Thursday, July 9, 2009

บทที่ 28 " You Asked...How much I Love You "

บทที่ 28 “You Asked...How much I Love You

เราสองคนกลับมาสวมเสื้อผ้าเหมือนเดิม ผมนั่งบนโขดหิน หย่อนขาทั้งสองลงไปบนโขดหินชั้นถัดลงไป พี่ชายที่รักกำลังหนุนหัวบนตักของผม หลับตาพริ้มด้วยความสุขสม จากรสรักที่ผ่านมา แกนอนทอดกายยาวเหยียดออกไปทางด้านขวามือ ตามแนวโขดหินเรียบๆนั่น ...ตรงหน้าของเราก็คือน้ำตกที่สวยงาม สายน้ำที่มารวมตัวกันตกจากที่สูงเสียงดังซ่าส์ๆ บรรยากาศโดยรอบไร้ซึ่งผู้คน มีเพียงเราสองคนเท่านั้น...
ผมเพ่งมองใบหน้าอันหล่อเหลาของพี่ชายที่รัก ไม่น่าเชื่อว่าเทพบุตรของผมคนนี้จะปรนเปรอรสสวาทให้ผมคลั่งไคล้ได้... ถึงเพียงนี้ ผมเอื้อมมือลูบไล้ใบหน้านั้นไปมาด้วยความหลงไหล ณ เวลานี้ ผมรู้แต่เพียงว่า ผมทั้งรัก ทั้งหลงพี่ชายคนนี้เหลือเกิน พี่ชายคนที่ยอมสละทุกสิ่ง ยอมเลิกกับแฟนที่เป็นผู้หญิงแท้ๆ ยอมแม้กระทั่งเป็น ฝ่ายรับ ที่เร่าร้อน เพียงเพื่อมอบความสุขให้แก่ผม กระนั้นหรือ...
ผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงจุมพิตปากแมนๆ ได้รูปอันนั้น พี่ดำปรือตาขึ้น ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าของผมด้วยความรักไคร่ พร้อมกับเผยอปากรับลิ้นอันฉ่ำชื้นของผมที่เข้าไปพัวพันกับลิ้นนุ่มๆของแก...ผมส่งสายตาที่บ่งบอกว่า รัก...รัก พี่ชายคนนี้ หนักหนา เราถอนปากออกจากกันด้วยความอ้อยอิ่ง...ผมพึมพำขึ้นมาเบาๆว่า
พี่ดำครับ ผมหลงไหลพี่เหลือเกินครับ ผมไม่รู้จะบอกพี่ยังไงดี ว่า ผมรัก รักพี่มากเหลือเกินครับ พี่ดำยิ้มกว้าง สายตานั่นบ่งบอกถึงความรักอย่างเหลือล้น ที่แกสื่อออกมาให้ผมรับรู้ ...มือแมนๆของแกยังคงไล้ไปมาที่แก้มทั้งสองข้างของผม
สุดที่รัก ของพี่ พี่ก็รัก น้องชายที่รักของพี่คนนี้ เหลือเกินครับ ผมก้มลงไปจูบเปลือกตาทั้งสองข้างของแก แล้วเอ่ยถามแกเบาๆ
ทำไมพี่ถึงกล้า เอ่อ ทำแบบ เอ่อ แบบนั้นให้ผมครับ เอ่อ ที่หลังม่านน้ำตกน่ะครับ ผมกระดากที่จะพูดให้แจ่มแจ้ง แต่จริงๆผมกำลังติดใจ ลีลารักแบบนั้น ผมอยากให้แกทำแบบนั้นให้ผมอีกเหลือเกิน แค่คิดเจ้าแกะน้อย ก็เริ่มขยายตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ก็เพราะพี่รักแกะมากนะสิครับ พี่ถึงอยากให้แกะมีความสุข....เอ๊ะ อะไรแข็งๆ ดุนหัวพี่น่ะ พี่ดำพูดเสร็จก็กลับตัว หันหน้าลงไปคลุกเคล้าที่เจ้าหนูของผมไปมา จนมันแข็งโป๊กดันกางเกงยีนส์แทบปริ
เอ่อ พี่ดำครับ แกะน้อยมันคงชอบ แบบ เ่อ่อ แบบเมื่อกี้ นะครับ ผมพูดเสร็จก็กดใบหน้าของแกลงไปคลุกเคล้าให้หนักขึ้น ด้วยความสยิว
พี่ดำอ้าปากกัดแกะน้อยเบาๆ จากเป้ากางเกงยีนส์ แล้วเ่อ่ยขึ้นว่า
ซนน่ะ เจ้าแกะน้อย ไม่รู้จักพักผ่อน เพิ่งเสร็จมาหยกๆไม่ใช่เหรอ ฮึ พี่ดำสัพยอกผม แล้วก็หัวเราะออกมาดังๆ
พี่ดำครับ เอ่อ ต่ออีกสักรอบได้มั๊ยครับ เอาแบบเมื่อกี้น่ะครับ ผมลองหยั่งเชิง เพราะเริ่มหงี่ขึ้นมาตะหงิดๆ
อยากรู้จัง ถ้าหากว่าพี่ไม่อยู่ เจ้าแกะน้อยจะไปซุกซนมุดถ้ำของคนอื่นรึเปล่าน่ะ
โอ...ไม่หรอกครับ ก็ผมบอกแล้วไงครับ ว่าผมรักพี่ชายคนนี้ เพียงคนเดียว ขอให้แกะน้อยได้ชื่นชมถ้ำทองพี่ อีกสักครั้งเถอะน่ะครับ ผมส่งสายตาเชื่อมไปให้ ผมไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำใมถึงมีความปราถนารุนแรงในตัวของพี่ชายคนนี้ ทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ชิด ความกระสันต์สวาทจะประทุขึ้นมาทันที ไม่รู้จักเบื่อ...
