Friday, June 5, 2009

บทที่ 11 " สายน้ำ...มรณะ "

บทที่ 11 “สายน้ำ...มรณะ”

********************
วันนั้นถ้าจำไม่ผิดคาดว่าจะเป็นวันเสาร์ตอนบ่ายๆ เด็กน้อยกำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานอยู่ที่ลานหญ้าหลังบ้านกับพี่ดำ มันเป็นลานหญ้ากว้างทอดยาวห่างจากตัวบ้านพอสมควรราวๆ 10-15 เมตรไปสิ้นสุดที่ริมเวิ้งน้ำอันเงียบสงบ แต่ทว่าห่างออกไปไม่กี่เมตรจะเป็นลำธารน้ำที่ไหลเอื่อยๆจากป่าบนภูเขา ไหลทอดยาวไปจนบรรจบกับแม่น้ำสายใหญ่อีกที.... เด็กหนุ่มสองสามคนอายุราว 15-16 ปี กำลังสาละวน ช่วยกันจัดแจงโต๊ะ เก้าอี้ เพื่อจัดการสังสรรค์เล็กๆน้อยๆ หลังบ้าน ใช่พวกเขาคือเพื่อนของพี่เก้ง พี่ชายของเด็กน้อย ที่ไปเรียนอยู่ต่างจังหวัด นานๆถึงจะกลับบ้านสักครั้ง... พี่เก้งเป็นพี่ชายคนโต อายุห่างจากเด็กน้อยถึงสิบปี แถมไม่ค่อยอยู่บ้าน ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของเด็กน้อยกับพี่ชายคนนี้จึงห่างเหินเหลือเกิน... เด็กน้อยจึงมีแต่เพียงพี่ดำเท่านั้นที่ใกล้ชิดเด็กน้อยมาตลอดตั้งแต่จำความได้... ในขณะนั้นพี่กวาง พี่สาวของเด็กน้อย ซึ่งมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพี่ดำ คงกำลังช่วยกันกับพี่เก้งจัดการเรื่องอาหารการกินอยู่ในครัว...
เด็กน้อยวิ่งเล่นจนเหนื่อยอ่อน จึงมาพักเหนื่อยที่ริมตลิ่งของเวิ้งน้ำนั้น น้ำใสเงียบสงบและตื้นเขิน จนเด็กน้อยอดใจไม่ไหวที่จะลงแหวกว่ายเล่นให้ฉ่ำอุรา
“พี่ดำ แกะอยากเล่นน้ำกั๊บ เราลงไปเล่นน้ำกันเถอะ” เด็กน้อยกล่าวฉอเลาะด้วยแววตาสดใสซุกซน
“ไม่ได้หรอก ขาแกะยังไม่แข็งแรง เพิ่งถอดเฝือกออกไม่กี่วัน ไม่ใช่เหรอ” พี่ดำห้ามปรามด้วยความเป็นห่วง
“ขาแกะไม่เจ็บแล้ว นี่ไง ฮะ ฮะ” เด็กน้อยตีขาตัวเองดังป๊าบ เพื่อสนับสนุนว่าไม่เจ็บจริงๆ
“นะ นะ พี่ดำ แกะว่ายน้ำเก่งแล้วนะ แกะอยากว่ายน้ำโชว์ให้พี่ดำเห็น” เด็กน้อยยื้อ จนพี่ดำใจอ่อน
“เออ ถ้างั้นพี่จะเข้าไปเอาห่วงยางก่อนน่ะ แกะรออยุ่ตรงนี้นะ ห้ามลงน้ำก่อนพี่มาเด็ดขาด” พี่ดำเห็นท่าจะขัดเด็กน้อยไม่ได้ จึงคิดว่าถ้ามีห่วงยางพยุงเด็กน้อยไว้ตอนเล่นน้ำจะปลอดภัยกว่า
ขณะที่พี่ดำกำลังวิ่งไปหยิบเอาห่วงยางนั้น เด็กน้อยสังเกตเห็น....ภายในกอหญ้ากอหนึ่ง มีสิ่งสะท้อนแสงสีขาวแว่บๆ อยุ่ข้างใน... เด็กน้อยเพ่งมองจนแน่ใจแล้วว่ามันคือลูกบอลพลาสติก ที่หายไปหลายวันแล้วนั่นเอง เด็กน้อยจึงตัดสินใจ ถอดรองเท้าวางไว้ที่ริมฝั่ง แล้วเอาเสื้อยืดวางทับไว้ มีเพียงกางเกงผ้าร่มขาสั้นที่ติดกายอยู่...จากนั้นเด็กน้อย จึงก้าวเท้าลงไปในน้ำ...
