Sunday, October 11, 2009

บทที่ 85 " ไอ้ระ...เพื่อนรัก "




บทที่ 85 ไอ้ระ...เพื่อนรัก

ผมหันไปมองหน้าอีแต๋น โดยอัตโนมัติ อึ้งสิครับผม อะไรกันว่ะเนี่ยะ อีแต๋นกูอุตส่าห์ ช่วยเหลือมึง แล้วทำใมถึงทำกับกูได้ขนาดนี้
อ้าว แต๋นทำไมพูดยังงั้นล่ะ ผมจ้องหน้ามันด้วยความสงสัยกึ่งโมโห อีแต๋นถึงกับหลบตาลงต่ำ ไม่กล้าสู้หน้าผม ...ก็แหงล่ะ ก็มันตอแหลสุดๆนี่ครับ
ฮึ เห็นมั๊ยครับอาจารย์ แต๋นเขายอมรับแล้ว คราวนี้อาจารย์จะว่าอย่างไรล่ะครับ ไอ้พลได้ที ถึงกับสะแยะยิ้ม ทำหน้ากวนตีน มองมาทางผม เหมือนผู้กำชัยชนะ นี่มึงกะจะเอาชนะกูด้วยวิธีนี้หรือว่ะ ไอ้พล...
ไอ้ระถึงกับหันมามองผม ด้วยสายตาประหลาด ที่ผมคาดจะเดาได้ มันดูเหมือนว่า มันจะผิดหวังในตัวผมอยู่เล็กน้อย แต่สังเกตดูให้ดี มันน่าจะเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามมากกว่า คำถามว่า...ที่อีแต๋นพูดตะกี้ เป็นความจริงยังงั้นหรือ
อาจารย์ชายซึ่งเป็นอาจารย์ประจำชั้นห้องไอ้พล ถึงกับผลุดลุกขึ้น ยิ้มเยาะเย้ย คงจะถือหางลูกศิษย์ของตัวเองเต็มที่กระมัง
ในที่สุด เรื่องมันก็เป็นความจริง เสียดายพระเอกเกาหลีของอาจารย์จริงจริ๊ง... ผมไม่รู้ว่าถ้าผมเป็นอาจารย์ประจำชั้นเขานี่ ผมคงอับอายขายขี้หน้า สงสัยจะเดินเอาปิ๊ปคลุมหัวกระมัง ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ พูดไม่พูดเปล่า แถมหันหน้าไปมองอาจารย์ทะนง ด้วยสายตาดูถูกอย่างที่สุด ...แต่เอ๊ะ อาจารย์ประจำชั้นผมไม่เกี่ยวนี่ ทำไมถึงไปแขวะอาจารย์ผมได้
นายแกะ ครูไม่เชื่อ ยังไงครูก็ไม่เชื่อ ครูรู้จักเธอดี ไหนเธอบอกครูทีซิ ว่ามันไม่จริงใช่มั๊ย อาจารย์ทะนงพูดโพล่งออกมา เพราะไม่เชื่อในสิ่งที่แกกำลังรับรู้อยู่ในขณะนี้
จะไม่เข้าข้างเด็กของอาจารย์มากไปหน่อยหรือคร๊าบ อาจารย์ทะนง ในเมื่อหลักฐานพยาน ออกจะชัดเจนขนาดนี้ ฮึ ฮึ อาจารย์ประจำชั้นของไอ้พล ยังเยาะเย้ย ถากถางต่ออีก...
