Sunday, July 26, 2009

บทที่ 36 “ แกะ+ดำ = ......? ”

บทที่ 36 แกะ+ดำ = ......? ”

ผมและพี่โก้ถึงกับตกใจสะดุ้งทีเดียว ก็พี่ชายที่รักเล่นโผล่ออกจากที่กำบังหลังต้นไม้ เลยไม่รู้ว่าแกแอบดูพฤติกรรมของเรานานแค่ไหนแล้ว....
อ้าว พี่ดำ ไม่ซ้อมบอลแล้วเหรอครับ ผมแกล้งถามทำใจดีสู้เสือ จริงๆแล้วผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย แต่ทำไมใจมันเต้นตุ๊มๆต่อมๆ ยังไงก็ไม่รู้
พี่ดำเดินเข้ามาใกล้ แต่ตายังมองหน้าพี่โก้ไม่วางตา
กูถามมึงว่า มึงจะพาน้องกูไปไหน...หา...ไอ้โก้ พี่ชายที่รักนี่เวลาหึงล่ะก็น่ากลัวอย่างนี้ทุกทีสิน่า....
เปล่า...กูกำลังพาน้องมึงไปเอางาน ที่น้องมึงฝากกูเชื่อมเหล็กให้ ก็แค่นั้นเอง มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ...หน้าตาบอกบุญไม่รับเลยน่ะ อ้าวคราวนี้ไงพี่โก้ ไม่ได้ประหม่า เหมือนที่คุยกับผมล่ะ หรือว่าทั้งคู่สนิทกัน เพราะเรียนร.ด. ด้วยกัน พี่โก้ก็เลยคุยได้เต็มที่
ก็แค่นั้นแหละ...ไม่เห็นต้องกลัวอะไรนี่ ยกเว้นว่ามึงคิดอะไรอยู่... พี่ดำพูดจากวนบาทา พี่โก้ต่อ
ไอ้เอก...มึงคิดว่า กูจะคิดอะไรกับน้องมึง หา... เอาเข้าแล้ว พี่โก้เริ่มมีอารมณ์บ้างแล้ว
เอ๊ะ ไอ้ห่านี่ พูดกวนตีนโว๊ย...ถ้ามึงไม่คิดอะไร แล้วมึงมาจับมือถือแขน น้องกูทำไมว่ะ พี่เอกจ้องหน้าพี่โก้หน้าตาซีเรียส โอยนี่มันศึกอะไรว่ะเนี่ยะ ดีน่ะที่พี่ชายที่รัก ไม่รู้ว่า พี่โก้พกรูปถ่าย ผมไว้ในกระเป๋าตังค์...ถ้ารู้ล่ะก็...
พอ พอแล้วครับ พี่ทั้งสองคน หยุดฟังผมก่อนได้มั๊ยครับ ผมเข้ามาห้ามกึ่งกลางระหว่างสองคน ก่อนที่จะมีการวางมวยกันขึ้น
พี่ดำครับ พี่โก้นี่แหละที่เคยช่วยเชื่อมงาน ให้ผมกับไอ้โกก มาตลอด แล้วงานชิ้นล่าสุด ที่ผมทำหายไป ตอนนี้มันอยู่ห้องพี่โก้ ผมเลยอยากได้มันคืน น่ะครับ ผมพยายามอธิบาย พี่ดำหันมามองผม แล้วสีหน้าเริ่มดีขึ้น ก่อนที่จะหันหน้าไปคุยกับพี่โก้
เออ ก็แล้วไป กูขอบใจที่มึงช่วยเหลือน้องกูมาตลอด
ไม่เป็นไรโว๊ย น้องมึง...ก็เหมือนน้องกูล่ะว่ะ ว่าแต่มึง ไม่ซ้อมบอลต่อแล้วรึ พี่โก้พูดได้ดีนะงานนี้
กูเลิกซ้อมแล้ว เป็นห่วงแกะมัน กลัวมันหิวข้าว โถ...พี่ชายที่รัก กลัวผมหิวข้าว หรือหิวอย่างอื่นกันแน่ อิอิ
ถ้างั้น ผมเดินไปเอางานที่บ้านพี่โก้ ก่อนได้มั๊ยครับ พี่ดำพยักหน้า ก่อนที่จะพูดต่อว่า
อืม อย่าให้นานก็แล้วกัน...ถ้างั้น...เดี๋ยวพี่จะไปเอามอเตอร์ไซค์ แล้วขับไปรับแกะที่นั่นเลยน่ะ น่ะครับ แล้วพี่ดำก็แทบจะเดินตัวปลิว ไปเอามอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้หน้าอาคารเรียน ซึ่งก็ไม่ไกลมากหรอก