ดะเดี๋ยวก่อน...ที่บอกว่าแกะ...รักพี่น่ะ... รักมากแค่ไหนครับ พี่ดำเงยหน้าขึ้นมาทวงถาม นี่ก็ครั้งที่สองแล้วใช่มั๊ยที่แกถามผม... ขณะที่ผมกำลังจะตอบ ก็พอดีได้ยินเสียงสวบสาบมาทางด้านหลัง ผมจึงดันพี่ดำให้ลุกขึ้นนั่งแกล้งทำเป็นมองดูน้ำตกที่อยู่ข้างหน้า
ทำอะไรกันอยู่ครับ พี่รอตั้งนานแล้ว หิวมากด้วย เลยเดินขึ้นมาตาม พี่ภูมินะเอง อ้าวนี่มันบ่ายโมงแล้วหรือแสดงว่าเราทั้งสอง เล่นลีลารักกันซะเพลิดเพลินจนลืมเวลา
ขอโทษทีครับ พอดีดูน้ำตกเพลินไปหน่อย ผมตอบพี่ภูมิไป ก็ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี ชายหนุ่มสองคนดูน้ำตกด้วยกันตั้งสองชั่วโมง มันน่าสงสัยไม่ใช่น้อย แถมเมื่อกี้ พี่ภูมิจะเห็นพี่ดำนอนหนุนตักอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้
เอาล่ะ เอาล่ะ เราไปทานข้าวเที่ยงกันเถอะ พี่สั่งอาหารไว้เพียบเลย พี่ภูมิตัดบท เราจึงจำเป็นต้องลุกจากที่นั่ง เดินตามแกไปตามระเบียบ
พี่ภูมิพาเราทั้งสองไปเลี้ยงข้าวอย่างอิ่มหมีพีมัน ก็ร้านอาหารภายในอุทยานนั่นแหละ จากนั้นแกก็พาเราเดินชมศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่า....จนกระทั่งผมมาเจอ โรงๆหนึ่งมุงด้วยหญ้าแฝกแบบง่ายๆ แต่ภายในจัดระเบียบสำหรับการเลี้ยงผึ้งไว้ได้ดีทีเดียว ผมแจ้งพี่ภูมิว่าอยากทานน้ำผึ้ง เพราะมันเลี้ยงจากธรรมชาติจริงๆ คงจะอร่อยหวานน่าดู แกบอกว่ามีอยู่หลายขวดเลย แต่แกหากุญแจไม่เจอ ไว้เย็นๆ จะเอาไปให้ที่บ้าน...