พระเอกเกาหลี ครูผิดหวังในตัวเธอมาก... อาจารย์วีระเดชจ้องหน้าผมด้วยสายตาที่ผิดหวัง และดูสมเพชผมอยู่เล็กน้อย
อาจารย์ครับ ไม่จริงนะครับอาจารย์ ...แต๋น... เธอบอกครูไปสิ ว่ามันไม่จริง ...แต๋น จำไม่ได้หรือที่เราช่วยเธอเอาไว้น่ะ ผมปฏิเสธทันที และพยายามเกลี้ยกล่อมให้แต๋น บอกความจริงกับอาจารย์
จะให้บอกกี่ครั้ง แต๋นมันก็ต้องบอกเหมือนเดิมอยู่ดี ฮ่ะ ฮ่ะ ยอมรับมาซะเถอะ ว่านายมีอะไรกับแต๋น ฮ่ะ ฮ่ะ ฮีโร่ของโรงเรียน เป็นผัวกระเทย ฮ่ะ ฮ่ะ ดูไม่จืดเลย ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ" ไอ้พลหัวเราะด้วยเสียงอันดัง
เงียบ! นี่ห้องปกครอง ทำตัวให้มันสงบหน่อย เสียงอาจารย์วีระเดชตะคอกมันด้วยเสียงอันดัง จนมันหน้าจ๋อย ก้มหน้านิ่ง สงบปากสงบคำ รอฟังว่าอาจารย์จะพูดอะไรอีก
อาจารย์ครับ ผมขออนุญาต ให้แต๋นเขาตอบอีกครั้งน่ะครับ เผื่อแต๋นเขามีอะไรบางอย่างที่จะบอก.... ผมมั่นใจว่า แต๋นจะต้องมีอะไรแน่ๆ ถึงกับโกหกทุกคน เพื่อให้ผมเป็นคนผิด...มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ แต๋น ในเมื่อเธอ และไอ้พล รู้ดีอยู่แก่ใจว่า เรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง
อาจารย์วีระเดชมองหน้าผมอย่างชั่งใจ แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากอาจารย์ทะนง ก็เลยทำให้แกใจอ่อน สอบถามแต๋นอีกครั้ง
แต๋น เธอบอกความจริงกับครูมาน่ะ ถ้าเธอพูดจริงก็แล้วไป แต่ถ้าเธอโกหก เธอกำลังทำร้ายเพื่อนที่ดีของเธอคนหนึ่ง คิดดูให้ดีน่ะ แต๋น... อาจารย์วีระเดช พยายามโน้มน้าวอีแต๋น ให้พูดความจริง ตามสไตล์อาจารย์ฝ่ายปกครอง ที่มีทั้งบู๊และบุ๋นอยู่ในตัวพร้อมสรรพ
ว่าไงล่ะ แต๋น เรื่องที่พูดเมื่อกี้ มันไม่จริงใช่มั๊ย อาจารย์ทะนงพยายามคาดคั้น คราวนี้อีแต๋น เริ่มลังเล อึกอัก มันมองมาที่หน้าผมแว่บหนึ่ง ก่อนที่จะสบตากับไอ้พลอย่างเปิดเผย ทั้งนี้ไม่รอดพ้นสายตาของไอ้ระไปได้
ผมเคยเห็นแต๋นกับนายพลสนิทสนมกันครับ อาจารย์ ไอ้ระโพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
เงียบ นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะพูด อาจารย์ประจำชั้นของไอ้พลดุไอ้ระเสียงกร้าว
แต๋น บอกความจริงกับอาจารย์ไปเถอะน่ะ เราจะไม่โกรธเธอเลย เรื่องที่เธอตอบอาจารย์ไปครั้งแรก ผมพยายามพูดจาอ่อนโยนกับอีแต๋น เผื่อว่า มันจะเปลี่ยนใจมาช่วยผม... แล้วอีแต๋นก็เริ่มอ้าปาก พร้อมกับพูดตะกุกตะกัก แบบมีพิรุธ
ก็ ก็ บอกไปแล้วไง ว่า เรื่อง อะ เอ่อ มัน...เป็นเรื่องจริง ฮือ ฮือ... อ้าว อีแต๋นน่ะอีแต๋น พูดออกมาแบบนี้ได้ไง แถมเอามือปิดหน้าร้องไห้อีกต่างหาก
ไม่จริงครับอาจารย์!” เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างชัดเจนที่หน้าประตู ซึ่งมันถูกเปิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว...เจ้าของเสียงไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ก็คือเสียงของอาจารย์เสถียรที่รู้จักผมดี และเป็นโค้ชทีมฟุตบอลที่พี่ชายที่รักเป็นหัวหน้าทีมอยู่...แกกำลังเดินเข้ามาในห้อง ด้วยสีหน้าขึงขัง ติดตามด้วย เพื่อนทั้งสามคนของไอ้พล ที่มีเรื่องกับผมที่บขส. เมื่อวานนี้นั่นเอง
เด็กทั้งสามคนนี้ สารภาพกับผมหมดแล้ว และพวกเขาอยากจะมาหยุดการกระทำของนายพล
เอาล่ะ ๆ ไหนพวกเธอทั้งสามคน ค่อยๆลำดับเหตุการณ์ให้พวกครูฟังที ว่าเรื่องมันเป็นมายังไง อาจารย์วีระเดชค่อยใจเย็นขึ้น และหันไปสอบถามพยานทั้งสามอย่างตั้งอกตั้งใจ.....
