Saturday, June 6, 2009

บทที่ 12 " พี่ดำครับ...อย่าร้องไห้ "

บทที่ 12 “ พี่ดำครับ...อย่าร้องไห้ “

“ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง สำคัญ... สำคัญมาก ถึงขนาดที่พี่จะต้องจากแกะมาจนถึงทุกวันนี้”
“วันนั้น พี่จำได้ว่า พวกเรากำลังกระวนกระวาย...รอคอยคำตอบจากหมอ อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน... แกะอาจจะจำไม่ได้ พวกเราช่วยแกะจากการจมน้ำที่ลำธารหลังบ้าน ตอนนั้นดูเหมือนว่าแกะจะอาการหนักมาก หายใจเพียงแผ่วเบา ชีพจรเต้นช้ามาก... พี่เก้งรีบพาแกะขึ้นรถมาส่งโรงพยาบาล...หมอและพยาบาลต่างรีบเอาร่างแกะเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อช่วยปั๊มหัวใจ เวลาผ่านไปนานมาก....จนทุกคนอึดอัดไปหมด ตอนนั้นพี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงกลางระหว่างพี่เก้ง กับกวาง ถัดไปทางซ้ายเพื่อนๆของพี่เก้งก็กำลังยืนจับกลุ่มกันอยู่ พ่อของแกะกับพ่อของพี่กำลังยืนคุยกันหน้าเครียด ส่วนแม่ของแกะกับแม่ของพี่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ทั้งสองท่านกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ สักพักใหญ่ เกือบสองชั่วโมงได้ คุณหมอจึงเปิดประตูห้องฉุกเฉินออกมา....”
“ ขอแสดงความเสียใจกับญาติของเด็กด้วยน่ะครับ ทางโรงพยาบาลพยายามช่วยเต็มที่มาสองชั่วโมงแล้ว แต่ร่างกายของเด็กไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เราจำเป็นต้องหยุดให้การช่วยเหลือครับ ”
“หมายความว่าเด็กเสียชีวิตแล้วใช่มั๊ยครับ” พ่อของแกะถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ แกคงไม่อยากได้ยินคำตอบที่เลวร้ายหรอกน่ะ
“หมอขอแสดงความเสียใจด้วยครับ” คุณหมอตอบราบเรียบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาซะเหลือเกิน แล้วเสียงหวีดร้องแทบสิ้นสติก็ดังขึ้น
“ไม่จริ๊ง..... ไม่จริง ใช่มั๊ยค่ะ ลูกของดิฉันยังไม่ตาย ใช่มั๊ยค่ะ ” แม่ของแกะกรีดร้องโหยหวน จวนจะขาดใจตายให้ได้ แม่ของพี่จึงเข้าไปกอดแม่ของแกะเอาไว้ แล้วเสียงอื้ออึงของคนอื่นๆก็ตามมา
“ตัวพี่เองถึงกับช็อค ทำอะไรไม่ถูก นั่งตัวแข้งทื่ออยู่กับที่ ดูเหมือนว่ามีใครมากระชากหัวใจของพี่ออกไป ตอนนั้นพี่คิดได้อย่างเดียวว่าอยากจะตาย... ตายตามแกะไป”
น้ำตาของพี่ดำเริ่มไหลลงมาเป็นทาง แต่ยังคงมีมาด มาดของบุรุษเพศที่ยังคงความเข้มแข็งเอาไว้... ผมเองก็น้ำตาซึม มันกำลังจะไหล แต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้... ผมเอื้อมมือไปหยิบผ้า่ห่มที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง มาคลุมร่างของเราทั้งสอง พร้อมกับดันตัวพี่ดำให้นอนเอนตัวลง ก่อนที่ผมจะล้มตัวลงนอนข้างๆ บรรยากาศเศร้าๆแบบนี้ผมไม่อยากให้เราทั้งคู่อยู่ในสภาพอุจาดตา....
พี่ดำนอนตะแคงหันหน้าไปทางอื่น คงไม่อยากเจอสายตาของผมที่กำลังจ้องมองอยู่ แล้วแกก็เล่าต่อว่า
“ขณะที่พี่กำลังช็อคอยู่นั้น พ่อของพี่ก็เดินมาฉุดกระชากแขนพี่อย่างรวดเร็ว แกลากพี่ออกไปที่ตรงกลางระหว่างทางเดิน พร้อมกับตบหน้าพี่ฉาดใหญ่”
“เผี๊ยะ ...” ตัวพี่กลิ้งไปหลายตลบ จำได้ว่าเลือดกลบปากทีเดียว
“ไอ้ลูกไม่รักดี มึงเป็นต้นเหตุ...ให้น้องต้องตาย อย่าอยู่เลยมึง” แกวิ่งมาเตะพี่ต่อที่ชายโครงพี่ ตามด้วยท้อง แขนขา อีกหลายที จนตัวพี่ทั้งเจ็บทั้งชาไปหมด แต่พี่เหมือนไร้ความรู้สึกแล้ว ใครจะทำอะไรกับร่างกายของพี่ พี่ก็ไม่สนใจแล้ว พี่มัวคิดถึงแต่แกะ ทำไมคนที่ตายถึงต้องเป็นแกะ ทำไมไม่เป็นพี่ซะเอง.....” พี่ดำเริ่มสะอื้น คราวนี้ผมถึงกับปล่อยโฮด้วยความต้นตันใจ น้ำตาไหลพราก
“โฮ.. โฮ พะ พี่ดำ อย่าร้องไห้น่ะครับ ลูกผู้ชาย เขาไม่ร้องไห้ไม่ใช่หรือครับ ” ผมได้แต่ปลอบพี่เขาไป แต่ตัวเองกับปล่อยโฮอย่างไม่อายใคร
พี่ดำหันหน้ากลับมาพร้อมเอื้อมมือมาปาดน้ำตาทั้งสองข้างให้ผม ก่อนจะพูดต่อว่า
“ไหน บอกว่า ลูกผู้ชายไม่ร้องไห้ ไง” แกสะอื้น เบาๆ ผมถึงกับผวาเข้าไปกอดแกแน่น พร้อมกับร้องไห้หนักกว่าเดิม
“ฮือ ฮือ....ฮือ พี่ดำครับ ผมรัก ผมรักพี่ครับ ฮือ ฮือ....” แกปล่อยให้ผมร้องไห้ต่ออีกพักหนึ่ง ก่อนจะเล่าต่อว่า
“ตอนนั้น มีพี่เก้งที่มีสติที่สุด วิ่งไปจับขาพ่อของพี่ไว้แน่น 

