Friday, October 16, 2009

บทที่ 87 " โชคดีครับ...พี่ชายที่รัก "


บทที่ 87 โชคดีครับ...พี่ชายที่รัก

พี่ชายที่รักก็มารับผม เอาเมื่อเกือบห้าโมงครึ่งแล้ว ส่วนไอ้ระแยกตัวไปนั่งรอรถประจำทางอยู่หน้าโรงเรียน ผมกับพี่ชายที่รักรีบเข้าบ้าน...จัดการอาบน้ำอาบท่า แต่งเนื้อแต่งตัวเสร็จก็รีบบึ่งมอเตอร์ไซค์ออกมาทันที ป่านนี้ไอ้พวกเพื่อนตัวแสบคงจะถึงบ้านผมกันแล้วสิ ....
พี่ชายที่รักพาผมมาทางลัดเหมือนเดิม ทางลัดที่แกเคยมาบ้านผมครั้งแรก แต่บรรยากาศตอนนี้ไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว ทุ่งหญ้า ทุ่งนา ดูๆมันเหี่ยวแห้งยังไงชอบกล ยกเว้นแต่ไม้ยืนต้น สวนผลไม้ที่มันยังมีใบสีเขียวๆอยู่บ้าง แต่ก็ดูเขียวแก่ ไร้ความสดใสยังไงก็ไม่รู้ แถมช่วงเวลาผีตากผ้าอ้อมแบบนี้ มันดูขมุกขมัว ชวนให้จิตใจหดหู่ทีเดียว
มีรถสวนมาบ้างประปราย แต่โดยมากจะเป็นรถอีแต๋นของชาวนา ที่มันขับช้าๆเอื่อยๆ บางบริเวณเราต้องหยุดรถ ให้ฝูงวัว หรือฝูงควาย ตัดข้ามถนน ก็ตอนนี้มันเป็นเวลาที่ชาวไร่ชาวนาเขากำลังเดินทางกลับบ้านนั่นเอง ...
และแล้วเราสองคนก็มาถึงบริเวณ...ที่ซึ่งเป็นแห่งแรกที่พี่ชายที่รัก ปรับทุกข์กับผมเรื่องที่จะไปขอผมกับคุณพ่อ บริเวณที่เราสองคนพรอดรักกัน...ใช่มันคือไร่แตงโม ซึ่งตอนนี้มันแห้งแล้งเหลือเกิน จากเดิมที่มันมีเครือเถาเขียวชะอ่ม อุดมด้วยผลแตงโมลูกเบ้อเริ่มเทิ่ม ละลานตาไปหมด แต่บัดนี้ มันเหลือเพียงเถาแห้งๆ.. เนื่องจากผ่านฤดูเก็บเกี่ยวไปแล้ว...ทำใมมันดูไม่สบายหูสบายตาเอาสะเลยน่ะ รึว่ามันเป็นสัญญาณ...บ่งบอกว่าคนรักสองคนกำลังจะจากกััน
พี่ชายที่รักจอดรถมอเตอร์ไซค์ที่เดิม ซึ่งเมื่อก่อนมันเป็นเวลามืดค่ำ หน้าผาที่เรายืนอยู่ เมื่อมองลงไปข้างล่างจะมองเห็นแสงไฟระยิบระยับ ของหมู่บ้าน เหมือนแสงหิ่งห้อยที่กำลังเริงระบำรำฟ้อน ...แต่ตอนนี้มันยังไม่มืดทีเดียว แสงอาทิตย์ใกล้จะลับขอบฟ้า ทำให้เรามองเห็นหมู่บ้านข้างล่าง เลือนลาง เหมือนกับมีกลุ่มควันพวยพุ่งปกคลุมไปทั่ว ดูแล้วไม่เจริญหูเจริญตาเอาซะเลย
น้องชายที่รัก จำได้มั๊ยครับที่ตรงนี้ พี่เคยบอก...บอกว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พี่ขอยืนยันว่า พี่จะรักและดูแลแกะไปจนชั่วชีวิตของพี่ พี่ชายที่รักยืนยืดตัวขึ้น ภายใต้ชุดยีนส์สีดำชุดเดิม ที่เคยใส่ในครั้งนั้น
จำได้จนขึ้นใจเลยครับ ผมกลับไม่ได้ใส่กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน อีกทั้งไม่ได้ใส่เสื้อยืดสีขาว แต่คราวนี้ผมดันใส่กางเกงยีนส์สีดำและเสื้อยืดสีดำ เอ...ดูมันจะบังเอิญเกินไปรึเปล่าน่ะ... ผมยืนขึ้นพร้อมกับจ้องหน้าแก ความรู้สึกมันยากที่จะบรรยาย หัวใจมันหวิวๆ...ก็เพราะคืนนี้พี่ชายที่รัก จะได้รับคำบอกเล่าจากพ่อของผม ในการที่จะทำให้เราทั้งคู่...จำต้องแยกจากกัน
