนผมตะหาก...พี่ชายที่รักครับ ผมรักพี่ครับ และผมคงจะไม่มีใครที่รักผม...ได้มากมายเท่ากับพี่ชายที่รักคนนี้อีกแล้ว... พี่ชายที่รักครับ ผมรู้ว่าแม้แต่ชีวิตของพี่ยังให้ผมได้ นับประสาอะไรกับเรื่องแค่นี้...ผมรู้ว่าพี่เจ็บปวดรวดร้าวเพียงใด...ที่เห็นผมเจ็บอยู่ตรงหน้า โดยที่พี่ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้...พี่ชายที่รักพยายามกลั้นสะอื้นไม่ให้ใครได้ยิน ถ้าอยู่กันสองต่อสองแกคงปล่อยโฮออกมาแล้ว แต่นี่มันอยู่ที่โรงเรียน แกคงแสดงอะไรออกมาไม่ได้
ผมหันไปมองเพื่อนๆ ทุกคนทำตาแดงๆตามพี่ชายที่รักไปหมด ขอบใจว่ะเพื่อนที่เป็นห่วง กูจะไม่มีวันลืมพวกมึงเลยว่ะ....ผมชำเลืองมองไปที่ผ.อ. ดูแกจะเป็นห่วงผมอยู่มากทีเดียว สีหน้าของแกเหมือนกับคนที่กำลังรู้สำนึกว่า ไม่สมควรส่งใครคนไหนที่ยังไม่พร้อมขึ้นสู่สนามรบ....
ในสนามทุกคนเงียบกริบ ทุกคนคงกำลังลุ้นดูอยู่กระมังว่า อาจารย์วิชาญจะยกธงขาวยอมแพ้หรือไม่
ผมหันกลับไปมองหน้าพี่ชายที่รักอีกครั้ง...พี่ชายที่รักครับ...ในเมื่ออานุภาพความรักอันยิ่งใหญ่ี่ที่พี่มีให้ ผมจะเปลี่ยนมันเป็นพลังในการต่อสู้ ผมจะสู้ครับ พี่ชายที่รัก ผมจะสู้กับมัน!...
อาจารย์ครับ ผมยังไหวครับ อย่างน้อยผมจะยืนให้ครบสามยกให้ได้ ผมกล่าวกับอาจารย์ด้วยคำพูดที่หนักแน่น
ยกที่สาม มันไม่ฟังอิร้าอิรามที่ไหนอีกแล้ว มันปรี่เข้าถลุงหมัดใส่ผมไม่ยั้ง...มันคงอยากจะให้ผมแพ้น็อคไปเลยกระมัง....แต่ความประมาทของมันนั่นแหละจะฆ่าตัวมันเอง
ช่วงจังหวะที่มันไล่ตะลุมบอนผมอยู่นั้น มันก็เกิดช่องว่างขึ้นจนได้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่เศษเสี้ยววินาที แต่ตอนนี้ ผมเริ่มมองเห็นแล้ว
พลั่ก! ผมปล่อยหมัดไปที่กึ่งปากกึ่งจมูกของมัน จนมันหน้าหงาย
เฮ เฮ พระเอกเกาหลี สู้ สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงเชียร์เริ่มกลับมาอีกครั้ง
ในจังหวะที่มันกำลังมึนงง มันคงคาดไม่ถึงว่าหมูในอวยจะแผลงฤทธิ์ขึ้นมาได้ ผมตามไปอัดมันต่อที่โหนกแก้ม และปลายคาง จนมันเซไป เสียหลัก ไปทางมุมของมันบ้าง
มันต่อยผมสวนมาได้หมัดหนึ่ง ผมหน้าหงายไปเหมือนกัน แต่วินาทีนี้ ไอ้แกะเป็นบ้าไปแล้วครับพี่น้อง ตายเป็นตาย เจ็บเป็นเจ็บ หมามันยังสู้จนตรอก แล้วกูล่ะเป็นคนแท้ๆ ทำใมไม่สู้กับมัน คราวนี้เราแลกหมัดกันอย่าเอาเป็นเอาตาย....จนกระทั่ง ผมได้จังหวะถลุงมันกลางเวที อัดมันซ้ายทีขวาที จนมันเซถลา และนี่คือหมัดที่กูเคยโดน...คราวนี้มึงโดนบ้างจะเป็นไร...มันถูกสอยปลายคางจนร่างของมันลอยลิ่วลงไปนอนกลางเวที
หนึ่ง...สอง....สาม เสียงกรรมการนับ ไปเรื่อยๆ เสียงเชียร์เงียบไป ทุกคนคงใจจดใจจ่อว่า มันจะโดนน็อคหรือไม่
สี่...ห้า...หก. ใกล้แล้ว ถ้ามึงให้กรรมการนับสิบ มึงแพ้กูแน่
เจ็ด... มันงัวเงีย ลุกขึ้นมาจนได้
แปด กรรมการนับแปด แล้วก็ให้เริ่มชกต่อได้ แต่...