“อย่าลุง อย่าทำร้ายดำอีกเลย ดำเขาไม่ผิดหรอก มันเป็นอุบัติเหตุ อุบัติเหตุครับ” คราวนี้กวางวิ่งไปกอดขาอีกข้างของพ่อพี่อีกคนหนึ่งพร้อมกับร้องไห้ แกจึงเตะพี่ต่อไม่ได้ แต่แกก็พยายามที่จะยื้อเตะพี่อยู่ดี จนพวกเพื่อนๆของพี่เก้งก็มาช่วยกันดันตัวแกออกไปจากร่างของพี่
“แต่มันก็ต้องรับผิดชอบ มันไม่ดูแลน้องให้ดี เป็นความผิดของมัน” พ่อของพี่คงทั้งโกรธทั้งอาย ที่ลูกชายของแก เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด”
“ตอนนั้นพี่สังเกตุเห็นสายตาที่เย็นชา....จากพ่อของแกะ ที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ มันแข็งกระด้าง... จน... บาดหัวใจพี่เหลือเกิน แกคงจะโกรธและเกลียดพี่มาก....” พี่ดำเริ่มสะอื้นหนักขึ้น
“ไม่พี่ มันไม่ใช่ความผิดของพี่ มันเป็นความผิดของผมเอง พี่อย่าโทษตัวเองเลยน่ะ น่ะครับ” ผมเองก็ยังคงสะอื้นไม่หยุด
“พี่บอกว่าผมตายไปแล้ว แล้วทำไมผมถึงมีชีวิตรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ล่ะครับ” ผมถามไป ร้องไห้ไป
พี่ดำนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลำดับเหตุการณ์ต่อไปว่า
“ตอนที่กำลังโกลาหลกันอยู่ พยาบาลท่านหนึ่งก็วิ่งมาเรียกหมอ ด้วยน้ำเสียงกระหืดกระหอบว่า”
“คุณหมอค่ะ.. คุณหมอ ชีพจรเด็กเริ่มเต้นค่ะ คุณหมอจะรีบเข้าไปดูมั๊ยค่ะ “
“อะไรน่ะ ชีพจรเด็กเต้นงั้นเหรอ โอเค ไป เราไปช่วยกัน” ทุกๆคนอยากจะกรูกันเข้าไป จนคุณหมอต้องสั่งห้าม “ญาติๆ รออยู่ข้างนอกน่ะครับ ขอให้ไว้ใจหมอ หมอจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”
ประตูห้องฉุกเฉินปิดสนิท... แต่ทุกคนกำลังเริ่มมีความหวัง แม่ของแกะมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวพี่เองเริ่มมีสติขึ้น พี่กำลังจะได้หัวใจของพี่กลับคืนมา.....
แล้วประตูก็เปิดออก คุณหมอท่านเดิมก็ออกมาประกาศด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นยินดีว่า