ผมกับพี่ดำออกจากอุทยาน แล้วก็ขับรถเอื่อยๆมาเรื่อยๆ ชมวิวทิวทัศน์ เพลิดเพลินสองข้างทาง หยุดแวะพักตามทางมั่ง นอนเล่นหนุนตักกันมั่ง ชีวิตนี้ช่างแสนสุขจริงๆ...อยากอยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้นานๆ... เวลาผ่านไปจนเย็นมากแล้ว เราจึงรีบพากันกลับบ้าน
เรามาถึงบ้านห้าโมงครึ่งพอดี อ้าวนั่นเพื่อนๆผมมากันตั้งแต่เมื่อไหร่ มาครบเซตเลยงานนี้ ไอ้อ้วน ไอ้อ๊อด กำลังง่วนอยู่กับการจัดโต๊ะกลางสนามหน้าบ้าน ไอ้ซอกับไอ้จุ๊ กำลังง่วนอยู่กับการติดตั้งเตาถ่าน เพื่อเตรียมปิ้งๆย่างๆ อะไรทำนองนี้ ไอ้ก้อย และวาด กำลังช่วยแม่จัดการยกอาหารออกมาจัดเตรียมไว้ที่โต๊ะ ไอ้เบ็นซ์ กำลังตกแต่งสถานที่ ประดับประดาด้วยลูกโป่งหลากสี ตามรั้วบ้านบ้าง ตามต้นไม้บ้าง ดูทุกคนยุ่งไปหมด
ผมเข้าไปทักทายเพื่อนๆ ต่างคนต่างรุมด่าว่าพวกผมหายไปไหน เลยได้ใจความว่า พวกมันรู้เรื่องที่จะจัดงานต้อนรับ พี่ดำ มันเลยอาสาแม่ จะเข้ามาช่วยงานด้วย แม่เลยต้องจัดเตรียมอาหารเพิ่มขึ้น ก็ดีไปอย่าง นานๆจะได้มีเวลาพบปะสังสรรค์เพื่อนๆในแก๊งค์สักครั้ง
ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว พวกเราเริ่มกินกันไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน แต่เอ๊ะทำไมไม่เห็นพ่อเลย พ่อหายไปไหน พูดยังไม่ทันขาดคำ พ่อก็เปิดประตูเข้ามา และที่ตามหลังมานั่นเป็นหญิงสาววัย 18 ปี สูง 170 ซ.ม. รูปร่างสวยงาม ไว้ผมทรงบ๊อบ ทำให้ดวงตาดำขลับดวงโตทั้งคู่ดูเด่นเป็นสง่า จมูกที่โ่ด่งจากสันคิ้วลงมาเหมือนกับหญิงสาวชาวแขกยังงั้นแหละ ประดับด้วยปากรูปกระจับ ผิวพรรณผุดผ่องขาวละเมียดละมัย เธอมาในชุดวอร์มของโรงเรียน คงกำลังทำกิจกรรมอะไรบางอย่างอยู่ที่โรงเรียนเป็นแน่ ใบหน้าสวยนั้นดูละม้ายคล้าย พ่อมาก รวมทั้งพี่เก้งด้วย...ใช่เธอ...คือ พี่กวาง พี่สาวของผมเอง...
พ่อทักทายทุกคนก่อนที่จะแนะนำ พี่ดำให้รู้จักกับพี่กวาง ใช่สองคนนี้เคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาก่อนในวัยเยาว์ ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันดีทีเดียว เรียนหนังสืออยู่ห้องเดียวกัน ไปไหนไปด้วยกันเสมอ โดยมีเด็กน้อย (เด็กชายแกะ) ติดสอยห้อยตามไปด้วยทุกหนทุกแห่ง แม้แต่ในห้องเรียน เด็กน้อยยังหาเก้าอี้เสริมเข้าไปนั่งแทรกตรงกลางระหว่างสองคนนั้นด้วยอีกต่างหาก
กวาง กวางจริงๆหรือ ทำไมโตขึ้นแล้ว สวยจนดำจำไม่ได้เลย พี่ดำยิ้มทักทายพี่กวางด้วยความดีใจ
ดำเองก็โตขึ้นมากเลยน่ะ กวางเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน ตัวโตสูงใหญ่กว่าเจ้าแกะอีกแนะ แถมหล่ออีกต่างหาก พี่กวางเองก็ดีใจไม่แพ้กัน
มัวแต่ยอกันไปมา อยู่นั่นแหละ ว่าแต่กวางมาได้ยังไงอ่ะ เห็นว่าติดอบรมค่ายภาษอังกฤษอยู่ไม่ใช่เหรอ
อ๋อ ใช่ พอดีพ่อเข้าไปขออาจารย์ให้ ออกมาได้แค่ชั่วโมงเดียว จะไม่ออกมาได้ไงล่ะ งานสำคัญขนาดนี้ กวางดีใจจังที่ดำจะได้มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา พี่ดำยิ้มกว้างก่อนจะตอบว่า