“น้ำตื้นแค่นี้เองไม่เห็นต้องกล้ัวอะไร” เด็กน้อยคิด เด็กน้อยกำลังเิดินไปที่กอหญ้านั่น เพื่อหยิบลูกบอลสีขาวลูกนั้น แต่ด้วยแรงกระเพื่อมของน้ำ ทำให้ลูกบอลลอยห่างออกไป... เด็กน้อยจึ่งว่ายน้ำตาม....แต่ยิ่งว่ายเข้าไปใกล้ ลูกบอลก็ยิ่งลอยห่างออกไปทุกที...ทุกที
เด็กน้อยว่ายน้ำตามลูกบอลนั่น จนหลุดเวิ้งน้ำออกมาสัมผัสกับสายน้ำที่ไหล
เรื่อยๆ ตรงกลางลำธาร...ลูกบอลสีขาว... กลับลอยตามกระแสน้ำไป... ไปทางซ้ายมือของเวิ้งน้ำนั่น... ตอนแรกกระแสน้ำยังไม่ไหลแรงนัก เด็กน้อยจึงชล่าใจ ว่ายตามลูกบอลต่อไปอีก แต่แล้วสักพักกระแสน้ำกลับแรงขึ้น...แรงขึ้น.... ลูกบอลลอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยมารู้ตัวอีกทีว่ากำลังถูุกกระแสน้ำพัดอย่างแรง ทำให้ถึงกลับดำผลุดดำว่าย...เด็กน้อยตกใจสุดขีด ก่อนที่จะตะโกนด้วยเสียงอันดัง
“พี่ดำ....ช่วยแกะด้วย แกะกำลังจะจมน้ำ.....พี่ดำ.....ช่วยด้วย ....ช่วยด้วย” เด็กน้อยพยายามส่งเสียงร้องเรียกให้ช่วย เด็กน้อยสำลักน้ำหลายอึก จวนเจียนจะหมดแรง...
เด็กน้อยรุ้สึกว่าตัวเองจมลงไปในน้ำ แต่แล้วพยายามกลั้นใจถีบน้ำทะลึ่งพรวดขึ้นมาใหม่ ปากก็ร้องให้คนช่วย
“พี่ดำ....ช่วยด้วย......ช่วยแกะด้วย....” เด็กน้อยจมลงไปในน้ำอีกครั้ง แต่ก็พยายามโผล่พ้นน้ำขึ้นมาอีก คราวนี้เด็กน้อย เริ่มมองเห็นพี่ดำวิ่งนำหน้า ตามด้วยเพื่อนพี่เก้งสองสามคน พวกเขากำลังวิ่งบนฝั่งตามกระแสน้ำที่พัดพาร่างของเด็กน้อยไป เพื่อหาทางช่วยเหลือ
และแล้วเด็กน้อยก็เข้าใจ อีกไม่กี่เมตรข้างหน้านั่น เด็กน้อยจำได้ว่า มีต้นยางใหญ่ล้มพาดจากอีกฝั่งหนึ่งที่เป็นป่า ข้ามลำธารมาบนฝั่งทางหมู่บ้านที่มีผู้คนอาศัย ...มันจึงใช้เป็นสะพานอย่างดีในการสัญจรไปมาของผู้คน.... เด็กน้อยเริ่มมีความหวัง... พยายามฝืนตัวว่ายน้ำไปถึงต้นไม้นั่น... แล้วคงจะปีนขึ้นไปได้โดยง่าย...
เด็กน้อยคาดผิดถนัด เมื่อเด็กน้อยใกล้จะไปถึงต้นไม้นั้น ดูเหมือนว่าลำของต้นไม้จะกั้นน้ำเอาไว้เหมือนสันเขื่อน ผิวน้ำนั่นสูงเพียงเศษหนึ่งส่วนสามของลำต้น ส่วนที่พ้นจากน้ำจึงสูงเกินไปที่เด็กน้อยจะปีนขึ้นไปบนลำต้นได้
“โอ! ตายแล้ว” เด็กน้อยตาเหลือกถลน ภาพที่เด็กน้อยเห็นคือลูกบอลสีขาวลอยไปติดที่ลำของต้นไม้นั่นแล้วถูกกระแสน้ำวนดูดลูกบอลทั้งลูกลงไปข้างล่าง หายไปอย่างรวดเร็ว (เนื่องจากน้ำไม่สามารถไหลผ่านต้นไม้นั่นได้ มันจึงกดดันให้เกิดกระแสน้ำวนบิดกันเป็นเกลียว ที่พร้อมจะดูดทุกสิ่งลงไปข้างล่างอย่างน่ากลัว!!!!!)
