Tuesday, July 14, 2009

บทที่ 31 " เรือนหอ...รอรัก "

บทที่ 31 เรือนหอ...รอรัก

ได้ยินพี่ชายที่รัก พูดเช่นนั้น ผมถึงกับเกิดอาการไข้ขึ้น... สยองที่รูสวาทขึ้นมาทันที...จนต้องเอามือไปปิดทางเข้าถ้ำไว้ อย่างแน่นหนา....ก็ยังเข็ดไม่หายจากเมื่อคืนนี่คร๊าบ ช่วยไม่ได้จริงๆ ก็ของพี่ชายผมใหญ่โตมโหฬาร ขนาดนั้น ต้องให้เวลาคน เอ๊ย! รูสวาท พักฟื้นกันหน่อย อิอิ
ผมดึงร่างพี่ดำลงมานอนแนบข้าง กอดร่างแกแน่น พร้อมหอมที่แก้มดังฟอดเบ้อเริ่ม
ขอผลัดเป็นพรุ่งนี้ ได้มั๊ยครับ ที่รัก เ่อ่อ คือ ผะ ผมยังไม่แน่ใจว่ามันจะใช้การได้รึเปล่า ก็ของพี่ชายใครก็ไม่รู้ ยังกะของม้าแนะ...เข็ดจนตายเลย ผมแกล้งจับท่อนลำของพี่ชายที่รัก รูดไปมา เพื่อผลัดเวลาออกไป อย่างน้อยผ่านคืนนี้ ไปก็ยังดี อิอิ
ได้...แต่ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ อย่าหาว่า พี่ชายไม่ปราณี...ไม่ได้น่ะ พี่ดำพูดน้ำเสียงหนักแน่น ผมรู้สึกดีใจในตอนแรก แต่แล้วก็ต้องเสียวสันหลังวาบกับประโยคสุดท้าย เฮ้อ ไงไง ก็ต้องโดนอยู่ดีนะมึง ไอ้แกะ รึจะเป็นแฟนพี่ชายที่รัก ก็ต้องผลัดกันรับ ผลัดกันรุก อย่างนี้แหละ...แต่คิดไปคิดมาอีกที ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องห่วงว่า จะมีใครได้เปรียบ...เสียเปรียบ เผลอๆ เกิดตูไม่ให้พี่ชายที่รัก...เสียบ...แล้วแกเกิดไปเสียบกับคนอื่นเข้า....อันนี้... ชายแกะรับม่ายด้ายยยยยยยยยยยยย.....
คืนนั้นเราต่อเกมส์รักกันอีกคนล่ะเกมส์ พี่ชายที่รักเกิดอยากจะลองรสหวานของน้ำผึ้งบ้าง เราก็เลยต้องไปอาบน้ำกันอีกครั้ง คราวนี้พี่ชายเป็นคนลงมือเทน้ำผึ้งบนแกะน้อย รสชาดเป็นอย่างไร...คิดเอาเอง อิอิ แต่อย่างไรก็ตามพี่ดำยังไม่มีโอกาสมุดถ้ำทองของแกะดำแน่ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า...
