Friday, August 21, 2009

บทที่ 52 " จะไปฟันหญิง...ที่ซ่องเจ๊แดง "

บทที่ 52 จะไปฟันหญิง...ที่ซ่องเจ๊แดง
ผมรีบขอตัวพี่กวางเข้า้ห้องนอน โดยอ้างว่าเพลียจากการโหมอ่านหนังสือสอบ และบอกว่าไม่ต้องตามทานข้าว เพราะทานมาแล้ว ห้ามรบกวนเพราะไม่ค่อยได้นอน กะจะนอนให้เต็มอิ่ม แต่จริงๆแล้วผมอยากจะหลบหน้าผู้คน ไม่อยากเจอะเจอใครทั้งนั้น...
ผมปิดประตูห้องนอนได้ ขาก็หมดแรงล้มทั้งยืนอยู่ตรงนั้นเอง ร่างกายเบาหวิว ความรู้สึกเหมือนถูกใครควักเอาหัวใจออกไปจากร่าง ผมเป็นคนไม่มีชีวิตจิตใจอีกต่อไป ผมร้อง....ร้องให้สะอึกสะอื้น....อยู่เป็นนานสองนาน ความเจ็บปวดครั้งนี้มันรวดร้าวนัก....มันหนักกว่าตอนที่รู้ว่าพี่ชายที่รักมีแฟนคือพี่พร.... แต่มาคราวนี้...กลับกลายเป็นว่าพี่สาวที่รักของผม กำลังจะกลายมาเป็นแฟนพี่ชายที่รัก...ถ้าเป็นผู้หญิงอื่น ผมคงไม่ชอกช้ำ แสนสาหัสขนาดนี้...
ที่แท้นางฟ้าที่อยู่ในฝันก็คือ...พี่กวางนี่เอง...และนางฟ้าจะมาทวงของมีค่าของเขาคืน....ใช่...พี่ดำเป็นคนรักของพี่กวางมาตั้งแต่เด็กแล้ว...และพี่กวางได้รอคอยพี่ดำมานานแสนนาน...คนที่รอคอยที่แท้จริง...ไม่ใช่แก ไอ้แกะ...แกเข้าใจผิด...ที่แกรอคอยพี่ดำนั้น มันไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่....ไม่ใช่คู่รัก แต่มันเป็นพี่ชาย...และพี่ดำจะต้องมาเป็นพี่เขยของแก...ตั้งแต่แรกที่ควรจะเป็น....
ผมร้องไห้จนแทบเป็นสายเลือด ร้องจนไม่มีน้ำตาจะไหล พี่ชายที่รัก เราจะไม่ใช่เนื้อคู่กันใช่มั๊ยครับ...นางฟ้าตะหากที่เป็นเนื้อคู่ของพี่...แล้วผมควรจะทำยังไงดีล่ะครับ...ตามหาเจ้าหญิงคนใหม่ให้เจอ และแต่งงาน...งั้นหรือครับ....
ผมหยิบรูปถ่ายที่พกอยู่ในกระเป๋าตังค์ มันเป็นรูปที่พี่ชายที่รักกำลังขับมอเตอร์ไซค์ โดยมีผมซ้อนท้าย...ภาพนี้มีคนตั้งใจถ่ายให้เราทั้งคู่ พร้อมกับเขียนสลักหลัง...หลังภาพถ่ายว่า พระเอกเกาหลี...กับพี่ชายสุดหล่อ ที่กระเป๋าตังค์ของพี่ชายที่รักก็มีภาพนี้เหมือนกัน...เราสองคนชอบใจมาก...เมื่อมองเผินๆจะเหมือนพี่ชายกับน้องชาย...มีแต่เราทั้งคู่ที่รู้ว่า...มันเหมือนคู่รักมากกว่า...
พี่ดำครับ ต่อไปนี้ผมควรจะทำยังไงดีครับ เราสองคนได้เดินหลงทางกันมานานแล้วใช่มั๊ยครับ...มันคงถึงเวลาแล้วที่เราสองคนจะย้อนกลับไปเดินเส้นทางที่ควรจะเป็น...แต่ตอนนี้จิตใจของผม อ่อนแอ...อ่อนแอเกินไป ที่จะยอมรับความจริงๆได้ ความจริงที่จะสูญเสียพี่ชายที่รักไป...