ดูท่าทาง เอก จะหวงน้องชายน่าดู เลยน่ะ พี่โก้ชวนคุยในระหว่างทาง
อะ เอ่อ ครับ คงกลัวพ่อแม่ดุน่ะครับ เพราะตอนนี้แกก็เหมือนเป็นผู้ปกครองผมเต็มตัว ผมเอ่ยขึ้นมาเรียบๆ
แต่พี่ว่า เอก มันจะหวงน้องชาย...มากเกินเหตุ รึเปล่าเนี่ยะ เอาเข้าแล้ว หวังว่าพี่โก้คงจับผิดอะไร ระหว่างเราสองคนพี่น้อง ไม่ได้หรอกน่ะ
เราสองคนเดินมาที่บ้านอาจารย์เสถียร พี่โก้ถือโอกาสมาพักที่นี่เลย เพราะจะได้ซ้อมมวยได้สะดวก แต่ผมไม่รู้ว่าค่ายมวยที่อุปการะพี่โก้อยู่ ทำไมถึงปล่อยให้พี่โก้แยกตัวออกมาอยู่ตามลำพัง...
ห้องของพี่โก้จัดแบบง่ายๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น ก็คงจะเหมือนหอพักทั่วไปละมั๊ง..แกมีตู้เสื้อผ้าแบบง่ายๆ แต่ข้างบนเป็นช่องแล้วปิดด้วยกระจกไว้โชว์ของ ก็มีถ้วยชนะเลิศชกมวย เหรียญทอง อะไรพวกนี้แหละ ...นั่นไงเกวียนจำลองที่ผมทำมาด้วยความยากลำบาก วางอยู่ถัดออกไป พี่โก้เปิดกระจก เอื้ือมมือไปหยิบงานชิ้นนั้นลงมา...
พี่โก้ นี่มันไม่ใช่ของผมนี่ครับ เกวียนจำลองถูกตะไบซะเรียบ ตรงรอยเชื่อมที่เดิมมันมีรอยตะปุ่มตะป่ำ แถมถูกเคลือบด้วยโครเมี่ยมสีออกเงินๆ สวยปราณีตทีเดียว...
ของแกะน่ะแหละ พี่จำได้เพราะพี่เป็นคนเชื่อมกับมือ แล้วพี่ก็เอามาขัดตะไบนิดหน่อย แล้วก็ชุบสีเงินลงไป...พี่กะว่าจะเอาไปออกงานนิทรรศการของโรงเรียนด้วย
โอย ถ้างั้นพี่โก้เก็บไว้เถอะครับ ผมไม่กล้าเอาแล้ว อีกอย่างงานชิ้นนี้ พี่โก้ก็มีส่วนทำมันด้วยนี่ครับ
อืม ถ้างั้นไว้พี่ออกงานเสร็จพี่จะเก็บเอาไว้ให้แกะน่ะครับ ผมหยิบงานชิ้นนั้นกลับคืนเอาไว้บนตู้ พลันมือผมก็ไปชนกับอัลบั้มรูปเล็กๆอันหนึ่ง ผมเลยถือวิสาสะหยิบออกมาดู
รูปพี่เหรอครับ ผมขอดูหน่อยน่ะ ผมเปิดรูปไป ก็เจอภาพพี่โก้ถ่ายรูปเดี่ยวมั่ง คู่มั่ง หมู่มั๊ง โดยมากจะเป็นรูปชกมวยสะมากกว่า
ไหนล่ะครับ รูปน้องชายพี่ ที่บอกว่าหน้าเหมือนผม ผมพยายามเปิดหาให้เร็ว ขึ้น
เ่อ่อ พี่ไม่ได้เอามาด้วย อยู่ที่ค่ายมวยน่ะ พี่โก้ตอบผม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วแกก็เดินไปวางกระเป๋าหนังสือที่โต๊ะ
แปลกจัง... ผมคิดในใจ แล้วทำไม แกถึงพกรูปของผม ที่บอกว่าหน้าเหมือนน้องชาย แต่รูปน้องชายจริงๆ กลับไม่มีในอัลบั้ม ผมพลิกภาพถ่ายไปเรื่อยๆ จนเจอรูปผู้ชายอายุราวๆ 17-18 หน้าตาคล้ายพี่โก้ กำลังชกมวยไทยอยู่บนเวที และภาพต่อมาผู้ชายคนเดิมกำลังถ่ายภาพกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน...กับเพื่อนอีกสามคน หนึ่งในนั้นสะดุดตาผมอย่างมาก เพราะมันน่าจะใช่ ภาพของพี่ชายผม...พี่เก้ง...