และวันนี้พี่ก็ยังยืนยันคำเดิม.... พี่ชายที่รักก้มหน้าลงพื้น สำเนียงแปร่งๆ เศร้าๆ ผมล่ะใจหายเลยทีเดียว ทำไมตอนนี้กับเมื่อก่อนมันถึงต่างกันลิบลับขนาดนี้ ตอนนั้นพี่ชายที่รักกังวลในการมาขอผมไปอยู่ด้วย....แต่ตอนนี้ พี่ชายที่รักไม่มีความกังวลใดๆเหลืออยู่แล้ว...เพราะพี่ชายที่รัก รับรู้แล้วว่า พ่อของผมจะพูดอะไรกับแกในคืนนี้
พี่ชายที่รัก...น้องชายของพี่คนนี้ ยังรัก และเทิดทูนในความรักที่พี่มีให้ และตอนนี้ผมเองก็ไม่ต่างจากพี่เท่าไหร่นักหรอก...แต่เพื่อให้พี่ได้เดินทางไปเส้นทางที่ถูกต้อง และความหวังของพี่กวางอยู่ที่ตัวพี่คนเดียว ดังนั้นผมจำต้องตัดใจครับ ผมคิดอยู่ในใจคนเดียว ไม่กล้าเอ่ยปากบอกพี่ชายที่รักแม้แต่คำเดียว สิ่งเดียวที่ผมพอจะทำได้ตอนนี้ก็คือ
พี่ชายที่รักครับ ผมเองก็รักพี่ไม่น้อยไปกว่าพี่หรอกครับ...แต่ทว่า คนเรารักกัน จำเป็นด้วยหรือครับ...ที่จะต้องอยู่ด้วยกันเสมอไป ฮือ ฮือ... ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ จึงร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา....พี่ชายที่รักเงยหน้าขึ้น ด้วยน้ำตาที่เริ่มไหลเป็นทาง นี่แกร้องไห้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
น้องชายที่รัก...พูดถูกต้องแล้ว...ทำใมพี่เห็นแก่ตัวแบบนี้...พี่ควรจะดีใจใช่มั๊ยครับ ที่น้องชายที่รักของพี่ เดินทางไปตามทางที่ถูกที่ควรแล้ว ฮือ ฮือ.. พี่ชายที่รักร้องไห้ ตัวแข็งทื่อ มองมาที่ผมด้วยสายตาที่ร้าวราน...จนผมต้องผวาเข้าไปกอด
โฮ...ฮือ ฮือ พี่ชายที่รัก อย่าร้องไห้สิครับ ผมรักพี่น่ะครับ ผมรักพี่ครับ อารมณ์ตอนนี้ อยากให้ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิมจริงๆ
พี่ชายที่รัก กอดผมแน่น ร้องให้สะอึกสะอื้น ก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า
พี่ก็รักแกะครับ... และพี่จะไม่มีวันลืมน้องชายที่รักของพี่ไปตลอดชีวิต ฮือ ฮือ หยุดร้องไห้เถอะน่ะคนดี...มองไปข้างหน้าเถอะ ว่าอนาคตที่ดีกำลังรอเราอยู่ อย่ามาเสียเวลาจมปลักกับพี่อยู่เลย...ฮัก ฮัก พี่ชายที่รักสะอึกสะอื้นต่อ เรากอดกันอยู่แบบนั้นนานทีเดียว ก่อนที่จะผละจากกันมาขึ้นรถ...น่าแปลกที่คราวนี้เราทั้งคู่ไม่มีบทรักทางเพศ อย่างที่เคยเป็นมาก่อน...กลับกลายเป็นว่าเรากอดกัน รักกัน อย่างบริสุทธิ์ใจ แบบพี่กับน้องมากกว่า...
