บทที่ 54 " น้องดาว...นางโลมอันดับหนึ่ง "

บทที่ 54 “ น้องดาว...นางโลมอันดับหนึ่ง ”

ผมตกใจที่คนที่ผมนอนหนุนตักกลับกลายเป็นแจ๊ด พยายามจะลุกขึ้น แต่โดนแจ๊ดห้ามไว้

“นอนต่อเถอะค่ะ ท่าทางแกะจะไม่ได้นอนทั้งคืน แจ๊ดเอาครีมทาขอบตาให้แล้วน่ะค่ะ สักชั่วโมงคงจะหายช้ำ” เสียงนั้นช่างหวานไพเราะจับใจ… ผมหลับตาลงสักครู่ แต่นอนต่อไปไม่ไหวแล้ว จะเพราะอะไรสะอีก...แกะน้อยตัวดี กำลังดิ้นพล่านออกมาชมโลกนะซิ แกะน้อยคงได้รับแรงกระตุ้นจากเจ้าของกลิ่นกายอันน่าหลงใหลคนนี้กระมัง

ผมอยากซบหน้าลงไปเกลือกกลิ้งที่หน้าตักของแจ๊ด โอว์...พายุสวาทเส้นทางใหม่ กำลังจะกระพือฮึกเหิม...ผมซึมซับแรงสวาท แรงตัณหา...จนไม่อาจระงับได้อีกต่อไป ผมลืมตาขึ้นก็สบกับสายตาหวานฉ่ำของแจ๊ด ที่ก้มลงมามองด้วยฤทธิ์เสน่หา เราสองคนต่างจ้องตากันและกัน...เนิ่นนาน เป้ากางเกงยีนส์ผมคงจะตุงเด่เป็นรูบร่าง ผมละเขินอายเหลือเกิน ...แปลกทำไมผมถึงรู้สึกอาย...อายผู้หญิง ทีกับพี่ชายที่รักละก็...ถึงไหนถึงกัน

ผมรีบพลิกตัวกลับให้แกะน้อยเบียดกับพื้นหญ้า ถ้าเกิดแจ๊ดลอบมองคงจะรู้แน่ๆว่าผมกำลังคิดไม่ซื่อกับเธอ จังหวะนั้นใบหน้าของผมก็ซบที่ต้นขาอ่อน ที่เธอนั่งขัดสมาธิอยู่ ผมแอบสูดดมกลิ่นอันเย้ายวนของหญิงสาวด้วยใจระทึก....

แจ๊ดเอื้อมมือมาลูบไล้ที่ท้ายทอยของผมด้วยความรักไคร่ ถึงตอนนี้ไอ้แกะไม่สามารถทนได้อีกต่อไป....ผมไซ้ไปมาที่ขาอ่อนของแจ๊ด ค่อยๆคืบคลานเข้าไป...ใกล้จุดยุทธศาสตร์ของหญิงสาว เข้าไปทุกขณะ...ทุกขณะ อารมณ์ผมตอนนี้กระเจิดกระเจิง...เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่แล้ว ผมรู้สึกถึงน้ำหล่อลื่นที่ปลายหัวแกะน้อย เ่อ่อล้นออกมา เหมือนจะรู้ใจเจ้านาย ที่มันจะได้ลิ้มรสรูสวาทแบบใหม่ ที่ไม่เคยลิ้มลอง และมันก็เป็นธรรมชาติที่แท้จริง...ของชายหญิงไม่ใช่เหรอ...

ผมเลื่อนจมูกและปากเข้าไปใกล้...ใกล้จุดยุทธศาสตร์เข้าไปทุกที จนกระทั่ง...