ไปกันได้รึยังครับ น้องชายที่รัก พี่ดำโผล่หน้ามาพอดี ผมเลยไม่ทันได้ถามพี่โก้เกี่ยวกับเรื่องภาพถ่ายนั่น ก็เลยบอกลาพี่โก้กลับบ้าน
พี่ชายที่รักไม่ติดใจถามเรื่องชิ้นงานอีก หลังจากที่ผมอธิบายให้ฟัง แต่พอผมบอกแกว่าจะหัดชกมวย แกถึงกลับเงียบไม่พูดไม่จา จนกระทั่งถึงบ้าน อาการนี้ ผมรู้โดยสัญชาตญาณ ว่าพี่ชายที่รักไม่พอใจอย่างมาก.....
หลังจากทานข้าวทานปลาที่ป้าสม ทำกับข้าวเอาไว้ให้เสร็จ พี่ดำก็เอาแต่เงียบ เดินขึ้นห้องหนีไปเฉยเลย ผมจึงต้องขอร้องให้ป้าสมดูแลเรื่องถ้วยชามต่อ...ผมวิ่งขึ้นไปบนห้อง เห็นพี่ดำกำลังอาบน้ำอยุ่ ก็เลยคิดจะไปอาบด้วย เพราะปกติจะต้องอาบพร้อมกันและถูสบู่สระผมให้กันและกันเสมอ...เผลอๆก็มีอะไรกัน...ในห้องน้ำซะเลย เพราะอดกลั้นมาทั้งวัน แต่แปลกวันนี้แกไม่ยักกะรอผมแฮะ....
พี่ดำ อาบน้ำอยู่เหรอ งั้นผมอาบด้วยคนน่ะ ผมรีบถอดชุดนักเรียนออก จนเปลือยปล่าว แล้วโยนเสื้อผ้าลงตะกร้าเตรียมซัก... ผมรีบบิดลูกบิดประตูเพื่อเปิดเข้าไป
ล็อค!!!” ผมเลยจำใจนั่งรอที่โซฟา..โดยอยู่ในสภาพชีเปลือยอย่างนั้นแหละ
สักพัก พี่ดำอาบน้ำเสร็จ กลับอยู่ในสภาพนุ่งกางเกงบอกเซอร์สีขาวตัวหนึ่ง...โดยปกติผมจะไม่ให้แกใส่อะไรเลย อิอิ เพราะผมชอบดูผู้ชายแมนๆ แก้ผ้าอยู่ด้วยกันสองต่อสองตลอดเวลา....
ผมมองด้วยความงงงัน ว่าจะถาม แต่เห็นสีหน้าเรียบเฉย ไม่พูดไม่จา อาการนี้ผมรู้แล้วว่า...พี่ชายที่รักกำลังงอน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หลังจากอาบน้ำออกมา ผมก็เลยต้องนุ่งกางเกงบอกเซอร์ตามบ้าง แ่ต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวไอ้แกะ ตามง้อหน่อยก็คงจะไม่ได้นุ่งอะไรอยู่ดี อิอิ
พี่ดำ...พี่ดำครับ..... ผมเข้าไปกอดด้านหลัง ตอนที่แกกำลังเขียนอะไรบางอย่างอยู่ที่โต๊ะ จากนั้นผมก็หอมแก้มแมนๆสะอาดๆ หนึ่งฟอด แล้วก็เอาแก้มไปแนบที่แผ่นหลัง
พี่ดำกลับเงียบ แล้วเขียนอะไรยุกยิกต่อ ผมชโงกหน้าไปดู ว่าพี่ชายที่รักเขียนอะไร
แกะ+ดำ = ......? ”
นั่นคือสิ่งที่แกเขียนอยู่ครับ
พี่ดำเขียนสมการอะไรครับ ให้แกะตอบให้มั๊ย ผมเข้าไปกระแซะ แล้วเหนี่ยวคอแกเข้ามาจูบที่ปาก แกพยายามขัดขืน แต่ไม่เกินความสามารถของไอ้แกะเจ้าเล่ห์ไปได้หรอก....หลังจากดูดดุนลิ้นกันไปมาสักพัก แกก็ถอนปากออก แล้วจ้องหน้าผมเขม็ง