เย็นวันอาทิตย์ ผมกับพี่ชายที่รักก็ย้ายข้าวของ จากบ้านเพื่อนๆ ไปที่เรือนหอ เอ๊ย บ้านพี่ดำ (แหม! กะจะบอกว่า เพิ่งผ่านงานวิวาห์มาหมาดๆ แกะดำก็เกรงใจ แฟนคลับ ยังไงก็ไม่รู้ อิอิ) ไอ้พวกเพื่อนตัวแสบ มันบอกว่าว่างๆ พวกมันจะยกขโยงไป เลี้ยงฉลอง ที่บ้านพี่ดำให้ได้ (ไม่รู้ว่าพวกมันจะเลี้ยง ฉลองในโอกาสอะไร...ฮ่า ฮ่า )
เรือนหอ เอ๊ย (พูดผิดอีกแล้ว ตั้งใจไปหน่อย อิอิ) บ้านพี่ดำ พอสังเกตดีๆ มันก็หลังใหญ่มากทีเดียว เป็นบ้านรูปทรงแปลกๆ เห็นพี่ดำเล่าว่า น้าอร ได้แบบบ้านมาจากนิวซีแลนด์ เพราะวิวที่นี่คล้ายนิวซีแลนด์มาก จึงตั้งใจที่จะสร้างบ้านแบบเดียวกันกับที่นู่น... ด้านล่างของฐานบ้านเป็นอิฐแดงโดยรอบ แต่ทางเข้าด้านหน้า และทางออกด้านหลัง กลับทำเป็นกระจกบานใหญ่ มีขอบหน้าต่าง และก็ประตูกระจกด้วย ทำให้บ้านดูโปร่งขึ้นเยอะ ถัดขึ้นไปชั้นสองถึงจะเป็นไม้แข็งตีขนาบไล่ขึ้นไปตามแนวนอน โดยแผ่นไม้จะวางเกยซ้อนกันขึ้นไปเป็นระเบียบและมีสีออกแดงๆคล้ำๆ เหมือนสีไม้โอ๊ค หลังคา ปูด้วยกระเบื้องสีส้มสดเป็นรูปจั่วอยู่ตรงกลางอย่างชัดเจน ตรงบริเวณห้องนอนใหญ่ จากนั้นหลังคาจะแบนลาบไปทางด้านหลัง เหมือนอาคารโรงเรียนทั่วๆไป มองอีกทียังกะ เป็นบ้านทรงไทยประยุคยังงั้นแหละ
ด้านล่าง มีห้องครัวที่ค่อนข้างใหญ่ ทันสมัยทีเดียว ถัดไปเป็นห้องรับประทานอาหาร ห้องพักผ่อน ห้องน้ำ ห้องอ่านหนังสือ และมีห้องรับแขกขนาดเตียงคู่ อีกหนึ่งห้องนอน นอกจากนี้ ด้านล่างยังมีโรงรถที่แยกจากตัวบ้านอย่างชัดเจน แต่สามารถเิดินทะลุเข้ามาข้างในได้ ภายในโรงรถยังมีห้องสำหรับซักผ้าอีกต่างหาก ส่วนข้างบน ทำเป็นบันไดวนขึ้นไปได้สวยงามทีเดียว ห้องแรกคือห้องหอ เอ๊ย ห้องพี่ดำ เป็นห้องขนาดใหญ่ทีเดียว เดิมมีเตียงคู่ แต่ต่อมาพี่ดำเอาเตียงเดี่ยวมาเปลี่ยน ห้องนี้เป็นห้องสูท จึงมีห้องน้ำในตัว และมีบริเวณกว้างมาก ที่สำคัญ มองเห็นวิวด้านหน้าต่าง ซึ่งสามารถมองเห็นทุ่งหญ้าเขียวขจี สุดลูกหูลูกตา และฉากด้านหลังนั่นมีภูเขาสองลูกเรียงซ้อนกันอยู่ มองเผินๆคล้ายปทุมถันของอิสตรี ที่สำคัญเวลาพระอาทิตย์ตกดิน มันจะตกตรงช่องตรงกลางระหว่างภูเขาสองลูกนั่นพอดี มิน่าพี่ดำถึงเอา โต๊ะอ่านหนังสือมาไว้ที่ตรงนี้ และเอาโซฟามาวางไว้ข้างๆ เหมาะสำหรับการนอนเอกเขนก พักผ่อน หรือนอนอ่านหนังสือเล่น...