ไอ้เพื่อนทั้งสามคน ก็ดีใจหาย พวกมันอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้อาจารย์รับรู้ ถึงแม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากไอ้พล มาเป็นระยะๆ แต่ว่าดูพวกมันจะไม่เข้าข้างมันซะแล้ว อืม อย่างน้อยความยุติธรรมก็ยังมีอยู่ในโลกใบนี้....
อีแต๋นหลังจากจนมุมกับคำของพยานถึงกับปล่อยโฮ เสียงดังลั่น เอามือปิดหน้าปิดตา ไม่ยอมรับรู้อะไร จนอาจารย์วีระเดชต้องให้คนไปตามอาจารย์นิตยา (จบเอกจิตวิทยา และเป็นอาจารย์สอนแนะแนว) เข้ามาดึงตัวอีแต๋นไป อบรมสั่งสอนกันเป็นพิเศษ หวังว่าอาจารย์นิตยาคงมีจิตวิทยาในการขัดเกลา อีแต๋นให้มันดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้...ตอนหลังอีแต๋นเข้ามาสารภาพขอโทษขอโพย ว่าที่มันทำไปทั้งหมด เพราะไอ้พลรับปากจะคืนดีเป็นแฟนกันเหมือนเดิม แต่ท้ายที่สุด ไอ้พลก็ผิดคำพูดที่ให้ไว้....
อาจารย์ทุกท่านเมื่อทราบความจริง ต่างก็เข้าใจในตัวผมมากขึ้น อาจารย์ประจำชั้นของไอ้พลถึงกับหน้าถอดสี ส่วนอาจารย์ทะนงและอาจารย์เสถียรรู้จักผมดีอยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจอะไร แต่คนที่ปลาบปลื้มเป็นพิเศษกับกลายเป็นอาจารย์วีระเดชไปสะฉิบ (มาตอนหลังอาจารย์ท่านนี้เป็นครูฝึกร.ด. ให้กับพวกผม และมีวีระกรรมร่วมกันกับผมพอสมควร จะไว้กล่าวในตอนภาคสองก็แล้วกันนะครับพี่น้อง)
ไอ้พลได้รับโทษ เนื่องจากพยายามทำลายชื่อเสียงของคนอื่น และทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน มันต้องไปทำความสะอาดส้วมทุกเย็น เป็นเวลาหนึ่งเดือน
ไอ้ระถึงแม้จะทำไปเพื่อช่วยเหลือเพื่อน แต่ก็มีความผิดที่บรรลุโทสะ ชกต่อยกันในโรงเรียน มันก็ได้รับโทษเช่นกัน แต่สถานเบาหน่อยก็คือ จัดการขจัดทำลายผักตบชวาที่อยู่เกือบเต็มสระ (เป็นสระขนาดไม่ใหญ่มาก อยู่ติดกับโรงอาหาร ปรกติจะเป็นที่เลี้ยงปลาตามธรรมชาติ โดยมากพวกแก๊งค์ผมชอบมาสุมหัวกันอยู่ที่ริมสระนี้เสมอๆ เมื่อมีเวลาว่าง)
อาจารย์ครับ ผมขออาสาช่วยนายระ ขจัดผักตบชวาอีกแรงจะได้มั๊ยครับ ผมขอร้องอาจารย์วีระเดช... ผมอยากจะช่วยไอ้ระ อย่างน้อยมันก็ได้ช่วยกู้หน้าผมเอาไว้ ลงทุนเจ็บตัวต่อยกับไอ้พลเพื่อผม และอีกอย่าง...ผมอยากจะแก้ไข สิ่งที่ทำกับมัน เรื่องที่มันต้องอับอายเพื่อนๆในการโกงข้อสอบ
ครูก็ไม่ได้ห้ามอะไรนี่ ถ้าพวกเธอทำงานเสร็จเมื่อไหร่ นายระก็ได้กลับบ้านเร็วเมื่อนั้น อาจารย์มองผมด้วยสายตาที่เอ็นดู พร้อมกับยิ้มแย้มไปมา
