Wednesday, July 29, 2009

บทที่ 37 " ความหมายที่แท้จริง...ของแกะดำ "

บทที่ 37 ความหมายที่แท้จริง...ของแกะดำ

ฮึ คิดได้ไงเนี่ยะ แต่ก็ดีพี่จะได้เป็นสีดำเกาะอยู่ในตัวแกะตลอดไป พี่ดำอดยิ้มไม่ได้ ทั้งๆที่ยังงอนผมอยู่แท้ๆ
จริงๆแล้ว เพื่อนให้ฉายา ผมว่า แกะดำ มาตั้งแต่ม.ต้นแล้วครับ แต่ผมอยากให้มันมีความหมาย เอ่อ ความหมายว่า เป็นชื่อของเรารวมกันไงครับ ผมยิ้มตาเป็นประกายด้วยความเจ้าชู้ ก่อนที่จะประกบริมฝีปากกับพี่ชายสุดที่รักอีกเนิ่นนาน....
พี่ดำลุกขึ้นแล้วประคองตัวผม ไปยืนมองที่รูปถ่ายใบหนึ่ง มันถูกแขวนไว้บนหัวเตียงนอนนั่นเอง...ซึ่งผมเคยเจอเมื่อวันแรกที่เข้ามาที่นี่ มันเป็นรูปถ่ายของแกะดำตัวหนึ่ง ยืนจังก้าโดดเด่นอยู่กลางภาพ ข้างหลังเป็นแกะขาวหลายๆตัวยืนเรียงรายกันอยู่เป็นแบ็กกราว
แกะรู้มั๊ยครับ ภาพนี้พี่ก็นึกสงสัยอยู่ว่าทำไมน้าอร ถึงเอามาติดไว้ที่ห้องนี้ พี่ดำหอมแก้มผมฟอดหนึ่ง แล้วพูดต่อว่า
แต่ตอนนี้พี่ไม่อยากรู้แล้ว พี่รู้แต่เพียงว่าตอนนี้มีแกะตัวหนึ่งที่พี่รักมาก แล้วแกก็หันมาสบตาผมด้วยความรู้สึกที่...รักเหลือเกิน...เกินจนยากที่จะบรรยาย
แต่แกะตัวนี้ มันก็ อะ เอ่อ รักพี่มาก เหลือเกิน เช่นกันครับ ผมส่งสายตาไปประสานกับแกบ้าง พี่ดำลูบไล้ที่ศรีษะของผมไปมา แล้วก็ดึงแก้มผมไปแนบกับแก้มของแก
พี่อยากจะเป็นสีดำที่อยู่บนแกะตัวนั้น และจะติดตัวแกะไปทุกหนทุกแห่ง จะได้ไม่มีวันพรากจากกัน
ได้ครับ พี่ดำ แกะตัวนั้นก็คงจะยินดีที่มีสีดำติดตัวไปตลอดชีวิต ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนสี เป็นสีอื่นเด็ดขาด ผมโน้มคอพี่ชายที่รักประกบปากแลกลิ้นกันอยู่ครู่หนึ่ง
สักพักพี่ดำก็ค่อยๆ ถอนปากออก พร้อมกับพูดว่า
จำคำนี้ไว้ให้ดีน่ะ แกะดำ ต่อแต่นี้ไป แกะดำ ห้ามเอาสีอื่นเข้ามาติดตัวเด็ดขาด
นี่กำลังบอกผมว่า ห้ามมีใจให้คนอื่น ใช่มั๊ยครับ ฮ่ะ ฮ่ะ ผมกระเซ้าแกเล่น อะไรว่ะ ไอ้แกะ พี่ชายที่รัก...กำลังซึ้งๆ อยู่... ดันนอกเรื่องได้ซะนี่
แล้ว แกะคิดจะมีคนอื่นอีกหรือ แนะ พี่ชายที่รักเริ่มงอนอีกแล้ว ผมก็เลยต้องเข้าไปกอดกระแซะหนักกว่าเดิม แล้วหอมแก้มอีกฟอดเบ้อเริ่ม ผมรู้สึกชอบ ชอบมากเวลาที่พี่ชายที่รักงอน แล้วผมจะเป็นฝ่ายง้อ ดูๆไป ผู้ชายแมนๆ เวลางอนนี่ก็น่ารักดีน่ะ เพราะมันไม่ใช่งอนแบบผู้หญิงงอน แต่มันบอกไม่ถูกอ่ะ เอาเป็นว่าผมชอบตามง้อพี่ชายที่รักก็แล้วกััน อิอิ
โธ่ พี่ชายที่รัก ค๊าบ ผมจะมีใครอื่นได้อีกล่ะครับ ในเมื่อทั้งตัว และหัวใจ มีพี่ชายที่รัก อยู่คนเดียว
ว่าได้ หรือ เกิดพี่ไม่อยู่ แล้วมีคนมาชอบ พี่กลัวว่าแกะจะหลงคารม คนอื่นเข้าน่ะซิ ไม่ว่าพี่ชายที่รักจะพูดแบบนี้ เป็นร้อยๆ พันๆ ครั้ง แต่ผมดูว่าแกน่ารัก เหลือเกิน ผมไม่เคยเบื่อเลยเวลาที่แกพูดคำแบบนี้ออกมา
ตอนนี้ ผมเป็นแกะดำเต็มตัวแล้วน่ะครับ เพราะฉะนั้นจะไม่มีสีอื่นมาแทรก แน่นอน ครับผ๊ม ผมประกบปากจูบเอาใจพี่ชายที่รัก...เนิ่นนานทีเดียว
พี่ดำครับ ถ้าจะว่าไป ภาพนี้ก็บอกความหมายอะไร หลายๆอย่างเหมือนกันน่ะครับ ผมชี้ชวนให้พี่ชายที่รัก ดูภาพนั้นอีกครั้ง
ใช่ อย่างน้อย...มันก็หมายถึงความรักของเราไงล่ะ... ในตัวของแกะจะมีพี่ อยู่ติดตัวไปเสมอ เหมือนสีดำที่ติดอยู่ในตัวแกะตัวนี้
เราสองคน จ้องมองหน้ากันเนิ่นนาน ก่อนที่จะกอดกันแนบแน่นอีกครั้งหนึ่ง ... ผมรู้สึกถึงความรัก ที่มีพลังอันยิ่งใหญ่ ที่ถูกขับออกมากระทบ ให้เราทั้งคู่ได้รับรู้ ไม่ว่าความรักนั้นมันจะเกิดขึ้นกับเพศใด ผมขอภาวนาให้มัน... มั่นคง... รักและจริงใจต่อกันและกัน...ก็เพียงพอแล้ว....