ถัดไปด้านซ้ายมือจะมีห้องน้ำส่วนรวม และมีห้องนอนเดี่ยว อีกหนึ่งห้อง ส่วนด้านขวามือ จะมีห้องนอนเดี่ยวอีกถึงสองห้อง พอเดินไปสุดทางเดินจะมีระเบียงยื่นออกไป รับลมชมวิว เหมาะสำหรับการจัดปาร์ตี้ทีเดียว
ป้าสมจัดการจัดห้องไว้ให้ผมอีกห้องหนึ่ง เพราะพี่ดำไม่ได้บอกไว้ว่าผมจะอยู่ห้องไหน (ป้านี่ช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลยว่า คุ่สมรสควรจะอยู่ห้องเดียวกันสิถึงจะถูก...อิอิ) ร้อนถึงลุงบุญ ต้องขึ้นมาช่วยพี่ดำยกเตียงเดี่ยวออกไป สลับเอาเตียงคู่เข้ามาแทน และจัดโต๊ะอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งโต๊ะ ส่วนพวกเสื้อผ้า ที่ไม่จำเป็น เราก็ถ่ายเทเอาไปไว้ที่ห้องข้างๆ
เรารับประทานอาหารด้วยกันสองคนอย่างมีความสุข ผมขอรับประทานที่ระเบียงข้างบนบ้าน เพราะชอบดูบรรยากาศ ตอนพระอาทิตย์ตกดิน อยากรู้เหมือนกันนะว่า ที่นิวซีแลนด์ บรรยากาศจะสวยแบบนี้รึเปล่านะ... ป้าสมกับลุงบุญ หลังจากหมดหน้าที่ ก็กลับไปบ้านพักของตัวเอง ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ สามารถตะโกนเรียกได้เมื่อต้องการเรียกใช้ ดังนั้นบ้านทั้งหลังจึงเหลือ เราเพียงสองคน คู่สมรสคู่ใหม่ อิอิ
หลังจากอาบน้ำแปรงฟันสะอาดดีแล้ว อากาศยังไม่มืดเท่าไหร่ เราก็มานั่งเอกเขนกรับลมชมวิวที่โต๊ะยาวนั่งเล่น ที่ระเบียงเหมือนเดิม คราวนี้ผมนอนหนุนตักพี่ชายที่รัก ด้วยความรู้สึกเปี่ยมสุขอย่างเหลือล้น ในขณะที่ พี่ดำกำลังลูบไล้ใบหน้าของผมไปมาด้วยความรัก
แกะ พี่มีความสุขจัง ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่พี่รอคอย ใครสักคน คนที่พี่รักอย่างท่วมท้นขนาดนี้ แกส่งสายตาซาบซึ้งมาให้ ผมรู้สึกดีใจเอามากๆ เหมือนกัน ผมเอื้อมมือไปลูบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาของแกบ้าง
ผมก็มีความสุข ครับ พี่ชายที่รัก ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึง หลงใหลพี่มากขนาดนี้ ผมส่งสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอย่างเหลือล้นออกไปบ้าง
พี่ดำก้มหน้าลงมาจูบปาก สอดลิ้นเข้ามา มันเหมือนจะรู้กันโดยอัตโนมัติ ที่ผมจะต้องพัวพันลิ้นกับพี่ชายที่รักอย่างเมามันอีกครั้ง
เพราะเราเป็นเนื้อคู่กันนะซิ ที่รัก ดูซิสวรรค์แกล้งให้เราพัดพรากจากกันถึงสิบปี แต่ในที่สุดสวรรค์ก็เป็นใจให้เรามาเจอกันอีกครั้ง และก็ได้รักกัน... พี่ดำพูดซะยาวเชียว ทำเอาผมเคลิบเคลิ้ม
แต่เราก็เกือบจะไม่มีวันนี้ วันที่เราทั้งคู่ได้มาอยู่ด้วยกันตามลำพัง สองต่อสอง ผมพูดเสร็จ ก็โน้มคอพี่ชายที่รักลงมาจูบประกบปากกันอย่างดูดดื่ม คราวนี้แลกลิ้นกันถึงพริกถึงขิง จนผมรับรู้ถึงท่อนลำ...อันเขื่องกำลังดันกางเกงขาสั้นสีดำของแกขึ้นมาทันที