อย่าให้พี่รู้นะว่า แกะกำลังมีใจให้ ไอ้นักมวยนั่น หน้าตาซีเรียสเชียว ผมยิ้มกว้าง ก่อนที่จะดึงแกเข้ามาประกบปากอีกครั้ง
หึงอีกแล้วเหรอครับ พี่ชายที่รัก ฮ่ะ ฮ่ะ ผมพยายามหัวเราะกลบเกลื่อน
ไม่รู้ซิ ดูเหมือนจะมีคนมาสนใจ น้องชายพี่ หลายคนจังเลย นี่แกคงจะนับพี่ภูมิเข้าไปอีกคน อิอิ
โอ๊ย พี่โก้แกดูเถื่อนๆยังงั้น แกคงไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก
แล้วมันมาจับมือแกะทำไม พี่ชายที่รักนี่ก็สังเกตุเก่งเหมือนกันแฮะ
อ๋อ ก็เรื่องที่พี่โก้จะสอนมวยให้ผมไงครับ
เรื่องนี้ พี่ไม่เห็นด้วย แกะควรเอาเวลามาเรียนหนังสือให้เก่งๆดีกว่า
แต่ถ้าเกิด แกะโดนรังแก แล้วใครจะช่วยแกะล่ะครับ ถ้าหากว่าตอนนั้น พี่ดำไม่ได้อยู่ด้วย คราวนี้พี่ดำอ้ำอึ้ง
นา นะ แค่วันละสามสิบนาทีเอง น่ะค๊าบ...น่ะ น่ะ อ้อนสุดฤทธิ์ เลยมึง ไอ้แกะ
ผมประกบจูบปากดูดลิ้นเนิ่นนาน...จนแกตัวอ่อนไปเลยทีเดียว นี่แหละหมัดเด็ดในการง้อ พี่ชายที่รัก อิอิ
พี่ดำพรมจูบที่ใบหน้าของผม แล้วพูดว่า
แต่พี่เสียดาย หน้าใสใส หล่อๆ ของแกะนี่ครับ เกิดไปโดนหมัดของใครเข้า แล้วหน้าเกิดเสียโฉมขึ้นมา...พี่คงจะเสียดายแย่ ก๊ากกกกกกกกกกกกกกก โธ่พี่ชายที่รัก... ขนาดตัวมันเองมันยังไม่ห่วงหน้าตาของมันเลยน่ะเนี่ยะ
เอาน่า ผมแค่ไปฝึกท่าทางไว้ป้องกันตัวนิดหน่อยแค่นั้นเอง ไม่ได้ไปชกกับใครเขาซะหน่อย ดูเหมือนพี่ดำจะคิดอะไรบางอย่างออก
งั้นก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า ต่อไปนี้ต้องติวเข้มภาษาอังกฤษกับพี่ให้ได้ทุกวัน ตามที่พี่สั่ง ถ้าทำไม่ได้อด....
ได้ครับผ๊ม!” ผมยกมือตะเบ๊ะ เหมือนทหาร
ไม่ใช่แค่ชกมวยอย่างเดียว....อดเสียบบบบบบบบบบบบบด้วย ไอ๊หยา เรื่องนี้ยอมม่ายด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ผมจำเป็นต้องยอมจำนนกับพี่ชายที่รักตามเงื่อนไขโดยไม่มีบิดพริ้ว คราวนี้คงจะแย่ แน่ๆ เพราะพี่ชายที่รักจะติวภาษาอังกฤษให้ทีไร ไอ้แกะก็หาวแล้วหาวอีก แถมหลับคาโต๊ะหนังสือก็มี อิอิ
เอาน่ะจะลองดูอีกสักตั้ง เรื่องซ้อมมวยยอมไม่ซ้อมก็ได้ แต่เรื่องไม่ให้เสียบบบบบบบบบบบบนี้ ยอมไม่ได้จริงๆ พับผ่าสิ
เมื่อกี้พี่ดำเขียนสมการอะไรครับ ผมรู้คำตอบแล้ว ว่าแล้วผมก็เขียนคำตอบลงไป คำตอบนั้นก็คือ......
แกะ+ดำ = แกะดำ

No comments:

Post a Comment