เราทั้งสองปีนขึ้นไปนอนบนที่นอน ผมหนุนแขนแกข้างขวา พร้อมกับลูบไล้แ่ผ่นหน้าอก แน่นๆของแกด้วยฝ่ามืออย่างแผ่วเบา ปลายเท้าทั้งสองของเรา..ก็เกี่ยวกระหวัดถูไถกันไปมา...ให้ความรู้สึกที่ดีอีกแบบ...ตอนนี้มันไม่ใช่อารมณ์เซ็กส์ แต่มันเป็นอีกอิริยาบท หนึ่ง ที่เราทั้งคู่ถ่ายทอดความรู้สึกรักใคร่ หวงใยซึ่งกันและกัน...
ถ้าพี่ ไปเรียนต่อที่นิวซีแลนด์ แล้ว พอจบตรีที่นั่น พี่จะทำเรื่องให้แกะไปอยู่ด้วยน่ะครับ คนดี
พี่จะทำเรื่องแบบไหนล่ะครับ ในเมื่อ เ่อ่อ เราเป็นผู้ชายทั้งคู่ ยกเว้นว่า ผมจะขอคุณพ่อไปเรียนต่อที่นั่น
เรื่องนี้ ไม่ยากเลย เพราะที่นั่น ประชากรเขามีอิสระ ไม่มีใครดูถูกใคร และรัฐบาลเขาก็ยอมรับ เอ่อ เพศเดียวกันสามารถครองคู่กันได้
จริงหรือครับ แสดงว่า ที่นั่นผู้ชายกับผู้ชาย...ก็อยู่แบบเปิดเผยกันได้ซิครับ
ใช่ ตอนที่พี่ไปเรียนภาษาอังกฤษที่นั่น พี่เจอผู้ชายคนหนึ่งในห้องเรียน เขาบอกว่า แฟนฝรั่งที่เป็นผู้ชาย ทำเรื่องวีซ่าถาวรให้เขาได้ ตอนแรกพี่ไม่เชื่อ แต่พอพี่กลับมาถามน้าอร จนน้าอรยืนยันว่าเป็นความจริง พี่ถึงเชื่อ พี่ดำหยุดพูดไปนิดหนึ่ง ก่อนที่จะนอนตะแคงหันหน้ามาจ้องตาผมอย่างมีความหวัง
ดังนั้น แกะดำคนนี้ จึงมีโอกาสที่จะได้ไปครองรักกับพี่ที่นิวซีแลนด์ โอเคมั๊ย ที่รัก แกยิ้มให้ผมด้วยประกายตาที่มีความหวัง ผมเองก็รู้สึกดีใจมากเช่นกัน ที่จะได้ไปอยู่กับพี่ชายที่รัก อยู่อย่างเปิดเผย ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ เหมือนที่เมืองไทย แต่อนาคตยังเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ ณ เวลานี้ผมเพียงแต่อยากจะมีความสุขกับพี่ชายที่รักให้มากๆ ก็เพียงพอแล้ว...
พี่ดำครับ ผมดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ แต่ว่าผมควรจะเรียนให้จบม.6 ก่อน แล้วค่อยคิดกันใหม่ดีมั๊ยครับ ผมเองก็ยังสับสน...โลเล...ยังไงก็ไม่รู้ เรื่องแรกก็คือ กรกนก แฟนที่ผมตั้งใจจะแต่งงานด้วย และมีครอบครัวที่อบอุ่น เรื่องที่สอง เรื่องนักเรียนโครงการแพทย์ชนบท ของมหาวิทยาลัยชั้นนำอันดับหนึ่งของเมืองไทย (ตอนแรกว่าจะไม่บอกชื่อโครงการนี้ แต่คิดไปคิดมาไม่รู้จะปิดไปทำไม) ซึ่งผมหมายมั่นที่จะเข้าไปสอบให้ได้ ทั้งๆที่ตอนนี้ความหวังที่จะติดอันดับหนึ่งในสี่ของโรงเรียนริบหรี่เต็มทน เรื่องที่สาม เรื่องพ่อกับแม่ จะยอมรับได้มั๊ยที่ลูกชายคนเดียว จะไม่แต่งงานกับผู้หญิง แต่แต่งกับผู้ชาย ผู้ชายที่ตอนนี้มีฐานะเป็นพี่ชายของตัวเอง...
อืม ก็ตามใจแกะ แล้วกัน แต่ห้ามนอกใจพี่เด็ดขาด ตอนพี่ไม่อยู่ แนะมีการกำชับกันอีกน่ะ
ยังไงก็แล้วแต่ เมื่อแกะจบม.6 พี่สัญญาว่าจะมารับแกะ ให้ได้ น่ะครับ ที่รัก เราจะได้อยู่ด้วยกัน ตลอดไป
ผมประกบปากสอดลิ้นเข้าไปพัวพันกับพี่ชายที่รัก โดยทันที ผมไม่อยากให้แกรู้ว่า ผมกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว....ทำไมละ ไอ้แกะ ทำไมมึงไม่ตัดสินใจไปเลยทีเดียว ที่จะไปครองคู่กับพี่ชายที่แกรัก...ผมไม่รู้จะตอบคำถามของตัวเองอย่างไรดี ดูเหมือนว่า มีอะไรบางอย่าง...ที่คอยสะกัดกั้น ไม่ให้ผมเผลอไผลไปกับสิ่งนั้น อย่างเต็มตัวทีเดียว...นั่นน่ะซิ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน...ว่าสิ่งนั้นคืออะไร.....