“แกะ ทำอะไรค่ะ พอเถอะค่ะ แจ๊ดเป็นผู้หญิงน่ะคะ” ว่าแล้วแจ๊ดก็ผลักศรีษะผมออกมาเบาๆ จนผมนอนหงาย แต่ผมก็ยังส่งสายตาเจ้าชู้ไปให้เธอจนได้

“ผะ ผม ขะ ขอโทษ อย่าโกรธเลยน่ะ น่ะครับ ก็แจ๊ดน่ารักออกอย่างนี้ ใครจะอดใจไหวล่ะครับ” ผมยักคิ้วเจ้าเล่ห์ให้เธอพร้อมส่งรอยยิ้ม หว่านเสน่ห์ เพื่อให้เธอหลงใหล

“ไม่รู้ล่ะ แจ๊ดจะกลับบ้าน... ป่านนี้แม่รอแย่แล้ว” แจ๊ดลุกขึ้นยืน งอนเล็กน้อยแต่น่ารักจริงๆ ในสายตาผมตอนนั้น ทำยังไงดีล่ะมึงไอ้แกะ อารมณ์สวาทกำลังเดือดได้ที่ ฝ่ายหญิงไม่ยอมสะแล้ว เอ หรือว่าผมต้องเรียนรู้เรื่องเอาใจหญิงเพิ่มขึ้นน่ะเนี่ยะ

ผมลุกขึ้น ถือวิสาสะ ไปจับมือแจ๊ดมากุมไว้ อยากจะกอดด้วยซ้ำ แต่เกรงใจ เพราะเพิ่งรู้จักกันครั้งแรก แจ๊ดอาจจะหลงรักผมมาก่อน ในภาพพจน์ที่ดีงาม เกิดผมทำอะไรผลีผลาม มันจะเสียรูปการ เอาว่ะ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน...สักวัน ไอ้แกะจะต้องหาวิธี ฟันเธอให้ได้...แม่แจ๊ดทรงเสน่ห์

“ทำไมต้องรีบกลับล่ะครับ อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนไม่ได้หรือครับ” ผมพยายามอ้อนสุดฤทธิ์

“ไม่ได้หรอกค่ะ นี่ก็เย็นมากแล้ว เดี๋ยวแม่เป็นห่วง ต้องรีบไปช่วยแม่ที่ร้านอ่ะค่ะ”

จังหวะนั้นผมก็ลอบมองไปที่คู่ของไอ้เมฆกับแมวแฟนสาว ...ที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร...อุบะ ไอ้นี่ไม่เลวแฮะ นอนตักสาวเพลิดเพลิน ส่งเสียงฮัมเพลงรักกันหงิงๆอยู่ น่าอิจฉาจริงๆ ไม่รู้ไอ้เมฆมันได้ฟันแฟนสาวของมันรึยัง อิอิอิ

“เมฆ...แมว แจ๊ดจะกลับบ้านแล้วน่ะ” แจ๊ดสบัดมือผมให้หลุดจากการกุมกำ แล้วเดินนำหน้าไปหาคู่รักที่กำลังสวีท หวานแหววกันอยู่

ไอ้เมฆถึงกลับผลุดลุกขึ้น แมวเองก็หน้าแดงๆ ที่เห็นผมจ้องมองยิ้มๆ ก็ผมอดอิจฉาคู่รักคู่นี้ไม่ได้นี่นา

“จะกลับแล้วเหรอ ถ้างั้นก็เก็บข้าวของกัน แล้ว แกะจะกลับบ้านพี่ชายเลยรึเปล่า เดี๋ยวเราไปส่งให้ก็ได้” ไอ้เมฆอาสาจะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่ง

เราทั้งสี่เดินทางกลับมาที่โรงเรียน ไอ้เมฆต้องไปส่งสองสาวก่อน …มารู้ทีหลังว่าแจ๊ดเป็นลูกแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวอันเลื่องชื่อ ร้านรวงของเธออยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนนี่เอง ผมเคยไปทานบ่อยๆ แต่ไม่ยักกะเจอแจ๊ดสักครั้ง...ผมเดินเอากุญแจโรงยิมไปเก็บไว้ที่บ้านพักอาจารย์เสถียร แล้วก็เดินมารอไอ้เมฆที่หน้าโรงเรียน สักพักหนึ่งไอ้เมฆก็ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับมา..

