Friday, June 19, 2009

บทที่ 19 " กอดพี่เถอะน่ะ...คนดี "

บทที่ 19 “ กอดพี่เถอะน่ะ...คนดี ”

“อ้าว แกะ เป็นอะไรน่ะ ” เสียงพี่ดำนี่ แกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
“ผงเหล็กเข้าตาน่ะ พี่ดำช่วยหาขันมารองน้ำให้หน่อยครับ” เป็นครั้งแรกจริงๆที่ผมมีโอกาสได้คุยกับพี่ดำอย่างเป็นกันเอง หลังจากที่งอนแกมาตั้งแต่เรื่องพี่พร...
“โธ่...น้องพี่...” แกครางด้วยความเป็นห่วง สักพักก็ได้ยินเสียงรองน้ำ แล้วแกก็พูดด้วยเสียงอันนุ่มหู
“แกะ ค่อยๆ ลืมตาในน้ำนะครับ” พี่ดำเอาขันน้ำมาใกล้ๆหน้าผม แล้วโน้มคอให้ใบหน้าผมจุ่มลงในขันน้ำนั่น ผมลืมตาในน้ำสักพัก เศษเหล็กก็หลุดออกมา
ผมกระพริบตาถี่ๆว่ายังคงมีอะไรติดอยู่รึเปล่า จนกระทั้งใบหน้าอันหล่อเหลาที่ผมไม่ได้เห็นใกล้ชิดขนาดนี้มาหลายวัน ก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น พี่ดำส่งสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความห่วงใยมาให้ ... พร้อมใช้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาด มาเช็ดเปลือกตาให้ผมเบาๆ จากนั้นก็เริ่มซับน้ำออกจากใบหน้าของผม
“ดีขึ้นรึยังครับ....” เสียงเพราะกังวานใกล้หูแบบนี้ ผมไม่ได้ยินมานานแล้วซิ
“คงออกไปหมดแล้วล่ะ แล้วพี่ดำมาที่นี่ได้ยังไงครับ”
“จุ๊เขามาบอกพี่ว่าแกะอยู่ซ่อมงานที่นี่ พี่ก็เลยตามมา ไหนดูซิเสื้อเปียกหมดเลย”
พี่ดำจัดการปลดกระดุมเสื้อผม แล้วถอดออกไปทางด้านหลัง หลังจากนั้นแกก็เอาส่วนที่แห้งๆมาเช็ดเนื้อตัวให้ผม เสร็จแล้วก็เดินเอาเสื้อไปตากที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง
“ซ่าส์ ซ่าส์...................” ฝนเจ้ากรรมก็ตกลงมาห่าใหญ่ แสดงว่าเมื่อครู่นี้ มันหยุดไปชั่วคราวเพื่อมันจะได้ตกใหม่อย่างแรงนี่เอง ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว
“เปรี๊ยง ครืน...ครืน....” เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าตามมาติดๆ ผมสะดุ้งเล็กน้อย
“นี่เราต้องติดอยู่ในตึกนี้อีกนานเท่าไหร่เนี่ยะ” ผมคิดในใจ อากาศเริ่มเย็นยะเยือกลงเรื่อยๆ ผมเลยยืนกอดอก ปากคอเริ่มสั่น พี่ดำหันกลับมาเห็นถึงกับตกใจ
“หนาวหรือแกะ ระวังจะเป็นไข้น่ะ” ว่าแล้วพี่ดำก็ถอดเสื้อนักเรียนของแกออก เผยให้เห็นมัดกล้ามที่แข่งแกร่ง แกเดินเข้ามาสวมเสื้อให้ผม กลิ่นกายของชายชาตรีที่ใกล้ชิดเนื้อตัวผม ทำให้ผมรู้สึกประหลาดอีกครั้ง ใช่กลิ่นนี้คุ้นจมูกจัง และมันก็ไปกระตุ้นต่อมบางอย่าง ทำให้ผมรู้สึกว่าท่อนลำของผมเริ่มมีปฏิกิริยาขึ้นมาซะแล้ว
พี่ดำกำลังปิดกระดุมเม็ดบนสุด แต่แล้วก็ชงักมองที่เนื้อตัวท่อนบนเปลือยเปล่าของผม
“ไออุ่นจากตัวพี่ น่าจะทำให้แกะอุ่นขึ้นมากกว่าเดิมน่ะครับ” ว่าแล้วแกก็พร้อมที่จะสวมกอด... ผมถอยกรูดเมื่อนึกอะไรขึ้นได้