เรามาถึงบ้าน ก็เกือบทุ่มหนึ่ง ตะวันตกดินไปแล้ว ฟ้ายังไม่มืดดีเท่าใดนัก ยังคงมองเห็นพอสลัวๆ...ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน เพื่อนๆมากันครบเซต ต่างพากันจ้าละหวั่น จัดนู้น จัดนี้ ดูสนุกสนาน โกลาหลทีเดียว
เสียงเพลงดังกระหึ่ม ตามสมัยนิยม ก็เพลงคู่ยอดฮิต รวมดาว ไงล่ะครับ (จำกันได้มั๊ยครับพี่น้อง อิ อิ อิ) โห นี่งานช้างรึเปล่านะ เตาถ่านปิ้งๆย่างๆ มีถึงสองเตา อาหารคาวหวาน ผลไม้ถูกจัดอย่างปราณีต ทุกอย่างวางรวมกันอยู่บนโต๊ะยาวกลางสนาม ข้างๆรั้วประดับประดาด้วยริบบิ้นหลากสี พร้อมด้วยลูกโป่งนับสิบลูก แต่งแต้มบรรยากาศให้น่าอภิรมย์สะจริงๆ
เพื่อนๆผมต่างพากัน ทั้งกินทั้งดื่ม ทั้งพูดคุยไปมา ฟังไม่ได้ศัพท์ ดูทุกคนมีความสุขกันดีทีเดียว สงสัยงานนี้ต้องเป็นฝีมือพี่กวางแน่ๆ เห็นนัดแนะกับเพื่อนๆผม โดยไม่บอกผมสักคำ
เฮ เฮ ไอ้แกะ กับพี่เอก มาแล้ว พวกเรา เจ้าเพื่อนตัวแสบคนใดคนหนึ่งตะโกนขึ้น ผมกับพี่ชายที่รักก็ได้แต่ทักทาย ตามสบายเถอะพวกมึง กูว่าจะเข้าไปเก็บของก่อน
โห ทำไมมาช้าจัง เพื่อนๆเขารอไม่ไหว พี่ก็เลยให้เริ่มทานกันได้เลย ตั้งแต่หกโมงแล้ว พี่กวางค่อนขอดให้ผม และก็แอบชำเลืองยิ้มๆให้พี่ชายที่รัก
นี่งานอะไรกันเหรอ กวาง ทำใมจัดยิ่งใหญ่ขนาดนี้ พี่ชายที่รักอดถามไม่ได้
ก็ อะ เอ่อ งานต้อนรับ น้องสะใภ้ไงล่ะ พี่กวางเริ่มหน้าแดงเล็กน้อย ผมรู้น่ะ ว่าวันนี้พี่กวางกำลังจะเซอร์ไพร้พี่ชายที่รัก เรื่องเืสื้อไหมพรม แต่เอ๊ะ แล้วกรกนกล่ะ อยู่ตรงไหนเนี่ยะ ผมมองไปที่สนามจนทั่วก็หาไม่เจอ
ไม่ต้องมองหาหรอกย่ะ พ่อตัวดี ยายกร กำลังช่วยแม่ปั้นขนมบัวลอย อยู่ในครัวย่ะ พี่กวางกระเซ้า จนผมต้องแยกตัวจากพี่ชายที่รักและพี่กวาง ปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง ที่สนามหน้าบ้าน ส่วนผมเปิดประตูเข้าบ้าน กำลังจะเอากระเป๋าเข้าไปเก็บที่ห้องรับแขก ห้องที่พี่ชายที่รักพักประจำ
แกะ มาแล้วเรอะ มาทางนี้ก่อนทีสิ เสียงพ่อตะโกนเรียกจากห้องพักผ่อน หน้าจอทีวี...เมื่อผมเข้าไปใกล้จึงรู้ว่า พ่อกำลังมีแขก แขกคนสำคัญซะด้วย
หวัดดีครับพ่อ...อ้าว หวัดดีครับ พี่หมวด มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ ผมยกมือไหว้พ่อ และพี่หมวด ที่ทั้งคู่กำลังนั่งเล่นสบายๆอยู่ที่โซฟา ตอนนี้พี่หมวดมาแปลกแฮะ แกแต่งตัวตามสบาย...อยู่ในชุดกางเกงขาสั้นสีเขียวขี้ม้า สไตล์ทหาร กับเสื้อยืดสีขาว แกเลยดูหล่อเหลา น่ารักไปอีกแบบ แบบที่ผมไม่เคยพบเห็นมาก่อน
อืม มาได้สักพัก แล้วล่ะ กำลังคุยกับคุณพ่อ เรื่องอนาคตของเราอยู่น่ะ พี่หมวดยิ้มให้ ด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
ไหน เข้ามาดูใกล้ๆซิ เห็นพี่หมวดของแกบอกว่า แกไปทำเรื่องอะไรมาอีกที่โรงเรียน เสียงพ่อของผมก็สไตล์นี้แหละครับ เรียบๆ ดุๆ อยู่ในที
ผมสะดุ้งเล็กน้อย คราวนี้กูคงจะโดนสวดยับอีกตามเคย เฮ้อ ตั้งแต่จำความได้ ผมไม่เคยทำอะไรเป็นที่ถูกอกถูกใจพ่อเลยสักครั้งเดียว แล้วมาตอนนี้ ตาซ้ายแทบปิดขนาดนี้ จะไปเหลืออะไร
พ่อ ผะ ผมขอโทษครับ ผมก้มหน้างุด นั่งตัวหนีบอยู่ที่โซฟาเล็กข้างๆพ่อ ในขณะที่พ่อกลับเอ่ยขึ้นว่า
แกจะมาขอโทษชั้นเรื่องอะไรกัน...