“ไง เจอเสน่ห์สาวเข้าทำเอาเคลิ้มเลยน่ะเพื่อน ฮ่ะ ฮ่ะ” ไอ้เมฆแซวผมพร้อมหัวเราะลั่น

“เฮ้ย นายเองก็ใช่ย่อยที่ไหน นอนหนุนตักแฟนสาวออกหวานแหววขนาดนั้น เออ ถามจริงนายเคยมีอะไรกับแฟนรึยังวะ”

“ยั๊ง เรายังเป็นเด็กอยู่ทั้งคู่ ยังไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม” อ้าวตกลงนี่กูผิดหรือว่ะเนี่ยะ ที่ถามมึงแบบนั้นอ่ะ...ดูๆไปไอ้เมฆน่าจะไม่เคยเรื่องแบบนี้ ท่าทางยังบริสุทธิผุดผ่องเลยนะมึง แต่ก็นั่นแหละตอนนี้มันก็คงอายุ 16 ล่ะ ท่าจะว่าไปเด็กผู้ชายบางคนก็ยังคงไม่ประสีประสาเรื่องนี้เท่าใดนัก...มีแต่มึงน่ะแหละไอ้แกะ ผ่านสมรภูมิรบมาซะโชกโชน แต่กับผู้ชายเท่านั้นน่ะ อิอิอิ

“อ้าวเหรอ ก็เห็นเขายินยอมให้นายหนุนตัก ก็นึกว่าจะมีอะไรลึกซึ้งมากกว่านั้น” ผมแหย่คำถามต่อ

“ก็ได้แค่นั้นแหละ นอกนั้นก็แค่จับมือถือแขน ขนาดหอมแก้มยังไม่ยอมเล๊ย...”

“จริงอ่ะ ไม่น่าเชื่อ” นี่ถ้าเป็นไอ้แกะน่ะ พ่อจะเสียบให้มิดด้ามเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า

“ตกลงจะให้เราไปส่งนายที่บ้านใช่มั๊ย มาขึ้นรถได้แล้วเราจะไปส่ง” ผมขึ้นไปซ้อนท้ายมัน ตอนนี้จิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว กลิ่นกายของหญิงสาวทำให้ผมเกิดอารมณ์ค้าง อย่างบอกไม่ถูก อยากจะรู้จริงๆว่า รูสวาทของผู้หญิงมันจะเป็นยังไง...ผมเลยตัดสินใจบอกไอ้เมฆว่า

“พาเราไปส่งที่บ้านไอ้ม้วนก็แล้วกัน”

ไอ้เมฆพาผมมาส่งที่ห้องไอ้ม้วนแล้วก็กลับไป...พอไอ้ม้วนเห็นผมเท่านั้นมันถึงกลับหัวเราะร่า

“ฮ่ะ ฮ่ะ ตกลงมึงจะไปขึ้นครู แล้วสิคืนนี้ ฮ่ะ ฮ่ะ” มันหัวเราะล้อเลียน น่าถีบชะมัด

“ก็เออสิวะ คนมันไม่เคยนี่โว๊ย” ผมชักสีหน้าอยากจะเบิดหัวกระโหลกมันสักป๊าป

“กูก็ไม่ได้ว่าอะไร เออ มึงไปเที่ยวแบบนี้มึงต้องรู้จักใช้ถุงยางให้เป็นน่ะโว๊ย มากูจะสอนให้” ว่าแล้วไอ้ม้วนก็ปลดกางเกงยีนส์ผมออก งัดแกะน้อยออกมาชมโลก

“เฮ้ย นี่มึงเงี่ยนขนาดนี้เลยหรือว่ะ น้ำเยิ้มเชียวมึง” ไอ้ม้วนจับท่อนลำผมรูดลงจนสุด

“มึงทำเบาๆ หน่อยสิ เดี๋ยวน้ำแตกก่อน อดฟันหญิงกันพอดี” ผมดุให้มันพอเป็นพิธี ผมไม่อายมันหรอก เพราะมันเคยเห็นของผมจนชินตาแล้ว

ไอ้ม้วนหยิบถุงยางออกมา แล้วฉีกซองจัดการครอบลงไปที่ท่อนลำของผม...รู้สึกลื่นๆ แต่อึดอัดพิกล จากนั้นมันก็แกล้งชักขึ้นชักลง เร็วขึ้นๆ จนผมต้องเรียกสติมันกลับคืน ก่อนที่ผมจะหลั่งน้ำรักออกมา