 “เด็กพ้นขีดอันตรายแล้วครับ” ทุกคนถอนหายใจ โล่งอก ตัวพี่ยิ้มทั้งน้ำตา ความปิติมันล้นปรี่...แกะ น้องพี่ กลับมาหาพี่แล้ว กลับมาหาพี่แล้วใช่มั๊ยครับ....
“แต่หมอไม่รับประกันว่าสมองของเด็กจะได้รับการกระทบกระเทือนหรือไม่ เด็กอาจจะกลับมาในสภาพที่ไม่สมบูรณ์” เสียงฮือฮาดังขึ้นอีก แต่สำหรับตัวพี่แล้ว ถึงแม้ว่าแกะจะอยู่ในสภาพใด พี่ก็จะดูแลแกะตลอดไป....พี่ให้สัญญากับตัวเอง”
ผมร้องไห้หนักกว่าเดิม 

“พี่รักผม ใช่มั๊ยครับ พี่ดำ พี่รักผมใช่มั๊ย” พี่ดำกอดตัวของผมแน่นพร้อมกับพูดว่า 
“ใช่พี่ให้สัญญากับตัวเองว่าพี่จะรัก และดูแลแกะตลอดไป...”แล้วแกก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย เพื่อที่จะบอกให้รู้ว่า แกรักผมมากแค่ไหน... ผมก็รักพี่ครับพี่ดำ ผมรักพี่ชายคนนี้ของผมเหลือเกิน...
“แต่แล้ว พี่ก็ไม่รู้ตัวเลยว่า พี่จะไม่ได้เห็นหน้าแกะอีกเลย... หลังจากที่รู้ว่าแกะพ้นขีดอันตรายแล้ว อีกสองวันต่อมาพ่อก็ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ที่จังหวัดอื่น ครอบครัวของพี่ จึงต้องย้ายตามพ่อไป พี่พยายาม จะไปเยี่ยมแกะที่โรงพยาบาลตั้งหลายครั้ง แต่ก็โดนผู้ใหญ่กีดกัน มีก็แต่เพียงพี่เก้งที่มาบอกพี่ว่า 