ผมเงยหน้าขึ้นมองพ่อ ด้วยความแปลกใจ ประหลาดใจ ตกลงนี่พ่อไม่ได้โกรธผมหรอกหรือ
แกะ เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วน่ะครับพ่อ ขัดเกลาอีกนิดหน่อย อนาคตคงจะไปได้ดี พี่หมวดพูดสำทับกับพ่อของผม
อืม ยังไงพ่อก็ฝากแกด้วยน่ะ เจ้ายุทธ น้องยังเด็ก บางทีอาจจะตัดสินใจอะไรบุ่มบ่ามแกก็ต้องรู้จักห้ามปราม ในฐานะพี่ชายคนหนึ่งน่ะ
ครับพ่อ ไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องนั้นน่ะ ผมเต็มที่อยู่แล้วล่ะครับ
ขอบใจ...พ่อดีใจที่เลือกคนไม่ผิด พ่อคุยกับพี่หมวดเสร็จก็เริ่มเจรจากับผมทันที
ไง พ่อตัวดี สร้างวีรกรรม จน ผ.อ. โรงเรียนแก ถึงกับโทรมาหาพ่อด้วยตัวเองเลยน่ะ พ่อผมยิ้มๆอยู่ในที...นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพ่อของผม ไม่ได้ว่ากล่าวอะไรผมในเชิงตำหนิ ...และแกก็ไม่ได้กล่าวชมให้ผมเหลิง แต่อาการที่แกแสดงออกมาตอนนี้ ดูแกจะภูมิอกภูมิใจ ในตัวลูกชายคนเล็กของแกอยู่ไม่น้อย ทำเอาผมน้ำตาซึมเลยทีเดียว ก็คนมันปลื้มนี่นา...จริงมั๊ยครับพี่น้อง
เอาล่ะ แกไปตามเจ้าดำมาพบพ่อทีซิ พ่อจะได้คุยอะไรให้เขาเข้าใจ ผมเลยต้องไปตามพี่ชายที่รักให้มาพบกับพ่อ ดูเหมือนพี่หมวดก็อยู่ในวงสนทนาด้วย ผมเลยปล่อยให้ทั้งสามคนคุยกันเอง จากนั้นจึงแยกตัวไปหากรกนกและแม่ของผมที่ในครัว
หวัดดีครับแม่ อ้าวนั่นลูกสาวบ้านไหน มาช่วยแม่ผมปั้นขนมบัวลอยเนี่ยะ ฮึ ฮึ ผมยกมือไหว้แม่ และถือโอกาสแซวแฟนสาวไปพร้อมกัน
ดูพูดเข้านั่น ทะลึ่งจริงเชียว ลูกชายแม่ หนู..อย่าไปถือสา แกะ มันเลยน่ะลูก แม่ดุผม และหันไปบอกกรกนกแฟนผม
ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณแม่ แกะเขาก็เป็นคนอย่างนี้แหละ ชิ มาช้าแล้วยังจะมาทะเล้นอีก กรกนกแลบลิ้นใส่ ทำหน้างอนๆ น่ารักดีแฮะ
อืม แม่ออกไปดูเด็กๆข้างนอกก่อนดีกว่า อ้าว แกะเข้าไปช่วยหนูกร เขาปั้นแป้งสิลูก จะได้เสร็จไวๆ ว่าแล้วแม่ก็เดินจากไป แหม แม่นี่ก็รู้หน้าที่ดีน่ะ อิอิอิ
ผมกับกรกนก ช่วยกันปั้นแป้งบัวลอย โดยผสมส่วนจำพวก ฟักทอง เพื่อให้ได้สีเหลือง เผือกจะได้สีม่วง น้ำใบเตยจะได้สีเขียว ฯลฯ ปั้นไปก็หยอกล้อกันไป จนมีตอนหนึ่ง กรกนกกลับพูดขึ้นมาลอยๆว่า
พี่สาวเรา (อาจารย์เก่าโรงเรียนผม) เขาไม่ค่อยอยากให้เรามาเท่าไหร่หรอกน่ะ เห็นบอกว่าแกจะออกเดินทางคืนนี้เลย