ผมภูมิใจในตัวลูกศิษย์ของอาจารย์จริงๆครับ ไอ้หนูนี่สำคัญนัก โตขึ้นอนาคตไกลแน่ผมมั่นใจ (อนาคตไกลแน่ครับอาจารย์ ทุกวันนี้ผมถึงได้มาอยู่นิวซีแลนด์ไงครับ หุ หุ เกี่ยวกันมั๊ยเนี่ยะ...) แกหันไปพูดกับอาจารย์ทะนง และพยักหน้ายิ้มๆให้อาจารย์เสถียร
จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปเล่าเรียนตามหน้าที่ รวมทั้งอาจารย์ทั้งสามท่านที่ออกไปสอนนักเรียนตามปกติ ยกเว้นผมที่ต้องอยู่รับโอวาทจากอาจารย์วีระเดชคนเดียว
อืม ครูดีใจน่ะที่เธอเป็นคนกล้าหาญ รักความยุติธรรม แต่ครูอยากจะเตือนเธออะไรสักอย่าง...
ครับอาจารย์ ผมตั้งใจฟังว่าแกจะพูดอะไร
ครูรู้ว่าเธอมี วิชามวยติดตัว แต่ทว่าเธอจะต้องใช้มันให้เป็น ให้ถูกต้องตามเวลาและสถานที่น่ะ
หมายความว่าไงครับอาจารย์ สิ่งที่ผมทำลงไปในการช่วยเหลือแต๋นนี่ไม่ถูกต้องหรือครับ
ครูไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ครูหมายถึงว่า การช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่าน่ะถูกต้องแล้ว แต่อย่าได้ทะนงตน ทำตัวอวดเก่ง บางครั้งเราอาจจะสร้างศัตรู โดยไม่รู้ตัว อาจารย์กล่าวไปพร้อมกับรอยยิ้มของความเป็นครู ที่มีใจปราถนาดีต่อลูกศิษย์
ครับ...ผมจะพยายามจำ คำสอนของอาจารย์ครับผม
ตอนเที่ยงๆพวกเราก็รวมแก๊งค์กันเหมือนเดิม ภายในโรงอาหารที่เดิม ดูทุกคนจะตื่นเต้นเรื่องที่จะไปเที่ยวบ้านผมกันเย็นนี้ โดยเฉพาะไอ้โกกถึงกับหอบกระเป๋าใบโต ใส่พวกเสื้อผ้าสำรองมาพร้อมเลย ตัวมันยิ่งเล็กๆอยู่แล้วยิ่งมาแบกกระเป๋าใบใหญ่ขนาดนี้ ทำให้เป็นที่ตลกขบขันของเพื่อนๆ สรุปพวกมันจะไปรวมกันที่บ้านไอ้เท่ง กันหลังเลิกเรียน ผมบอกให้พวกมันเดินทางล่วงหน้าไปก่อนได้ เพราะผมติดธุระช่วยไอ้ระขจัดผักตบชวาให้เสร็จก่อน อาจจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะเสร็จ
พี่โก้เองก็อยากจะไปด้วย แต่เห็นแกติดธุระที่จะเข้าไปทำงานในค่ายมวยที่อุปถัมป์แกอยู่ จนป่านนี้ผมยังไม่รู้เรื่องค่ายมวยของแกเลย และดูเหมือนแกจะไม่พูดถึงมันด้วยซ้ำ ดังนั้นผมจึงไม่มีโอกาสรู้ว่าในช่วงหยุดสัปดาห์พี่โก้ทำอะไรบ้าง เพราะปกติวันเสาร์-อาทิตย์ ผมจะกลับบ้านของผมพร้อมพี่ชายที่รักนั่นเอง
ในระหว่างนี้น้องข้าวฟ่างพาเพื่อนอีกสองคนเข้ามาหาผมและพี่โก้ ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ และอยากจะฝึกมวยไว้ป้องกันตัว เหมือนผมเปี๊ยบเลย อิอิอิ พี่โก้เลยบอกว่า อาทิตย์หน้าค่อยเข้ามาคุยใหม่ สงสัยงานนี้จะได้สอนมวยเด็กม.1 สะแล้วมั๊งกู....