1 comment:

  1. ไม่ค่อยเข้าใจทำไมทำไมชีวิตคนเรานี่มันต้องมาเจอทางสามแพร่งแห่งการตัดสินใจกันทุกคู่เลย แล้วคู่นี้จะเป็นงัยไม่กล้าคิดเลย ไม่ว่าจะคิดด้วยอารมย์หรือเหตุผลอะไรก็ตาม กลัวมีคนผิดหวังและเสียใจไม่ใช่อะไรหรอก บางคนเลือกอนาคต, เลือกหน้าตาทางสังคม, เลือกความรัก ,ครอบครัว ผลสุดท้ายทุกคนต้องยอมรับผลที่ตามมาทุกๆอย่างแห่งการเลือกทางเดินนี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง เพราะคุณเลือกเอง"ทางสามแพร่งแห่งชีวิต"ผมเห็นแกะลังเลแล้วใจหายครับ ผมว่าแกะจะเลือกความรักที่จะอยู่กับเราในอนาคต ผมแค่คิดนะครับ มันมีได้อย่างเสียอย่างอยู่แล้วแหละ เลือกได้ถูกก็สุขบางคนเลือกผิดก็ทุกข์ใจตลอดชีวิตเหมือนกัน

    (เวปจีบอยเป็นไรไม่รู้อ่ะตอนนี้ สงสัยตายไม่มีอะไรเคลื่อนไหว,แอดคอมเม็นต์ไม่ได้ด้วยงง)

    ReplyDelete