Friday, June 26, 2009

บทที่ 20 "เผชิญหน้า...คุณพ่อ "

บทที่ 20 เผชิญหน้า...คุณพ่อ
เราทั้งคู่อ้อยอิ่งอยู่ด้วยกันอีกนาน จนกระทั่งฝนหยุดตกเอาเมื่อเกือบทุ่ม ผมเลยซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์พี่ดำ รีบเอากุญแจอาคารไปคืนอาจารย์เดชา แกบ่นแล้วบ่นอีกเรื่องฝนตก สงสัยมีนัดกะสาวล่ะซิท่า...
ผมรีบเข้าบ้านพักโดยใส่เสื้อนักเรียนของพี่ดำ แน่นอนพี่ชายที่รักของผมก็ใส่เสื้อเปียกๆของผมแทนซาบซึ้งจัง ไอ้พวกเพื่อนตัวแสบมันคงกลับบ้านกันหมดแล้ว บ้านเงียบเชียว ผมรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วรีบตามพี่ดำไปที่บ้านของแก เพราะพี่ดำต้องไปเคลียร์ของที่บ้าน พี่ชายที่รักเอาเสื้อผ้าของเราเข้าเครื่องซักผ้า แล้วทิ้งไว้อย่างนั้น ในขณะที่รอพี่ดำอาบน้ำ ผมก็เลยโทรกลับบ้านบอกพ่อกับแม่ว่าจะไปถึงราวๆสองทุ่มครึ่ง ท่านทั้งสองเป็นห่วงมาก ผมจึงบอกความจริงกับท่านเรื่องพี่ดำ...
เห็นพี่ดำแวะไปที่บ้านเล็กๆหลังหนึ่ง พึ่งสังเกตว่ามีบ้านหลังนี้อยู่ถัดจากบ้านพี่ดำไปไม่ไกลเท่าไหร่นัก พี่ดำเล่าว่าเป็นบ้านป้าสมกับลุงบุญ ผู้ดูแลบ้านหลังใหญ่ของพี่ดำและดูแลเนื้อที่เกือบร้อยไร่ของพี่ดำด้วย แกเข้าไปบอกให้ป้าสมมาเป็นธุระเรื่องเสื้อผ้าของเราที่อยู่ในเครื่อง
จากนั้นเราทั้งคู่ต้องรีบควบมอเตอร์ไซค์ เพราะกลัวจะดึกมากเดี๋ยวพ่อกะแม่ว่าเอา ผมให้พี่ดำพาออกทางลัด ผ่านทุ่งหญ้า,ทุ่งนา และสวนผลไม้ แม้กระทั่งไร่แตงโม ที่เขาปลูกเอาไว้เป็นเนิิน ถ้าเป็นกลางวันจะสวยมาก เพราะวิวแถวนี้จะมองเห็นภูเขาซึ่งอยู่ใกลออกไป ขนาบกับเส้นทางรถไปเกือบตลอดทาง จนกระทั่งเราผ่านทุ่งแตงโมที่ปลูกเรียงรายบนเนินเขาอีกลูก ที่ตรงนี้ดูเหมือนจะเป็นจุดที่สูงที่สุด เราสามารถมองเห็นแสงไฟของหมู่บ้านระยิบระยับ มองแล้วเหมือนหิ่งห้อยบินว่อนไปมาเป็นฝูงๆ...
พี่ดำหยุดรถกระทันหัน ก่อนที่จะจอดสนิทที่ข้างทาง ผมก็เลยจำต้องกระโดดลงจากรถ เพราะไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร พี่ดำจอดรถเอาไว้แต่ยังไม่ดับเครื่อง ไฟหน้ารถยังคงเปิดอยู่ ไม่เช่นนั้นคงมองไม่เห็นอะไร เพราะทั้งเปลี่ยวทั้งมืดมิด
มีอะไรครับ พี่ดำ หยุดรถทำไมครับ ผมถามเพราะสงสัยเต็มที รถก็ไม่เสียนี่นา
พี่ดำไม่ตอบกลับเดินออกไปข้างหน้า แสงไฟจากหน้ารถส่องให้เห็นร่างสูงของหนุ่มหล่อคนหนึ่ง นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดสีดำ แถมเสื้อยีนส์แจ๊คเกต ยังสีดำอีกต่างหาก อ้อ สวมรองเท้าหนังสีดำอีกแน่นอน บุรษในชุดดำคนนี้ เขาจะทำอะไรหนอ...