เป็นความกรุณาของ คุณพ่อคุณแม่น่ะ ดำเองก็ดีใจน่ะ รู้สึกว่าเหมือนมีครอบครัวกะเขาสักที
เ่อ่อ กวางเสียใจ เรื่องคุณพ่อคุณแม่ของดำด้วยน่ะ
อืม ขอบใจจ๊ะ ดำจะพยายามลืม เพราะดำมีครอบครัวใหม่แล้วนี่ พี่ดำพยายามฝืนยิ้ม ไม่อยากให้เรื่องเศร้าๆในอดีตมารบกวนงานรื่นเริงในคืนนี้
ดีแล้วล่ะจ๊ะ จะได้มีคนกำราบเจ้าแกะพยศซะที นี่รู้มั๊ย เจ้าแกะมันร้ายมาก ถึงมากที่สุด อ้าว ไหงพี่สาวผมถึงแขวะผมเข้าให้อย่างนี้ล่ะ พี่ดำยิ้ม ท่าทางขำๆ
ร้ายยังไง เจ้าตัวดีนี่นะ พี่ดำเอามือมาจับหัวผมแล้วโยกไปมา
จะไม่ร้ายยังไง ไม่รู้ไปจีบสาวที่ไหนเอาไว้ มั่วไปหมด พอแฟนงอนเข้าไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยมาขโมยกำไลเปลือกหอยของกวาง ไปเป็นของกำนัลแฟน เฮ้อ!” ดูท่าพี่กวางจะเอือมระอาน้องชายตัวดีนี่จริงๆ เขาไม่ได้เรียกขโมยหรอกครับ เขาเรียกว่าหยิบไปโดยไม่ได้ขอ อิอิ
วีรกรรมนี้ เรียกว่าพี่กวางจดจำไปอีกนาน จะแค้นน้องชายก็ไม่ได้ เนื่องจากว่าที่น้องสะใภ้ก็ค่อนข้างสนิทกัน ผมหมายถึงกรกนกแฟนผมน่ะครับ เพราะกรกนกจะชอบเข้ามาถักโครเชร์ คุยกันเรื่องผู้หญิงๆกับพี่กวางที่บ้านอยู่บ่อยๆ แล้ววันนั้นพี่กวางก็เลยเห็นกำไลข้อมือของตัวเองเข้า
ไม่อยากจะเล่าเล๊ย เอาเป็นว่าผมมีสาวๆหมายปองจากห้องอื่นเยอะ พอดีทางโรงเรียน(เก่า) จัดไปทัศนศึกษาที่หัวหิน แล้วผมตั้งใจซื้อกำไลเปลือกหอยมาฝากกรกนก เพื่อนๆหลายคนก็เห็น คราวนี้กับถูกสาวคนหนึ่งแย่งไป นึกว่าซื้อให้เขา โชคดีที่พี่กวางมีกำไลแบบเดียวกันอยู่ที่บ้านอันหนึ่ง ไอ้แกะเจ้าเล่ห์ก็เลยถือโอกาสยืมไปใช้ก่อนก็เท่านั้นเอง
แหม พี่กวางได้ทีเลยน่ะ ถ้าแกะมีโอกาสไปหัวหินอีก จะซือมาคืนสิบอันเลย
ผมแขวะพี่กวางบ้าง ผมรู้ว่าพี่สาวผมไม่ได้โกรธอะไรผมหรอก
ยะ พ่อตัวดี คงมีโอกาสได้ไปหรอกน่ะ สงสัยพี่คงแก่พอดี กว่าจะได้ไปน่ะ พี่กวางหันมาทำหน้าทะเล้นใส่ผมบ้าง
เออ นี่ดำ ฝากดูแล เจ้าแกะมันหน่อยน่ะ ถ้าหากว่าไปพักอยู่บ้านดำแล้ว ช่วยติวหนังสือให้มันหน่อยโดยเฉพาะภาษาอังกฤษน่ะ รายนี้ไม่เอาถ่านเลย
ได้เลย เดี๋ยวจะเคี่ยวเข็ญให้หนักเลย เอาแล้วพี่ดำก็อีกคน เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวน่ะ
สักพักเพื่อนๆก็เริ่มนำเอาจานอาหารมาเสริพให้พี่กวาง ส่วนพวกผมก็มีจานของใครของมันอยู่แล้ว
เดี๋ยว ก้อย ได้ข่าว ว่าที่น้องสะใภ้พี่มั๊ยเนี่ยะ ตั้งแต่จบม.3 มานี่ พี่ยังไม่ได้ข่าวเขาเลย พี่กวางหันไปถามไอ้ก้อย เพื่อนทอมบอยของผม
เขาก็สบายดีค่ะ พี่กวาง เห็นบอกว่าเรียนหนัก แต่ไม่แน่ บางทีหนูอาจจะลงไปเยี่ยมเขาอาทิตย์หน้าค่ะ
อืม ฝากบอกว่าพี่คิดถึงก็แล้วกันน่ะ เรื่องเสื้อที่ถักค้างเอาไว้ ไม่รู้ว่าเขาทำเสร็จรึยัง
ค่ะ แล้วหนูจะบอกให้ค่ะ แล้วไอ้ก้อยก็เดินจากไปดูแลเพื่อนๆคนอื่น