“พี่รู้ว่าดำรักแกะมาก พี่ขอบใจที่ดูแลแกะแทนพี่มาตลอด ถ้าดำโตขึ้น ดำสัญญากับพี่ได้มั๊ย ว่าจะไม่ลืมน้อง”...“ได้ครับพี่ผมให้สัญญา”.... แล้วพี่ก็ไม่เจอครอบครัวของแกะอีกเลย”
“พี่รู้มั๊ยว่า อีก ห้าปีต่อมา พี่เก้งก็ถูกผู้ร้ายยิงเสียชีวิต”
“อะไรน่ะ !” พี่ดำถึงกลับผลุดลุกขึ้นนั่ง
“พี่เก้งตายแล้วยังงั้นหรือ เป็นไปได้ยังไง” พี่ดำถามเสียงหลง
“หนังสือพิมพ์ พาดหัวข่าวอยู่หลายวัน ว่า ตำรวจหนุ่มอนาคตไกล บุกทะลายโรงงานยาบ้า ถูกผู้ร้ายยิงสวนดับอนาถ” ผมจำข้อความนั้นได้แม่นยำทีเดียว
“น่าเสียดาย ตอนนั้นพี่เก้งอายุแค่ 20 ปีเอง” ผมพูดต่อไป โดยไม่ได้สังเกตหน้าของพี่ดำเริ่มเผือดลงเรื่อยๆ
“โอ...ถ้างั้นก็หมายความว่า มีแกะเป็นลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่” พี่แกเริ่มสะอื้นขึ้นมาอีก ผมกำลังสับสนว่าแกหมายถึงอะไร จึงลืมเรื่องความเศร้าเมื่อครู่ไปชั่วคราว
“ใช่ ครับ มีอะไรเหรอครับ พี่ดำ” ผมถามแกด้วยความงุนงง
“พี่มันเลว แกะ เลวอย่างไม่น่าให้อภัย” แกพยายามกำหมัด ชกใบหน้าของตัวเอง จนผมต้องรีบดึงมือแกไว้
“พี่ดำ พี่ดำเป็นอะำไรครับ ทำไมต้องทำอย่างนี้” พีดำเริ่มร้องไห้อีกครั้งหนึ่ง
“ฮือ ฮือ พี่มันเลว ตอนเป็นเด็กพี่เกือบทำให้แกะต้องตาย พอตอนนี้พี่กลับ กลับทำร้าย ทำร้ายแกะอีก พี่มันเลว เลวใช่มั๊ย” แกเริ่มสะอื้นหนักขึ้น ผมเริ่มรู้แล้วว่าแกหมายถึงอะไร... ผมชงัก นิ่งงัน อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่น้ำตาจะเอ่อล้นขึ้นมาอีก ผมเริ่มร้องไห้ตามพี่ดำไปอีกคน
“ถ้าพี่หมายถึงเรื่องเมื่อกี้ เรื่องที่เราสองคนมีอะไรกัน พี่อย่าโทษตัวเองเลยครับ ผมผิดเองที่หักห้ามใจไม่ได้ ฮือ ฮือ....” “ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมผมถึงทำอย่างนั้นกับพี่ดำได้” พี่ดำเริ่มสงบลงก่อนที่จะคิด คิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น และมันเกิดได้อย่างไร
“พี่ก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน ตอนที่ผ้าขนหนูหลุด พี่กำลังจะก้มไปหยิบ แต่พี่เห็นแกะจ้องอยู่ แล้ว... แล้วพี่ก็เลย..... พี่ก็ไม่รู้ตัวเลยว่าจะมีอารมณ์แบบนั้นกับแกะได้ ทั้งๆที่แกะเป็นผู้ชาย”
“แสดงว่า พี่ไม่เคยมีอะไร เออ กับผู้ชาย มาก่อน”
“พี่เพิ่งเคยกับแกะเป็นครั้งแรก สาบานได้ และพี่ก็ไม่เคยคิดแบบนี้กับผู้ชายอื่นๆมาก่อน...ถ้าพ่อแกะรู้เข้าคงไม่เอาพี่ไว้แน่ เพราะแกเหลือแกะไว้สืบสกุลคนเดียว”
“เอ้อ เออ คือ คือ.....” ผมอึ้งครับ พูดอะไรไม่ออก
“แล้วแฟนของแกะล่ะ แกะคิดที่จะแต่งงานกับเขามั๊ย”
“พี่ดำรู้ ...รู้ว่าผมมีแฟนแล้วหรือครับ” ผมถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่ จุ๊เขาบอกพี่หมดแล้ว ตอบพี่มาสิ ในความคิดของแกะ เมื่อโตขึ้น แกะยังอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นอยู่หรือไม่” พี่ดำจ้องหน้าผม เพื่อต้องการคำตอบ ตอนนี้น้ำตาของแกเริ่มเหือดแห้งลงไปแล้ว มันมีเรื่องเครียดแบบใหม่เข้ามา