พี่ดำหันหน้ามาทางผม ดูใบหน้าเศร้าๆชอบกล ผมเลยเดินเข้าไปกุมมือแกเอาไว้
พี่ดำเป็นอะไรครับ ทำไมทำหน้าชอบกลจัง มีอะไรไม่สบายใจหรือครับ
พี่ดำจ้องมาที่ดวงตาของผม แล้วเลื่อนมือขึ้นมากอดผมไว้แน่น แกเอาคางของแกมาเกยไหล่ของผม พร้อมกับมองไปข้างหลัง แล้วก็พูดขึ้นว่า
แกะ แสงไฟที่เห็นอยู่ข้างล่างนั้น เป็นหมู่บ้านของแกะใช่มั๊ยครับ
อะ เอ่อ ใช่ครับ พี่ดำมีอะไรหรือครับ
แกะ คนดีของพี่...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่อยากให้แกะรับรู้ว่า พี่จะรักและดูแลแกะจนกว่าชีวิตพี่จะหาไม่... พี่ดำพูดซาบซึ้งอีกแล้ว
ทำไมล่ะครับ ยังกับว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ต่อจากนี้อย่างงั้นแหละ..
พี่ เอ่อ พี่ไม่แน่ใจว่า พ่อของแกะจะคิดยังไงเกี่ยวกับตัวพี่ พี่ดำทำเสียงเศร้าเชียว พาลให้ผมอดหวั่นไหวไปด้วยไม่ได้
ป่านนี้ ท่านรู้แล้วว่าผมจะพาพี่ดำไปพบท่านคืนนี้ ผมโทรไปบอกแม่... ตอนที่พี่ดำอาบน้ำอยู่... กลัวท่านเป็นห่วงน่ะครับ ผมพยายามตอบเรียบๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ในใจก็เริ่มกังวลเหมือนกัน เพราะผมรู้จักพ่อของผมดี ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ ต้องทำตัวให้น่าเกรงขามอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ลูกชายคนเดียวของแก ผมจึงค่อนข้างจะเกรงกลัวพ่อเอามากๆ...เสียงพี่ดำถอนหายใจเฮือกใหญ่ทีเดียว
เฮ้อ ป่านนี้ ไม่รู้ท่านจะเตรียมจัดการพี่ยังไง ในฐานะที่ทำให้ลูกชายท่านจมน้ำเมื่อตอนเด็ก พี่ดำหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อว่า
พี่ยังจำสีหน้าเฉยเมย และแววตาชิงชังของท่านได้ดี แม้เวลาจะผ่านไปสิบปีแล้วก็ตาม พี่ดำดูจะกังวลเอามากทีเดียว
ผมตบหลังพี่ดำเบาๆ ก่อนที่จะดันตัวแกออกจากการกอดรัด แล้วใช้มือคล้องที่คอแก จ้องมองดวงตาซึ้งคู่นั้น ก่อนที่จะหอมแก้มทั้งสองข้างเพื่อให้กำลังใจ
พี่ดำครับ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว พี่ดำอย่ากังวลนักเลยน่ะครับ บางทีพ่อผมอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ผมพูดปลอบใจแก เผื่อแกดูดีขึ้น ผมเอามือไล้ไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของแกไปมา แล้วผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ อยากจะเปลี่ยนเรื่องที่มันดูอึมครึม ให้มันดูสนุกสนานดีกว่า ไอ้แกะเจ้าเล่ห์ยิ้มพราย ก่อนที่จะพูดว่า
ไหนใครน่ะที่บอกว่า ถึงแม้พ่อแกะ...จะเอาปืนไล่ยิง ก็จะยอม...อุ๊บ คราวนี้ผมโดนพี่ดำประกบปากบ้าง จะหาโอกาสแก้แค้นก็ไม่บอก แกสอดลิ้นเข้ามาอย่างรวดเร็ว ลิ้นที่เร่าร้อน ฉ่ำชื้นด้วยฤทธิ์เสน่หา ก็เริ่มเกิดพัวพันกันอีกครั้ง รสสวาทคงจะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า...