เด็กน้อยเริ่มกลัว แต่ก็หาทางถีบตัวออกไปจากกระแสน้ำที่ไหลแรงนั่นไม่ได้ มันกำลังดึงร่างของเด็กน้อยเข้าไปในกระแสน้ำวนนรกนั่น.....และแล้วเด็กน้อยก็ไม่สามารถจะต้านกระแสน้ำอันนั้นได้ ....เด็กน้อยตกอยู่ในส่วนกลางของกระแสน้ำวนจนได้....มันกำลังดูดร่างของเด็กน้อยลงไปข้างล่าง...ทุกขณะ... ทุกขณะ... เด็กน้อยกลัวสุดขีด แหกปากร้องลั่น
“พี่ดำ.....ช่วยด้วย พี่ดำ......ช่วยด้วย!”
เด็กน้อยพยายามใช้มือทั้งสองข้างไขว่คว้าพื้นผิวลำต้นของขอนไม้นั่น แต่อนิจจา ผิวของต้นไม้ลื่นเกินไปที่เด็กน้อยจะยึดเหนี่ยวเอาไว้ได้.....
เด็กน้อยพยายามยื้อยุดสุดชีวิต จนหมดแรงที่กำลังของเด็กน้อยวัยเพียง 5 ขวบจะทนแรงดูดจากกระแสน้ำวนได้ ร่างของเด็กน้อยกำลังจะจมลงไป... จมลงไป.....
จังหวะนั้นเอง เพื่อนพี่เก้งก็วิ่งขึ้นมาบนต้นไม้ พร้อมยื่นมือออกมาเพื่อไขว่คว้ามือของเด็กน้อยไว้.........
“แกะ จับมือพี่เร็ว จับมือพี่ไว้ ยื่นมือขึ้นมา เร็ว เร็วเข้า....” เด็กน้อยพยายามเหยียดมือขึ้นไปจนสุดแรงเกิด แต่เด็กน้อยทำได้เพียงแค่ สัมผัสปลายนิ้วของพี่คนนั้นเท่านั้น ก่อนที่ร่างจะถูกดูดลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยทันได้ยินเสียง พี่ดำร้องเสียงหลง
“แกะ... แกะ... ไม่.... ไม่.... โฮ... โฮ”
เด็กน้อยพยายามลืมตาในกระแสน้ำนั่น กระแสน้ำดูดร่างของเด็กน้อยลงไปที่ช่องว่างช่องหนึ่ง มันพยายามที่จะดันเด็กน้อยให้ผ่านช่องว่างนั้น เพื่อลอดใต้ต้นไม้ใหญ่ขึ้นสู่ผิวน้ำอีกฝั่งหนึ่งของต้นไม้.......แต่แล้วขาของเด็กน้อยกับไปติดกับกิ่งไม้ที่ระเกะระกะอยู่ข้างล่าง ร่างของเด็กน้อยจึงติดอยู่ในช่องว่างนั่น ไม่สามารถลอดผ่านออกไปได้ เด็กน้อยพยายามกระเสือกกระสน... ดิ้นสุดแรงเกิด... แต่ร่างกายของเด็กน้อยอ่อนแอ...อ่อนแอเกินไปเสียแล้ว... เด็กน้อยกำลังหมดแรง....น้ำเริ่มเข้ามาในปาก...เข้าจมูก... มากขึ้น... มากขึ้น
“นี่เรากำลังจะตายหรือนี่ พี่ดำ ช่วยแกะด้วย ช่วยแกะด้วย” เด็กน้อยรำพึงเป็นครั้งสุดท้าย... ก่อนที่จะสิ้นสติ.......เด็กน้อยรู้สึกเหมือนกับว่ามีีมือที่แข็งแรง...มือหนึ่ง...กำลังดึงร่างของเด็กน้อยออกจากช่องว่างนั่น..... แล้วความรู้สึกก็ดับวูบลง......กลายเป็นความมืดมิด...ตลอดไป....

********************

No comments:

Post a Comment