ดำจ๊ะ ได้ข่าวว่าจะไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์หรือ โชคดีจัง กวางเองก็พยายามขอคุณพ่อ จะไปเรียนต่อที่อเมริกา เหมือนกัน ไม่รู้ว่าท่านจะว่ายังไงบ้าง
ใช่ อืมหลังจบ ม.6 แหละ เออ ถ้างั้นกวางต้องเตรียมสอบโทเฟิล ซิ........ ผมเห็นว่าสองคนนี่คงจะคุยกันอีกนาน จึงแกล้งเป็นเดินเลี่ยงออกมาดูเพื่อนๆ ...ปล่อยให้ว่าที่นักเรียนนอกสองคนเขาคุยกัน..ก็แล้วกัน
สักพักหนึ่งพี่ภูมิก็เข้ามาสมทบ แกก็ไม่ลืมที่จะเอาน้ำผึ้งมาให้จริงๆ พอแกรู้ว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับพี่ดำ ถือว่าเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งของบ้าน แกถึงกับดีใจออกนอกหน้า เข้ามาคุยกับผมว่า ที่แท้พี่ดำก็เป็นพี่ชายของผมนี่เอง ไม่รู้ว่าผมเข้าข้างตัวเองไปรึเปล่าน่ะที่ว่า พี่ภูมิแอบ...จีบ...ผมอยู่
เวลาผ่านไป พี่กวางขอตัวกลับ เพราะต้องรีบไปแสดงละครภาษาอังกฤษที่ค่าย ดังนั้นพี่ภูมิจึงถือโอกาสออกไปส่งและกลับบ้านไปด้วย ในงานจึงเหลือแต่เพื่อนๆ ตัวแสบ ส่วนพ่อกะแม่ขอตัวขึ้นไปพักผ่อนข้างบนบ้าน...
ไอ้อ้วนกับไอซอเริ่มเอากีตาร์มาเล่น พวกเราเริ่มจับกลุ่มเข้ามาร้องเพลง โดยให้แต่ละคนร้องกันคนละหนึ่งเพลง โดยเปิดหนังสือเพลงโดยสุ่ม ถ้าเจอเพลงไหนก็ต้องร้องเพลงนั้น ถ้าร้องไม่ได้จะให้เพื่อนๆช่วยก็ได้ พวกเราสนุกกันใหญ่ วาดก็ได้ร้องเพลง จงรัก เป็นคนแรก โปรดอย่าถามว่าฉันเป็นใครเมื่อในอดีต....
ในที่สุดก็มาถึงคิวผมแล้ว ไอ้จุ๊เป็นคนเลือกเปิดหน้าเพลงปรากฎว่ากลายเป็นเพลง....
หากฉันรู้สักนิด ว่าเธอรักฉัน... ผมต้องรีบหยุดร้องทันที เพราะเจอสายตาพิฆาตของพี่ชายที่รักเข้า แกคงเข้าใจว่าผมกำลังหมายถึงพี่ภูมิแหงๆ ไม่รู้จะไปหึงหวงอะไรกั๊น... พี่ชายที่รัก.... ตอนนี้พี่ภูมิก็ไม่อยู่ในงานสักหน่อย
แต่จะว่าไป เนื้อเพลงก็บ่งบอกจริงๆ ถ้าหากผมรู้ว่าพี่ภูมิ แอบรัก...แล้วผมจะทำยังไง....อิอิ ไม่อยากคิด
ผมก็เลยตัดสินใจ กระซิบที่ข้างหูไอ้อ้วน ให้มันดีดกีตาร์ เพลงโปรด....แล้วผมก็ตั้งใจร้อง... ร้องเพลงให้พี่ชายที่รัก...ของผม

You asked how much I love you... must I explain ...I need you oh my darling ... like roses need rain
You ask how long I love you ... I'll tell you true ...Until the twelfth of never ... I'll be loving you
Hold me close... never let me go ...Hold me close... melt my heart like April snow...
I'll love you till the blue bells forget to bloom
I'll love you till the clover has lost its perfume
I'll love you till the poets run out of rhyme ...
Until the twelfth of never ... And that's a long long time
Until the twelfth of never ... And that's a long long time...

2 comments:

  1. เป็นกำลังใจให้เสมอครับ แกะ...

    ReplyDelete
  2. เป็นปลื้มครับผม

    ReplyDelete