ผมรำพึงรำพันกับภาพถ่ายใบนั้นอยู่นาน ไม่รู้จะหาทางออกให้ตัวเองยังไง ไม่อยากรับรู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ พี่ดำครับ ผมกำลังสูญเสียพี่ไปแล้วใช่มั๊ยครับ เพราะอะไรล่ะครับ...น้องแกะอุตส่าห์กลับตัวเป็นคนดี...จงรักภักดีกับพี่ชายที่รัก...แล้วทำใมสวรรค์ถึงแกล้งให้เราทั้งสองต้องพลัดพรากจากกันอีก...ผมร้องห่มร้องไห้...รำพึงรำพัน กับตัวเองจนม่อยหลับไป...
แสงแดดยามเช้า ส่องเข้ามาข้างในห้องนอน เหมือนจะฉุดกระชากให้ผมตื่น...ตื่นขึ้นมารับรู้ความเป็นจริงที่จะเกิดขึ้น...พี่ดำครับผมตัดสินใจแล้ว...ว่าผมจะเป็นฝ่ายไป...จริงๆแล้ว ถ้าไม่มีผมสักคน พี่ดำก็คงจะมีแฟนเป็นผู้หญิงตั้งแต่ต้น...และคงจะแต่งงานมีครอบครัวที่อบอุ่น...แต่พี่ดำกลับตัดเส้นทางนั้นทันทีที่เลือกผม...ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาดว่าจะเดินตามทางที่พี่ดำเลือกเอาไว้ให้...
ผมอยากจะโทรศัพท์หาพี่ภูมิ เพราะไม่อยากอยู่บ้าน ไม่อยากให้ใครๆเห็น อยากจะหนีไปให้ไกลแสนไกล เพื่อจะลืม...ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ทว่าถ้าพี่ภูมิรู้เข้า ว่าผมเป็นอะไร แกคงจะถือโอกาสปลอบประโลม ตะล่อมให้ผมลงตัวเป็นคู่รักกับแกแน่นอน...แต่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม...เพิ่งเสียใจจากพี่ชายที่รักหมาดๆ ก็จะผวาไปซบอกผู้ชายอีกคนหนึ่ง ดูมันกระไรอยู่...อีกอย่างถ้าหากว่าพี่ชายที่รักรู้เข้า...แกคงจะไม่ยอมเลิกกับผมเด็ดขาด...เอ...แล้วผมควรจะทำยังไงดี...
พี่ชายที่รักครับ น้องแกะคนนี้ ได้ตัดสินใจ และลั่นวาจากับพี่กวางเอาไว้แล้ว น้องแกะต้องรักษาสัญญาครับ น้องแกะจะยอมเห็นพี่สาวคนเดียวผิดหวังไม่ได้...น้องแกะยินดี ยินยอมที่จะรับความทุขมหันต์นั้นเอาไว้คนเดียว...พี่ชายที่รักครับ กลับคืนไปหาเจ้าของที่แท้จริงเถอะน่ะครับ...รักของเรามันผิดธรรมชาติ กลับไปในสิ่งที่มันควรจะเป็นเถอะน่ะครับ...
ผมจำได้ว่า พี่ชายที่รักเคยพูดเอาไว้ ถ้าหากผมเลือกทางเดินที่ถูกต้อง...พี่ชายที่รักจะปล่อยผมไป...ใช่แล้ว วิธี่นี้ พี่ชายที่รัก อาจปล่อยผมจริงๆ และแกอาจจะคิดได้ แล้วตกลงรับรักพี่กวางในที่สุด....
ผมอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เลยบอกลาพ่อกับแม่ และพี่กวางกลับโรงเรียน เนื่องจากลืมทำรายงานที่จะส่งวันจันทร์ ผมจำเป็นต้องโกหก เพราะมันเป็นเหตุผลเดียวที่ผมจะออกจากบ้านได้...