“ทำไมล่ะ แกะ แกะรังเกียจพี่แล้วเหรอ ” พี่ดำพูดเสียงต่ำ เหมือนน้อยใจ ยืนก้มหน้าลงเศร้าๆ แกยืนนิ่งอยู่กับที่ ในขณะที่ผมถอยห่างออกมาเป็นวา
“เอ่อ พี่ดำครับ พี่มีแฟนแล้วน่ะครับ พี่เดินไปถูกทางแล้ว พี่ไม่ควรจะเดินหลงทางอีก...ลืมเรื่องที่เราตกลงกันแล้วหรือครับ” ผมพูดเสียงอ่อยๆ เหมือนคนน้อยใจ พี่ดำเงยหน้าขึ้นมามอง
“แกะ พี่อยากจะคุยเรื่องนี้กับแกะอยู่เหมือนกัน...แต่แกะไม่ให้โอกาสพี่ เอ่อ อธิบายเลย” จะต้องมาอธิบายอะำไรอีก เล่นป้อนขนมกระหนุงหระหนิงกันขนาดนั้น
“พี่จะมาอธิบายอะไรอีกล่ะครับ ผมเองก็ยินดีที่พี่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีกับผมไงครับ” พูดเสร็จผมก็หันหน้าไปทางอื่น ขอบตาเริ่มร้อนผะผ่าว
“โธ่แกะ อย่าทำหมางเมินกับพี่นักเลย พี่ปวด...ปวดใจ...รู้มั๊ยครับ” ผมค่อยๆหันหน้ากลับมาชำเลืองมอง...พี่ดำทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ มองหน้าผมด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ภายใน
“พี่บอกเลิกกับพรไปแล้ว.....” ผมถึงกับชงัก นี่พี่ดำกล้าบอกเลิกกับแฟน กล้าตัดอนาคตตนเอง ในการมีครอบครัวที่ถูกที่ควรในอนาคต เพื่ออะไร ... เพื่อใครกัน
“อะไรน่ะ...พี่ว่าอะไร” ผมถามด้วยความประหลาดใจ
“หลายวันมานี่ แกะห่างเหินกับพี่มาก รู้มั๊ยครับ...พี่เลยถามใจตัวเองว่าพี่ต้องการอะไรมากที่สุดในชีวิต คำตอบมันคืออะไรรู้มั๊ยครับ” พี่ดำเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า
ผมกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก พี่ดำกำลังจะบอกอะไรที่สำคัญกับผมอย่างนั้นหรือ
“คำตอบก็คือ...พี่อยากเห็นน้องชายของพี่มีความสุข ไม่ว่าพี่จะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่” แกพูดเสียงสั่นๆ
“แล้วพี่พรเขาเป็นยังไงบ้าง น่าสงสารพี่เขาจัง ”
“คงจะต้องทำใจสักพัก จริงๆแล้วเขาก็มีตัวเลือกหลายคน”
“หมายความว่า พี่พรมีแฟนหลายคนหรือครับ”
“ไอ้กล้า เพื่อนพี่คงจะดีใจ ตอนนี้พี่เปิดโอกาสให้มันแล้ว”
ผมเงียบไปสักพักใหญ่ทีเดียว พี่ำดำตัดสินใจดีแล้วหรือ
“พี่คิดว่า การที่พี่เลิกกับแฟนพี่ แล้วผมจะมีความสุขเหรอ” น้ำตาผมเริ่มจะไหลออกมาอีก ไม่รู้ว่าเพราะตื้นตันใจหรืออะไรกันแน่
“พี่รู้ว่าเพราะสาเหตุนี้ที่แกะ หมางเมินกับพี่..โกรธพี่มากใช่มั๊ยคนดี..” พี่ดำเดินเข้ามาประชิด พร้อมกับเอื้อมมือเข้ามาลูบไล้เบาๆที่แก้ม แล้วค่อยๆเลื่อนมือขึ้นไปปาดน้ำตาที่กำลังไหลพราก
“ผม เอ่อ เอ่อ....” ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ถ้าผมไม่โกรธ ทำใมผมจะต้องทำตัวเหินห่างจากพี่ชายที่เขารักผมมาก...ขนาดนี้
พี่ดำสวมกอดผม ในขณะที่มือทั้งสองข้างของผมยังคงปล่อยทิ้งลงข้างตัว พี่ดำก้มลงจูบที่หน้าผาก พร้อมกับพูดเสียงเบาๆว่า
“หัวใจของพี่อยู่ตรงนี้แล้ว พี่ยังจะหาใครที่ไหนอีกเล่า...” พี่ดำกอดผมแน่นขึ้น ฝนข้างนอกก็ยังตกไม่หยุด มิหนำซ้ำจะหนักกว่าเดิม