เฮ้ย ย้ายบ้านตอนกลางคืนเนี่ยะน่ะ
ใช่ แฟนแกออกจะรีบร้อนน่ะ เพราะว่าจะไปคุยกับผู้ใหญ่ เรื่องงานหมั้น
ตกลงอาจารย์ (อยู่โรงเรียนเดียวกันกับพี่สาวกรกนก) จะหมั้นแล้วเหรอ ดีจัง แล้วเมื่อไหร่จะถึงคิวเราบ้างอ่ะ
เซี๊ยวจริง พลั่ก งานนี้โดนทุบเข้าที่หน้าอกเต็มๆ
จะบ้าเหรอ ยังเป็นเด็กเป็นเล็กอยู่เลยน่ะ ก็ไอ้เรื่องที่เราคบกันนี่แหละ พี่สาวเราเขายังไม่เห็นด้วย อ้าว งานนี้ผมก็เลยอึ้งเลยครับพี่น้อง เพราะข่าวเรื่องผมกับกรกนกเป็นแฟนกัน ที่โรงเรียนเดิม ทำให้พี่สาวกรกนกเรียกผมไปตักเตือน อยู่เหมือนกัน แกคิดว่าเราทั้งคู่ยังเด็กเกินไป น่าจะตั้งใจเล่าเรียนมากกว่า....
สักครู่เพื่อนๆก็มาตามให้ผมกับกรกนกออกไปรวมกันข้างนอก พวกเรานั่งที่เก้าอี้พลาสติกที่จัดไว้ให้ เรียงรายตามตัวโต๊ะค่อนข้างยาวทีเดียว งานเริ่มอย่างเป็นทางการ อาหารทุกอย่างพร้อม ยกเว้นบัวลอยไข่หวาน ที่จะทานรอบดึก
ผมนั่งตรงข้ามกับกรกนก พี่ชายที่รักนั่งติดกับผมและนั่งตรงข้ามกับพี่กวาง ซึ่งทั้งคู่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ถัดจากผมไปก็เป็นไอ้โกก ไอ้ม้วน ไอ้โชค (ตรงข้ามมันก็คือไอ้ก้อย) และเพื่อนคนอื่นๆตามลำดับ ส่วนพ่อกับแม่และพี่หมวดแยกไปนั่งที่โต๊ะกลมต่างหาก
ดำจ๊ะ คุยกับคุณพ่อแล้วเหรอ หน้าตาไม่สบายเลย พี่กวางเริ่มเป็นห่วงพี่ชายที่รักขึ้นมาทันที จริงด้วย ดูเหมือนว่าพี่ชายที่รักจะเงียบผิดปกติน่ะเนี่ยะ ทั้งๆที่แกก็รู้แล้วว่า พ่อผมจะคุยกับแกเรื่องอะไร
ปะ เปล่า ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก พี่ชายที่รักตอบตะกุกตะกัก
ไม่ต้องเป็นห่วง เจ้าน้องชายตัวแสบของเราหรอกน่ะ เจ้านี่ให้พี่ยุทธกำราบน่ะดีแล้ว อีกอย่างอีกไม่นานดำก็จะไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์แล้วไม่ใช่หรือ
อะ เ่อ่อ ก็ใช่ พี่ชายที่รักยังทำหน้าเรียบเฉย แต่พยายามฝืนยิ้มน้อยๆ
ลองชิมเนื้อย่างนี่ดูหน่อยน่ะ กวางอุตส่าห์หมักเอาไว้ตั้งหลายชั่วโมง คิดว่าคงจะกลมกล่อมหอมเครื่องเทศดีทีเดียว พี่กวางตักเนื้อย่างชิ้นน่ารับประทานชิ้นหนึ่งให้พี่ชายที่รัก
ขอบคุณน่ะ งั้นกวางลองชิมหมูสะเต๊ะนี้ดูสิ ท่าทางอร่อยเชียว เอาเข้าไปเมื่อกี้ทำท่าเศร้าอยู่เชียว...ในที่สุดพี่ชายที่รักกับพี่กวางก็คุยกันเพลิดเพลิน จนลืมไปเลยว่ามีคนอื่นอยู่ข้างๆ....