ผมนั่งรถประจำทางเหม่อลอย มองวิวข้างทางหน้าต่างรถ โดยไม่มีจุดหมาย...จนกระทั่งรถมาหยุดอยู่หน้าโรงเรียน ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมเข้ามาในโรงเรียนทำไม ทั้งๆที่มันเป็นวันเสาร์ ไร้ผู้คน ผมเดินเอื่อยๆ ไปที่โรงยิมโดยไม่รู้ตัว
อ้าวพระเอกเกาหลี จะมาซ้อมมวยหรือ ขยันจริงน่ะเราเนี่ยะ เสียงอาจารย์เสถียรทักทาย...ทำให้ผมตื่นจากภวังค์
อะ เ่อ่อ ครับ พอดีครั่นเนื้อครั่นตัว อยากต่อยมวยนะครับ ผมเลยตามน้ำ เพราะไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมมาอยู่ที่นี่
เอ้า นี่กุญแจ เสร็จแล้ว เอาไปทิ้งไว้ที่เดิม ที่บ้านพักครูน่ะ ครูจะไปธุระข้างนอก อาจจะกลับ นู้นเย็นพรุ่งนี้ อาจารย์เสถียรโยนกุญแจให้ผมแล้วก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกไป มันเป็นเรื่องปกติที่ผมจะมีกุญแจโรงยิม เพราะเป็นอันรู้กันว่า ผมกับพี่โก้จะฝึกซ้อมมวยกันจนดึกดื่นในบางครั้ง และผมก็รู้จักที่เก็บกุญแจที่บ้านพักอาจารย์เสถียรดี
อืม ก็ดีเหมือนกัน ชกกระสอบทรายเล่น ออกแรงเยอะๆ จะได้หายฟุ้งซ่าน ผมจัดการเปิดโรงยิม แล้วเปลี่ยนเป็นกางเกงนักมวยตัวเดียว แล้วต่อยกระสอบทรายไปมาคนเดียว ด้วยความแค้น...แค้นในโชคชะตา ที่มันเกิดขึ้นกับผมอยู่ในขณะนี้
ซ้อมมวยคนเดียว ไม่เบื่อหรือไง ไอ้แกะ เสียงคุ้นๆหู ...สักพัก ไอ้ม้วนก็โผล่หน้าเข้ามา หน้าทะเล้นมาเชียว
อ้าวไอ้ม้วน มึงมาทำอะไรแถวนี้ ผมถามมันไป หมัดก็ชกกระสอบทรายไป
กูเบื่อที่บ้านว่ะ กูเลยขับมอเตอร์ไซค์เล่น เมื่อกี้ตอนกูกำลังเข้ามา เห็นอาจารย์เสถียรบอกว่ามึงซ้อมมวยอยู่คนเดียว...มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ... แล้วมึงไม่กลับบ้่านพ่อแม่มึงเรอะ ไอ้ม้วนถามเป็นชุด
ก็คงเหมือนมึงล่ะมั๊ง...พอสอบเสร็จก็เบื่อ...มึงมาก็ดีแล้ว...มาถือเป้าล่อให้กูหน่อย ไอ้ม้วนมันก็ตามใจผม ยกเป้าล่อให้ผมต่อยเล่นด้วยความสนุก มันเพลิดเพลินพอที่จะทำให้เรื่องที่ผมกำลังเศร้าอยู่เมื่อกี้ ให้หายไปได้บ้าง....
แม่ง...มึงนี่ หมัดหนักชิบหาย ต่อยทีกูแทบกระเด็น มึงไม่อยากเป็นนักมวยจริงๆหรือว่ะ
ไม่ล่ะ พี่กูไม่อยากให้เป็น พี่กูอยากให้ฝึกป้องกันตัวเฉยๆ ผมต่อยมันอีกที จนมันตั้งตัวไม่ทัน ถอยหลังเสีัยหลักไปหลายก้าว
เฮ้ย ไอ้แกะ พี่มึงไม่อยู่แบบนี้ กูว่า เราไปทำอะไรที่มันสนุกๆ ดีมั๊ยว่ะ ไอ้ม้วนพูดไปก็ยกแขนที่เป็นเป้าล่อให้ผมต่อยไป
อะไรของมึงว่ะ...ที่ว่าสนุก
อ้าว...มึงจำวันที่มึงไปกินเบียร์ที่บ้านกูไม่ได้รึ
จำได้ แล้วไง
ก็วันนั้นกูเคยชวนมึงว่า จะ...ไป...ฟัน...หญิง...ที่...ซ่องเจ๊แดงไง

No comments:

Post a Comment