“อูย เสียวว่ะ พะ พอเถอะไอ้ม้วน เก็บไว้ฟันหญิงเถอะ” ผมพยายามปัดมือมันออก

“เฮ้อ เสียดายว่ะ คะอวยมึงมันใหญ่ ตรงสวยดี กูเลยชักให้มึง มันมือชิบหาย”

มันเอามือออกอย่างเสียดาย โธ่ ไอ้เวร ถ้ากูเสร็จแม่นางทั้งห้าของมึง กูก็อดฟันหญิงสิวะ ผมดึงถุงยางออก มันยังคงรูปร่างคะอวยอยู่ อือ ถุงยางที่ถูกใช้แล้วคงเป็นอย่างนี้อ่ะน่ะ ....

เราสองคนอาบน้ำอาบท่าเสร็จ พอถึงเวลาประมาณสักทุ่มหนึ่งเห็นจะได้ ไอ้ม้วนก็บอกพ่อกับแม่ว่า ผมจะมาค้างที่บ้านหนึ่งคืน และจะพาผมออกไปเดินเที่ยวที่ตลาด

มันพาผมเดินลัดเลาะไปในซอยเปลี่ยวแห่งหนึ่ง จนกระทั่งสุดซอย ก็มีตึกแถวตึกหนึ่ง ข้างนอกดูเงียบเชียบ แต่พอโผล่หน้าเข้าไปเท่านั้นแหละ ผู้คนดูอึกทึก แสงไฟสลัวๆ มีดนตรี มีนักร้องสาวๆแนวลูกทุ่ง นอกนั้นก็มีแขกเหรื่อ ส่วนมากจะเป็นชายอายุน่าจะประมาณ...มากกว่ายี่สิบขึ้นไป หาคนที่อายุน้อยๆอย่างพวกผมไม่ค่อยจะมี พวกเขากำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ น่าจะเป็นกับแกล้มซะมากกว่า เพราะเน้นไปที่เหล้าเบียร์สะเป็นส่วนใหญ่ แต่ละโต๊ะจะมีสาวๆนุ่งน้อยห่มน้อย คอยคลอเคลีย เอาอกเอาใจ เอ...ดูเผินๆ มันก็ร้านอาหารดีๆนี่เอง ไม่เห็นเหมือนซ่องอย่างที่ผมเคยดูในหนังเลยนี่หว่า...

“ต๊าย น้องม้วน มาได้ยังไงค่ะเนี่ยะ เจ๊ละคิดว่าน้องม้วนจะไม่มาอีกสะแล้ว” สาวใหญ่วัยคงราวสามสิบห้า แต่งหน้าจัดจ้าน แต่ก็ดูสวยดี ท่าทางคล่องแคล่ว เอาอกเอาใจลูกค้าเก่ง กำลังยืนต้อนรับแขกอยู่ที่หน้าเคาเตอร์ ทางเข้าร้าน

“หวัดดีครับเจ๊ วันนี้ผมพาเพื่อนมาขึ้นครู อ่ะครับ เจ๊” ไอ้ม้วนมึงไม่ไว้หน้าเพื่อนมึงเลยน่ะไอ้ห่า ผมละอาย อายเจ๊คนนั้นอย่างมาก...ถึงมากที่สุด แทบแทรกแผ่นดินหนี

“อุ๊ยตาย หล่อสะด้วย ให้เจ๊สอนให้มั๊ยค่ะ รับรองว่าจะติดใจ แถมเจ๊ไม่คิดเงิน คิก คิก” เจ๊คนนั้นเข้ามาจับเนื้อต้องตัวผม แถมคว้าหมับเข้าที่เป้ากางเกงของผมอย่างรวดเร็ว จนผมต้องรีบดึงมือแกออก แล้วกุมกำแกะน้อยเอาไว้...