ดำ...กวางมีอะไีรจะเซอร์ไพร้ล่ะ ว่าแล้วพี่กวางก็ลุกขึ้นไปหยิบถุงกระดาษที่เตรียมไว้ใกล้ๆ พร้อมกับดึงเสื้อถักไหมพรมสีน้ำเงินเข้ม คอกลม แขนยาว (ทั้งแบบและสี เหมือนกับที่กรกนกถักให้ผมเลย ) ออกมาแล้วยื่นให้พี่ชายที่รักต่อหน้า
โห นึกว่าใครที่ไหน ที่พี่กวางลงมือถักเสื้อให้เนี่ยะ ที่แท้ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง กรกนกแฟนผมแซวขึ้น เลยเป็นผลให้เพื่อนคนอื่นๆแซวตามมา
อะไรกันครับ พี่เอก เมื่อวานไอ้แกะ แฟนมันเอาเสื้อให้ มาวันนี้พี่กวาง เอาเสื้อให้พี่ นี่หมายความว่ายังไงคร๊าบ ฮ่ะ ฮ่ะ เสียงแซวดังลั่นจนพี่กวางหน้าแดง ส่วนที่ชายที่รักถึงกับนั่งนิ่ง อึ้ง ทำอะไรไ่ม่ถูก
ลองใส่ดูสิจ๊ะ พอดีตัวหรือเปล่า พี่กวางบอก พี่ชายที่รักก็เลยยืนขึ้น ถอดเสื้อยีนส์ออก ส่งให้ผมถือไว้ แล้วสวมเสื้อไหมพรมเข้าไปแทน
อืม ขอบคุณมากน่ะ อุตส่าห์ถักเสื้อให้ คงเหนื่อยน่าดูเลย พี่ชายที่รักยิ้มแก้มแทบปริ
เฮ เฮ ...หล่อจังเลย พี่เอก เสียงเพื่อนๆปรบมือ เชียร์กันดังสนั่น
แหม ๆ เนี่ยะน่ะ พี่กวาง ก้อยน่ะอุตส่าห์ทำตัวเป็นผู้หญิง ก็เพราะเล็งพี่เอกไว้แหละ...แต่พอรู้ว่าแฟนพี่เอกคือ พี่กวางอ่ะ ก้อย เ่อ่อ ยอมแพ้ค่ะ อิอิอิ ไอ้ก้อยเล่นแซวตรงๆ จนเพื่อนๆ ฮาอีกรอบ
ไม่เป็นไรน่ะ ก้อย พลาดพี่เอกก็มีเราอยู่ทั้งคนไง ไอ้โชคพยายามทำคะแนนเหมือนเดิม เพื่อนๆกลับยิ่งแซวไอ้ก้อยหนักกว่าเดิม
ตอนนี้ดูเหมือนว่าพี่ชายที่รักกับพี่กวางจะมองตากันมากยิ่งขึ้น บ่อยครั้งที่แอบยิ้มให้กันบ่อยๆ พี่ชายที่รักคงเข้าใจแล้วสิน่ะครับว่า ทางเลือกของพี่ำกำลังจะเดินถูกทางแล้ว
พี่ได้ยินเสียงอะไรแว่วๆน่ะ พี่หมวดเดินยิ้มมาแต่ไกล
อ้าวก็สองคู่ชู้ชื่นไงล่ะครับ พี่ ฮ่ะ ฮ่ะ ยิ่งรายพี่เอกเนี่ยะ เขาเรียกว่า เรือล่มในหนอง แล้วทองจะไปไหน ฮ่ะ ฮ่ะ ไอ้ม้วนหน้าทะเล้นตอบพี่หมวดไป ด้วยความยินดีกับเราทั้งสองคู่
อืม ดีใจด้วยน่ะ รู้แบบนี้พี่จะได้หายห่วง พี่หมวดยิ้มให้ผมกับพี่ชายที่รัก อย่างมีความหมายประหลาดที่แฝงอยู่ ดูเหมือนว่าแกจะโล่งอกเอามากๆ ที่เรื่องมันกลับกลายเป็นแบบนี้ได้
น้องชายที่รัก นี่คือสิ่งที่แกะต้องการใช่มั๊ยครับ พี่ชายที่รักกระซิบที่ข้างหูเบาๆ ผมยังไม่ได้ตอบอะไร พี่กวางก็มาดึงตัวแกออกไป