เราบดเบียดปากลิ้นกันอย่างกระหาย ...ไม่มีใครยอมใคร... จนท่อนลำของแกเข้ามาบดเบียดท่อนลำของผมเข้าให้แล้ว เจ้าหนูของผมก็กระไร แตะนิดแตะหน่อยก็แข็งปั๋ง ดันกางเกงยีนส์ที่ใส่อยู่ จนเจ็บไปหมด พี่ดำเริ่มใช้มือลูบไล้ไปที่แผ่นหลัง แล้วสอดมือผ่านเสื้อยืดสีขาวที่ผมสวมใส่อยู่ คราวนี้มือแนบเนื้อแผ่นหลังของผมไปมา ทำให้อารมณ์ผมครุกรุ่นขึ้นไม่ยาก แต่ผมซิเสียเปรียบ เพราะแกมีแจ๊กเกตแขนยาวคลุมเสื้อยืดอยู่ จึงล้วงควักด้วยความลำบาก ผมถอนปากออกจากแก กว่าจะหลุดได้ก็ใช้เวลานานทีเดียวแหละ อยากจะแกล้งคนต่อ
ดะ เดี๋ยวก่อนครับพี่ดำ วันนี้จะไปขอลูกชายเขาไม่ใช่เหรอ ไหนล่ะสินสอดทองหมั้น... ไปตัวเปล่าๆปลี้ๆ แบบนี้ ใครเขาจะยกให้... ผมแกล้งกระเซ้าแกเล่น
ใครบอกไม่มี ทองทั้งดุ้นเลย ไม่เชื่อก็จับดูซิ แหมพี่ดำเล่นตามน้ำก็เป็นน่ะ พี่ดำจับมือผมไปโดน ดุ้นทอง แข็งโป๊ก อันเบ้อเริ่มเข้าอย่างจัง นี่แค่ภายนอกกางเกงยีนส์น่ะ ถ้าเจอของจริงจะขนาดไหน...
ทะลึ่ง! น่า.. พี่ดำ ไหนขอดูหน่อยซิว่า ดุ้นทองจริงหรือเปล่า ว่าแล้ว ผมก็รีบปลดเข็มขัด ปลดตะขอ รูดซิบกางเกงยีนส์ แล้วดึงลงไปกองที่หัวเข่า ก่อนจะกระชากลิงน้อยสีดำ (สีดำทั้งข้างนอกข้างในเลยน่ะเนี่ยะ) ลงตามไปติดๆ ดุ้นทองของพี่ดำอันยาวใหญ่ จึงเด้งดึ๋งออกมาอย่างกับงูกำลังแผ่แม่เบี้ย
ผมใช้มือกำรูดขึ้นรูดลง ด้วยความสะใจ พี่ดำึถึงกับครางซีดซาด ตัวงอเชียว
อูย ซซซซ เบาๆ หน่อยซิ แกะ พะ พี่ สะ เสียววววว น่ะ ครับบบบ
พูดไม่พูดเปล่า พี่ดำก็จัดการให้เจ้าหนูผมออกมาโชว์ ด้วย แกกระถอกไปมาจนผมต้องเป็นฝ่ายปราม
ซี๊ดดดด พี่ดำ น่ะแหละ เบาๆ หน่อยครับ เดี๋ยวน้ำแตกก่อน ซิ๊ดดดดดด
พี่ดำประกบจูบปากผมอีกครั้ง ลิ้นของเราทั้งคู่ต่างก็ควานหารสสวาทของกันและกันอย่างเมามัน พี่ดำเริ่มถอนปากออก ก่อนที่จะไซ้ที่ซอกคอผม แกซุกไซ้ไปมา ซ้ายทีขวาที แกดูตัวใหญ่กว่าผม แรงแกจึงเยอะกว่า ยิ่งแกถาโถมเข้าหาผมมากเท่าไหร่ ผมกลับกำลังเสียหลัก ...ในที่สุดก็เลยเอนตัวลงนอนหงายที่ไร่แตงโมนั่น ผลแตงโมจึงเป็นหมอนชั้นดี ให้ผมหนุนหัว พี่ดำเองก็ไม่ลดละไซ้ผมไปมาอย่างกระหาย แกเลิกเสื้อยืดของผมขึ้นใช้ปลายลิ้นที่แข็งแกร่ง แต่อ่อนพริ้วลากไล้ไปมาทั่วร่างก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ท่อนลำของผม แกอ้าปากครอบลงไป ตอนนี้แกเริ่มคล่องตัวแล้ว อะไร อะไรก็เลยดูดีไปหมด แกปล่อยให้ท่อนลำของผมลงไปจนสุดคอหอย แล้วตามด้วยการโยกขึ้นโยกลง จนผมต้องแอ่นเอวสู้