“เจ๊ น้องดาวเขาว่างมั๊ยอ่ะ เพื่อนผมเขาอยากลองกับน้องดาวอ่ะครับ” ไอ้ม้วนรีบพูดขึ้น เมื่อเห็นผมไม่ค่อยชอบคนมีอายุ

“ต๊าย เห็นว่าเจ๊แก่ หรือค่ะ เอาล่ะค่ะ พ่อรูปหล่อ เดี๋ยวเจ๊จัดให้ แต่ว่าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ เรียกหาเจ๊แดงได้ทันทีน่ะจ๊ะ” ว่าแล้วเจ๊คนนั้นก็เดินจากไป แต่ก็ไม่วายหอมแก้มผมดังฟอด

สักพักเจ๊แดงก็ตามสาวสวยคนหนึ่งออกมาหาผมกับไอ้ม้วน ผมตะลึงตอนเจอแจ๊ดแล้ว คราวนี้ยิ่งตะลึงตาค้างหนักกว่าเดิม อา....นี่นะหรือ คือน้องดาว...นางโลมอันดับหนึ่งของซ่องเจ๊แดง ...สวย สวยจริงๆ หน้าตาน่ารักเหมือนสาวญี่ปุ่น ตากลมโตแฝงไว้ด้วยความซุกซน น่าถวิลหา ขนตาที่ถูกดัดเป็นแพงามสวย ใบหน้ารูปกลมๆ แบนๆ แต่น่ารัก ปากนิด จมูกหน่อย แต่โด่งพองาม คิ้วที่ถูกกันออก ให้โก่งโค้งเรียว ขับให้ใบหน้าของเธอดูเด่นยิ่งขึ้น เธอไว้ผมทรงหน้าม้า น่ารักจริงๆ เหมือนเด็กนักเรียนมัธยมเลย อายุคงจะราวๆผม หรือไม่ก็อ่อนกว่าสักปีหนึ่ง

“สวัสดีค่ะ หนูชื่อดาวค่ะ ยินดีรับใช้ค่ะ” ว๊าวเสียงหวานสะด้วย แบบนี้ไอ้แกะสู้ตาย

“เจ๊ครับ เจ๊จะว่าอะไรมั๊ย ถ้าผมจะขอใช้น้องดาวพร้อมกับเพื่อนผม” ไอ้ม้วนพูดหน้าตาเฉย

“น่ะเจ๊ ผมยินดีจ่ายค่าตัวให้สองเท่า” ไอ้ม้วนยื่นข้อเสนอ เมื่อเห็นเจ๊แดงทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักครู่

“ต๊าย จะเล่นสองรุมหนึ่งเลยหรือค่ะ น้องม้วน คิกคิก อันนี้แล้วแต่เจ้าตัวสิค่ะ ว่าไงค่ะ หนูดาว” เจ๊หันหน้าไปถามน้องดาวเป็นพิธี

“ก็แล้วแต่ พี่สุดหล่อคนนี้ล่ะค่ะ จะยอมมั๊ยค่ะ” น้องดาวโบ๊ยมาให้ผมสะฉิบ ผมจะว่าอะไร๊ ไอ้ม้วนมันก็เพื่อนผม ถ้ามันอยากจะเล่นสองรุมหนึ่ง ก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ยังสงสัยว่า มันอยากจะเห็นลีลาของผม หรืออยากจะเข้าไปเป็นครูสอนสะเอง อิอิอิ

ตกลงเป็นอันว่า ผมกับไอ้ม้วน จ่ายเงินค่าตัวน้องดาวเรียบร้อยแล้ว น้องดาวกำลังเดินนำหน้าขึ้นห้องชั้นบน ซึ่งมีอยู่หลายห้อง อย่างนี้นี่เอง ข้างล่างเหมือนร้านอาหารทั่วๆไปบังหน้า แต่ข้างบนตึกกลับถูกแบ่งเป็นห้องๆ ไว้ให้แขกที่มาเที่ยวสนองตัญหาได้เต็มที่

ทันใดนั้น !!!! เราสามคนถึงกับหยุดชงัก เมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยความโกรธว่า

“ใครจะเอาน้องดาวของกู....ไปตอนนี้ไม่ได้!!!!”