และแล้วตอนเย็นก็มาถึง นักเรียนทุกคนทะยอยกันกลับบ้าน พี่ชายที่รักไปคุยธุระกับอาจารย์เสถียรเรื่องทีมฟุตบอล เกี่ยวกับการคัดเลือกเด็กใหม่เข้าทีม เพราะพี่ชายที่รักและเพื่อนๆอีกหลายคนในทีม กำลังจะจบจากโรงเรียนนี้แล้ว ดังนั้นจึงจะมีการคัดเลือกเด็กใหม่มาแทนที่ ผมก็เลยบอกพี่ชายที่รักให้มารับสักประมาณสี่โมงห้าโมง เพราะไม่แน่ใจว่าจะใช้เวลานานเป็นชั่วโมงรึเปล่า ในการขจัดผักตบชวาให้หมดทั้งสระ
ผมกับไอ้ระ เอากระเป๋านักเรียนกองไว้ที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นต้นกฐินณรงค์ และก็มีอีกสองสามต้นเรียงรายตามสระน้ำ ทำให้บริเวณนี้ร่มรื่นพอสมควร สระน้ำนี่จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหนึ่งติดกับอาคารโรงอาหาร ด้านตรงข้ามติดรั้วของโรงเรียน ซึ่งติดกับสันของอ่างเก็บน้ำพอดี บางครั้งพวกผมก็แอบปีนรั้วไปเล่นที่อ่างเก็บน้ำกันบ่อยๆ ส่วนด้านซ้ายมือจะติดกับรั้วอีกด้านหนึ่งซึ่งเมื่อมองผ่านลวดหนามออกไป (บริเวณนี้เป็นด้านหลังของโรงเรียนครับ เลยใช้ลวดหนามกั้นรั้ว) จะมองเห็นทุ่งนาเขียวขจีที่ชาวบ้านเขามาปลูกข้าวเอาไว้ ดูสดชื่นสบายตาทีเดียว
ไอ้ระ กูถามมึงจริงๆเถอะ ที่มึงโกงข้อสอบนี่ เพื่ออะไร ผมถามมันในขณะที่เรากำลังถอดชุดนักเรียน โดยเริ่มที่ปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ต
มึงไม่รู้จริงๆหรือ มันถามผมพร้อมกับถอดเสื้อนักเรียนออก ...ตอนนี้ท่อนบนมันเปลือยเปล่าแล้ว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อพองาม จะว่าไปรูบร่างมันก็ใกล้เคียงกับผม สูงประมาณ 174 ได้ ผิวมันคล้ำกว่าผมเล็กน้อย และดูผอมกว่า แต่ก็ดูแข็งแรง ตามลักษณะของนักกีฬา ผมมองไปที่ใบหน้ามันชัดๆ อืมจัดว่าเข้าขั้นหล่อใช้ได้ ทีเดียว ถึงแม้จะไม่โดดเด่น แต่เมื่อได้สัมผัสใกล้ชิดขนาดนี้ มันก็มีเสน่ห์เหมือนกันน่ะ รูปหน้ามันจะยาวๆ คงจะเป็นที่กรามของมันมั๊ง จมูกโด่งพองาม เบ้าตาดูลึกลงไปเล็กน้อย คิ้วคมเข้มที่ประดับอยู่ทำให้หน้ามันแมนๆเข้มๆ โดยรวมแล้วทั้งหุ่นและหน้าตา น่าจะทำให้สาวๆหลงใหลกันไม่น้อยทีเดียว