อ๊ากซ์ อาาาาาาา มันส์...มันส์จังเลย... ครับ พี่ดำ..อะ.. อูย พะ พี่ดำ เบี่ยงตัวขึ้นมาซิครับ ผมจะทำให้พี่บ้าง พี่ดำเหมือนรู้งาน แกค่อยๆเบี่ยงตัวขึ้นให้ท่อนลำเข้ามาจ่อที่ปากของผม ตอนนี้ผมต้องนอนตะแคงเพื่อให้แกสอดใส่ท่อนรักของแกเข้าปากผมให้ง่ายขึ้น ผมรับดุ้นทองของแกเข้าไปไม่ยากนัก เนื่องจากเคยทำมาก่อนแล้วกับแกสองครั้งนั่นเอง ครั้งนี้จึงดูคล่องขึ้น ผมเลียขอบหยักจนหนำใจแล้ว จึงโก่งคอให้ท่อนยักษ์ของแกเข้าไปจนสุด จากนั้นเราทั้งคู่ต่างรู้งาน ต่างคนต่างก็ดูดดุนท่อนรักให้แก่กันและกัน อย่างเมามัน ดีที่ไร่แตงโมนี้ปลอดผู้คน มันจึงเงียบสนิท ได้ยินก็แต่เสียงจั๊กจั่นเรไร กำลังร้องรำทำเพลง กันอย่างเบิกบานใจ เหมือนมโหรีธรรมชาติ ที่กำลังบรรเลงให้เราทั้งคู่ได้พลอดรักกันอย่างดูดดื่ม....
เราทั้งคู่คงจะทำรักให้กันอีกนานทีเดียว ถ้าผมไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ กำลังใกล้เข้ามา แสงไฟหน้ารถคันนั้น กำลังสาดส่องมาที่เราทั้งคู่ทีเดียว
เรารีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว รีบเก็บท่อนรักเข้าที่แทบไม่ทัน รถคันนั้นใกล้เข้าแล้วก็ดันมาจอดอยู่ข้างหลังรถมอเตอร์ไซค์ซะด้วย
ตำรวจสองสามนายลงมาจากรถ เข้ามาถามว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า เห็นจอดรถไว้แต่เครื่องยังติดอยุ่ แถมเปิดไฟอีกต่างหาก ผมกับพี่ดำเลยบอกว่าแค่แวะมาฉี่เท่านั้น ไม่มีอะไร ตำรวจเดินตรวจไปมาซักพัก ไม่มีอะไรพิรุธจึงปล่อยพวกเรากลับบ้าน....
เรามาถึงบ้านสามทุ่มจนได้ ผมพาพี่ดำเอารถไปเก็บไว้ที่โรงรถก่อนที่จะเคาะประตูบ้าน
ก๊อก ก๊อก แม่ แม่ แกะมาแล้วครับ ผมตะโกนเรียกแม่สองสามครั้ง แม่ก็เปิดประตูออกมา ภาพของหญิงวัยห้าสิบ ร่างเล็กบอบบาง ผิวขาว สูงประมาณ 160 ไว้ผมยาวรวบไว้ข้างหลัง ทำให้ใบหน้าของแม่ก็ยังคงสวยอยู่เสมอในสายตาของผม ผมยกมือไหว้แม่ด้วยความคิดถึง
เข้ามาจ๊ะ ทำไมกลับดึกจังลูก พ่อบ่นให้แม่ตั้งหลายครั้งแล้วน่ะ แล้วไหนล่ะพี่ดำของลูก พี่ดำเดินออกจากข้างหลังผมเข้าไปยกมือไหว้
สวัสดีครับ คุณน้า ผมดำไงครับ จำได้มั๊ยครับ พี่ดำยกมือไหว้นอบน้อม ฝากเนื้อฝากตัว
อ้าว ดำเองหรือลูก จำได้ซิจ๊ะ... ดูซิ โตขึ้นเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว สูงกว่าเจ้าแกะซะอีก ไม่น่าเชื่อโตขึ้นจะรูปหล่อขนาดนี้ แม่ผมเอ่ยปากชมเปาะทีเดียว
ผมหล่อสู้แกะไม่ได้หรอกครับ คุณน้า รายนี้ที่โรงเรียนมีแต่คนชมเขาว่า ...หล่อ..กันทั้งนั้น พี่ดำโบ้ยมาทางผม แก้เขิน
โอ๊ย อย่าไปยอเขาเลยรายนั้นน่ะ เดี๋ยวเหลิงเปล่าๆ เอาล่ะ เข้าบ้านกันก่อนลูก ทานข้าวทานปลากันมารึยังล่ะ
เรียบร้อยแล้วครับแม่ จริงๆแล้วผมกับพี่ดำกินแซนวิชกันคนล่ะชิ้นเอง
เหรอ....อืม.. แม่มีบัวลอยไข่หวานที่ลูกชอบด้วยน่ะ