“แต่งสิครับพี่ ผมเป็นผู้ชายน่ะ ผมก็ฝันที่อยากจะมีลูก มีครอบครัวที่อบอุ่น” ผมโพล่งออกไปอย่างไม่รู้ตัว ก็มันจริงนี่นา ผมใฝ่ฝันไว้อย่างนั้นจริงๆ แต่ทว่าความสุขในการร่วมรักที่ได้รับจากพี่ดำเมื่อครู่ เริ่มเข้ามากระทบจิตใจของผมอย่างจัง แต่ก็ช่างมันเถอะ ในเมื่อพี่ดำเองก็ยอมรับว่า มันเป็นแค่อารมณ์ “ชั่ววูบ” แกเองก็ไม่ได้คิดที่จะมีอะไรจริงจังกับผู้ชายซะหน่อย แล้วเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นล่ะ มันคืออะไร ..... แล้วเสียงหนึ่งก็ตอบขึ้นมาว่า “มันอาจจะเป็นความผูกพันธ์ ตั้งแต่เด็กที่ทำให้เราทั้งคู่ ก้าวข้ามเขตแดน... เขตแดนของการเป็นพี่เป็นน้อง”...
พี่ดำเงียบกริบ ก่อนที่จะถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“แสดงว่า แกะ ไม่เคยคิด คิดกับพี่ แบบ เออ... แบบที่เราทำกัน เมื่อตะกี้”
ผมเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอหอย รสสวาทเมื่อครู่ก็ยังตราตึง ผมเองก็ชักไม่แน่ใจตนเองซะแล้วว่าจะเลือกทางเดินแบบใด แต่แล้วความรู้สึกหนึ่งก็เกิดขึ้น ผมรักผู้ชายคนนี้ ใช่ แต่ว่ามันเป็นรักแบบใดน่ะ ตอนแรกผมรักพี่ดำแบบพี่เก้ง เป็นพี่ชายที่ดีให้ความอบอุ่นแก่น้องๆ แต่หลังจากที่มีอะไรกันแล้ว ผมกลับคิดว่า มันเป็นรัก แบบคู่รักยังงั้นน่ะหรือ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้
“ผมรักพี่ดำแบบพี่ชายครับ ผมยังอยากเห็นพี่เป็นต้นแบบที่ดีของผม”
“แกะ คิดอย่างนั้นจริงๆ หรือ”
“ครับ”
“แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ล่ะ”
“พี่บอกผมว่า พี่เองก็ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนอื่นมาก่อน แต่พี่มีอะไรกับผม อาจจะเป็นเพราะว่าเรามีความผูกพันธ์ กันตั้งแต่เด็ก ก็เลยทำให้เราทำอะไรเลยเถิดไป” ผมก็พูดไปยังงั้นเองแหละ จริงๆแล้วผมอยากให้พี่ดำดื้อดึงที่จะรักกัน ในฐานะคู่รักมากกว่า
“ถ้าแกะคิดแบบนั้น พี่ก็จะไม่ดึงแกะลงมา พี่ดีใจที่จะเห็นแกะเดินไปในทางที่ถูกที่ควร ที่ผู้ชายทั่วๆไปเขาเลือกเดิน” พี่ดำตอบราบเรียบ ขรึมๆ มาดแมนเริ่มกับเข้ามาแตกต่างกันราวฟ้ากับดินที่เมื่อครู่ยังร้องไห้ต่อหน้าผมอยู่เลย...
“พี่ก็เหมือนกัน ผมรู้ว่าพี่เองจริงๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร กับเรื่องแบบนี้ ผมเองก็อยากเห็นพี่ชายของผมคนนี้ มีครอบครัวที่ดี เป็นตัวอย่างของผม” ไอ้แกะเอ๊ย ไม่รู้มึงพูดอะไรออกไป ทั้งๆที่ใจหนึ่งมึงก็ปราถนาในตัวแกอยู่เหมือนกัน
“ถ้างั้นวันพรุ่งนี้ เราจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ แล้วเริ่มต้นกันใหม่ แกะอยากให้เป็นแบบนั้นใช่มั๊ย”
“ครับ” ผมตอบไม่ค่อยจะเต็มใจนัก
“คืนนี้พี่ขอกอดแกะทั้งคืนน่ะ พี่อยากจะจดจำเวลาที่ดีระหว่างเรา”
“ครับ”
แล้วเราทั้งคู่ก็กอดกันกระชับแน่นอีกครั้ง มันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราทั้งสองเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน... ในวันพรุ่งนี้แล้วซินะ่ เรื่องภายในคืนนี้จะต้องถูกลืม.....