“กอดพี่เถอะน่ะ...คนดี” พี่ดำกระซิบที่ข้างหู ผมยังคงนิ่งเฉยอยู่ พี่ดำก็พูดต่อว่า
“ใครกันน่ะ ที่ต้องการอ้อมอกที่อบอุ่นจากพี่ ใครกันน่ะ ที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของพี่....ใครกันน่ะที่กอดพี่ไม่เว้นวาย ไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่น...”
ใช่ครับพี่ดำ เด็กน้อยคนนั้นมันโหยหาไออุ่นจากพี่มานานแสนนานแล้ว ตอนนี้ไออุ่นนั้นได้หวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้กาลเวลาจะยาวนานจากเด็กน้อยตัวเล็กๆจนกระทั้งเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นหนุ่ม ใยเจ้าจะลืมความอบอุ่นในครั้งนั้นได้ลงคอ...
ผมกอดกระชับร่างของพี่ดำแน่น พร้อมกับสะอื้น น้ำตาเริ่มไหล จะเป็นด้วยอะไรไม่ทราบได้ ผมมีความสุขเหลือเกินที่ได้กอดร่าง...ร่างนี้อีกครั้ง... ร่างของพี่ชายที่ผมต้องการชิดใกล้ มันคงจะเป็นความรู้สึกภายในที่ผมไม่รู้ตัว ไม่รู้ตัวเองเลยว่า ผมเองได้รอคอยพี่ชายคนนี้มานานเป็นสิบสิบปี...
“พี่ขอภาวนาให้น้องชายของพี่...ให้โอกาสพี่ได้พิสูจน์..รักแท้ที่พี่มีให้...” แกหยุดเว้นระยะไปครุ่หนึ่ง
“ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมา พี่รู้ตัวดีว่าพี่รัก รักแกะมากแค่ไหน...” พี่ดำเริ่มสะอื้นเบาๆ
“พี่ยอมตัดอนาคตตัวเองเพื่ออะไรกัน....พี่ไม่อยากแต่งงานมีครอบครัวหรือครับ ฮือ ฮือ...” ผมเริ่มร้องไห้ เพราะกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว
“พี่ทำได้ทุกอย่าง ถ้าทำให้แกะน้องพี่มีความสุข แค่นี้พี่ก็น่าจะยินดีแล้ว” พี่ดำถอนตัวออกมาจากการกอด พร้อมกับไล้ที่แก้มผมไปมา
“โธ่.. พี่ดำ เราสัญญากันไว้แล้วไม่ใช่เหรอครับ ว่าเราจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น เพราะผม อะ เอ่อ....” ผมไม่อยากพูดออกมาเลย มันเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป เพราะตอนนี้พี่ดำได้สละทุกอย่างเพื่อรอผม แต่ทำไมผมถึงตัดสินใจไม่ได้ซะที
พี่ดำมองผมที่ดวงตา เพื่อรอคอยคำตอบ สักพักหนึ่งแกก็ยกมือทั้งสองขึ้นมาโอบรอบคอของผม ผมยังคงกอดแกหลวมๆอยู่ ไม่อยากให้แกถอนตัวออกไปซะทีเดียว
“ฟังพี่น่ะคนดี... ทางเดินของแกะมีอยู่สองทาง ตอนนี้แกะได้เดินทางมาถึงปากทางสองแพร่งแล้ว... มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแกะ... ว่าแกะจะเลือกเดินเส้นทางใด” แกเว้นระยะนิดหนึ่งก่อนที่จะพูดต่อไป
“สำหรับตัวพี่ได้เลือกทางเดินของพี่แล้ว พี่จะเดินทางล่วงหน้าไปก่อน เมื่อสุดปลายทางพี่จะรอ รอแกะคนดีของพี่อยู่ที่นั้น ถึงแม้ว่ามันจะมีความหวังเพียงน้อยนิด หรือไม่มีความหวังเลย” น้ำตาพี่ดำไหลอาบแก้มลงมา พร้อมกับสะอื้น นี่มันอะไรกัน...พี่ดำได้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วกระนั้นหรือ
“พี่ดำคือว่าผม เอ่อ ผะ ผม......”