จริงเหรอแม่ ดีจังอยากทานมานานแล้ว
พวกเราเดินยังไม่ผ่านประตูเข้ามาเลย เสียงดังกังวานของผู้มีอำนาจเฉียบขาดในบ้านก็ดังขึ้น
เรียกดำให้เข้ามาพบพ่อในห้องหนังสือหน่อย เสียงนั้นเป็นเสียงที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก พี่ดำมองหน้าผมหวาดๆ ผมเองก็ตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็จำใจเิดินนำหน้าพาพี่ดำ เข้าไปที่ห้องหนังสือด้วยใจอันระทึก
ผมค่อยๆแง้มประตูออก ภาพของชายวัยห้าสิบต้นๆ สูงราว 170 ใบหน้าคมสันยังมีเค้าของความหล่ออยู่เสมอ ในอดีตที่มีฉายาว่า เจ้าชู้เหลือหลาย ...อาจารย์ใหญ่ี่ที่นักเรียนทั้งหลายเกรงกลัว...กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ตรงหน้าท่านมีแฟ้มเอกสารสองสามเล่ม แสดงว่าพ่อกำลังทำงานอยู่อย่างขมักเขม้น
สวัสดีครับ พ่อ นี่คือพี่ดำครับ ผมยกมือไหว้
สวัสดีครับ คุณน้า พี่ดำยกมือไหว้พ่ออย่างหวาดๆ
พ่อเงยหน้าขึ้นมองอย่างเรียบเฉย ก่อนจะบอกผมว่า
แกออกไปข้างนอกก่อน...พ่อมีธุระจะคุยกับดำเขาซักหน่อย...
เราสองคนมองหน้ากันโดยอัตโนมัติ จะเกิดอะไรขึนว่ะเนี่ยะ ผมค่อยๆเดินออกจากห้องหนังสือ ปล่อยให้สองหนุ่มสองวัย เจรจากันตามลำพัง
ผมเข้าไปช่วยแม่เตรียมขนมบัวลอยในครัว เพราะแม่รู้ดีว่าผมชอบร้อนๆ และสุกใหม่ๆด้วย แม่เพียงแต่เตรียมปั้นแป้งผสมกับเผือก ,มัน,ใบเตย,ฟักทอง เพื่อให้มีสีสรรน่ารับประทาน แม่เตรียมตั้งน้ำเปิดเตาแก๊ส เพื่อต้มขนม...
เวลาผ่านไปราวสามสิบนาทีได้ แต่ผมดูเหมือนว่ามันนาน...นานมากทีเดียว สักพักผมก็ได้ยินเสียงพ่อตะโกนขึ้นมาดังลั่น
ชั้นเป็นคนแยกแกสองคนออกจากกันตั้งแต่เด็ก ... แกกล้าดียังไงมาขอลูกชายชั้น!!!!”
ผมกับแม่ถึงกับสะดุ้ง ผมใจหายวาบหล่นลงไปที่ตาตุ่ม พี่ดำจะเป็นไงบ้างเนี่ยะ ผมรีบวิ่งไปที่ห้องหนังสืออย่างเร็ว แล้วถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป ภาพที่ปรากฏตรงหน้า ทำเอาผมถึงกับ...ขนหัวลุก
พี่ดำกำลังนั่งคุกเข่าก้มหน้าอยู่กลางห้อง ใบหน้าซีดเผือด ไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงแม้แต่น้อย พ่อของผมยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงาน แต่มือนั่นกำลัง...ควงปืนสั้นสีดำอันเขื่องไปมา... ด้วยสีหน้าถมึงทึง ผมตะโกนขึ้นสุดเสียง
พ่อ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

2 comments:

  1. นั่นแหละเล่นเอา"ทองคำดุ้น"มาขอลูกเขา มันต้องเจอดีหน่อยหล่ะ
    ไม้เป็นไรเดี๋ยวนางเอกเรา ก็เอาตัวไปบังเองแหละว่ามั้ย มีพ่อตาดุฉิบ

    ReplyDelete
  2. ปานนั้นเลยเหรอครับน้องแกะ...ดุเนอะ

    ReplyDelete