*******************************
โอม....รักที่ผ่านดังฝันชั่วคืน.....
ครั้นพอตื่นกลับคืนหายไป...
โธ่อย่าร้องไห้...พลอยให้ดวงใจพี่ร้าวระบม
ร่มมลุลีเป็นที่สุดท้าย...แห่งจุดหมายน้องพี่
มลุลีเห็นใจน้องพี่ ถ้าสิ้นคืนนี้
....น้อง.....พี่....สิ้น....กัน.....

********************************

4 comments:

  1. ไม่เอาอ่ะ ไมเเกะใจดำจัง
    จะเเต่งกะชะนีอีกกกกกกก...
    ขอ happy ending น่าน่ะนะ....

    มาต่อไวๆน้าขอยาวๆเรยยยยย อิอิ... รออยู่ O(^v^)O

    ReplyDelete
  2. ขอบคุณครับ คุณMonkey ตอนนี้เขียนยากมากครับ เพราะร้องไห้ไปเขียนไป ขณะนี้ยังร้องไห้อยู่เลยครับ... คงทำให้หลายๆคนผิดหวังใช่มั๊ยครับ แต่ว่าเหตุการณ์ได้ดำเนินผ่านไปแล้ว ผมเพียงแต่กำลังถ่ายทอดรายละเอียดออกมาให้รับทราบครับ ...ลองมาลุ้นดูสิครับว่า ต่อไปจะเป็นอย่างไร....

    ReplyDelete
  3. ปรบมือให้ครับ น้องชาย... พัฒนาการเร็วมากเลยครับ... อ่านลื่นไม่มีสะดุด อย่างงี้ พี่ก็ไม่ต้องแนะนำแล้วละครับ...

    เดี๋ยวก่อน...
    กำลังจะเล่าเรื่องของตัวเองอยู่หรือเปล่าครับ... ระวัง อย่าให้กระทบกับปัจจุบันนะครับ ไม่ว่าปัจจุบันจะเป็นอะไรก็ตาม

    ReplyDelete
  4. ขอบคุณมากครับ พี่ดิน เรื่องในปัจจุบันจะพยายามไม่ให้กระทบเด็ดขาดครับผม....ขอบคุณอีกครั้งครับที่เป็นห่วง... อ้อ พี่ครับ ผมเข้าบล็อคพี่ไม่ได้อะครับ ไงก็ส่งรบกวนส่งบัตรเชิญมาให้ใหม่น่ะครับ

    ReplyDelete