ผมแกล้งกดหัวท้ายทอยลงไปบดขยี้ ในขณะที่พี่ดำก็กำลังแลกลิ้นกับผมอยู่อย่างเมามัน พี่ดำถอดเสื้อยืดสีขาวตัวนั้นออกอย่างไม่ใยดี เผยให้เห็นมัดกล้ามแกร่งที่ผมคุ้นตา ผมเอื้อมมือลูบไล้ไปทั่ว จนตัวพี่ดำสั่นสะท้าน ผมถอนปากออก แล้วจัดการซุกไซ้ท่อนลำภายนอกกางเกงขาสั้นผ้ายืด ด้วยความสะใจ ก่อนที่ักัดมันเบาๆ พี่ดำลูบไล้ที่หัวผมไปมา แล้วจัดการถอดเสื้อยืดของผม ขึ้นมาบนหัว จนผมต้องละจากท่อนลำด้วยความเสียดาย แกจัดการโยนเสื้อผมทิ้ง ผมเลยได้โอกาสกระชากกางเกงของแก หลุดไปทางปลายเท้า ท่อนลำอันเขื่ิองแทบจะดีดเข้าที่หน้าผม ดีที่หลบทัน แต่มันก็ไม่พ้นริมฝีปากของผมไปได้หรอกน่ะ
ผมจัดการครอบปากลงไป จัดการเล็มเลียที่หัวถอกก่อน กลิ่นกายของพี่ชายที่รัก หลังจากอาบน้ำใหม่ๆ ดูสะอาดสะอ้าน โดยเฉพาะท่อนลำที่ผ่านการชำระล้างมาอย่างดี จึงทำให้ผมเกิดอารมณ์กระสันต์สวาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงเต็มใจทำรักให้แกอย่างเต็มที่...จริงๆแล้วแค่ได้ใกล้ชิดพี่ชายที่รัก ผมก็แทบจะทำรักกับแกทุกวินาทีทีเดียว ...ผมจัดการใช้ลำคอโยกขึ้นโยกลง ในขณะที่พี่ดำเองก็กระเด้าเข้าปากผมอย่างไม่ยั้ง
แกจัดการถอดกางเกงผมออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ตอนนี้ นิ้วมือของแกกำลังล่วงล้ำอธิปไตยของผมอยู่ ... ในที่สุดแกก็แยงนิ้ว เข้าๆออกๆ ได้สำเร็จ...แปลกคราวนี้ผมกับไม่รู้สึกเจ็บ ความเสียวกลับเข้ามาแทนที่ พี่ดำจึงได้ใจ แทงนิ้วเข้ามาไม่ยั้ง...
เราเปลี่ยนมาเป็นท่าหกเก้า ยังคงนอนที่โต๊ะยาว ที่ระเบียงบ้าน ข้างหลังบ้านเป็นทุ่งหญ้า ที่น้าอรเตรียมไว้ทำฟาร์มแกะ จึงไร้ซึ่งผู้คน เว้นเสียแต่ว่า ป้าสมกับลุงบุญจะโผล่เข้ามาเห็น....
พะ พี่ดำ พอก่อน เดี๋ยวป้ากับลุง มาเห็นเข้า ผมถอนปากออก จากท่อนลำของแก ตะโกนขึ้นมาเบาๆ พอให้แกได้ยิน
อืม อือ ไม่ีใครเห็นหรอก แกไปนอนแล้ว พี่ดำพูดด้วยเสียงกระเส่า ด้วยความต้องการเต็มที่ สักพัก แกก็ลุกยืนขึ้น ดึงร่างผมเข้าไปกอดแนบแน่น ระดมจูบปากอย่างบ้าคลั่ง... ไซ้ซอกคอ อย่างเมามัน... เหมือนแกอัดอั้นมานาน ไม่ได้มีโอกาสสนองตัญหาที่ตัวเองต้องการได้เท่าที่ควรมาก่อน
แกะ พี่รักแกะ ครับ ที่รัก พี่ีรักแกะ เหลือเกิน พะ พี่จะอดทนไม่ไหว แล้ว.. พี่ดำไซ้ไป พูดไป เหมือนคนละเมอ อยุ่ในภวังค์ ในที่สุด ด้วยร่างกายที่แข็งแรงด้วยมัดกล้ามเป็นมัดๆ แกจึงอุ้มผมขึ้น เหมือนคิงคองป่าที่ต้องการผสมพันธ์ อย่างรุนแรง ท่อนลำของแกตอนนี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่ผมเคยสัมผัส แกใช้แรงมหาศาร อุ้มผมผ่านทางเดิน ก็หลายเมตรอยู่เหมือนกัน...จนกระทั่งถึงเตียงนอน ในห้องหอที่เตรียมไว้แล้ว แกวางผมลงเตียงได้ ก็ตามขึ้นมาซุกไซ้อย่างบ้าคลั่ง จนผมรับมือแทบไม่ทัน อะไรกันเนี่ยะ พี่ชายที่รัก ตายอดตายอยากมาจากไหนกัน และแล้วผมก็ได้รับรู้
แกะ คืนนี้เป็นของพี่น่ะครับ พี่รอคอยวันนี้มานานแล้ว พี่อยากจะ...เสียบ...ถ้ำทองของแกะใจจะขาดอยู่แล้ว

No comments:

Post a Comment