“แกะยังไม่ต้องตัดสินใจตอนนี้หรอก เพราะแกะยังมีเวลาอีกมาก ยังไงก็แล้วแต่ ไม่ว่าน้องชายของพี่จะเลือกทางเดินทางใด ถ้าหากว่ามันทำให้แกะมีความสุข พี่่ชายคนนี้ก็พร้อมที่จะมีความสุขด้วยเช่นกัน”
“โฮ...โฮ พี่ดำ ผม ผมรักพี่ครับ” ผมผวาเข้ากอดพี่ดำอีกครั้ง พร้อมกับร้องไห้หนักกว่าเดิม ทำใมน่ะ พี่ดำถึงรักผมมากขนาดนี้ แล้วตัวแกล่ะ ไอ้แกะ แกรักพี่ดำรึเปล่า ทำไมแกถึงตัดสินใจไม่ได้ซะที
พี่ดำกอดผมแน่นสักพักหนึ่ง แกก็ดึงร่างผมออกเบาๆ พร้อมกับจูบที่เปลือกตาทั้งสองข้างของผม
“ย้ายไปอยู่กับพี่นะ ขอให้พี่ชายคนนี้ได้ดูแลน้องชายที่พี่รัก ก่อนที่เ่อ่อ ก่อนที่แกะจะตัดสินใจเลือกทางเดิน”
ผมไม่ตอบได้แต่พยักหน้า เพราะกำลังสะอึกสะอื้นอยู่
“คนดีของพี่ เย็นนี้ หลังฝนหยุดแล้ว ให้พี่ไปขอพ่อกับแม่น่ะ” พี่ดำดึงร่างผมไปกอดแนบแน่นอีกครั้ง
“แล้ว...พี่ดำไม่กลัวพ่อ ผมแล้วเหรอ” ผมถอนตัวแกออกมา พร้อมจ้องที่ใบหน้า
“ณ วินาทีนี้ เวลานี้ ถึงแม้พ่อของแกะจะเอาปืนไล่ยิง พี่ก็พร้อมที่จะยอม..ยอมตา....อุ๊บ” ผมไม่ปล่อยให้แกหลุดคำนั้นออกมา เพราะปากของแกโดนปากของผมประกบอย่างรวดเร็ว พร้อมสอดลิ้นลงไปหาความหอมหวานในปากแมนๆอันนั้น...
ร่างกายของเรากระชับแน่นอีกครั้ง ลิ้นสองหนุ่มกำลังพัวพันกันอย่างดูดดื่ม หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายวัน ความโหยหา เร่าร้อน จึงเกิดขึ้นอีกอย่างกับพายุซัดกระหน่ำ
ฝนข้างนอกจะตกนานแค่ไหน... ลมข้างนอกจะบ้าคลั่งเพียงใด... ผมไม่สนใจอะไรอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้ผมกำลังลิ้มรสสวาทที่เราทั้งคู่กำลังป้อนให้กันและกัน...ผมอยากจะหยุดเวลานี้ไว้ ให้เราทั้งคู่ได้จดจำตลอดไป.....

No comments:

Post a Comment