รู้เรื่องอะไร ผมเริ่มถอดเสื้อนักเรียน โชว์มัดกล้ามบ้าง จากนั้นก็โยนเสื้อนักเรียนไปกองอยู่ที่กระเป๋าใต้ต้นไม้อีกที ไอ้ระแอบชำเลืองมองผม เป็นระยะๆ
ก็ อ่ะ เ่อ่อ เดี๋ยวบอกทีหลังดีกว่า อ้าว เลยไม่รู้กัน ตอนนี้ผมเริ่มปลดเข็มขัด ถอดกางเกงนักเรียนลงไปกองที่ตาตุ่ม ก่อนที่จะขจัดมันทิ้งไป จากนั้นผมก็ถอดถุงเท้าและรองเท้าออก ร่างกายของผมตอนนี้จึงเหลือแต่กางเกงในสีฟ้าตัวเดียว ที่มันกำลังรัดเจ้าแกะน้อยที่อวบอูมอยู่ กางเกงในมันไม่สามารถปิดบังพงขนสีดำ ที่แพรมๆทั่วทั้งหน้าขา ระเรื่อยลามขึ้นมาถึงสะดือ
โอ้ โห ไอ้แกะ มึงนี่ สุดยอด.... ไอ้ระตาค้าง ....เอ ตกลงมึงคิดอะไรกับกูรึเปล่าเนี่ยะ
ไรว่ะ ที่ว่าสุดยอด... ผมแกล้งถามมันทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว ก็มันมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าซะขนาดนั้น
ก็หุ่นมึงน่ะสิ เอ็กส์ โคตรๆ มันว่าไป มันก็ถอดกางเกง รองเท้า ถุงเท้า จนเหลือแต่กางเกงในสีขาวตัวเดียว เป้าอวบอูมเชียว คงสูสีกับของกูแหงๆ
หุ่นมึงเอ็งก็ใช่ย่อยซะเมื่อไหร่ เพียงแต่มึงผอมกว่ากูนิดเดียว
แต่มึงมันหล่ออ่ะ แถมมีขนด้วย แมนโคตรๆ เลยน่ะมึง ไอ้ระจ้องไม่กระพริบ มันเหลือบมองมาที่เจ้าแกะน้อย แล้วหน้ามันก็เริ่มแดงๆระเรื่อ มีพิรุธน่ะมึง

3 comments:

  1. ตอนใหม่มาแล้ว เรื่องคลี่คลายเร็วดีครับ ไม่ยืดเหมือนละครไทย ตอนแรกแอบกลัวว่าแกะต้องเสียชื่อไปนาน แบบนี้ก็ดีแล้ว

    อ๊ะ ..แต่สงสัยว่านายระจะเสร็จแกะไปอีกคนแน่ๆ

    ReplyDelete
  2. ดีใจครับ ที่เข้ามาเม้นท์ให้สม่ำเสมอ นายระจะเสร็จมั๊ย ต้องลุ้นตอนต่อไปอ่ะครับ ว่าแต่ไม่เห็นตอบผมมาเลย ว่าเริ่มต้นอ่านเรื่องของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ และรู้จักเรื่องนี้ได้อย่างไร

    ReplyDelete
  3. เริ่มอ่านที่คุณโพสท์ไว้ที่บอร์ดปาล์มครับ ตอน "แกะน้อยสอยดาว" ชอบครับอิจฉาแกะด้วยได้ฟันหนุ่มในเครื่องสเป๊คผมเลย

    ตอนนี้แอบเชียร์แกะกับพี่หมวดครับ แต่แกะเจ้าชู้จัง สงสัยพี่หมวดของผมจะอกหักซะแล้ว

    ReplyDelete