ดำจ๊ะ กวางว่าเราไปเตรียมอาหารเพิ่มเติมกันเถอะ ว่าแล้วพี่ชายที่รักก็เดินตามพี่กวางไปต้อยๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ดูๆไปพี่ชายที่รักก็เหมือนจะมีใจให้พี่กวางอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ผมได้แต่ภาวนาขอให้ทั้งคู่มีความสุขสมหวังทีเถอะ...ทั้งๆที่ตอนนี้ หัวใจของผมเริ่มที่จะระเบิดออกมาทุกที ยิ่งเห็นเขาสองคนมีความสุขมากเท่าไหร่ ผมยิ่งเจ็บปวดใจมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังไงก็แล้วแต่ นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้เป็นไม่ใช่หรือ
ผมมองตามพี่ชายที่รัก ที่กำลังกระหนุงกระหนิงกับพี่กวาง ดูเขาทั้งคู่ก็เหมาะสมกันดี...ขอให้โชคดีน่ะครับ พี่ชายที่รัก
แกะ เป็นอะไรตัวแข็งทื่อเลย กรกนกเรียกสติผมกลับคืนมา แต่น้ำตาเจ้ากรรมกำลังจะไหลออกมาแล้ว
ทันใดนั้น เจ้าวาดก็กระหืดกระหอบ เอาโทรศัพท์ไร้สายมาให้กรกนก เสียงที่พูดออกมาจากปลายสาย ดังมาก ดังจนผมถึงกับตกใจ
กลับเดี๋ยวนี้น่ะ นี่มันกี่ทุ่มกี่ยามแล้ว พวกพี่จะออกเดินทางกันแล้ว ทำใมต้องมารอเธออยู่คนเดียว เสียงพี่สาวของกรกนกนั่นเอง ท่าทางจะโกรธมาก
ค่ะ ๆ เดี๋ยวจะกลับแล้วค่ะ กรกนกเสียงสั่นๆ
บอกเจ้าแกะตัวดี ให้มาเจอชั้นด้วย ชั้นมีเรื่องจะตกลงกับเขา
อะ เ่อ่อ ค่ะ ค่ะ กรกนกวิ่งถือโทรศัพท์ไปคุยกับพี่สาวข้างๆรั้ว ผมเลยไม่รู้ว่าเธอกำลังคุยเรื่องอะไรกัน แต่สังเกตเห็นว่ากรกนกร่ำไห้เลยทีเดียว สักพักหนึ่งเธอก็เดินกลับมาพร้อมกับน้ำตานองหน้า
แกะ ความสัมพันธ์ระหว่างเรา สงสัยจะต้องยุติ กันเพียงแค่นี้ ฮือ ฮือ
อะไรน่ะ!” ผมตะโกนเสียงดังลั่น...แทบไม่เชื่อหูตนเองว่า แฟนสาวพูดอะไรออกมา

3 comments:

  1. ตอนใหม่มาแล้ว

    แต่ตอนนี้แกะอกหักสองชั้นเลยเหรอครับ

    ReplyDelete
  2. เข้ามาเยี่ยมใน blog แล้วนะครับ คุณแกะดำ

    sobuu

    ReplyDelete
  3. คุณ Vera ครับ จะบอกอย่างนั้นก็ได้อ่ะครับ ก็สูญเสีย (เกือบๆ) ไปทั้งคู่เลยนี่ครับ 55555 คุณ Sobuu ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยียน ว่างๆก็ฝากข้อความไว้บ้างน่ะครับ หรือข้อแนะนำในการใช้บล็อกหน่อยก็ดี ว่ามีลูกเล่นอะไรอีกบ้าง เพิ่งหัดเล่นน่ะครับยังไม่เข้าใจลึกซึ้ง
    แกะดำ

    ReplyDelete