เหม๊ง เหม๊ง! ระฆังหมดเวลา
ผมกลับมาที่มุมของตัวเอง พี่โก้ถึงกับยิ้มแป้น
เก่งมาก แกะ สมแล้วที่พี่ฝึกมากับมือ
ทำดีแล้ว พ่อพระเอกของครู
...................... ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากพี่ชายที่รัก มีแต่สายตาที่บ่งบอกว่า ชื่นชมในความกล้าหาญของผม ตอนนี้น้ำตาแกเหือดแห้งไปแล้ว
กรรมการเรียกเราสองคนไปกลางเวที ผลคะแนนออกมาตามคาด
มุมน้ำเงินเป็นฝ่ายชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ กรรมการยกมือให้นักมวยฝ่ายนู้นเป็นผู้ชนะครับ
เสียงปรบมือให้ผู้ชนะดังพอสมควร แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นกลบเสียงทุกอย่างในโรงยิม
พระเอกเกาหลี...ฮีโร่ของเรา แค่นั้นล่ะครับ ทุกคนที่เป็นนักเรียนของโรงเรียนผมต่างลุกขึ้นยืน ตะโกนพร้อมๆกัน ดังลั่น
ใช่ๆ พระเอกเกาหลี ฮีโร่ตัวจริง ของเรา เฮ เฮ เสียงปรบมือกึกก้องสนั่นหวั่นไหว จนผมยืนตัวชา แข็งทื่อ ขนลุกเกรียว น้ำตาแห่งความปิติเริ่มเอ่อล้นออกมา อย่างไม่รู้ตัว
แกะ ขี่คอพี่เร็วเข้า พี่โก้มาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ แกนั่งคุกเข่าให้ผมขึ้นขี่คอแก ซึ่งตอนนี้แกก็ยังคงอยุ่ในชุดนักมวยอยู่เหมือนกัน
แกพาผมเดินไปรอบๆเวที ดูแกจะชื่นชมผลงานลูกศิษย์ของตัวเองไม่น้อยทีเดียว
เฮ เฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงเชียร์ยังดังไม่หยุด ตอนนี้ผมถึงสังเกตุว่า ท่านผ.อ. ก็ลุกขึ้นยืนปรบมือให้ผมเช่นกัน
ภาพในวันนั้น ประทับใจผมไม่รู้ลืม มากระทั่งทุกวันนี้ และผมจะรู้สึกปลาบปลื้มยินดีอยู่เสมอ เมื่อนึกถึงคราใด น้ำตาผมจะไหลทุกครั้ง... ชัยชนะในครั้งนั้น มันไม่ใช่ชัยชนะจากเกมส์การแข่งขัน แต่มันเป็นชัยชนะที่ได้มาจาก หัวใจของผู้เข้าชมการแข่งขันต่างหาก และท้ายที่สุดก็คือชนะตัวเราเอง ที่ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค... ขอให้มีใจสู้ก็เพียงพอแล้ว...ถึงแม้ว่าผลจะออกมาเช่นไรก็ตาม...เราก็ยินดีกับสิ่งนั้น เพราะเราได้พยายามสู้เต็มที่แล้วนั่นเอง...

No comments:

Post a Comment